พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับเรื่องเก่าที่ผมโดนคน นำเรื่องที่มีปัญหากับผมในเว็บ ไปฟ้องท่านอาจารย์ประถมครับ รายละเอียดไว้วันนัดพบกัน ค่อยคุยกันนะครับ

    แล้วจะรู้เองว่า นรกเป็นอย่างไร และสาเหตุที่ไปนรกเพราะอะไร
    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]
    ดาวน์โหลด 4 ครั้ง
    วันนี้ 08:56 PM
     
  3. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อ้าวไม่กลัวหนักคอแย่หรือครับ แต่อย่างว่าครับท่านเมตตาเราอย่างมากครับพูดมากหาว่าเชียร์กันเองอีกครับ ใครว่าไงเราไม่สนครับ หุ หุ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]

    ยืนยันครับ

    พระสมเด็จ รุ่น Top of the top 4
    [​IMG]

    สุดยอดในแผ่นดินครับ

    เนื่องจากสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านขอพระเมตตา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม อธิษฐานจิตครับ

    และเราสามารถใช้คำว่า พระสมเด็จ มีพุทธคุณ ได้ เนื่องจาก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม ทรงมีพระเมตตาอธิษฐานจิต

    หรือเราจะใช้ พลังอิทธิคุณก็ได้ครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    และยืนยันว่า คณะพระวังหน้า ต้องมีทุกท่าน

    ย้ำ คณะพระวังหน้า ต้องมีทุกท่าน

    ผมตั้งใจจะมอบให้ในงานใหญ่ปลายปีนี้แน่นอน ผมจะแจกกับมือผมเองครับ

    .

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 14 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 11 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">



    </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, visutto, nongnooo+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    คุณnongnoooครับ

    ผมเองคิดว่า จะนำพระสมเด็จ top of the top , พระสมเด็จ top of the top 4 และ พิมพ์พุทธประวัติ เลี่ยมแล้วห้อยคอครับ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ใช่แล้วครับ

    ยืนยันได้ว่า หาได้ยากมากที่สุด สำหรับพระพิมพ์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม มีพระเมตตาอธิษฐานจิตให้
    ซึ่งโดยปกติแล้ว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม พระองค์ท่านไม่ชอบในเรื่องของพระพิมพ์และวัตถุมงคลครับ

    [​IMG]
    ดาวน์โหลด 19 ครั้ง

    05-05-2552 08:56 PM
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอขอบพระคุณทุกท่าน และอภิญญาใหญ่ Server ได้ติดตั้งสมบูรณ์แล้ว
    ประกาศจากทางเว็บพลังจิต
    http://palungjit.org/threads/เชิญบร...r-เพื่อเว็บพลังจิต.159295/page-25#post2083316

    โดยคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->WebSnow

    ตอนนี้ Server ได้ติดตั้งสมบูรณ์ดีแล้ว โดยการแยกโหลดของ server ทั้งหมด
    ช่วงนี้เว็บจะไม่ค่อยอืดแบบนานๆ จะมีบ้างบางครั้งแต่ไม่มากเท่าเมื่อก่อน จะอืดอยู๋แป๊บนึง
    โดยเฉลี่ยแล้วการโหลดของเว็บอยู่ในนระดับ ok สามารถรองรับคนได้จำนวณมาก

    -------------------------
    ปัจจุบัน เว็บพลังจิต มีผู้เยี่ยมชมวันละประมาณ 3-4 หมื่นคน สถิติโดย Truehits

    ตอนนี้ ศักยภาพของ servers เราที่มีอยู่สามารถรองรับ ผู้ชมได้วันละไม่เกิน 7 หมื่นคนต่อวัน

    คาดว่าปีนี้ จะมีผู้เยี่ยมชม เว็บพลังจิต ประมาณ 5-7 หมื่นคนต่อวัน<!-- google_ad_section_end -->

    การจัดซื้อ Server ครั้งนี้ประสบความสำเร็จไปได้รวดเร็วกว่าครั้งก่อนๆมาก
    ทำให้ทุกๆคนได้เข้าเว็บได้ราบรื่นและได้ร่วมกันเผยแผ่พุทธศาสนาให้แก่คนไทยทั่วโลก
    แล้วยังจะเป็น server ที่จะเผยแผ่พุทธศาสนาให้กับนานาชาติในอนาคตอันใกล้

    ครั้งนี้ผมรู้สึกทราบซึ่งและประทับใจมากๆที่ได้เห็นทุกๆคนได้ร่วมช่วยกันให้เกิดความสำเร็จขึ้นมา
    จากครั้งนี้ ทำให้เกิดกำลังใจขึ้น ในการที่จะสร้างเว็บพลังจิตให้ใหญ่ขึ้น เพื่องานเผยแผ่พุทศาสนาไปทั่วโลกในอนาคตอันใกล้
    และภายในปี 2552 อีกเวลาไม่เกิน 7 เดือน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะได้เห็นเว็บพลังจิต ขยายเผยแผ่ เป็น 100 กว่าภาษา

    ผมและทีมงานต้องขอขอบคุณทุกๆคนและหลายฝ่ายที่สนับสนุน เราจะเห้นดังรายชื่อในกระทู้นี้ รวมทั้งผู้ไม่ออกนาม
    และขอขอบพระคุณหลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน(พระครูธรรมธรเล็ก สุธัมมปัญโญ) ที่ได้ให้พระเครื่องมามูลค่า 5 หมื่นบาท ซึ่ง เราจะนำไปซื้อ Server ตัวใหม่คาดว่าปีหน้า<!-- google_ad_section_end -->
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาแจ้งข่าวสำหรับแฟนๆผีแดงครับ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผี 10 ตัวบุกย้ำแค้นปืน 3-1 ลิ่วป้องแชมป์ยูซีแอล
    Sport - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 พฤษภาคม 2552 03:40 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฝ่าฟันเข้าไปลุ้นป้องกันแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ได้สำเร็จ หลังบุกสอนเชิง อาร์เซนอล อย่างเหนือชั้น 3-1 คว้าชัยด้วยประตูรวม 4-1 แม้ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ จะถูกตะเพิดในครึ่งหลังก็ตาม

    ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2552
    อาร์เซนอล 1–3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
    (รวม 2 นัด แมนฯ ยูฯ ชนะ 4-1)


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>โรนัลโด (เสื้อน้ำเงิน) เหมา 2 เม็ด ขณะที่ อัลมูเนีย ได้แต่ยืนเซ็ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> บิ๊กแมตช์ถ้วยยุโรปที่ทีมจากอังกฤษปะทะกันเอง อาร์เซนอล เล่นในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียม ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ชนะมาในนัดแรก 1-0 เกมนี้เจ้าถิ่นได้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี หายเจ็บกลับมาประสานงานในแดนหน้าร่วมกับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ขณะที่ทีมเยือนเน้นความรัดกุมโดยทิ้ง เวย์น รูนีย์ ไว้เป็นกองหน้าตัวเป้าเพียงคนเดียว และให้ คริสเตียโน โรนัลโด คอยสนับสนุน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ปาร์ค บู๊กับ ฟาเบรกาส ชนิดถึงลูกถึงคน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เปิดฉากมาได้เพียง 2 นาทีเศษ ปืนใหญ่ที่เดินเกมรุกสู้ตั้งแต่ต้นได้ลุ้นครั้งแรกจาก เชส ฟาเบรกาส ที่ทำชิ่งกับ ซาเมียร์ นาสรี ก่อนสับไกหน้าเขตโทษแฉลบทั้ง เนมานยา วิดิช และ ริโอ เฟอร์ดินานด์ จน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ หลงทางไปแล้ว ทว่าลูกเฉี่ยวเสาออกหลังเพียงนิดเดียว

    อย่างไรก็ตาม สาวกปิศาจแดงที่ยกพลมาเชียร์กลับเป็นฝ่ายได้เฮกันก่อนในนาทีที่ 8 เมื่อ อันแดร์สัน เก็บบอลได้แล้วจ่ายทะลุช่องให้ โรนัลโด ควบเข้าไปเปิดมาหน้าประตู บอลผ่าน คีแรน กิ๊บบ์ส ที่ลื่นเสียหลักมาเข้าทาง ปาร์ค จี-ซอง กดข้ามตัว มานูเอล อัลมูเนีย เป็น 1-0 จากนั้น 3 นาทีถัดมาสกอร์ไหลเป็น 2-0 อย่างรวดเร็วโดย โรนัลโด ตะบันฟรีคิกตามสไตล์ถนัดส่งลูกพุ่งหนีมือ อัลมูเนีย เสียบเสาแรกอย่างแม่นยำ

    เดอะ กันเนอร์ส เริ่มเข้าตาจนจึงเดินหน้าแลกหมัดเต็มตัว แต่เกือบถูกจังหวะฉาบฉวยของ เรด เดวิลส์ เล่นงานในนาทีที่ 18 ซึ่ง รูนีย์ สบโอกาสปั่นไซด์โป้งทำท่าจะเข้าเสาไกล แต่ อัลมูเนีย ไม่ยอมเสียเพิ่มพุ่งปัดปลายมือออกหลังหวุดหวิด จากนั้นลูกเตะมุมต่อเนื่อง โรนัลโด แย่งโหม่งตัดหน้า วิดิช ทำให้ลูกไม่ตรงกรอบ

    ผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมงแรก ฟาเบรกาส มีจังหวะเข้าทำอีกครั้งจากลูกโหม่งแต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะทวงประตูตีตื้น จากนั้นเป็น อาร์เซนอล ที่ดาหน้าบุกหนัก แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด วางแนวรับต้านทานได้อย่างเหนียวแน่น กระทั่งตรึงสกอร์นำอยู่ 2-0 จนจบ 45 นาทีแรก ส่วนผลรวมอยู่ที่ 3-0

    เข้าสู่ครึ่งหลัง อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือเจ้าบ้านตัดสินใจถอด กิ๊บบ์ส ออกแล้วส่ง เอ็มมานูเอล เอบูเอ ลงยืนแบ็กซ้ายแทน แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น นาทีที่ 52 โรนัลโด ลากตัดเข้าในหนี โยฮัน ฌูรู แล้วกดเรียดด้วยซ้าย อัลมูเนีย ล้มตัวปัดออกหลังไป ลูกเตะมุมถัดมา อันแดร์สัน เล่นสั้นกับ จอห์น โอเชีย ก่อนเปิดโค้งเกือบเสียบใต้คาน ทว่า อัลมูเนีย ยังไม่หลงปัดข้ามคานได้ทัน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เฟลทเชอร์ โดนไล่ออก แต่ผีแดงก็ยังเข้าชิง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เกมมาขาดลอยยิ่งขึ้นในนาทีที่ 61 ซึ่งเป็นจังหวะที่ปืนใหญ่ได้เตะมุม ก่อนที่ปิศาจแดงจะเอาบอลคืนมาได้แล้วต่อบอลขึ้นมาสวนกลับเร็ว ก่อนที่ รูนีย์ จะใส่พานให้ โรนัลโด ล่อเป้ายิงสวน อัลมูเนีย ตุงตาข่ายเป็น 3-0 และสกอร์รวมขยับห่างออกไปเป็น 4-0 ถัดมา 10 นาที นิคลาส เบนดท์เนอร์ ศูนย์หน้าสำรองที่ลงมาแทน ธีโอ วัลคอตต์ ลากแหวกจากด้านขวาเข้ามากระทุ้งในเขตโทษส่งลูกปะทะข้างตาข่าย

    อาร์เซนอล กลับมามีความหวังเล็กๆ ในนาทีที่ 75 เมื่อ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ทำฟาวล์ ฟาเบรกาส ในจังหวะหลุดเข้าเขตโทษ ผู้ตัดสิน โรแบร์โต โรเซ็ตติ ควักใบแดงไล่มิดฟิลด์ชาวสกอตแลนด์ทันที พร้อมทั้งให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่น ซึ่ง ฟาน เพอร์ซี สังหารเสยเพดานตาข่ายอย่างเฉียบขาดไล่ขึ้นมาเป็น 1-3 สกอร์รวม 1-4

    ล่วงเลยมานาทีที่ 84 ฟาเบรกาส ยิงฟรีคิกติดกำแพงก่อนซ้ำอีกครั้งเฉี่ยวเสาแรก จากนั้น 3 นาที โรนัลโด หวิดทำแฮตทริกได้ แต่ลูกฟรีคิกพุ่งเหินข้ามคานนิดเดียว ช่วงเวลาที่เหลือ อาร์เซนอล พยายามทุกวิถีทางเพื่อพลิกสถานการณ์ แต่ก็ไม่สำเร็จ แมนฯ ยูไนเต็ด จึงบุกมากำชัย 3-1 ผ่านเข้าไปลุ้นเป็นทีมแรกที่มีสิทธิ์ป้องกันแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ด้วยสกอร์รวม 4-1 โดยจะรอพบผู้ชนะคู่ระหว่าง เชลซี กับ บาร์เซโลนา ในคืนวันพุธต่อไป

    รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
    อาร์เซนอล – มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี ซาญา, โคโล ตูเร, โยฮัน ฌูรู, คีแรน กิ๊บบ์ส, ธีโอ วัลคอตต์, อเล็กซานเดอร์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, ซาเมียร์ นาสรี, โรบิน ฟาน เพอร์ซี, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเชีย, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, ไมเคิล คาร์ริค, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, ปาร์ค จี-ซอง, อันแดร์สัน, คริสเตียโน โรนัลโด, เวย์น รูนีย์
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ชาวคณะพระวังหน้า ทุกๆท่าน

    หากท่านใดสนใจในเรื่องของกองทุนต่างๆ สามารถที่จะปรึกษากับผมได้นะครับ เช่น RMF , LTF หรือกองทุนประเภทอื่นๆที่ลงทุนในหุ้น และหรือ ตราสารหนี้ และหรือ ตั๋วเงินคลัง ฯลฯ ผมเองมีไลเซ็นท์ที่ได้รับอนุญาตจาก กลต.


    หรือ การทำประกันชีวิต หรือ การทำประกันวินาสภัย ก็เช่นกัน ผมเองมีไลเซ็นท์ที่ได้รับอนุญาตจาก คปภ. แล้วเช่นกัน

    หรือ อาจจะปรึกษาเรื่องที่เกี่ยวกับการจัดการระบบเงินของท่าน ว่า จะต้องจัดสรรอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุดครับ

    ผมพอมีความรู้ที่แนะนำได้ครับ

    สำหรับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่าน

    คณะพระวังหน้า ของเรา ยังมีตัวแทนประกันชีวิต ซึ่งพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่าน สามารถที่จะไปปรึกษาได้อีกเช่นกัน


    ส่วนเรื่องของการลงทุนในตลาดทุน ก็มีอีกเช่นกัน

    เรื่องของสุขภาพ คณะพระวังหน้าของเรา ยังมีคุณหมอ(เป็นหมอแท้ๆนะครับ ได้รับใบประกอบโรคศิลป์) ที่คอยเป็นที่ปรึกษาเรื่องของสุขภาพให้เราได้

    และในคณะพระวังหน้า ก็ยังมีบุคคลหลายหลากอาชีพ แต่ละท่านก็มีความรู้ที่ไม่เหมือนนกัน ผมเปรียบเหมือนจิ๊กซอร์ ที่นำหลายๆส่วนมาประกอบกัน เมื่อประกอบกันขึ้นมาเรียบร้อยก็จะเป็นรูปที่สวยงาม ส่วนสิ่งที่ใช้ในการเชื่อมส่วนประกอบต่างๆของจิ๊กซอร์ ก็เป็นน้ำใจที่มีความหวังดีและห่วงใยกันเป็นส่วนที่เชื่อมส่วนประกอบต่างๆของจิ๊กซอร์แต่ละตัวครับ

    ผมเองกำลังคิดว่า จะจัดเป็นชมรมที่เป็นรูปธรรมขึ้น แล้ววันนัดพบกัน ขอปรึกษาเรื่องนี้กันนะครับ

    ด้วยรัก

    [​IMG]
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับท่านที่เพิ่งเข้ามาในกระทู้พระวังหน้าฯ แล้วอยากทราบเรื่องที่เกี่ยวกับ เงิน ลองเข้าไปอ่านดูได้ที่

    [​IMG] บอร์ดอกาลิโก > ริมระเบียง > รับลมโชย [​IMG] เงิน
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ดีเอสไอ" พร้อมคุ้มครองพยาน "แชร์มันนี่เกมส์ฯ" ถูกขู่!
    Crime - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 พฤษภาคม 2552 09:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พ.อ.ปิยวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้อำนวยการสำนักคดีอาญาพิเศษ ดีเอสไอ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ดีเอสไอ แจ้งพยานคดีแชร์มันนี่เกมส์ โคโลนี่อินเวสท์ มูลค่าเสียหาย 5,000 ล้านบาท หากถูกข่มขู่คุกคามให้รีบแจ้งดีเอสไอทันที เพื่อจัดชุดคุ้มครอง เผยกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานขอถอนประกันจำเลยในคดี

    วันนี้ (6 พ.ค.)ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.อ.ปิยวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้อำนวยการสำนักคดีอาญาพิเศษ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า หลังจากที่ดีเอสไอ ได้ส่งสำนวนคดีแชร์ลูกโซ่ไปยังพนักงานอัยการ เพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลไปหลายคดีแล้วนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์หลายคดี เช่น คดีแชร์ข้าวสารของบริษัท อีซี่เน็ตเวิร์คมาร์เก็ตติ้ง จำกัด, คดีแชร์ก๋วยเตี๋ยวของบริษัท สยามฟูดซ์แฟรนไชส์ จำกัด, คดีมันนี่เกมส์โคโลนี่อินเวสท์ (Colonyinvest) ฯลฯ สำหรับคดีมันนี่เกมส์ โคโลนี่อินเวสท์ (Colonyinvest)เป็นการหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ภายใต้เว็บไซต์ Colony Invest และเว็บไซต์ colonyinvest.com มีประชาชนถูกหลอกลวงเป็นจำนวนมากแพร่ขยายเป็นวงกว้างทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษกำลังเร่งสรุปสำนวนการสอบสวนคดีมันนี่เกมส์ โคโลนี่อินเวสท์ (Colonyinvest) อีกสำนวนหนึ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีประชาชนที่จังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียงได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

    พ.อ.ปิยวัฒก์ กล่าวอีกว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายที่ได้รับหมายเรียกของศาลอาญาให้ไปเบิกความเป็นพยานในคดีมันนี่เกมส์ โคโลนี่อินเวสท์ (Colonyinvest) ที่ศาลอาญาว่ามีจำนวนมากที่ได้รับการข่มขู่ผ่าน SMS และจากบุคคลที่เข้าไปพูดกับผู้เสียหายในลักษณะว่า “หากไปศาล จะไม่รับรองความปลอดภัย” จึงขอแจ้งให้ประชาชนที่ได้รับหมายเรียกของศาลให้ไปเบิกความเป็นพยานแล้ว หากได้รับการข่มขู่คุกคามไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดขอให้ติดต่อกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษโดยด่วนที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 975-9863, 02 975-9864 และ 02975-9866 โดยทางดีเอสไอจะจัดเจ้าหน้าที่ไปให้ความคุ้มครองหรือประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทันที

    นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการข่มขู่คุกคามผู้เสียหาย เพื่อร้องขอต่อศาลให้ถอนประกันจำเลยที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวต่อไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    ขอแสดงความยินดีกับแฟนๆผีแดง ทุกท่าน ครับ

    ไว้เชียร์กันอีกทีในรอบชิงชนะเลิศแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ครับ
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เมื่อวานนี้ ( 5 พค.52) ที่ผมไปบ้านท่านอาจารย์ประถม ผมไปนั่งคุยกับท่านอาจารย์ประถม และอยู่รอพี่ใหญ่

    ผมนำพระเนื้อดิน 2 องค์ ไปให้พี่ใหญ่ดู ปรากฎว่า พระเนื้อดินทั้งสององค์ เป็นพระพิมพ์(ลอยองค์) ที่สร้างขึ้นในยุคสมัย อยุธยา

    และผมยังนำพิมพ์อื่นๆ ไปนั่งคุยและวิเคราะห์กันอีกพอสมควร

    เสียอย่างเดียว ผมลืมนำพระพิมพ์ที่แตกหัก ไปให้พี่จิ๋วช่วยซ่อมให้ ส่วนที่แตกหักแล้วไม่สามารถซ่อมได้ ก็จะเก็บไว้เป็นมวลสารในการสร้างพระ ที่อาจจะมีขึ้นในอนาคตครับ

    พี่สิทธิพรครับ ถ้าจะทำล็อกเก็ตหลวงปู่พระอุปคุตและคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณ-อุตร) ขึ้นมาใหม่ อย่าลืมบอกผมด้วยนะครับ ผมยังสนใจอยู่ และคิดว่าพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ อีกหลายๆท่านก็ยังสนใจครับ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    50 ปีของเทคโนโลยีคาร์บอน - 14 ไขปรัศนีอายุ
    ที่มา<A href="http://www.obec.go.th/news/_develop_media/news12/songkha/pramote_p/sec01p01.html" target=_blank>?҃캍?-14 䢻Ôȹҍ҂ئlt;/a>


    เวลาคนทั่วไปเห็นมัมมี่หรือกระดูกไดโนเสาร์ คำถามหนึ่งที่เขามักถาม คือ สิ่งเหล่านั้นมีอายุมากเพียงใด นักวิทยาศาสตร์ก็มีความอยากรู้ เช่นกัน และดูจะมากกว่าคนทั่วไปเสียด้วยซ้ำ คำถามที่นักวิทยาศาสตร์ถาม ตามปรกติจะตอบได้ยาก เช่น จักรวาลมีอายุเท่าไหร่ โลกเกิดขึ้นเมื่อใด มนุษย์คนแรกถือกำเนิดเมื่อใด เป็นต้น
    เทคโนโลยีคาร์บอน -14 (C -14) คือวิทยาการหนึ่งที่สามารถไขปริศนาอายุของวัตถุโบราณบางประเภทได้ ในปี 2439 เมื่อ Antoine Henri Becquerel นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสได้พบว่า สารประกอบที่มียูเรเนียมสามารถทำให้ฟิล์มถ่ายภาพที่อยู่ภายในผ้าหุ้มสีดำ หมองมัวได้ เขาจึงอธิบายว่า การที่เป็นเช่นนั้นเพราะอะตอมของยูเรเนียมได้เปลี่ยนสภาพ โดยปลดปล่อย "รังสี" ที่ตามองไม่เห็นออกมา แล้วรังสีนั้นได้พุ่งกระทบแผ่นฟิล์ม จึงทำให้มันมีรอยฝ้าปรากฎ เขาเรียก "รังสี " นั้นว่ากัมมันตภาพรังสี นับตั้งแต่ได้มีการพบปรากฎ การณ์กัมมันตรังสีแล้ว นักวิทยาศาสตร์ในสมัยต่อมาก็ได้พบว่า ไม่เพียงแต่ยูเรเนียมเท่านั้นที่เป็นธาตุกัมมันตรังสี แม้แต่ธาตุอื่นๆ เช่น พลูโทเนียม หรือเรเดียม ต่างก็มีคุณสมบัติความเป็นกัมมันตรังสีได้เช่นกัน
    ในปี 2478 นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า ธาตุคาร์บอน -14 ก็เป็นธาตุกัมมันตรังสีด้วย การที่เราเรียกว่า คาร์บอน -14 นั้น ก็เพราะเหตุว่าใน นิวเคลียสของอะตอมของธาตุชนิดนี้มีโปรตอน 6 ตัว และนิวตรอน 8 ตัว ซึ่งธาตุคาร์บอนธรรมดาจะมีโปรตอนและนิวตรอนอย่างละ 6 ตัว ธาตุคาร์บอนธรรมดาจึงเป็นคาร์บอน -12 แต่คาร์บอน -14 (ซึ่งต่อไปนี้จะใช้สัญลักษณ์ C -14 แทน) ในธรรมชาติตามปรกติจะมีปริมาณ ที่น้อยนิดเมื่อเปรียบเทียบกับ C -12 เช่นในต้นไม้ที่ยังมีชีวิตอยู่ เราจะพบว่าจำนวนอะตอมของ C -14 : จำนวนอะตอมของ C -12 จะเท่ากับ 1:1 ล้านล้าน
    นักวิทยาศาสตร์คนแรกที่พบ C -14 และประยุกต์นำไปใช้วัดอายุของวัตถุโบราณ คือ Willard F. Libby โดยในเดือนธันวาคมปี 2492 Libby ซึ่งขณะนั้นทำงานเป็นนักเคมีนิวเคลียร์ที่ Institute for Nuclear Studies ที่มหาวิทยาลัยชิคาโกในสหรัฐอเมริกาตระหนักว่า โลกของเราได้รับรังสีคอสมิก ซึ่งเป็นอนุภาคที่มีพลังงานสูงมหาศาลจากอวกาศตลอดเวลา เมื่อรังสีคอสมิกกระทบอะตอมของไนโตรเจน ในบรรยากาศ อนุภาคนิวตรอนของรังสีคอสมิกจะเปลี่ยนนอะตอมของไนโตรเจนให้เป็นอะตอมของ C -14 และอะตอมของไฮโดรเจน จากนั้นอะตอมของ C -14 ที่เกิดขึ้นก็จะรวมตัวกับอะตอมของออกซิเจนในอากาศเป็นโมเลกุลของคาร์บอนไดออกไซด์ ( 14CO2) ที่มีอะตอมของ C -14 เป็นองค์ประกอบ ซึ่งโมเลกุลพิเศษนี้ส่วนน้อยจะปะปนอยู่กับโมเลกุลของคาร์บอนไดออกไซด์ธรรมดา ( 12CO2) ในอากาศ แต่ส่วนใหญ่จะละลายหายไปในทะเล ดังนั้น เมื่อพืชหายใจก๊าซ 14CO2 นี้เข้าไปเพื่อใช้ในปฏิกิริยาสังเคราะห์แสง แล้วสัตว์ หรือมนุษย์กินพืชเข้าไป เนื้อเยื่อในร่างกายของสัตว์และคนก็จะมี C -14 เจือปนทันทีและทันทีที่สิ่งมีชีวิตตาย กระบวนการหายใจหรือ บริโภค C -14 เข้าร่างกายก็จะหยุด จากนั้นอะตอมของ C -14 ที่มีอยู่ในร่างกายก็เริ่มสลายตัว โดยจะปลดปล่อยอนุภาคอิเล็กตรอน ที่มีประจุลบออกมาแล้วตัวอะตอม C -14 เองก็จะกลายเป็นอะตอมของไนโตรเจนไป
    ธาตุ C -14 มีครึ่งชีวิต (half life) เท่ากับ 5,730 ปี ซึ่งหมายความว่าภายในเวลา 5,730 ปี ครึ่งหนึ่งของอะตอม C -14 ที่มีในวัตถุ จะสลายตัว และอีก 5,730 ปี ครึ่งหนึ่งของอะตอม C -14 ที่เหลือซึ่งก็คือ 1 ใน 4 ของของเดิมจะสลายตัว เป็นเช่นนี้ไปทีละครึ่งของ ที่มีในทุก 5,730 ปี จนกระทั่งอะตอมของ C -14 สลายตัวหมด และเพราะเหตุว่าความร้อน ความเย็น หรือความดันใดๆ ไม่สามารถ ชะลอหรือเร่งเวลาในการสลายตัวของอะตอมเหล่านี้ได้เลย ดังนั้นการรู้อัตราการสลายตัวของ C -14 ที่มีในวัตถุ จะทำให้นักวิทยาศาสตร์ รู้อายุของวัตถุนั้นได้ทันที
    การค้นพบของ Libby ในเรื่องนี้ ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีในปี 2503
    ในยุคต้นๆ ของการใช้เทคนิค C -14 วัดอายุของวัตถุโบราณ นักวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องใช้วัตถุที่มีขนาดใหญ่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้มีจำนวน อะตอมของ C -14 ที่มากพอ แต่ในปัจจุบัน หากมีวัตถุขนาดเล็กที่หนักเพียงไม่กี่มิลลิกรัม นักวิทยาศาสตร์ก็สามารถวัดอายุของวัตถุนั้น ได้แล้ว โดยใช้หลักการวัดอายุของวัตถุโบราณดังนี้คือ นำวัตถุนั้นมาทำความสะอาดเพื่อกำจัดสารเจือหรือสิ่งสกปรกออก จากนั้นนำไป เผาที่อุณหภูมิประมาณ 1,000 องศาเซลเซียสในหลอดแก้ว แล้วให้ก๊าซที่มีอะตอมของ C -14 ผ่านไปในหลอดสุญญากาศที่ภายในมี สารเคมีอยู่ เพื่อให้สารเคมีดูดซับความไม่บริสุทธิ์ต่างๆ แล้วผ่านก๊าซที่ได้ไปยังอุปกรณ์วัดกัมมันตภาพรังสี เพื่อวัดอายุต่อไป ซึ่งตามปรกติจะใช้เวลาไม่นานก็ได้คำตอบ แต่ในกรณีที่เป็นวัตถุสำคัญ กระบวนการตรวจสอบและทดสอบอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือน
    ปีนี้เป็นปีที่เทคโนโลยี C -14 มีอายุครบ 50 ปี และนับตั้งแต่วันที่เทคนิคการวัดอายุด้วย C -14 ได้อุบัติขึ้น มันได้เปลี่ยนแปลงและพัฒนา วิทยาการด้านต่างๆ มากมาย เช่น
    นักโบราณคดีได้นำเถ้าถ่านที่พบในบริเวณใกล้สโตนเฮนจ์ (อนุสาวรีย์หินยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในทุ่งซอลส์เบอรี มณฑลวิลต์เซอร์ ในประเทศอังกฤษ ประกอบด้วยแผ่นหินหนาที่นำมาวางเรียงกันเป็นกลุ่มเสาหิน) มาศึกษา และพบว่าอนุสาวรีย์หินนั้นถูกสร้างขึ้นมา 1,500 ปี ก่อนคริสตกาล
    หรือในกรณีการระเบิดของภูเขาไฟ Mazama ที่ทำให้เกิดทะเลสาบ Crater ในรัฐโอเรกอนของสหรัฐอเมริกา การระเบิดของภูเขาไฟ ยังทำให้ต้นไม้ต่างๆ ถูกเผาทำลาย และหินภูเขาไฟ (pumice) ที่มีลักษณะเป็นรูพรุนคล้ายฟองน้ำได้ทับถมซากต้นไม้เหล่านี้ การวัดอายุ ของต้นไม้ทำให้นักธรณีวิทยารู้ว่าเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดได้เกิดขึ้นเมื่อ 6,500 ปีก่อน ซึ่งลบล้างความเชื่อเดิมที่นักธรณีวิทยาเคยคิดว่า Mazama ได้ระเบิดเมื่อนานกว่านั้น
    และที่ถ้ำ Fort Rock ในรัฐโอเรกอน นักโบราณคดีพบรองเท้าแตะที่ทำด้วยเปลือกไม้ 50 คู่ถูกฝังอยู่ใต้ลาวาภูเขาไฟ การวัดอายุของ รองเท้าแตะเหล่านั้นได้ทำให้นักโบราณคดีรู้ว่ารองเท้านี้มีอายุกว่า 5,000 ปี ดังนั้น Fort Rock จึงถือได้ว่าเป็นโรงงานทำรองเท้า ที่โบราณที่สุดในโลก
    การวัดอายุของเรือที่ทำด้วยไม้ซีดาร์ ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้ทรายในบริเวณนอกตัวพีระมิดที่เมือง Dahshur ในอียิปต์ ทำให้นักประวัติศาสตร์ รู้ว่าเรือที่ยาว 10 เมตรนี้ได้เคยเป็นพาหนะนำพระศพของฟาโรห์ Sesostris ที่ 3 เสด็จสู่ยมโลกเมื่อ 3,850 ปีมาแล้ว
    ที่ถ้ำ Shanidar ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิรัก นักโบราณคดีพบว่าถ้ำแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของมนุษย์ Neanderthal เมื่อ 1 แสนปีมาแล้ว เพราะได้พบกะโหลกศีรษะของมนุษย์เหล่านี้ซึ่งมีอายุประมาณ 45,000 ปี และที่กระดูกแขนขวาของมนุษย์ Neanderthal คนหนึ่งมีรอยผ่าตัด เป็นหลักฐานทำให้เรารู้ว่ามนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์กลุ่มนี้รู้จักการทำศัลยกรรมแล้ว
    การวิเคราะห์อายุของละอองเกสรดอกไม้ก็ทำให้นักประวัติศาสตร์ล่วงรู้เหตุการณ์ในอดีตได้มากเช่นกัน เพราะละอองเกสรดอกไม้เป็น สารอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่มีอายุนานนับพันปี ดังนั้นในกรณีที่มันถูกฝังจมในดินและถูกขุดขึ้นมา ตำแหน่งของละอองเกสรในชั้นดินคือข้อมูล ที่บอกให้เรารู้ว่า เมื่อดินชั้นนั้นปรากฏที่ผิวโลก มนุษย์ยุคนั้นปลูกพืชชนิดใด การรู้ชนิดของพืชจะทำให้เรารู้สภาพดินฟ้าอากาศในยุคนั้น ด้วย เช่น ถ้าพบเมล็ดเฟอร์ (fir) ก็แสดงว่าอากาศหนาว แต่ถ้าเป็นเมล็ดสน (pine) ก็แสดงว่าความหนาวได้ลดลงมากแล้ว หรือในกรณี ที่พบเมล็ดโอ๊ก (oak) ก็แสดงว่าอากาศอบอุ่น เป็นต้น
    ดังนั้นเมื่อ R.J. Braidwood แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก ได้ขุดพบเมล็ดข้าวในบริเวณเนินดินที่หมู่บ้าน Kurdish ทางตอนเหนือของอิรัก ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักมานุษยวิทยาเชื่อว่า เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมแห่งแรกของโลก เทคโนโลยี C -14 ที่ Briarwood ใช้วัดอายุของ เมล็ดพืช แสดงให้เห็นว่ามันมีอายุประมาณ 9,000 ปี และคนในหมู่บ้านรู้จักปลูกข้าวบาเลย์ ข้าวสาลี ใช้เคียวที่ทำด้วยหิน flint เกี่ยวข้าว รู้จักใช้โม่บดเมล็ดข้าว มีเตาไฟสำหรับใช้ทำอาหาร รู้จักนำแพะแกะ หมู สุนัข วัว และม้ามาเลี้ยงรวมทั้งรู้จักปั้นตุ๊กตาดินเหนียวตัวเล็กๆ ด้วย
    ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญต่อการศึกษาเรื่องอารยธรรมของมนุษย์ เพราะอารยธรรมของมนุษย์จะบังเกิดไม่ได้ถ้ามนุษย์ยังไม่เลิกดำเนิน ชีวิตแบบร่อนเร่ พเนจร หาอาหารไปวันๆ อารยธรรมจะอุบัติได้ก็ต่อเมื่อมนุษย์รู้จักการตั้งถิ่นฐานเป็นหลักแหล่งและรู้จักทำเกษตรกรรม ดังนั้น วันที่มนุษย์รู้จักทำเกษตรกรรมจึงเป็นวันที่สำคัญยิ่งวันหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เพราะการอยู่กันเป็นหมู่เหล่านี่เอง ที่ผลักดันให้มนุษย์รู้จักสร้างสรรค์งานหัตถกรรม ศิลปกรรม สถาปัตยกรรม เริ่มตรากฎหมายขึ้นใช้ และเริ่มเขียนหนังสือสื่อสารกัน และกิจกรรมเหล่านี้ต่างก็เป็นเครื่องหมายแสดงการมีอารยธรรมของมนุษย์ทั้งสิ้น
    นอกจากนี้เทคโนโลยี C -14 ยังช่วยให้นักโบราณคดีรู้อีกว่ากษัตริย์ Hammurabi แห่งกรุงบาบิโลน ผู้ทรงบัญญัติตัวบทกฎหมาย ฉบับแรกของโลก เคยมีพระชนม์ชีพเมื่อใด เพราะผลการวัดอายุของซากไม้ที่ใช้สร้างพระราชวังของพระองค์ในกรุงบาบิโลน แสดงให้ เห็นว่าพระองค์ทรงมีชีวิตอยู่เมื่อ 1,750 ปีก่อนคริสตกาล
    เทคโนโลยี C -14 ทำให้นักโบราณคดีรู้ว่าในทวีปอเมริกาเหนือเมื่อ 12,000 ปีมาแล้ว ชนพื้นเมืองเคยถือหอกที่มีปลายทำด้วยหินแหลม คม ล่าช้างแมมมอท วัวป่า ในรัฐแอริโซนา รู้จักทำเกษตรกรรมข้าวโพดในหุบเขา Tehuacan ในเม็กซิโก รวมทั้งรู้จักขุดทองแดงที่ Isle Royale ในมิชิแกนและทะเลสาบซูพีเรีย เมื่อ 4,000 ปีก่อนนี้ด้วย
    ความสำคัญของเทคโนโลยี C -14 ในชีวิตปัจจุบันได้ปรากฏอีกครั้งหนึ่งเมื่อปี 2531 เมื่อ P. Damon แห่งมหาวิทยาลัยแอริโซนาใน สหรัฐอเมริกา ได้รับอนุญาตจากสังฆราช Anastasio Ballestrero ให้วัดอายุของผ้าลินินผืนหนึ่งซึ่งประดิษฐานอยู่ที่มหาวิหารแห่ง เมืองตูรินในประเทศอิตาลี อันผ้าลินินผืนนี้นั้น ชาวคริสเตียนหลายล้านคนเชื่อว่า เป็นผ้าพันพระศพของพระเยซู โดยอาศัยความร่วมมือ ของคณะนักวิทยาศาสตร์จากประเทศอังกฤษและสวิสเซอร์แลนด์ และเทคโนโลยี C -14 คณะผู้วิจัยลงความเห็นว่าผ้าผืนนั้นถูกทอขึ้น ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 13-14 นี้เอง ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ไปถึง 1,300 ปี
    นอกจากนี้เทคนิค C -14 ยังช่วยให้นักอุตุนิยมวิทยารู้อีกว่า ยุคน้ำแข็งสุดท้ายที่มาเยือนโลกได้อุบัติเมื่อ 1 หมื่นปีมาแล้ว และช่วยบริษัท ขุดเจาะน้ำมันหาแหล่งน้ำมันโดยการวัดอายุของชั้นแร่ที่ตกตะกอนในดิน ช่วยนักนิเวศวิทยาศึกษาสภาพการสึกกร่อนของฝั่งทะเล โดยเปรียบเทียบอัตราการสลายของชายฝั่งในอดีตกับปัจจุบัน เป็นต้น
    ถึงแม้เทคโนโลยี C -14 จะมีประโยชน์มหาศาลสักปานใดก็ตาม แต่มันก็มีขอบเขตการใช้เช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่นๆ เพราะนักวิทยา ศาสตร์ไม่สามารถใช้เทคนิคนี้วัดอายุของวัตถุโบราณเกิน 6 หมื่นปีได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ เช่นในกรณีจะรู้อายุโลก การใช้ยูเรเนียม, ทอเรียม, รูบิเดียม และโพแทสเซียม ที่เป็นกัมมันตรังสี ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอีกรูปแบบหนึ่ง ก็สามารถแสดงให้รู้ว่าโลกมีอายุประมาณ 4,500 ล้านปี (ซึ่งขัดแย้งกับจินตนาการของบาทหลวง Ussher ผู้เคยมีชีวิตอยู่ในสมัยคริสต์ศักราชที่ 17 ที่ได้ทำนายว่า วันเกิดของโลกคือ วันศุกร์ที่ 17 กันยายน เมื่อ 4,004 ปีก่อนคริสตกาล) และเทคนิคเดียวกันนี้ก็ช่วยให้เรารู้ว่า อุกกาบาตได้ถือกำเนิดในสุริยจักรวาลพร้อม ๆ กัน
    ส่วนการวัดอายุของดาวฤกษ์นั้น นักดาราศาสตร์ปัจจุบันสามารถวัดใจจากความสว่างของมัน เพราะดาวที่มีสีน้ำเงินจะเป็นดาวที่ร้อน ดังนั้นอ้ตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงไฮโดรเจนบนดาวดวงนี้กำลังดำเนินไปอย่างช้าๆ ดังนั้นมันจะมีชีวิตอยู่ได้นาน ข้อมูลขนาดอุณหภูมิ และระดับความสว่างของดาว สามารถทำให้นักดาราศาสตร์รู้อายุของดาวฤกษ์ได้
    ขณะนี้ทั่วโลกมีห้องปฏิบัติการวัดอายุวัตถุโบราณที่ใช้เทคโนโลยี C -14 ประมาณ 40 แห่ง ถึงกระนั้นห้องปฏิบัติการทุกแห่งก็ใช่ว่าจะ สามารถวัดอายุของวัตถุที่มีอายุน้อยกว่า 300 ปีได้ ทั้งนี้เพราะทุกวันนี้โลกกำลังปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาผลาญเชื้อเพลิง ออกมามาก การทดสอบปรมาณูหรือนิวเคลียร์ที่ได้กระทำบ่อยเมื่อ 30 ปีก่อน ก็มีส่วนทำให้ปริมาณ C -14 ในอากาศแปรปรวนมาก ดังนั้นตัวเลขอายุของวัตถุที่เก่าแก่ประมาณ 300 ปีจึงไม่แน่นอน แต่ในกรณีของวัตถุที่มีอายุ 4-5 หมื่นปี เทคนิค C -14 ยังคงใช้ได้ดี ถึงแม้ปริมาณ C -14 ในช่วงเวลาดังกล่าวจะลดลงเหลือ 1/2 13=1/8192 ของปริมาณเดิมแล้วก็ตาม
    สำหรับปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขอายุถูกต้องมากหรือคลาดเคลื่อนมาก ก็คือปริมาณของวัตถุ ทั้งนี้เพราะถ้าเรามีอะตอมของ C -14 6 หมื่นล้าน อะตอม ภายในเวลา 1 นาทีจะมีอะตอมไม่เกิน 14 อะตอมที่สลายตัว และนี่ก็คือความยากลำบากที่นักวิทยาศาสตร์ต้องเผชิญเวลาวัดอายุ ของวัตถุโบราณ ดังนั้นการมีเนื้อสารมาก จะช่วยให้วัดอายุได้ถูกต้องแม่นยำมาก
    ณ วันนี้ นักวิทยาศาสตร์นิยมใช้เทคโนโลยี accelerator mass spectroscopy ควบคู้กับเทคนิค C -14 ธรรมดาเพื่อแยกอะตอม ของ C -14 ออกจากอะตอมของ N -14 ให้ได้อย่างสมบูรณ์ เทคนิคนี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ลดเวลาวัดจากวันหรือสัปดาห์หรือเดือน มาเป็นนาที และช่วยให้ปริมาณของ C -14 ที่ต้องมีลดลงจากกรัมเป็นมิลลิกรัม และเมื่อใช้อุปกรณ์ตรวจวัดที่ไวมาก เราก็สามารถวัดอายุ ของวัตถุโบราณที่มากถึง 1 แสนปีได้บ้าง
    ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่า สิ่งประดิษฐ์ของ Libby ทำให้การศึกษาธรรมชาติยุคก่อนประวัติศาสตร์เป็นไปได้ และช่วยขยายขอบเขตความรู้ และความเข้าใจของวิทยาการด้านธรณีวิทยาและดาราศาสตร์มาก ดังนั้นเราจึงไม่ต้องแปลกใจถ้าเห็นนักเคมี นักฟิสิกส์ นักโบราณคดี นักมานุษยวิทยา นักธรณีวิทยา ฯลฯ มีความรู้สึกตื่นเต้นกับละอองเถ้าถ่านหรือเศษกระดูกชิ้นเล็กๆ ที่ติดอยู่กับวัตถุประวัติศาสตร์อย่างกับ คนธรรมดาเห็นละอองเพชร

    จัดทำโดยครูปราโมทย์ พรหมโหร
    โรงเรียนสะบ้าย้อยวิทยา อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
    สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 3
    โดยการสนับสนุนจาก
    กลุ่มผลิตสื่อและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
    สำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
    และขอขอบคุณอาจารย์ พูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กทม.Copyright (c) 2003 สาระ ความรู้ ข่าวสาร ความบันเทิง ของชาวมัธยมศึกษา และประถมศึกษา : Knowledge for Thai Student | ThaiGoodView.com. All rights reserved.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2009
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ที่มา http://palungjit.org/threads/นำ-ภ-า...-า-ก-ม-า-ก-ๆ-สายหลวงปู่มั่น-ภูริทัตโต.164973/

    นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ
    นำมาจากกระทู้ในบอร์ดเก่า โพสต์โดย คุณอริยชน

    http://www.dhammajak.net/forums/view...t&sd=a&start=0

    โพสโดย เว็บมาสเตอร์

    [​IMG]

    ท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีลเถร และคณะสงฆ์อันเป็นศิษยานุศิษย์
    ณ วัดป่าบ้านข่าโคม ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

    [​IMG]

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต, หลวงปู่หลุย จันทสาโร,
    หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    [​IMG]

    หลวงพ่อลี ธมฺมธโร
    วัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ครูบาอาจารย์พระป่ากรรมฐาน สานุศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    ร่วมกันถ่ายภาพ ณ วัดศรีเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย


    [​IMG]

    รวมพระมหาเถราจารย์
    บันทึกภาพ ณ โรงพยาบาลสุขุมวิท กรุงเทพฯ
    ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๒๐


    นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ
    นำมาจากกระทู้ในบอร์ดเก่า โพสต์โดย คุณอริยชน

    http://www.dhammajak.net/forums/view...t&sd=a&start=0

    โพสโดย เว็บมาสเตอร์

    [​IMG]

    ส่วนหนึ่งของกองทัพธรรมสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต

    แถวหลัง : หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่ขาว อนาลโย,
    เจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล),
    หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    แถวกลาง : พระอาจารย์จันทร์ เขมปตฺโต, หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ

    แถวหน้า : หลวงปู่บัว สิริปุณโณ, หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร

    [​IMG]

    คณะศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต (จากซ้ายไปขวา)

    ๑. พระธรรมวราลังการ (หลวงปู่ศรีจันทร์ วณฺณาโภ)
    ๒. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
    ๓. หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
    ๔. หลวงปู่หลุย จันทสาโร
    ๕. หลวงปู่ซามา อาจุตฺโต

    [​IMG]

    คณะศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต (จากซ้ายไปขวา)

    หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ, หลวงปู่สิงห์ทอง ธมฺมวโร,
    พระอาจารย์กว่า สุมโน, หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, พระอาจารย์ชม (ไม่ทราบฉายา)
    หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ, หลวงปู่อ่อนศรี สุเมโธ, หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ


    [​IMG]

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


    [​IMG]

    (ซ้าย) หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
    วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

    (กลาง) หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

    (ขวา) หลวงปู่บัวพา ปญฺญาภาโส
    วัดป่าพระสถิตย์ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพหายาก...หลวงปู่ขาว อนาลโย
    วัดถ้ำกลองเพล ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู


    นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ
    นำมาจากกระทู้ในบอร์ดเก่า โพสต์โดย คุณอริยชน

    http://www.dhammajak.net/forums/view...t&sd=a&start=0

    โพสโดย เว็บมาสเตอร์

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพหายาก...หลวงปู่ขาว อนาลโย
    วัดถ้ำกลองเพล ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู


    [​IMG]

    หลวงปู่ขาว อนาลโย เดินจงกรมตอนเช้าบนระเบียงกุฏิ

    [​IMG]

    พระอาจารย์บุญเพ็ง เขมาภิรโต ประคองหลวงปู่ขาว อนาลโย เดินจงกรม

    [​IMG]

    หลวงปู่ขาว อนาลโย ฉันภัตตาหารร่วมกับ
    หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทรสามัคคี อ.เมือง จ.หนองคาย


    [​IMG]

    หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโคธาราม จ.อุดรธานี
    กำลังทักทายหลวงปู่ขาว อนาลโย ที่บริเวณวัดถ้ำกองเพล จ.หนองบัวลำภู


    [​IMG]

    หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม วัดสิริสาลวัน จ.หนองบัวลำภู
    กำลังทักทายกับหลวงปู่ขาว อนาลโย ด้วยความยิ้มแย้ม


    [​IMG]

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์
    มาเยี่ยมหลวงปู่ขาว อนาลโย และได้มีโอกาสสนทนาธรรมกันอย่างใกล้ชิด


    [​IMG]

    พระอาจารย์บุญเพ็ง เขมาภิรโต และพระอาจารย์จันทา ถาวโร
    กำลังเฝ้าปรนนิบัติหลวงปู่ขาว อนาลโย


    นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ
    นำมาจากกระทู้ในบอร์ดเก่า โพสต์โดย คุณอริยชน

    http://www.dhammajak.net/forums/view...t&sd=a&start=0

    โพสโดย เว็บมาสเตอร์

    [​IMG]

    หลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง จ.เลย เป็นพระกรรมฐานชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่ง
    ที่ได้มามนัสการหลวงปู่ขาว อนาลโย ที่วัดถ้ำกองเพล จ.หนองบัวลำภู เป็นประจำ


    [​IMG]

    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ จ.เลย
    มามนัสการหลวงปู่ขาว อนาลโย ที่วัดถ้ำกองเพล จ.หนองบัวลำภู


    [​IMG]

    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
    มาทำวัตรหลวงปู่ขาว อนาลโย ซึ่งเป็นธรรมเนียมของพระทางฝ่ายกรรมฐาน


    [​IMG]

    หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก)
    มามนัสการหลวงปู่ขาว อนาลโย ที่วัดถ้ำกองเพล จ.หนองบัวลำภู


    [​IMG]

    หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม
    วัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา


    [​IMG]

    จากซ้ายไปขวา
    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, พระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล,
    พระญาณวิศิษฏ์สมิทธิวีราจารย์ (หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม)



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
    วัดป่าอุดมสมพร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ
    นำมาจากกระทู้ในบอร์ดเก่า โพสต์โดย คุณอริยชน

    http://www.dhammajak.net/forums/view...t&sd=a&start=0

    โพสโดย เว็บมาสเตอร์

    [​IMG]

    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    วัดดอยแม่ปั๋ง ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่


    [​IMG]

    หลวงปู่ชอบ-หลวงปู่เหรียญ-หลวงปู่หลุย-หลวงปู่บัวพา

    [​IMG]

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล-หลวงปู่สาม อกิญจโน-หลวงปู่ศรี มหาวีโร
    ภาพโดยคุณ nonsoul


    [​IMG]


    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน-พระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล)

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
    วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก)
    ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย


    [​IMG]

    ไฟปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเมื่อพระอาจารย์จวน บ้วนปาก เมื่อฉันข้าวเสร็จ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ นั่งภาวนาบนหน้าผา
    (น่าอัศจรรย์ใจ !!! จริงๆ)
    <!-- google_ad_section_end -->

    นำ ภ า พ เ ก่ า ๆ ที่ ห า ดู ไ ด้ ย า ก ม า ก ๆ
    นำมาจากกระทู้ในบอร์ดเก่า โพสต์โดย คุณอริยชน

    http://www.dhammajak.net/forums/view...t&sd=a&start=0

    โพสโดย เว็บมาสเตอร์

    [​IMG]

    หลวงปู่สีโห เขมโก
    (ศิษย์ใกล้ชิดของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต)
    พระผู้ทรงอภิญญา รู้ภาษาสัตว์และคนได้ทุกชาติทุกภาษา


    [​IMG]

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
    วัดบูรพาราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์


    [​IMG]

    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    วัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา


    [​IMG]

    หลวงพ่อชา สุภัทโท
    วัดหนองป่าพง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี


    [​IMG]

    หลวงพ่อชา สุภัทโท (นั่ง) ถ่ายภาพกับคณะศิษย์ชาวต่างประเทศ

    [​IMG]

    หลวงพ่อชา สุภัทโท (ถือไม้เท้า) ถ่ายภาพกับคณะศิษย์

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงปู่มี (เกล้า) ปมุตโต
    วัดถ้ำเกีย บ้านหนองแซง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงปู่มี (เกล้า) ปมุตโต
    วัดถ้ำเกีย บ้านหนองแซง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  15. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    สำหรับท่านปาทาน คงไม่กลัวหนักคอ อยู่แล้ว ครับ
    เล่าสู่กันฟัง คงไม่ใช่การเชียร์กันเอง อยากฟังอีก ชอบ ครับ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปภ.แนะลดความเสี่ยง จากไฟไหม้รถยนต์

    ที่มา กระปุก

    ???ǒ?ൗ͹? ??ṐŴ?ǒ?ʕ肧 ?ҡ俤ˁ郶¹?즬t;/a>

    [​IMG]

    กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะลดความเสี่ยงจากไฟไหม้รถยนต์ โดยหมั่นตรวจสอบเครื่องยนต์ โดยเฉพาะระบบไฟ สายพาน หม้อน้ำ และท่อน้ำมันเชื้อเพลิง จัดเตรียมขวดน้ำเปล่าหรือถังดับเพลิงขนาดเล็กไว้ด้านข้างคนขับเพื่อสะดวกต่อการใช้งาน ไม่ปรับแต่งสภาพเครื่องยนต์และ ใช้อะไหล่ไม่มีคุณภาพหรือต่ำกว่ามาตรฐาน ขับรถในอัตราความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเกิดเพลิงไหม้ ควรตั้งสติให้มั่น ไม่ตื่นตระหนก นำรถจอดข้างทาง ปิดสวิตช์ ดับเครื่องยนต์ทันที และหนีออกห่างจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้ พร้อมโทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการควบคุมสถานการณ์

    นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า อุบัติเหตุไฟไหม้รถมีสาเหตุจากปัจจัยภายนอกระบบเครื่องยนต์ เช่น ตัวถังได้รับความกระทบกระเทือนจนเกิดประกายไฟ ส่วนปัจจัยภายในเกิดจากความร้อน เชื้อเพลิงและประกายไฟมารวมตัวกันในระดับที่เหมาะสมจึงเอื้ออำนวยให้เกิดเพลิงไหม้ โดยส่วนใหญ่รถที่มักเกิดเพลิงไหม้ ได้แก่ รถรุ่นเก่าที่ผ่านการปรับแต่งสภาพ และใช้อะไหล่ที่ไม่มีคุณภาพหรือต่ำกว่ามาตรฐาน เช่น ใช้สายไฟต่ำกว่าเกณฑ์ ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร หรือการใช้อะไหล่ที่ไม่ได้ขนาด ทำให้เกิดการเสียดสีกันจนเกิดประกายไฟ หากมีความร้อนและเชื้อเพลิงจะทำให้เกิดเพลิงไหม้เครื่องยนต์ ส่วนรถใหม่ก็อาจเกิดเพลิงไหม้ได้ หากเจ้าของรถไม่ใส่ใจดูแลรักษาสภาพเครื่องยนต์ เช่น หม้อน้ำแห้ง ฝาปิดถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีรอยแตกร้าว เป็นต้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้รถ ควรปฏิบัติตนดังนี้ ​

    ก่อนขับขี่ ควรตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน เติมน้ำหม้อน้ำ ในระดับที่กำหนด ท่อน้ำมันเชื้อเพลิงไม่มีรอยรั่ว ไม่มีเศษวัสดุติดในหม้อน้ำและท่อยาง สายพานมีความตึงในค่าที่กำหนด โดยเฉพาะกระโปรงหน้ารถ หากมีเขม่าดำเกาะ แสดงว่า เครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์ รวมถึงตรวจดูใต้ท้องรถหากมีร่อยรอยน้ำมันหยด ควรรีบแก้ไขโดยด่วน รวมทั้งจัดเตรียมขวดน้ำเปล่า และถังดับเพลิงเคมีขนาดเล็กไว้ด้านข้างคนขับ เพื่อสามารถหยิบมาใช้ได้ทันที เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ​

    ขณะขับขี่ รถส่วนใหญ่มักเกิดเพลิงไหม้ในขณะที่รถกำลังวิ่ง ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรสังเกตบริเวณกระโปรงหน้ารถ เพราะเป็นที่ตั้งของเครื่องยนต์และสายไฟที่อาจทำให้เกิดประกายไฟ รวมถึงกระโปรงหลังรถ โดยเฉพาะรถที่ติดตั้งถังก๊าซ หากรถเกิดอาการกระตุกเมื่อสตาร์ทหรือในขณะขับขี่ ควรนำรถไปตรวจสอบสภาพในทันที เพราะแสดงว่าเครื่องยนต์ทำงานขัดข้องหรือถังน้ำมันรั่ว ทำให้มีอากาศเข้าไปในตัวถังจนเกิดการเผาไหม้ไม่สม่ำเสมอ

    กรณีเกิดเพลิงไหม้รถ ผู้ขับขี่ควรตั้งสติ และรีบนำรถเข้าจอดข้างทางในทันที พร้อมดับเครื่องยนต์ เพื่อตัดสัญญาณไฟ และรีบโทรแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 191 ศูนย์รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ 199 สายด่วนนิรภัย 1784 หากเพลิงไหม้เพียงเล็กน้อย ให้นำผ้าแห้ง ผ้าที่เปียกน้ำ ทรายมาโป๊ะหรือตบบริเวณที่เกิดไฟไหม้ หรือใช้ขวดน้ำเจาะปากขวดเป็นรูเล็กๆ ฉีดบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ​

    กรณีเพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ควรใช้ถังดับเพลิงฉีดพ่นบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ให้รีบหนีออกห่างจากรถที่เกิดเพลิงไหม้โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันรถระเบิด ถ้ารถที่เกิดเพลิงไหม้เป็นรถที่ใช้ระบบก๊าซ ควรรีบปิดวาล์วถังก๊าซ หากเป็นวาล์วอัตโนมัติให้เปิดฝากระโปรงแบบแง้มๆ พร้อมดับเพลิงตามวิธีข้างต้น ที่สำคัญ ผู้ขับขี่ไม่ควรซื้อรถมือสองที่ไม่ทราบประวัติการขับขี่ เพราะบางคันอาจผ่านการดัดแปลงสภาพ ใช้อะไหล่หรือชิ้นส่วนที่ไม่มีคุณภาพ และควรหมั่นตรวจสอบสภาพรถ เป็นประจำ รวมทั้งขับขี่รถในอัตราความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อลดแรงปะทะที่อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้รถ​



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    disaster.go.th
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เดลินิวส์
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เห็นแล้วก็หิวววววววววววววววววววววววววว
    ต้องนำมาฝากกันครับบบบบบบบบบบบบบบ
    อิอิ
    rabbit_scary


    อร่อยเต็มคำกับ 'ถุงทอง'
    Daily News Online : Environment
    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>เห็นอากาศแปรปรวนได้ทุกวันแบบนี้ 'จานโปรด' ไม่อยากย่างกายออกไปไหนไกลร่มเงาหลังคาบ้านเลยจริงๆ แต่จะอยู่บ้านเฉยๆ ก็เหงาอีก เลยลุกเข้าครัว อาสาทำอาหารว่างให้ทานกันดีกว่า กับเมนูที่มีชื่อว่า 'ถุงทอง' อาหารไทย ที่ใครๆ ก็รู้จักดี
    [​IMG]

    เครื่องปรุง-ส่วนผสม
    - แผ่นแป้งปอเปี้ยะ
    - กุ้งแชบ๊วยสับหยาบ 300 กรัม
    - มันหมู 1/3 ถ้วย
    - แห้วต้มหั่นลูกเต๋า 1/3 ถ้วย
    - แครอทต้มหั่นลูกเต๋า 1/3 ถ้วย
    - รากพริกชี พริกไทย กระเทียม โขลกละเอียด 2 ช้อนชา
    - ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
    - ต้นหอม 4 ต้น
    - น้ำจิ้มบ๊วย
    - น้ำมันสำหรับทอด

    ลงมือเข้าครัว
    1. เริ่มจากการทำไส้ของถุงทอง โดยนำกุ้งแชบ๊วยสับหยาบ มาผสมกับมันหมู แห้ว แครอท รากพริกชี พริกไทย กระเทียมที่โขลกละเอียดแล้ว ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว นวดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน พักไว้
    2. ตั้งน้ำให้ร้อน นำต้นหอมที่เตรียมไว้ไปลวกน้ำ จากนั้นนำขึ้นพักไว้ให้สะเด็ด
    3. ห่อถุงทอง ด้วยการนำไส้ที่เตรียมไว้ ตักวางลงบนแผ่นแป้งปอเปี๊ยะ จากนั้นจับจีบขึ้นไปให้มีลักษณะคล้ายถุง มัดด้วยต้นหอมลวก ทำเช่นนี้จนหมด
    4. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อนจัด ก่อนหรี่ไฟลงเหลือครึ่งหนึ่ง จากนั้นนำถุงทองที่เตรียมไว้ลงไปทอดจนมีสีเหลืองทอง เมื่อสุก ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
    5. ยกเสิร์ฟ พร้อมน้ำจิ้มบ๊วย และผักสดอย่างแตงกวา และผักกาดหอม



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]
    ดาวน์โหลด 65 ครั้ง

    ว่าไงครับคุณnongnooo
    ดีป่าวครับ
    แรงป่าวครับ

    เอ้อ ลืมไป

    คุณnongnooo บอกว่าแรงสุดๆไปเลย
    อิอิ

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เมิ่งหมู่ซานเชียน : มารดาเมิ่งจื่อย้ายบ้าน 3 ครา
    China - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 พฤษภาคม 2552 17:48 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> 孟 (mèng) อ่านว่า เมิ่ง หมายถึง เมิ่งจื่อ
    母 (mǔ) อ่านว่า หมู่ แปลว่า มารดา
    三 (sān) อ่านว่า ซาน แปลว่า สาม
    迁 (qiān) อ่านว่า เชียน แปลว่า อพยพ โยกย้าย


    เมิ่งจื่อ คือนามของปราชญ์นามกระเดื่องของลัทธิขงจื๊อ บิดาของเมิ่งจื่อล่วงลับไปตั้งแต่สมัยที่เขายังเป็นเด็ก ส่วนมารดาเป็นม่ายมิได้แต่งงานใหม่

    ครั้งหนึ่ง ขณะที่สองแม่ลูกอาศัยอยู่ข้างป่าช้า เมิ่งจื่อและบรรดาเด็กๆ เพื่อนบ้านต่างพากันเล่นสนุก เลียนแบบท่าทางที่ผู้ใหญ่คุกเข่าร้องไห้คร่ำครวญอาลัยศพ จนกระทั่งมารดาของเมิ่งจื่อพบเห็น คิดว่าไม่ดีแน่ จึงตัดสินใจย้ายบ้าน พาเขามาอยู่ที่ใหม่ข้างตลาดใกล้กับชุมชนที่มีคนพลุกพล่าน ที่นี่ เมิ่งจื่อและเด็กๆ เพื่อนบ้าน เล่นเลืยนแบบท่าทางของพ่อค้าแม่ค้าที่ทำการค้าขายในย่านนั้น ทั้งท่าทางเรียกลูกค้า ดูแลรับรองลูกค้า กระทั่งต่อรองราคาก็แสดงกันได้อย่างสมบทบาท ทว่าเมื่อถูกมารดาพบเห็น ก็คิดว่าที่นี่ไม่เหมาะสม จึงพากันย้ายบ้านอีกครั้ง ครานี้ย้ายมาอยู่ข้างโรงเรียน ที่นี่เมิ่งจื่อเริ่มเรียนรู้ เปลี่ยนเป็นมีสัมมาคารวะ รักการอ่าน ทำให้มารดาพอใจเป็นอันมาก และตกลงใจอาศัยอยู่ที่นี่ต่อไป   

    มารดาของเมิ่งจื่อย้ายบ้านถึง 3 ครั้ง เพื่อเพียรแสวงหาสถานที่ที่ดี สภาพแวดล้อมเหมาะสมในการสั่งสอนบุตร ภายหลังผู้คนนำคำกล่าวที่ว่า "เมิ่ง หมู่ ซาน เชียน" หรือ "มารดาเมิ่งจื่อย้ายบ้าน 3 ครา" มาใช้เพื่อเปรียบเปรยว่า คนเราควรจะเลือกอยู่ใกล้คนดี เรื่องดี และสิ่งที่ดีงาม
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...