พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]

    อย่ามัวแต่รำกันอยู่เลย คนที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมา ให้เก่งๆหน่อย ไปเจอกันที่วัดพระแก้วได้ทันที

    ผมจะเตรียมพระวังหน้า ที่แก๊งบัวใต้น้ำบอกว่าเป็นพระเก๊ มือผีให้พอกับจำนวนคนที่จะไป

    แล้วก็กล้าๆไปหน่อย

    บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong กับบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ.... ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,เทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้า และพยามัจจุราชเจ้า ว่า " พระพิมพ์และหรือวัตถุมงคลต่างๆที่บุคคลในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong นำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญร่วมกับบุคคลในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong เป็นพระกรุวังหน้า(กรุวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ) จริงและหรือแท้ และหรือบางรุ่นที่สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2428 หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) อธิษฐานจิต และหรือบางรุ่นที่สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2415 สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิต และหรือสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2428 " ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ.... จงประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล แต่ถ้า" พระพิมพ์และหรือวัตถุมงคลต่างๆที่บุคคลในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong นำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญร่วมกับบุคคลในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong เป็นพระกรุวังหน้า(กรุวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ) ไม่จริงและหรือเก๊ " ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ.... จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล การตั้งจิต ,ตั้งสัจจะและสาบานในครั้งนี้ ขอให้ผลเกิดโดยเร็วที่สุดและผลเกิดโดยฉับพลันทันใด การถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ ต้องให้อีกฝ่ายยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานนี้ จึงจะมีผลในการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน แต่หากอีกฝ่ายไม่ยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน ก็ให้มีผลตลอดกาล และทุกๆคนไม่มีเวรกรรมและไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกันตลอดไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    กล้าๆรับคำท้าหน่อย
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รับคำท้าแล้ว ผมจะเชิญทีมงานเว็บพลังจิต ไปเป็นสักขีพยาน

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มะกันเตือนอีก-อย่าใช้"มือถือ"นาน

    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNeU5nPT0=&day=TWpBd09TMHdOQzB4TkE9PQ==

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>สถาบันมะเร็ง มหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์ก สหรัฐอเมริกา เตือนประชาชนชาวอเมริกันระมัดระวังการใช้โทรศัพท์มือถือ อย่าให้ร่างกายสัมผัสกับรังสีจากโทรศัพท์มือถือมากเกินไป

    โดยทั่วไปโทรศัพท์มือถือจะปล่อยพลังงานออกมาเป็นความถี่คลื่นวิทยุ ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แม้การศึกษาหลายครั้งไม่พบการเชื่อมโยงระหว่างคลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้ากับเนื้องอกในสมองและระบบประสาทส่วนกลาง แต่ทางสถาบันมะเร็งฯ แนะนำว่า ในการเลือกโทรศัพท์มือถืออันดับแรกจะต้อง เลือกโทรศัพท์ที่มีอัตราการปล่อยรังสี หรือค่า "เอสเออาร์" ต่ำ และควรพูดโทรศัพท์ให้น้อยลง หากเป็นไปได้ก็ควรเลี่ยงไปใช้ชุดอุปกรณ์หูฟัง หรือไม่ก็ใช้วิธีส่งข้อความสั้นแทนการพูดโทรศัพท์

    อย่างไรก็ตาม แม้ผลการวิจัยเมื่อปีที่แล้วของมหาวิทยาลัยยูทาห์ ซึ่งศึกษาผู้ป่วยเนื้องอกในสมองหลายพันคนพบว่า โอกาสเสี่ยงของผู้ป่วยเนื้องอกในสมองที่ใช้โทรศัพท์มือถือไม่เพิ่มขึ้น แต่สำหรับผลในระยะยาวนั้นยังต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกในอนาคต

    ย้อนกลับไปเมื่อปี 2550 ผลการศึกษาหลายครั้งในฝรั่งเศสและนอร์เวย์ได้ข้อสรุปเช่นเดียวกันว่า จากการติดตามศึกษาผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือมานานกว่า 10 ปี จำนวน 420,000 คน ไม่พบว่าโอกาสเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น

    นอกจากนี้ ผลการศึกษาที่ฝรั่งเศสยังพบว่าผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือตามปกติไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า ความเสี่ยงของเนื้องอกในสมองจะเพิ่มขึ้น แต่มีความเป็นไปได้ที่โอกาสเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นในรายที่ใช้โทรศัพท์มือถือมากกว่าปกติ ซึ่งยังต้องทดลองเพิ่มเติมอีกในอนาคต แม้ผลการวิจัยจะยังไม่ชี้ชัด แต่ทางที่ดีควรจะกันไว้ดีกว่าแก้
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สมเด็จพระบรมมีพระดำรัส ครอบครัวอบอุ่น ชาติมั่นคง

    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNeE5BPT0=&day=TWpBd09TMHdOQzB4TkE9PQ==

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงเป็นองค์ประธานเปิดงานวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2552 ภายใต้แนวคิด "สายใยรักแห่งครอบครัว คือ สายใยแห่ง...ครอบครัวร่มเย็น สังคมไทยมีสุข" เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของวันครอบครัว และเป็นการส่งเสริม สนับสนุนให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในกิจกรรมการพัฒนาสถาบันครอบครัว ที่ห้องรอยัล จูบิลี บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี เมื่อ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระดำรัสเปิดงาน ว่า ครอบครัวเป็นสถาบันพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ และมีผลโดยตรงต่อคุณภาพประชากรและการพัฒนาประเทศทุกด้าน แต่ปัจจุบัน สภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปได้ทำให้สมาชิกในครอบครัวห่างเหินกัน และเกิดปัญหาครอบครัวขึ้น ส่งผลให้มีปัญหาอื่นๆ เกิดต่อตามมาอีกมาก จึงเป็นที่น่ายินดี ที่ทางราชการและหน่วยงานต่างๆ ทราบ และตระหนักถึงปัญหา จึงได้ร่วมกันจัดงานวันแห่งครอบครัวต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หวังว่า ทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมมือร่วมงานกันต่อไปให้ยิ่งเหนียวแน่น เพื่อให้สถาบันครอบครัวไทยมีความอบอุ่น ร่มเย็น เข้มแข็ง ซึ่งจะยังผลให้สังคมตลอกจนประเทศชาติมีความมั่นคงก้าวหน้ายั่งยืนไป <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    จากนั้น พระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติแก่ครอบครัวร่มเย็น จำนวน 122 ครอบครัวจากทั่วประเทศ และทอดพระเนตรวิดีทัศน์ "ครอบครัวร่มเย็น สังคมไทยมีสุข" เสด็จพระราชดำเนินยังซุ้มศูนย์พัฒนาครอบครัวชุมชนในทุกภาค และชมกิจกรรมการใช้เวลาร่วมกันของครอบครัว







    ----------------------------------------------------------------------

    เตรียมพร้อมสร้างครอบครัว
    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdOQzB4TkE9PQ==


    สดจากจิตวิทยา

    นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต



    ความรักเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้คนสองคนตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน แต่ความรักเพียงอย่างเดียวก็มิอาจทำให้ชีวิตคู่มีความสุขได้หากขาดการเตรียมความพร้อมในการสร้างครอบครัว

    การเตรียมความพร้อมให้กับครอบครัวเริ่มด้วยการวางแผนการใช้ชีวิตร่วมกัน โดยการพูดคุยกันให้เกิดความเข้าใจร่วมกันในเรื่องต่างๆ เช่น

    - การวางแผนการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย หลังแต่งงานจะอยู่ที่ใด เมื่อใดจึงจะมีลูกมีสักกี่คน รวมถึงเวลาของครอบครัวที่ควรมีให้แก่กันมากน้อยแค่ไหน การรับผิดชอบเรื่องต่างๆ ภายในบ้านใครมีหน้าที่อะไรบ้าง เป็นต้น

    - เรื่องการเงิน รายได้ของครอบครัวมีเท่าไร ใครรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอะไร ค่าใช้จ่ายใดที่จำเป็นอะไรควรลด การเก็บเงินและการลงทุนเพื่ออนาคต รวมถึงในเรื่องของการส่งเสียเลี้ยงดูพ่อแม่ การช่วยเหลือญาติพี่น้องว่าควรทำแค่ไหนอย่างไร

    - การแก้ปัญหา การใช้ชีวิตร่วมกันเหมือนลิ้นกับฟันที่อาจมีกระทบกันบ้าง ดังนั้น ควรพูดคุยกันว่าหากมีปัญหาโกรธ ไม่พอใจ จะหาทางออกอย่างไร เช่น ไม่พูดขณะโกรธแต่ให้สงบสติอารมณ์แล้วจึงหันหน้ามาพูดกัน แต่ไม่ควรหนีออกนอกบ้าน และหากมีพฤติกรรมใดที่ไม่พอใจควรพูดคุยบอกให้ได้รับรู้ เป็นต้น

    สิ่งเหล่านี้เป็นข้อตกลงที่ช่วยให้คนสองคนเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาความขัดแย้งที่จะขึ้นในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]

    อย่ามัวแต่รำกันอยู่เลย คนที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมา ให้เก่งๆหน่อย ไปเจอกันที่วัดพระแก้วได้ทันที

    ผมจะเตรียมพระวังหน้า ที่แก๊งบัวใต้น้ำบอกว่าเป็นพระเก๊ มือผีให้พอกับจำนวนคนที่จะไป

    แล้วก็กล้าๆไปหน่อย

    บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong กับบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ.... ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,เทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้า และพยามัจจุราชเจ้า ว่า " พระพิมพ์และหรือวัตถุมงคลต่างๆที่บุคคลในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong นำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญร่วมกับบุคคลในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong เป็นพระกรุวังหน้า(กรุวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ) จริงและหรือแท้ และหรือบางรุ่นที่สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2428 หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) อธิษฐานจิต และหรือบางรุ่นที่สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2415 สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิต และหรือสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2428 " ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ.... จงประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล แต่ถ้า" พระพิมพ์และหรือวัตถุมงคลต่างๆที่บุคคลในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong นำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญร่วมกับบุคคลในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong เป็นพระกรุวังหน้า(กรุวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ) ไม่จริงและหรือเก๊ " ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ.... จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล การตั้งจิต ,ตั้งสัจจะและสาบานในครั้งนี้ ขอให้ผลเกิดโดยเร็วที่สุดและผลเกิดโดยฉับพลันทันใด การถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ ต้องให้อีกฝ่ายยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานนี้ จึงจะมีผลในการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน แต่หากอีกฝ่ายไม่ยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน ก็ให้มีผลตลอดกาล และทุกๆคนไม่มีเวรกรรมและไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกันตลอดไป



    </TD></TR></TBODY></TABLE>





    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    กล้าๆรับคำท้าหน่อย

    ถ้ามั่นใจในข้อมูล(ที่มั่วๆ) ของแก๊งบัวใต้น้ำ รีบรับคำท้าไปวัดพระแก้วกัน รีบหน่อยเหอะ ขอร้อง ได้โปรดเถอะ ได้โปรดรีบรับคำท้าให้ไวๆด้วย
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    'ปฏิทินสงกรานต์' ร้อยเรื่องราวปีใหม่ไทย
    http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=196197&NewsType=1&Template=1

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สงกรานต์ เทศกาลที่มีสีสันความหมายถ่ายทอดประเพณีไทยงดงามมีสายน้ำชุ่มฉ่ำชื่นใจเป็นสื่อเชื่อมสานสัมพันธไมตรีแสดงความเคารพ ความกตัญญู ความเอื้ออาทร

    วันสงกรานต์ ยังเป็นประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทยที่ มีมาแต่ครั้งโบราณ ช่วงเวลานี้นอกจากจะได้เห็นบรรยากาศการเดินทางกลับบ้านของคนไกลครอบครัวคืนถิ่นฐาน เยี่ยมเยือนญาติผู้ใหญ่อยู่พร้อมหน้ากันในบรรยากาศครอบครัวแล้ว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์วันขึ้นปีใหม่แบบไทย ๆ ยังเป็นอีกโอกาส อันดี ใช้ฤกษ์งามยามดีนี้เริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ที่ดีงาม

    ย้อนถึงการนับวันขึ้นปีใหม่แบบสากลที่กำหนดวันแรกเริ่มต้นเดือนมกราคมเป็นวันขึ้น ปีใหม่ แต่ในครั้งโบราณนั้นกล่าวกันว่าการนับวันขึ้นปีใหม่ของแต่ละชาติจะกำหนดขึ้นตามแต่ความนิยมและความคิดเห็นของชาตินั้น ๆ โดยที่ไม่ได้เป็นวันเดียวกันเหมือนกับในปัจจุบัน

    ส่วนการ นับวันขึ้นปีใหม่ของไทย จากหนังสือวันสำคัญฯ ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติซึ่งเคยเผยแพร่ไว้กล่าวถึงวันขึ้นปีใหม่ของไทยโดยที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง เริ่มแรกถือ วันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ เหมือนกับหลายชาติที่ถือฤดูเหมันต์หรือฤดูหนาวเป็นการเริ่มต้นปี ทั้งนี้ด้วยเพราะคนสมัยก่อนเห็นว่า ฤดูหนาวเป็นช่วงผ่านพ้นจากฤดูฝนอันมืดครึ้ม สว่างเหมือนเวลาเช้า

    ส่วนฤดูร้อนเป็นช่วงที่สว่างเหมือนเวลากลางวัน และฤดูฝนเป็นเวลามืดหม่นคล้ายกลาง คืนจึงนับฤดูหนาวซึ่งมักตรงกับเดือนอ้ายซึ่งสว่างเหมือนเวลาเช้าเป็นต้นปีและนับช่วงฤดูร้อนเป็นกลางปี ส่วนฤดูฝนเป็นปลายปีต่อมาได้มีการเปลี่ยน วันขึ้นปีใหม่เป็นวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ราวช่วงสงกรานต์ อันเป็นการเปลี่ยนตามคติพราหมณ์ที่นับวันตามจันทรคติ โดยใช้ปีนักษัตรและการเปลี่ยนจุลศักราชเป็นเกณฑ์ จากนั้นต่อมาในสมัย
    รัชกาลที่ 5 เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็น วันที่ 1 เมษายน อันเป็นการนับวันทางสุริยคติซึ่งประกาศใช้มานับแต่ปี พ.ศ. 2432 ต่อจากนั้นมาในปี พ.ศ. 2483 รัฐบาลเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ไทยเป็นไปตามแบบสากลนิยมกำหนดคือ วันที่ 1 มกราคม

    ในวันสงกรานต์ประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมา อย่างที่กล่าวสมัยโบราณถือวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่เป็นการเริ่มต้นปีของไทย การจะได้ล่วงรู้ถึง วัน เดือน ปีขณะที่ปฏิทินมีความหมายความสำคัญและจากที่ปฏิทินมีปรากฏหลากหลายรูปแบบ ปฏิทินสงกรานต์ เป็นปฏิทินอีกรูปแบบที่มีเอกลักษณ์ถ่ายทอดความเป็นไทยวิถีวัฒนธรรม ประเพณีสงกรานต์งดงาม ยุทธพงษ์ เรืองหิรัญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารออมสินและหนึ่งในผู้ วาดภาพปฏิทินสงกรานต์ธนาคารออมสินซึ่งเผยแพร่สืบรักษาศิลปวัฒนธรรม ประเพณีสงกรานต์มายาวนาน ให้ความรู้ปฏิทินไทย การสร้างสรรค์ปฏิทินสงกรานต์ว่า

    ปฏิทินหลากหลายรูปแบบที่ปรากฏ การพิมพ์ปฏิทินของไทยจากที่มีหลักฐานกล่าวว่ามีมาแต่สมัยรัชกาลที่ 4 โดยเรียกว่า ประนินทิน แต่ครั้งนั้นปฏิทินไม่ได้บอก วัน เดือน ปีแต่เป็นปฏิทินที่บอกโมงและทุ่ม วันข้างขึ้น ข้างแรมของแต่ละเดือน

    ต่อมาภายหลังได้มีปฏิทินที่บอกวัน เดือน ปี ใน หนังสือพิมพ์มิวเซียม ซึ่งผู้ ที่ทำปฏิทินคือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรม พระยาเทวะวงศ์วโรปการ โดยพระ องค์ทรงคิดวิธีปฏิทินไทยใช้ตามสุริยคติกาลทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและโปรดให้ใช้เป็นประเพณีของบ้านเมือง นอกจากนี้โปรดให้พิมพ์ปฏิทินแบบใหม่แจก ในวันสงกรานต์ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นของปฏิทินไทย

    ปฏิทินปีขาล ปี พ.ศ. 2493 เป็นปฏิทินสงกรานต์ของทางธนาคารออมสินที่ค้นพบ ปฏิทินภาพนี้เป็นของสมาคมโหรแห่งประเทศไทยซึ่งมีธนาคารออมสิน สำนักแพทย์โยคีสถานเป็นผู้อุปถัมภ์ ซึ่งจากจุดนี้เป็นแนวคิดให้กับธนาคารได้จัดทำปฏิทินสงกรานต์ขึ้นต่อเนื่องมา ซึ่งในการจัดทำปฏิทินปีแรกนั้น น่าจะเป็นปี พ.ศ. 2494 โดยมีอาจารย์ประสงค์ ปัทมานุช ซึ่ง ต่อมาได้รับการประกาศเป็นศิลปินแห่งชาติได้เขียนภาพปฏิทินเรื่อยมาท่านได้เขียนอยู่ยาวนานกว่ายี่สิบปี กระทั่งเกษียณ จากนั้นบุคลากรกลุ่มงานศิลปกรรมธนาคารได้หมุนเวียนกันสร้างสรรค์

    ในขั้นตอนการจัดทำปฏิทินสงกรานต์นั้นจะเริ่มจากการอ่านคำทำนายของโหรจากสำนักพระราชวัง หรือที่เรียกว่า ประกาศสงกรานต์ เพื่อให้ทราบถึงความเป็นมาของนางสงกรานต์ จากนั้นศิลปินจะนำเนื้อหามา แปลความหมาย สร้างสรรค์เขียนภาพจิตรกรรมไทยด้วยลายเส้นประณีต

    “ปฏิทินสงกรานต์จะเขียนตามประกาศสง กรานต์ปีนั้น ๆ จะบอก ปี อย่างปีขาล ปีฉลู นางสงกรานต์ แต่งกาย อย่างไร ทัดดอกไม้อะไร มีเอกลักษณ์อย่างไร ทรงพาหนะอะไร อาวุธเป็นอย่างไร ฯลฯ ภาพในปฏิทินสงกรานต์ศิลปินจะเป็นผู้วางตำแหน่งภาพต่าง ๆ ตามจินตนาการ สร้างภาพอยู่ในกรอบลายไทยที่มีความแตกต่างกันในแต่ละปี

    การเขียนจะเป็นไปตามจินตนาการของช่างเขียน ภาพนางสงกรานต์ พาหนะ อากัปกิริยา ฯลฯ องค์รวมในภาพเป็นไปตามจินตนาการของช่างเขียน ขณะที่การให้สีขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของโทนสีที่ใช้กับภาพซึ่งช่างเขียนจะกำหนดให้มี ความสวยงามตามจินตนาการของศิลปิน ตามสภาพความ เป็นจริง”

    ส่วนการกำหนดขนาดของตัวอักษรและการให้สีที่ตัวอักษรข้อความต่าง ๆ จะเน้นความชัดเจน และจากการจัดทำต่อเนื่องมาจวบจนปัจจุบันยังคง มุ่งเน้นเอกลักษณ์ความเป็นไทย เป็นความภูมิใจที่ได้ร่วมสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทยให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา เห็นถึงคุณค่าความสำคัญของประเพณีดีงามของไทย

    นอกจากวัน เดือน ปีที่ปรากฏในปฏิทินสงกรานต์ ยังบอกถึงวันมงคล วันที่ควรละเว้นทำการมงคล คำพยากรณ์ที่บอก กล่าวถึงนาคให้น้ำบันดาลฝน เกณฑ์ธัญญาหาร ฯลฯ เหล่านี้ ยังมีความหมายถ่ายทอดวิถีชีวิต ภูมิปัญญาไทยเกี่ยวเนื่องผูกพันกับน้ำ การเกษตรกรรม อ.พลา ดิศัย สิทธิธัญกิจ นักวิชาการอิสระให้ความรู้เพิ่มเติมของปฏิทินไทยว่า ปฏิทินที่มีรูปนางสงกรานต์เป็นปฏิทินที่มีความเป็นไทย มีเอกลักษณ์ที่พร้อมให้ศึกษา ทั้งวิธีการใช้ มีภาพจิตรกรรม ถ่ายทอดเรื่องราวนางสงกรานต์ บอกข้างขึ้น ข้างแรม ฯลฯ อีกทั้งยังแสดงถึงสภาพสังคม อาชีพเกษตรกรรม การดำเนินชีวิตของคนไทยเป็นภูมิปัญญาไทยทรงคุณค่าที่ไม่ควรละทิ้ง

    จากปัจจุบันปฏิทินมีพัฒนาการหลากหลายรูปแบบ ปฏิทินสงกรานต์เป็นอีกปฏิทินที่ไม่เพียงมีความหมายเพียงแค่การบอกบันทึกวัน เดือน ปีให้ได้ล่วงรู้..

    หากแต่ยังคงไว้ด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ถ่ายทอดภูมิปัญญา วิถีวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ของไทยให้ประจักษ์.
    พงษ์พรรณ บุญเลิศ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 10px">แฉแก๊งมิจฉาชีพซ้ำเติมแบงก์
    http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=132813

    [14 เม.ย. 52 - 04:37]

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารพาณิชย์ว่า วิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทำให้รายได้ของประชาชนลดลง การตกงานเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บรรดาแก๊งมิจฉาชีพออกมาอาละวาดอย่างหนัก ธนาคารพาณิชย์ก็หนีไม่พ้น มิจฉาชีพได้ยกระดับกลโกงหลายรูปแบบ ทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อบัตรเครดิต
    <O:p</O:p
    โดยรูปแบบที่แก๊งมิจฉาชีพโกง ทำเอกสารหลักฐานปลอมแปลงมีหลายวิธี เช่น ใช้ตัวแทน (นอมินี) ทำบัตรประชาชนปลอม สวมบัตรประชาชน โดยติดสินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐออกบัตรประชาชนใหม่ โดยสวมบัตรประชาชนของคนอื่นๆ ทำให้มีชื่อนามสกุล วันเกิด พ่อ แม่เดียวกับเจ้าของบัตรประชาชนตัวจริง แตกต่างกันตรงมีเลขที่บัตรประชาชนต่างกัน <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ขณะที่เอกสารในการขอกู้เงินมีการทำปลอมเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ เชื่อถือ จะทำการก๊อบปี้ทั้งสลิปเงินเดือน บัตรพนักงานที่มีตำแหน่งระดับสูง โดยจะก๊อบปี้เหมือนกับบริษัทขนาดใหญ่ จนธนาคารพาณิชย์ดูไม่ออกว่าเป็นของจริงหรือของปลอม<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ส่วนเบอร์โทรศัพท์จะลักลอบสำเนาของบริษัทขนาดใหญ่เพื่อไปขอเบอร์โทรศัพท์จากบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) เมื่อธนาคารพาณิชย์โทรศัพท์ เพื่อตรวจเช็ก ก็จะโทรศัพท์ไปยังเบอร์ที่แก๊งมิจฉาชีพ และหากตรวจสอบจากบริษัททีโอที ก็โชว์ว่าเบอร์โทรศัพท์เป็นของบริษัทขนาดใหญ่ดังกล่าว <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สำหรับรูปแบบสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ถูกแก๊งทุจริตโกงมี 2-3 รูปแบบ โดยรูปแบบแรกนำโครงการร้างหรือโครงการที่ขายไม่ออกหรือบ้านมือ 2 ทำหนังสือสัญญาซื้อขายปลอม จากบ้านราคา 2-3 ล้านบาท ก็ทำตัวเลขเป็น 4-5 ล้านบาท และติดสินบนให้กับผู้ประเมินราคาเพื่อให้ราคาประเมินออกมาสูง ธนาคารจะอนุมัติในวงเงินที่สูงเกินจริง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    รูปแบบที่ 2 แก๊งมิจฉาชีพซื้อที่ดินแปลงใหม่พร้อมกันเป็นแปลงๆ ไม่เกิน 8 แปลง เพื่อหลีกเลี่ยง พ.ร.บ.จัดสรรที่ดินขบวนการต่อไป นำที่ดินมาหลอกขายธนาคารพาณิชย์ ในราคาที่สูง ขณะที่ผู้รับเหมาก่อสร้างในรูปแบบแก๊ง มิจฉาชีพจะได้ 2 ต่อ ทั้งรายได้จากการขายที่ดิน และสินเชื่อจากการกู้เพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัย<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อย่างไรก็ตาม เมื่อแก๊งมิจฉาชีพจัดทำเอกสารหลักฐานทางการเงินเรียบร้อย ก็จะทำเรื่องยื่นกู้ไปยังธนาคารพาณิชย์พร้อมกัน 4-5 แห่ง หากธนาคารแห่งใดตรวจสอบไม่ละเอียดรอบคอบ อนุมัติสินเชื่อดังกล่าว ก็จะกลายเป็นหนี้เสียหรือสินเชื่อที่ไม่ก่อให้ เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ทันที เพราะสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติจะหยุดชำระหนี้ตั้งแต่เดือนแรกเป็นต้นไป และไม่สามารถติดตามตัวผู้กู้เงินได้ เพราะมีการใช้นอมินี หรือสวมบัตรประชาชนหรือบัตรประชาชนปลอม<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อผู้กู้เงินหยุดชำระหนี้ ฝ่ายติดตามหนี้หรือเร่งรัดหนี้สินของธนาคารไม่สามารถติดต่อกับผู้กู้เงินได้ เมื่อไปยังที่บ้าน ที่เป็นหลักทรัพย์ พบว่าบ้านนำไปให้ผู้อื่นเช่าในราคาเดือนละ 10,000-30,000 บาท โดยราคาเช่าจะขึ้นอยู่กับราคาบ้าน และเมื่อสอบถามผู้เช่าเพื่อขอที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของผู้ให้เช่าเพื่อไปติดตาม แต่กลับถูกขู่ฆ่า บ้านที่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน จะถูกดูแลโดยกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อธนาคารฟ้องร้องเข้าสู่ขบวนการของกฎหมาย ต้องใช้เวลา 3-5 ปี กว่าจะยึดบ้านที่เป็น หลักทรัพย์มาเป็นสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ของธนาคาร ทำให้แก๊งมิจฉาชีพมีรายได้จากค่าเช่าบ้านเป็นจำนวนมาก <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ขณะที่บ้านเมื่อยึดมาได้นำมาขายทอดตลาด ได้ราคาสูงสุดไม่เกิน 50% ของสินเชื่อที่ปล่อยกู้ ทำให้ ธนาคารได้รับความเสีย หายจำนวนมาก ต่างกับสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ปล่อยกู้ให้กับบุคคลทั่วไป หากนำหลักทรัพย์มาขายทอด ตลาด ธนาคารพาณิชย์จะได้เงินคืน 70-80% ของสินเชื่อที่ปล่อยกู้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อย่างไรก็ตาม ในทางกฎหมายไม่สามารถเอาผิดกับผู้มีอิทธิพลกลุ่มนี้ได้ เนื่องจากคู่สัญญากับธนาคารพาณิชย์เป็นนอมินี ดังนั้น ความผิดจึงเกิดขึ้นกับนอมินี ไม่สามารถสาวถึงผู้มีอิทธิพลได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สำหรับพื้นที่ที่แก๊งมิจฉาชีพกระทำการทุจริต ธนาคารพาณิชย์เป็นจำนวนมาก ได้แก่ พื้นที่ใน กรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่จะอยู่ในบ้านที่ชานเมือง หัวเมืองในต่างจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง และเพชรบุรี เป็นต้น

    อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งมีการแข่งขันปล่อย สินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นสินเชื่อ ที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ผลจากการแข่งขันทำให้การตรวจสอบเอกสารไม่รอบคอบ จนตกเป็นเหยื่อของบรรดาแก๊งมิจฉาชีพ และเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก

    นอกจากนี้ สินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุมัติ ธนาคารพาณิชย์ยังเสนอสินเชื่อพ่วงกันหลายประเภท ยกตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้าได้รับอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัย ก็จะได้สินเชื่อตกแต่งบ้าน สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อบัตรเครดิต โดยแก๊งมิจฉาชีพจะใช้สิทธิ์สินเชื่อทุกประเภท และปล่อยให้เป็นหนี้เสียทั้งหมด
    สำหรับการแก้ไขปัญหาเพื่อป้องกันแก๊งมิจฉาชีพ ธนาคารพาณิชย์จึงตั้งทีมตรวจสอบติดตาม การกระทำทุจริต เพื่อเข้ามาตรวจสอบเอกสารหลักฐานการขอกู้เงินอย่างละเอียด หากเป็นโครงการพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ที่ไม่คุ้นชื่อ หรือมีสถานที่ตั้งห่าง ไกลจากชุมชน แต่กลับมีผู้มายื่นกู้เพื่อซื้อโครงการดังกล่าวจำนวนหลายราย ก็จะถูกปฏิเสธสินเชื่อทันที เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) รูปแบบการทุจริต จะมีลักษณะใกล้เคียงสินเชื่อที่อยู่อาศัย ส่วนการกระทำทุจริตบัตรเครดิตของบรรดาแก๊งมิจฉาชีพต่างๆปรับตัวลดลงอย่างมาก หลังธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบการที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นอนแบงก์) ได้ออกบัตรเครดิตติดชิปการ์ด เพื่อป้องกันการกระทำทุจริต

    ส่งผลให้บรรดาแก๊งมิจฉาชีพที่เคยกระทำทุจริตบัตรเครดิต หันมาทำทุจริตบัตรเอทีเอ็มแทน โดยนำเครื่องสคิมเมอร์มาติดที่ช่องเสียบบัตรของตู้เอทีเอ็ม เพื่อลักลอบดูข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม พร้อมติดกล้องจิ๋วเพื่อบันทึกรหัสบัตรเอทีเอ็มจากช่วงที่ผู้ถือบัตรกดรหัส โดยทั้งเครื่องสคิมเมอร์และกล้องจิ๋วจะทำสีเดียวกับตู้เอทีเอ็มเพื่อให้กลมกลืนที่สุด ดังนั้นเพื่อป้องกันทุจริตเอทีเอ็ม ควรใช้มือป้องขณะกดรหัสเอทีเอ็ม.​

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 10px">เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ ไหว้พระขอพร 9 อารามหลวง


    [14 เม.ย. 52 - 00:23]​



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    <TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD align=middle>
    <TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]

    ร้อนนี้พักเรื่องยุ่งๆที่กำลังวุ่นวาย แล้วหันมาคลายเครียดกับเทศกาลสงกรานต์ที่จัดอย่างครึกครื้นทั่วไทย ตามสโลแกน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” เพื่อเติมความสุขและความสนุกสนานให้ชีวิตกันดีกว่า ใครที่อยู่โยงเฝ้ากรุงเทพฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงเทพมหานครชวนเที่ยวงานมหาสงกรานต์ ไหว้พระขอพร 9 พระอารามหลวง ระหว่างนี้ถึง 15 เม.ย. ประกอบด้วย วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร, วัดบวรนิเวศวิหาร, วัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร, วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร, วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดชนะสงครามวรมหาวิหาร ซึ่งแต่ละวัดได้จัดเตรียมกิจกรรมไว้สำหรับการทำบุญขอพรในเทศกาลสงกรานต์อย่างคึกคัก ​


    <O:p</O:p
    [​IMG]

    ในส่วนของวัดชนะสงครามวรมหาวิหาร หนึ่งในสถานที่จัดงานมหาสงกรานต์ครั้งนี้ นางเยียรยง ไชยรัตน์ ผอ.ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร เผยว่า ได้จัดกิจกรรม “ไหว้พระขอพรตอนกลางคืน” ซึ่งต่างจากวัดอื่นๆ โดยเปิดให้ประชาชนได้เข้าสักการะขอพรพระถึงเวลา 21.00 น. ขณะเดียวกันภายในวัดยังได้จัดให้มีลานกิจกรรมสาธิตศิลปหัตถกรรมไทยที่เกี่ยวเนื่องกับประเพณีสงกรานต์ อาทิ การทำน้ำปรุงแป้งร่ำพวง การประดิษฐ์ดอกไม้แบบไทย การแกะสลักของอ่อน การแทงหยวก การสานปลาตะเพียนและการกวนกะละแม นอกจากนี้ ในแต่ละวันยังมีการแสดงดนตรีไทยร่วมสมัยกับนาฏศิลป์ไทยทั้ง 4 ภาค การแสดงศิลปะต่อสู้ป้องกันตัว ฯลฯ ให้ชมกันด้วย ทั้งยังตกแต่งบรรยากาศในงานให้สอดคล้องกับประเพณี อาทิ การก่อเจดีย์ทรายรูปแบบต่างๆ จำลองชานบ้านเรือนไทยไว้เป็นที่พักผ่อนของนักท่องเที่ยว จำลองบรรยากาศตลาดโบราณและจำหน่ายอาหารคาวหวานนานาชนิด <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สำหรับประชาชนที่ไปไหว้พระขอพร 9 พระอารามหลวง สามารถขอรับ “พาสปอร์ต ไหว้พระ 9 วัด” ได้ ณ จุดประชาสัมพันธ์ประจำวัดทุกวัด เมื่อประทับตราครบทั้ง 9 วัด ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลพระเลี่ยมทองจาก 9 พระอารามหลวงและรางวัลอื่นๆอีกมากมาย จากการท่อง เที่ยวแห่งประเทศไทย.
    <O:p</O:p

    <O:p
    [​IMG]



    </O:p
    <O:p</O:p

    <O:p[​IMG]</O:p



    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2009
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ถ้าจะบทสรุป

    เรื่องของวิชาการ ต้องไปที่วัดพระแก้ว วัดพระแก้วชัวร์ที่สุด ไปสาบานกัน

    ไม่ใช่อ้างคำพูดลมๆแล้งๆ เอาแม่น้ำร้อยล้านสายมาอ้าง อย่าอ้างเลยไอ้หนู

    อย่ามัวแต่เก่งโพสบนบอร์ดเลย

    ถ้าไม่ไปวัดพระแก้ว ก็กลับไปรับการอบรมสั่งสอนมาใหม่เน้อ

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]

    อย่ามัวแต่รำกันอยู่เลย คนที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมา ให้เก่งๆหน่อย ไปเจอกันที่วัดพระแก้วได้ทันที

    ผมจะเตรียมพระวังหน้า ที่แก๊งบัวใต้น้ำบอกว่าเป็นพระเก๊ มือผีให้พอกับจำนวนคนที่จะไป

    แล้วก็กล้าๆไปหน่อย

    บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong กับบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ.... ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,เทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้า และพยามัจจุราชเจ้า ว่า " พระพิมพ์และหรือวัตถุมงคลต่างๆที่บุคคลในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong นำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญร่วมกับบุคคลในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong เป็นพระกรุวังหน้า(กรุวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ) จริงและหรือแท้ และหรือบางรุ่นที่สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2428 หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) อธิษฐานจิต และหรือบางรุ่นที่สร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2415 สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิต และหรือสร้างขึ้นก่อนปี พ.ศ.2428 " ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ.... จงประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล แต่ถ้า" พระพิมพ์และหรือวัตถุมงคลต่างๆที่บุคคลในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong นำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญร่วมกับบุคคลในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong เป็นพระกรุวังหน้า(กรุวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ) ไม่จริงและหรือเก๊ " ขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ sithiphong จงประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล และขอให้บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ.... จงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล การตั้งจิต ,ตั้งสัจจะและสาบานในครั้งนี้ ขอให้ผลเกิดโดยเร็วที่สุดและผลเกิดโดยฉับพลันทันใด การถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ ต้องให้อีกฝ่ายยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานนี้ จึงจะมีผลในการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน แต่หากอีกฝ่ายไม่ยินยอมให้ถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบาน ก็ให้มีผลตลอดกาล และทุกๆคนไม่มีเวรกรรมและไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกันตลอดไป




    </TD></TR></TBODY></TABLE>






    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    กล้าๆรับคำท้าหน่อย

    ถ้ามั่นใจในข้อมูล(ที่มั่วๆ) ของแก๊งบัวใต้น้ำ รีบรับคำท้าไปวัดพระแก้วกัน รีบหน่อยเหอะ ขอร้อง ได้โปรดเถอะ ได้โปรดรีบรับคำท้าให้ไวๆด้วย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ;aa31

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชวนรู้(วิทยา)ศาสตร์ ก่อน “สาดน้ำ” ในสงกรานต์
    http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000040819
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 เมษายน 2552 10:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ประเพณีไทยที่สืบสานกันมาแต่โบราณสามารถอธิบายนำวิทยาศาสตร์ เข้าไปให้ความรู้ได้ในกิจกรรมต่างๆ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“เทศกาลสงกรานต์” ซึ่งเรียกว่าเป็นเทศกาลแห่งครอบครัว ที่ญาติพี่น้องจะได้กลับมารวมกันพร้อมหน้าพร้อมตา ขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาสนุกสนาน ที่หลายคนจะได้ “สาดน้ำ” เพื่อคลายร้อนในช่วงเวลาที่ “ร้อนสุดๆ” แห่งปี ควบคู่ไปกับประเพณีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ แต่หลายคนอาจไม่เคยนึกมาก่อนว่า ประเพณีที่สืบสานกันมายาวนานนี้ยังมีความรู้ “วิทยาศาสตร์” ที่แฝงอยู่ด้วย

    ตามข้อมูลของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้ชี้ให้เห็นว่า เราสามารถนำวิทยาศาสตร์มาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ได้ โดยกิจกรรมต่างๆ ที่เราปฏิบัติกันในช่วงนี้ สามารถนำหัวข้อวิทยาศาสตร์อย่าง การถ่ายโอนความร้อน การไหลของของไหล ความดันอากาศ แรงเสียดทาน และความตึงของผิวน้ำมาอธิบายได้

    ลองมาดูว่าในประเพณีที่สืบทอดกันมานานนั้น วิทยาศาสตร์จะอธิบายอะไรได้บ้าง


    เริ่มจากการถ่ายโอนความร้อน หลักการมีอยู่ว่า ถ้าบริเวณที่สัมผัส มีอุณหภูมิของต่างกัน จะเกิดการถ่ายโอนความร้อนให้แก่กันขนอุณหภูมิเข้าสู่สมดุลหรือได้อุณหภูมิเท่ากัน อีกทั้งความร้อนยังถ่ายโอนจากบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงกว่าไปยังบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า

    แน่นอนว่าเทศกาลหนีไม่พ้นเรื่อง “สาดน้ำ” ซึ่งวิทยาศาสตร์อธิบายได้ โดยอาจารย์รังสรรค์ ศรีสาคร นักวิชาการสาขาฟิสิกส์จาก สสวท. อธิบายว่า “น้ำ” กับ “ผิวหนัง” นั้นมีอุณหภูมิต่างกัน เมื่อน้ำสัมผัสผิวหนัง น้ำที่เย็นกว่าจะดูดความร้อนจากผิวหนังไปทันที และเมื่อเกิดการถ่ายโอนความร้อนดังกล่าว ร่างกายจะเย็นลง หากเปลี่ยนจากน้ำมาเป็น “แป้ง” หรือ “ดินสอพอง” ผสมน้ำ จะได้การถ่ายโอนความร้อนที่ดีกว่า

    นอกจากนี้ เรื่องความตึงผิวของน้ำยังเป็นหลักการที่สาวๆ ควรรู้ไว้ ก่อนแต่งตัวออกไปเล่นน้ำสงกรานต์ โดยอาจารย์รังสรรค์ได้เตือนว่า หากใส่เสื้อผ้าบางๆ แล้วอาจทำให้ “โป๊” อย่างไม่รู้ตัว เนื่องจากความตึงผิวของน้ำทำให้เนื้อผ้าแนบตัวเราได้

    แม้จะมีคำเตือน และข้อห้ามเกี่ยวกับการใช้ “ปืนฉีดน้ำ” แต่สงกรานต์ของหลายๆ คนคงกร่อยไม่น้อยหากขาดอาวุธคู่กายนี้ แต่ก่อนหยิบขึ้นมาทำ “สงครามน้ำ” กับใครๆ ลองไปทำความรู้จักกับกลไกในของเล่น ที่ดูแสนจะธรรมดานี้ว่า มีวิทยาศาสตร์อะไรบ้างที่แอบซ่อนอยู่

    ตามคำอธิบายของอาจารย์ราม ติวารี นักวิชาการสาขาฟิสิกส์อีกท่านจาก สสวท. บอกว่า กลไกสำคัญของของปืนฉีดน้ำคือ การทำให้ภายในปืนฉีดน้ำนั้นเป็น “สุญญากาศ” ก่อน

    จากนั้นความดันอากาศจะดันน้ำให้เข้าไปในกระบอกปืน เมื่อถึงจังหวะที่เราออกแรงบีบเพื่อดันน้ำออกไปแล้วปล่อยมือจากก้านบีบ จะเกิดภาวะสุญญากาศขึ้น และทำให้ลูกสูบดูดน้ำเข้าไปอีก เมื่อเราฉีดน้ำออกไปก็จะเกิดกลไกหลักนี้วนต่อไปเรื่อยๆ

    หลักการของปืนฉีดน้ำนั้น คล้ายกับการใช้หลอดดูดน้ำ หรือเมื่อเราใช้หลอดหยดยา โดยเมื่อเราดูดที่ปลายหลอดจะทำให้ความดันอากาศในหลอดลดลง และทำให้ความดันอากาศภายนอกดันน้ำให้ขึ้นไปตามหลอดดูดนั่นเอง

    “ขนาดท่อของปืนฉีดน้ำ ก็มีผลต่อความแรงของน้ำที่ฉีดออกไป หากท่อของ ปืนฉีดน้ำมีขนาดใหญ่แต่มาบีบที่ปลายปากท่อให้เล็กลง ทำให้ปากท่อเล็กกว่าตัวท่อ ความเร็วของน้ำที่ฉีดออกไปก็จะมากขึ้น เหมือนสายยางรดน้ำ ซึ่งเมื่อเราบีบปลายสายยางไว้ น้ำก็จะฉีดแรงขึ้น ตรงกับหลักการที่ว่าเราสามารถเพิ่มความเร็วโดยการทำให้พื้นที่หน้าตัดเล็กลง” อาจารย์รามอธิบาย

    อย่างไรก็ดี แม้กระสุนจากปืนฉีดน้ำจะไม่ใช่ลูกตะกั่วที่ทำอันตรายถึงชีวิต แต่ทาง สสวท.ก็ได้เตือนว่า ปืนฉีดน้ำนั้นทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ทั้งนี้หากปืนฉีดน้ำมีแรงดันสูงๆ ก็กระแทกนัยน์ตาแล้วทำให้ตาบอดได้

    อันตรายที่ยังตามมาได้อีกจากสงกรานต์ อธิบายได้ด้วยหลักการ “แรงเสียดทาน” โดยช่วงเทศกาลนี้บางแห่งเล่นสาดน้ำกันจนถนนไม่แห้ง ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการลื่นล้ม หรือเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ทั้งนี้เพราะเวลาที่เราเดินหรือขับรถนั้นจะเกิดแรงเสียดทาน หากเกิดแรงเสียดทานไม่มากพอจะทำให้ลื่นได้ และน้ำกับแป้งที่เราเล่นในช่วงสงกรานต์นั้น เมื่อไปกองอยู่ที่พื้นจะทำให้พื้นมีแรงเสียดทานลดลง

    ได้ความรู้กันไปเต็มๆ แล้ว สงกรานต์นี้หวังว่าหลายคนคงจะ “สาดน้ำ” ได้สนุกสนานและปลอดภัยมากขึ้น.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>น้ำจืดของโลกกำลังเหลือน้อย ใช้สอยอย่างรู้ค่า-อย่าก่อมลพิษ</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>ที่ใดมีน้ำที่นั่นมีชีวิต</TD></TR><TR vAlign=baseline><TD align=middle width=21 height=19>[​IMG]</TD><TD align=left height=19>รู้จักน้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE>

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พ่อมดคณิตศาสตร์เผยเทคนิค : โยน "เครื่องคิดเลข" ทิ้งไป "คิดในใจ" เร็วกว่า
    http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000036196
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 เมษายน 2552 08:46 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ฝึกคิดในใจได้เร็วกว่าเครื่องคิดเลข </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ชาครีย์ เพชรพิเชฐเชียร กับหนังสือ "กดเครื่องคิดเลขทำไม ในเมื่อคิดในใจไดเร็วกว่า" ผลงานแปลของเขาเอง</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ชาครีย์ เพชรพิเชฐเชียร ในวันเปิดตัวหนังสือ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ให้ลองคิดเลขในใจ แค่บวก-ลบ ยังทำให้หลายคนกุมขมับ ถ้าต้องคูณ หาร แถมยกกำลังด้วย คงต้องหบิยเครื่องคิดเลขมากดกันใหญ่ แต่ถ้าได้เรียนรู้เทคนิค "คิดในใจ" ตามเคล็ดลับ "พ่อมดคณิตศาสตร์แห่งอเมริกา” แล้ว หลายคนคงเก็บเครื่องคิดเลขลงลิ้นชักแน่ๆ

    ชาครีย์ เพชรพิเชษฐเชียร นิสิตปี 4 ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เผยถึงการคิดเลขในใจที่ทำได้เร็วกว่าเครื่องคิดเลข จากเคล็ดลับในหนังสือ "กดเครื่องคิดเลขทำไม ในเมื่อคิดในใจได้เร็วกว่า" ผลงานเขียนของ ดร.อาเธอร์ เบนจามิน (Arthur Benjamin) ซึ่งเขาได้ร่วมแปลกับ พูนลาภ อุทัยเลิศอรุณ ว่าผู้เขียนเทคนิคการคิดเลขได้ตั้งข้อสังเกต คนเรามักทำอะไรจาก ซ้ายไปขวา แต่เรากลับคิดเลขจากขวาไปซ้าย ผู้เขียนจึงเสนอวิธีคิดเลขจากซ้ายไปขวาบ้าง


    ตัวอย่างการบวกเลข 2 หลัก

    95+38 = ?


    วิธีคิดในใจคือ แยกตัวเลขเป็น 2 กลุ่ม คือ (90+30) และ (5+8) แล้วนำมารวมกัน ได้ 133


    ตัวอย่างการบวกเลข 3 หลัก

    763+854=?


    วิธีคิดในใจคือ 800+700 =1,500 แล้วบวก 60+50 ได้ 1,610 แล้วนำไปบวกกับ 3+4 ที่เหลือ ได้คำตอบของโจทย์นี้เท่ากับ 1,617

    ส่วนวิธีลบ ชาครีย์บอกว่า น่าจะเป็นวิธีที่คนทั่วไปไม่รู้ เพราะปกติเราจะตัวเลขตั้งแล้วลบ แต่วิธีของ ดร.เบนจามินคือ เปลี่ยนจากตัวเลขลบเป็นบวก (complement)

    เช่น -23 มี complement เป็น 77

    ตัวอย่างคือ 138-68 ให้เปลี่ยนเป็น (138+32) – 100 จะคิดได้ง่ายกว่า

    หรืออีก ตัวอย่าง 857-192 = ? มีวิธีคิดง่ายๆ คือ เปลี่ยนเป็น 857-200 = 657 แล้วบวกด้วย 8 ที่ลบเกินไป จะได้คำตอบ 665

    สำหรับวิธีคูณก็คิดจากซ้ายไปขวาเช่นกัน

    อาทิ 13x14=? ให้แยกเป็น (13x10)+(13x4) = 130+52 = 182

    หรือ 68x49 ให้คิดเป็น 68x50 = 3,400 แล้วลบ 68 ที่คูณเกินมา หรือ 84x21 = ? ให้คิดเป็น 84x20=1,680 แล้วบวกด้วย 84 ที่ยังคูณไม่ครบ

    มาถึงเลขยกกำลัง ชาครีย์ได้ยกตัวอย่างการยกกำลัง 2 โดยระบุว่า ให้ปัดตัวเลขเพื่อให้เหลือตัวคูณเพียง 1 หลัก

    อาทิ 23<SUP>2</SUP> ซึ่งแยกได้เป็น 23x23 ให้ปัดตัวเลขขึ้น-ลงเป็น 26x20 = 520 แล้วบวกเข้ากับจำนวนยกกำลังสองของค่าที่ปัดขึ้น-ลง ซึ่งในตัวอย่างนี้คือ 3<SUP>2</SUP> จะได้คำตอบเป็น 529

    อีกตัวอย่างคือ 78<SUP>2</SUP> ปัดได้เป็น (80x76) + 2<SUP>2</SUP> = 6,084

    ส่วนการหารเลขยกกำลังนั้น ไม่แตกต่างจากที่วิธีคิดเดิมเท่าไหร่ เนื่องจากปกติเราหารจากซ้ายไปขวาอยู่แล้ว

    ชาครีย์กล่าวกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ว่า อานิสงส์จากการแปลหนังสือ ทำให้เขาได้เรียนรู้เทคนิคการคิดเลขในใจ ซึ่งวิธีที่ได้ประโยชน์มากคือการคำนวณเลขยกกำลัง ซึ่ง ดร.เบนจามินสอนวิธีคำนวณถึงเลข 5 หลัก แต่เขาทำได้ที่เลข 2-3 หลัก ซึ่งการคิดเลขในใจให้เร็วนั้นเขาบอกว่าต้องหมั่นฝึกฝนด้วย ซึ่งวิธีตามหนังสือที่เขาแปลนั้นช่วยได้

    สำหรับ ดร.เบนจามินนั้น จบการศึกษาทางด้านคณิตศาสตร์ในระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ และปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์คณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วีย์ มัดด์ สหรัฐฯ ซึ่งนอกจากสอนหนังสือแล้ว ยังแสดงมายากลโดยนำเทคนิคทางคณิตศาสตร์มาใช้ในการแสดงด้วย และได้รับยกย่องจากนิตยสารรีดเดอร์ ไดเจสต์ให้เป็น "พ่อมดคณิตศาสตร์อันดับหนึ่งของสหรัฐอเมริกา”
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    88. คุณธรรม 6 ประการ

    หลวงพ่อดู่เคยปรารภธรรมเกี่ยวกับเรื่องการเจริญโพชฌงค์ อันเป็นคุณธรรมที่ทำให้บุคคลผู้ปฏิบัติตามได้บรรลุ
    มรรค ผล นิพพาน มีแต่ความเย็นใจในทุกที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ เป็นธรรมที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง อีกทั้ง
    มีความไพเราะทั้งอรรถและธรรม จึงขอฝากไว้กับศิษย์หลวงพ่อให้ได้นำไปพิจารณากัน

    "ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสารทั้งหลาย ผู้ที่เห็นภัยในวัฏฏสงสารนั้น ถ้าประกอบด้วยคุณธรรม
    6 ประการนี้ ย่อมจะได้บรรลุมรรค ผล นิพพาน ถึงความเยือกเย็นอย่างยอดเยี่ยม
    คุณธรรม 6 ประการนั้นคือ


    ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม
    ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง
    ยังจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรร่าเริง
    วางเฉยจิตในสมัยที่ควรวางเฉย
    มีจิตน้อมไปในมรรค ผล อันประณีตสูงสุด
    ยินดียิ่งในพระนิพพาน"


    ผู้ปฏิบัติที่มีความชาญฉลาด ย่อมจะต้องศึกษาจิตใจและอารมณ์ของตนให้เข้าใจ และรู้จักวิธีกำหนด ปล่อยวาง
    หรือควบคุมจิตใจและอารมณ์ให้ได้ เปรียบเสมือนเวลาที่เราขับรถยนต์ จะต้องศึกษาให้เข้าใจถึงวิธีการขับขี่ที่
    ปลอดภัย บางครั้ง ควรเร่ง บางคราวควรผ่อน บางทีก็ต้องหยุด

    เร่งในเวลาที่ควรเร่ง
    ผ่อนในเวลาที่ควรผ่อน
    หยุดในเวลาที่ควรหยุด
    ก็จะสามารถถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย


    เปรียบเหมือนการปฏิบัติธรรมะนี่ล่ะ ทำนองเดียวกันให้พิจารณาอย่างนี้

    ที่มา : คติธรรมจากหนังสือ 101 ปีหลวงพ่อดู่ พรหมปัญโญ
     
  16. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    มาแถวสีลมสิครับ เด็กๆกำลังเล่นสงกรานต์ กันเต็มถนนเลยครับส่วนผม ผบ.และท่านโด แวะทานไอติม และดู เค้าเล่นกันครับ หุ หุ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โมทนาสาธุครับ
    โมทนาสาธุครับ
    โมทนาสาธุครับ
    โมทนาสาธุครับ
    โมทนาสาธุครับ


    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    "ผี"ไปเยือนชนปอร์โต้คู่คี่
    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd09BPT0=&day=TWpBd09TMHdOQzB4TlE9PQ==

    แชมเปียนส์ลีก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ค่ำคืนนี้ดุเด็ด เผ็ดมัน แน่นอน

    "ผีแดง"แมนฯยู งานเข้าเสียแล้ว เพราะนัดก่อนเล่นในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ดันเหี่ยวปลายได้แค่เสมอ ปอร์โต้ 2-2 ทำให้ต้องมาเหนื่อยหนัก ต้องบุกมาเอาชนะให้ได้

    ส่งใจเชียร์กันหน่อย

    พุธที่ 15 เม.ย.

    ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง


    เอฟซี ปอร์โต้(โปรตุเกส)-แมนฯยู(อังกฤษ)- นัดแรกเสมอกัน 2-2 ทำให้ยังคาดเดายากว่าใครจะผ่านเข้ารอบไป ในนัดแรกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ปอร์โต้แสดงให้เห็นว่าเล่นได้ดีทีเดียว เกมรุกไหลลื่น ต่อเนื่อง ทีมเวิร์กยอดเยี่ยม "ฮัลก์" กองหน้าตัวเป้าอันตราย เก็บบอลไว้กับตัวได้ดี

    ส่วน "ผีแดง" นัดนี้ต้องมาแลกหมัดสถานเดียวหากต้องการเข้ารอบ "คริสเตียโน่ โรนัลโด้-เวย์น รูนีย์" น่าจะเป็นตัวพลิกเกมในนัดนี้ แต่แนวรับดูไปก็ยังมีปัญหาเยอะ "เนมันย่า วิดิช" ช่วงนี้มีวูบให้เห็นบ่อย

    นัดนี้ ดูแล้วเกมน่าจะสูสีคู่คี่เหมือนในนัดแรก ปอร์โต้ ได้เปรียบเล็กน้อย แต่ถ้าเล่นเกมบุกเอาใจกองเชียร์ก็อาจโดนสวนกลับหงายหลังได้ตลอด ดูแล้วเกมชิงจังหวะอาจจบลงด้วยการเสมอกันอีกครั้ง



    -------------------------------------------------------------

    คืนนี้แฟนผีแดง ส่งแรงใจไปเชียร์กันด้วยนะครับ
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หมิ่นประมาทออนไลน์ หลักฐานใดเชื่อถือได้

    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01epe01150452&sectionid=0147&day=2009-04-15

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>บทบาทของอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันนั้นนอกจากจะเป็นแหล่งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร, ตลาดนัดออนไลน์,ตลาดแรงงาน,สถานีวิทยุ/โทรทัศน์ ที่เข้าถึงได้ง่าย ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายแล้วยังวิวัฒน์จนกลายเป็นสังคมเสมือนที่ผู้คนทุกเพศ ทุกวัย สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติและข้อมูลที่มีอยู่ได้ ผ่านเครือข่ายสังคม "SocialNetworking" ถือเป็นจุดเปลี่ยนทางสังคม ซึ่งคนรุ่นใหม่น้อยคนนักที่ไม่เคยสื่อสารผ่านช่องทางนี้

    โกลบอลเทคโนโลยี อินทิเกรเทด ให้ข้อมูลว่า การใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามหรือการหมิ่นประมาท จึงไม่จำเป็นต้องเกิดบนเวทีปราศรัย, บทสัมภาษณ์ผ่านสื่อ ฯลฯ อีกต่อไป หากเกิดขึ้นง่ายดายบนปลายนิ้ว คำถามคือ หากเกิดคดีความขึ้น หลักฐานใดเชื่อถือได้ในชั้นศาล?

    หากนาย ก. โพสต์ว่าร้ายนาย ข. ลงบน Hi5 ของนาย ก.เอง มีคนเข้าอ่านมากมายจนรู้ถึงหูนาย ข. นาย ข.เข้ามาเห็นจึง save หน้าจอ และพิมพ์ข้อความเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับนาย ก. ข้อหาหมิ่นประมาท กระดาษแผ่นนั้นถือเป็นหลักฐานได้หรือไม่?เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำสามารถสร้างและแต่งเติมข้อความหรือรูปภาพได้ด้วยคอมพิวเตอร์แล้วจะเชื่อได้อย่างไรว่านาย ข.มิได้สร้างหลักฐานเท็จขึ้นมาใส่ความนาย ก. อีกมุมหนึ่ง หากนาย ก. กระทำผิดจริง และได้ลบข้อความนั้นออกไปแล้ว ก็ย้อนสู่คำถามเดียวกัน ศาลจะประทับรับฟ้องด้วยหลักฐานกระดาษพิมพ์ข้อความหรือ?

    พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กำหนดให้ผู้ให้บริการเว็บไซต์ต้องเก็บบันทึกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log File) เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากเกิดคดีความออนไลน์ขึ้น แต่หากผู้ดูแลเว็บไซต์เป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดการลบหรือแก้ไขข้อความเพื่อให้ตนพ้นผิด

    เหตุนี้เจ้าของเว็บไซต์ ทั้งเว็บไซต์ส่วนบุคคลและเว็บไซต์องค์กร/หน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบอร์ด เว็บล็อกจึงควรใช้โปรแกรมเก็บบันทึกข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของตน เพื่อให้ทราบว่ามีใครเข้ามาใช้บริการที่เพจไหน ทำอะไร เมื่อไร อย่างไร โดยจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ไม่ต่ำกว่า 90 วัน สามารถสืบค้นย้อนหลังและยืนยันได้ว่าข้อความดังกล่าวจะไม่ถูกแก้ไขสอดคล้องกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ให้สามารถตรวจสอบหลักฐานย้อนหลังได้หากเกิดคดีความออนไลน์ ซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เผยวิธีการทำงานของเจ้าหนอนร้าย
    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01epe02150452&sectionid=0147&day=2009-04-15


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>นายพอล เฟอร์กูสัน นักวิจัยภัยคุกคามขั้นสูง จาก เทรนด์ ไมโคร อิงค์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์หนอนอันตรายระบาดช่วงวันเมษาหน้าโง่ หรือ April Fool"s Day จากการวิเคราะห์ขั้นตอนการตรวจสอบการติดต่อสื่อสารที่ใช้โปรโตคอลเพียร์ทูเพียร์ (P2P) ของหนอนร้าย WORM_DOWNAD.KK พบว่าการกระทำดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากแหล่งที่มาบางแห่ง และค้นพบการทำงานของโค้ดบางอย่างที่สำคัญซึ่งถูกนำมาใช้จากเอกสารที่มีอยู่ย้อนหลังไปเมื่อ พ.ศ.2540

    หน่วยงานที่ดูแลด้านการรักษาความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ ประเทศฝรั่งเศส และความช่วยเหลือด้านการวิเคราะห์จากหน่วยงานระดับชาติ SRI International เกี่ยวกับวิธีการทำงานของ WORM_DOWNAD.KK p2p ให้ความสนใจไปที่โค้ดเฉพาะในพอร์ตชุดคำสั่งประจำ (โปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งถูกเรียกใช้บ่อย) เพื่อแพร่กระจายหนอนร้าย WORM_ DOWNAD.KK p2p

    รูปที่ 1 - พอร์ตชุดคำสั่งประจำเพื่อแพร่กระจายหนอนร้าย WORM_ DOWNAD.KK p2p

    โดยเฉพาะค่า "15A4E35h" - ซึ่งเป็น "hard-coded" ต้นกำเนิดสำหรับสุ่ม-หมายเลขชุดคำสั่งประจำ (โปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งถูกเรียกใช้บ่อย) เพื่อแพร่กระจายหนอนร้าย WORM_DOWNAD.KK นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือโค้ดนี้ไม่ใช่ของใหม่ แต่มันเคยเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2540 ในชื่อ "raZZia" ที่พบในการแพร่กระจายชุดคำสั่งประจำ (โปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งถูกเรียกใช้บ่อย) <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ความจริงโค้ดดังกล่าวเกือบจะแพร่กระจายเชื้อร้าย WORM_DOWNAD.KK เพื่อใช้เป็นตัวแพร่กระจายชุดคำสั่งประจำ (โปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งถูกเรียกใช้บ่อย) โดยกำหนดว่าพอร์ตไหนจะใช้เพื่อการติดต่อสื่อสารแบบเพียร์ทูเพียร์ (P2P) กับเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย อีกทั้งผู้สร้างหนอนร้าย WORM_DOWNAD.KK ยังเปลี่ยนความต้องการใหม่ แทนที่จะใช้มันเพื่อพุ่งเป้าไปที่ชุดคำสั่งประจำหลัก เปลี่ยนเป็นการสุ่มตัวอย่างหาพอร์ตชุดคำสั่งเพื่อแพร่กระจายเชื้อร้ายต่อไป

    รูปที่ 2 - โค้ด "1997 raZZia"

    เช่นเดียวกันกับชุดคำสั่งด้านบน โดยเฉพาะค่าความสำคัญของ "15a4e35h" เป็น hard-coded ในหนอนร้าย WORM_DOWNAD.KK ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการแพร่พันธุ์ ทั้งการเลือก key-gen code และ WORM_DOWNAD.KK จะใช้หลักตรรกวิทยาที่ใกล้เคียงกันมากที่สุด โค้ด WORM_DOWNAD.KK จะมีข้อแตกต่างเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่ว่าคุณสามารถที่จะดูได้จากตารางด้านล่าง <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    รูปที่ 3 - ภาพแสดงตัวอย่างว่าโค้ดนี้เคยถูกใช้โดยอาชญากรใต้ดิน

    รูปที่ 4 - ตัวอักษรจีนที่ไม่ชัดเจน

    เป็นตัวอักษรจีนที่แปลความหมายได้ว่า "บริเวณทุ่งหญ้าที่หนาแน่น" หรือ "ต้นหญ้า, วัชพืชที่หนาแน่น" ซึ่งเป็นคำเหน็บแนมที่หมายถึงโฮสต์ทิ่ติดเชื้อร้ายเป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น เครือข่ายบ็อตเน็ตขนาดใหญ่

    ความจริงแล้ว 15A4E35h คือรูปแบบเลขทศนิยม 22695477 และ 15A4E35 ไม่ได้มีความหมายพิเศษสำหรับ raZZia - เพียงแต่พวกเขาเคยใช้โค้ดดังกล่าว และขณะนี้วิธีการดังกล่าวถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งโดยผู้สร้างโค้ด Conficker

    นักวิจัยภัยคุกคามสรุปข้อมูลได้ว่า กลุ่มคนบางพวกซึ่งอาจจะเป็นอาชญกรไซเบอร์ หรืออีกคำหนึ่งที่เรามักจะพบ คือ Russkrainians (อาชญกรไซเบอร์ชาวรัสเซียและยูเครน) เลือกใช้ลักษณะบางอย่างของวัฒนธรรมจีน เพื่อก่อให้เกิดผลกระทบ และเกิดความเสียหายแก่ชาวจีน ขณะนี้อาชญกรไซเบอร์ชาว Russkrainians มีแนวโน้มที่จะสร้างความปั่นป่วนเพิ่มขึ้นโดยใช้สินทรัพย์ของชาวจีน (เช่น ในการจดทะเบียนโดเมน. .CN ฯลฯ) เพื่อหลอกลวงกลุ่มคนที่ไม่รู้เรื่องให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญกรไซเบอร์ดังกล่าวด้วย

    พวกเรายังคงวิเคราะห์โค้ดร้ายนี้ และคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ในแง่ของการพยายามตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้แน่ชัด หรือถ้าหากเกิดเหตุการณ์ใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าโค้ดนี้ถูกนำกลับมาใช้โดยเหล่าอาชญากรไซเบอร์ใต้ดิน และถูกพบในสถานที่ที่ไม่ควรจะเกิด

    เทรนด์ ไมโคร มีแนวทางการป้องกันข้อมูลเบื้องต้นสำหรับผู้ใช้งานออนไลน์ว่า ป้องกันโดยตรวจสอบชื่อเสียง และประวัติเว็บไซต์ (Web Reputation) สามารถวัดระดับความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ก่อนเข้าชมได้ และต้องมั่นใจว่าอัพเดทหรือติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสใหม่ ทั้งควรหมั่นอัพเดท วินโดว์ส (Update Windows) ทุกครั้งที่มีการเตือน โอกาสที่จะมีปัญหากับเวิร์มหรือไวรัสเข้ามาแทรกแซงการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะมีน้อยลง
     

แชร์หน้านี้

Loading...