พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

รบกวน ส่ง email ให้ผมทาง pm ด้วยนะครับ

 

ลอง search หาข้อมูลดู ก็ขอตอบด้วยนะครับ

องค์ซ้าย ทรงพิมพ์ อู่ทอง
องค์ขวา ทรงพิมพ์ สุโขทัย

 

จะบอกว่า พระพุทธรูปนี้ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2450 - 1 ซึ่งสร้างโดยช่างสิบหมู่แห่งวังหลวง ศิลปและฝีมือการสร้างชั้นครูครับ

---------------------------------------------------------------

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
สำหรับรูปพระบูชา (เนื้อหินเขียวโขง) ไม่ทราบว่า พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทราบหรือไม่ว่า องค์ไหนพิมพ์สุโขทัย และองค์ไหนพิมพ์อู่ทอง ส่วนพิมพ์เชียงแสน มีความแตกต่างกันอยู่แล้ว



ตอนลงบอร์ดได้เลยนะครับ

องค์ซ้าย ทรงพิมพ์ ................
องค์ขวา ทรงพิมพ์ ................

แต่ส่วนคำตอบ ผมจะส่งให้ทาง email และผมไม่อนุญาตให้ส่ง mail ต่อนะครับ
ส่วนท่านใดยังไม่เคยได้ส่ง email ให้ผม ส่งมาให้ผมทาง pm ด้วยนะครับ

.

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พี่ส่งคำเฉลยให้น้องหมอ และคุณหม่อง แล้ว
แต่ห้ามนำออกมาเฉลยบนบอร์ดนะครับ
thaxx

 

ขอให้ทุกท่านช่วยกันสวดมนต์ และ ปฏิบัติภาวนา ให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุขโดยเร็ว ครับ

โมทนาบุญกับทุกท่าน ครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เช็คสภาพรถ-คน ก่อนพาครอบครัวเดินทางไกล!
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9520000039534
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 เมษายน 2552 19:38 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขอบคุณภาพจาก www.ojphoto.co.nr</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นับออกไปเพียงไม่กี่วัน ก็จะถึง "เทศกาลสงกรานต์" หรือ "งานขึ้นปีใหม่ไทย" ซึ่งบางครอบครัวอาจจะเตรียมโปรแกรมเล่นน้ำไว้บ้างแล้ว หรือหลายครอบครัวอาจจะเตรียมเก็บกระเป๋ากลับบ้านต่างจังหวัด เพื่อพบปะสังสรรกับญาติพี่น้องตลอดเทศกาล แต่ถึงอย่างไรการเดินทางที่ไร้อุปสรรค ต้องมีการเตรียมพร้อมของรถ และคนขับไว้ด้วย วันนี้ทีมงาน Life & Family จึงนำวิธี และแนวปฏิบัติมาฝากกันครับ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทางไกล</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> *** ตรวจสภาพรถก่อนสตาร์ท ***

ตรวจรถภายนอก
- ยาง ตรวจความดันลมยาง ดอกยาง และรอยฉีกขาด
- ตรวจดูว่าขันแน่นดี แต่ก็ไม่แน่นจนเกินไปจนคลายออก ไม่ได้ด้วยตัวเอง
- รอยรั่วซึม ตรวจดูว่ามีร่องรอยน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก หรือ น้ำรั่วซึม

จากใต้ท้องรถ
- ยางปัดน้ำฝน ทดลองปัดดู
- ไฟส่องสว่าง ตรวจดูไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยวหรืออื่นๆรวมทั้งระดับไฟหน้าด้วยว่าเป็นปกติทั้งหมด

ตรวจภายในรถ
- ยางอะไหล่และแม่แรง ตรวจเช็คลมยาง และให้แน่ใจว่าแม่แรงและด้ามขันใช้งานได้ตามปกติ
- เข็มขัดนิรภัย ตรวจเช็คว่าหัวเข็มขัดสามารถล็อกได้เรียบร้อย
- แตร ให้แน่ใจว่าดังดี
- แผงควบคุมและอุปกรณ์ ตรวจดูให้แน่ใจว่าทำงานเป็นปกติ และที่ปัดน้ำฝน ปัดได้เรียบร้อยสม่ำเสมอ
- เบรก เช็คระยะฟรีขาเบรกอยู่ในค่ากำหนดหรือไม่
- ฟิวส์สำรองที่เตรียมไว้ต้องมีขนาดค่ากระแสใช้ได้ตามที่กำหนดที่แผงฟิวส์

ตรวจใต้ฝากระโปรงหน้า
- ระดับน้ำหล่อเย็น ควรจะมีอยู่ถึงระดับสูงสุดในถังพักสำรอง
- หม้อน้ำและท่อยาง ควรดูว่าด้านหน้าหม้อน้ำหมดจดไม่มีเศษวัสดุ หรือใบไม้ติดอยู่ ดูท่อยางว่ามีรอยแยกเปื่อย มีรอยฉีกขาดหรือหลวม
- สายพานขับต่างๆ ต้องไม่มีรอยแตก เลอะน้ำมันหล่อลื่น และความตึงสายพานอยู่ในค่ากำหนด
- แบตเตอรี่และสายไฟ ตรวจดูและเติมน้ำกลั่นให้ได้ระดับที่กำหนดดูเปลือกแบตเตอรี่ว่ามีร่องรอยเสียหายหรือไม่ ดูขั้วต่อและสายไฟว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่
- ระดับน้ำมันเบรกและคลัชท์ ตรวจดูว่าระดับน้ำมันเบรกและคลัทช์อยู่ในระดับที่ถูกต้อง
- ท่อน้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจดูว่าท่อน้ำมันมีการรั่ว หลุดหรือไม่

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ท</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> *** ขับขี่ปลอดภัย คนขับต้องพร้อม ***

หลังจากที่เตรียมความพร้อมของรถยนต์แล้ว ตัวคนขับ และอุปสรรคระหว่างการเดินทาง ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ทางที่ดีควรรู้หลัก และเตรียมความพร้อมไว้ก่อนล่วงหน้าจะดีที่สุด

- ก่อนจะพาครอบครัวออกเดินทางไกลทุกครั้ง คนขับต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8-10 ชม. เพราะชีวิตของสมาชิกที่อยู่ในรถขึ้นอยู่กับการขับของคุณ ถ้าง่วงนอนให้หยุดรถ และพักหลับทันที อย่าฝืนขับต่อไป อาจเกิดการหลับในได้

- ก่อนวันขับ 1-2 วัน หรือก่อนขับ และขณะขับ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้สติในการขับรถไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เนื่องจากสุรา ทำให้ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะลดลง

- ก่อนขับรถไม่ควรกินยาที่ทำให้ง่วงนอน ซึ่งสามารถดูได้จากคุณสมบัติของยาหลังซอง ถ้าระบุว่า “กินแล้วอาจทำให้เกิดอาการง่วง” ขอให้เลี่ยงขณะขับรถทันที

- รัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง รวมไปถึงการออกตัว การเร่ง การเบรก และการบังคับเลี้ยว จะต้องสัมพันธ์กัน ค่อยๆ เหยียบคันเร่งเพื่อป้องกันล้อหมุนฟรี เพราะการเร่งแรง และเพิ่มรอบของเครื่องยนต์เร็วเกินไป อาจจะทำให้ล้อหมุนฟรีได้ หรืออาจเกิดการลื่นไถล เสียสมดุลของรถได้

- การขับรถในเวลากลางคืน คนขับต้อง 1) เปิดไฟหน้าและไฟท้ายตลอดเวลา 2) อย่าเปิดไฟสูง 3) ทำให้ผู้อื่นแน่ใจว่าเขาเห็นรถของคุณตลอดเวลา ถ้าจอดฉุกเฉิน ต้องเปิดเปิดไฟฉุกเฉินทุกครั้ง 4) หลีกเลี่ยงการจอดบนทางโค้ง และ 5) สังเกตตัวสะท้อนแสงบนพื้นถนนเพื่อขับอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง

- ถ้าเป็นไปได้ อาจจะสลับกันขับ (ถ้ามีคนขับรถเป็นมาด้วย) เพื่อผลัดกันนอน สร้างความปลอดภัยในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขอบคุณภาพจาก www.ojphoto.co.nr</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> - เมื่อขึ้น และลงเขาให้ใช้เกียร์ต่ำเพื่อเพิ่มพลังเครื่องยนต์ และอาจช่วยชะลอความเร็วของรถในขณะลงเขาร่วมกับการใช้เบรกอีกด้วย

- การเบรกก็จะต้องเป็นไปอย่างนุ่มนวล โดยพยายามควบคุมความเร็ว ชะลอความเร็วก่อนถึงสิ่งกีดขวาง เพื่อหลีกเลี่ยงการเบรกอย่างกะทันหัน อันจะทำให้รถเสียหลัก

- พยายามหลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นทรายหรือโคลน หากจำเป็นต้องลุยผ่านให้ใช้เกียร์ต่ำ และรักษารอบให้สม่ำเสมอ อย่าเร่งเครื่องเกินความจำเป็นเพราะอาจทำให้ล้อฟรีจมโคลนลึกจนยากแก่การแก้ไข

- หากต้องปีนข้ามหิน หรือสะพานไม้แคบที่มีเส้นทางเฉพาะ ควรมีคนลงไปทำหน้าที่บอกทาง โดยคนบอกทางต้องมีคนเดียว คนขับต้องมองตรงไปข้างหน้าอย่าใช้วิธียื่นหัวออกมานอกตัวรถ มองสัญญาณมือจากคนบอกทางและค่อยๆ ควบคุมรถไปตามนั้น

- ในการขับข้ามลำธาร หากมองไม่เห็นพื้นดินใต้น้ำ หรือไม่ทราบระดับความลึก ให้ลงมาใช้ไม้วัดระดับความลึกดูก่อน หากระดับน้ำสูงกว่าท่อกรองอากาศของเครื่องยนต์ไม่ควรขับลุยข้ามไป เพราะเครื่องยนต์จะดับกลางน้ำได้ ขับข้ามน้ำช้าๆ ด้วยรอบเครื่องยนต์ที่สม่ำเสมอ

- การขับรถผ่านเส้นทางที่มีก้อนหินหรือเนินดินขวาง พยายามขับให้ล้อปีนข้ามก้อนหินช้าๆ โดยใช้เกียร์ต่ำ จะช่วยไม่ให้ช่วงล่างกระทบกระแทกหิน ควรหลีกเลี่ยงการขับคร่อมก้อนหิน เพราะอาจทำให้ช่วงล่างกระแทกกับก้อนหินเสียหายได้

- หากไม่แน่ใจต่อเส้นทางข้างหน้า ให้หยุดรถ เดินลงมาสำรวจเส้นทางให้มั่นใจแล้วจึงขับต่อไป

- หากรู้สึกว่า รถมีอาการผิดปกติ เช่น เบรกไม่ค่อยละเอียด ไฟหน้า-ท้ายเสีย ให้รีบมองหาศูนย์บริการตรวจสภาพเครื่องยนต์ ตามปั๊มน้ำมันทันที อย่าปล่อยไว้นาน เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้

อย่างไรก็ดี หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ขอให้คนขับควบคุมสติให้อยู่ ส่วนคนนั่งอย่าส่งเสียงร้อง หรือทำให้คนขับรู้สึกกดดัน และตกใจ แต่ควรป้องกันตัวเองไว้ก่อนจะดีที่สุด นอกจากนี้การขับรถ ต้องนึกถึงคนนั่งเสมอ เพราะถ้าประมาท ขับรถเร็วเกินขีดจำกัด ไม่ใช่คนขับคนเดียวเท่านั้นที่จะเสี่ยงอันตราย แต่สมาชิกในครอบครัวที่นั่งไปกับเรา จะเสี่ยงไปด้วย

ถ้าต้องการตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทางไกล กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจึงได้จัดโครงการขับขี่ปลอดภัย Safety Holiday โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บริการตรวจสภาพซ่อมบำรุงรักษารถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ณ ที่ตั้งสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค (สพภ.) และศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด (ศพจ.) ทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปถึงวันที่ 16 เมษายน 2552 และช่วงระหว่าง 7 วันอันตราย ตั้งจุดบริเวณถนนสายหลัก จำนวน 12 จุดบริการ

ภาคกลางได้แก่ สพภ.1สมุทรปราการ ,สพภ.2 สุพรรณบุรี เส้นทางสายตะวันออก ได้แก่ สพภ.3ชลบุรี เส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ สพภ.5นครราชสีมา, สพภ.6 ขอนแก่น ,สพภ.7 อุบลราชธานี เส้นทางสายเหนือ ได้แก่ สพภ.8 พิษณุโลก,สพภ.10 ลำปาง เส้นทางสายภาคใต้และภาคตะวันตก ได้แก่ สพภ.4 ราชบุรี ,สพภ.11สุราษฎร์ธานี,สพภ.12 สงขลา <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>

สำหรับในกรุงเทพมหานครสามารถรับบริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้ที่ ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานกรุงเทพมหานคร ภายในบริเวณวัดธาตุทองนี้นะครับ ติดต่อโทร. โทร.0-2390-221

อย่าลืมนะครับ "เมาไม่ขับ ง่วงให้จอด มีสติตลอดการเดินทาง" แล้วเทศกาลแห่งความสุขของคุณกับครอบครัวจะสวัสดิภาพทั้งไปและกลับครับ

ข้อมูลบางส่วนจาก
www.rodyont.com และ www.komchadluek.net
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เคยอ่านมานะคะว่าพระพุทธสิหิงส์ องค์ที่สรงน้ำที่สนามหลวงเนี่ยคะเป็นองค์จำลอง อันเนื่องมาจากว่าเมื่อหลายปีที่แล้ว 254X (จำปีไม่ได้) ทางการก็นำองค์จริงมาให้ทรงน้ำกันปรกติเหมือนทุกปีที่ผ่านมาแต่ปรากฎว่าระหว่างที่สรงน้ำนั้นขวดน้ำอบได้ถูกองค์พระ จนเป็นรอยบริเวณสีข้างจนเป็นรอยบุ๋บ ทางการเลยเอาองค์จริงเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเรื่อยมา...

 

ใช่แล้วครับ

องค์ที่สรงน้ำ เป็นองค์ที่สร้างจำลองขึ้นมาครับ

.

 

อะ...อยากอ่านเฉลยอะค่ะ
นั้นขอตอบใช้ความรู้มัธยมนะคะ ตอบว่าองค์ซ้ายอู่ทอง องค์ขวาสุโขทัยค่ะ
จุดแตกต่างคือลักษณะพระัพักตร์ค่ะ เชียงแสนจะค่อนข้างเป็นเหลี่ยมๆๆ ต่างจากอู่ทองที่ได้รับอิทธิผลจากสุโขทัยซึ่งจะคล้ายมนุษย์มากกว่าเนื่องจากเชื่อมโยงความเชื่อของสมมติเทพกับกษัตริย์ค่ะ เอาแค่นี้ก่อนนะคะเดี๋ยวจะผิดไปมากกว่านี้อิอิ...

 

ขอร่วมตอบด้วย ครับ
องค์ซ้าย ทรงพิมพ์ อู่ทอง
องค์ขวา ทรงพิมพ์ สุโขทัย

 

องค์ซ้าย หมายถึงเวลาที่เรามองรูป พระพุทธรูป แล้วอยู่ด้านซ้ายมือเรา
ส่วนองค์ขวา หมายถึงเวลาที่เรามองรูป พระพุทธรูป แล้วอยู่ด้านขวามือเรา

เข้าใจตรงกันนะครับ

ไว้เฉลยที่ email ครับ

 

ผมขอ email ด้วยนะครับ ผมไม่แน่ใจว่า ผมได้มาหรือยัง

แล้วผมจะเฉลยผ่าน email ครับ

 

ขอบคุณสำหรับคำเฉลยที่รวดเร็วทันใจค่ะ

 

สำหรับรูปพระบูชา (เนื้อหินเขียวโขง) ไม่ทราบว่า พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทราบหรือไม่ว่า องค์ไหนพิมพ์สุโขทัย และองค์ไหนพิมพ์อู่ทอง ส่วนพิมพ์เชียงแสน มีความแตกต่างกันอยู่แล้ว



ตอนลงบอร์ดได้เลยนะครับ

องค์ซ้าย ทรงพิมพ์ ................
องค์ขวา ทรงพิมพ์ ................

แต่ส่วนคำตอบ ผมจะส่งให้ทาง email และผมไม่อนุญาตให้ส่ง mail ต่อนะครับ
ส่วนท่านใดยังไม่เคยได้ส่ง email ให้ผม ส่งมาให้ผมทาง pm ด้วยนะครับ


องค์ซ้าย หมายถึงเวลาที่เรามองรูป พระพุทธรูป แล้วอยู่ด้านซ้ายมือเรา
ส่วนองค์ขวา หมายถึงเวลาที่เรามองรูป พระพุทธรูป แล้วอยู่ด้านขวามือเรา

เข้าใจตรงกันนะครับ

จะบอกว่า พระพุทธรูปนี้ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2450 - 1 ซึ่งสร้างโดยช่างสิบหมู่แห่งวังหลวง ศิลปและฝีมือการสร้างชั้นครูครับ

 

วันนี้ผมได้เดินทางไปปฎิบัติธรรมที่วัดธรรมมงคลมาครับ

ขอบุญนี้จงสำเร็จแก่ท่านอ.ประถมและพี่น้องทุกท่านครับ อีกทั้งขอให้บุญนี้จงช่วยให้ประเทศไทยพ้นวิกฤตโดยไว

 

โมทนาสาธุครับ น้องรัก

 

Answer from me ka
องค์ซ้าย อู่ทอง
องค์ขวา สุโขทัย

 

ส่งคำตอบให้แล้วครับ อิอิ

 

เหอๆ ได้รับคำตอบแล้วครับ ขอบคุณครับ

 

ได้รับคำตอบแล้วครับ ขอบคุณครับ