ประสบการณ์สมาธิ :(แรงดึงดูดแห่งวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย)

บดินทร์จ้า · 28 มีนาคม 2009

[FONT=&quot] hello7

ประสบการณ์นี้เกิดขึ้นในคืนหนึ่งของเดือน กุมภาพันธ์ 52 ช่วงนั้นสมาธิของผู้เขียนมีอารมณ์ หนักแน่นมากคือ ร่างกายหยาบกับร่างกายละเอียด เตรียมพร้อมที่จะแยกออกจากกันอยู่ทุกขณะเวลา ในคืนนั้นข้าพเจ้ากำเนิดลมหายใจปกติ แล้วก็รู้สึกว่าเจ้ากายทิพย์นั้นพร้อมที่จะออกมาจากกายหยาบ ข้าพเจ้าจึงปล่อยกายทิพย์นี้ออกมา ครั้งแรก พอออกมา ข้าพเจ้าก็พิจารณาเจ้าร่างกายทิพย์ ดู เอ๋ ทำไมไม่มีแสงสว่างออกมาจากกาย ด้วยความว่าไม่รู้ ว่าอวิชชากำลังครอบงำอยู่ (คือหลง ยึดติดว่ากายทิพย์จะต้องคงสภาวะเดิมอยู่ตลอด) ดังนั้นข้าพเจ้า จึง กำเนิดจิตกลับเข้ากายหยาบอีกครั้งหนึ่ง
แล้วก็ถอดกายทิพย์ออกเป็นครั้งที่ สอง ก็ยังเหมือนเดิมอีก ก็กลับเข้ากายหยาบอีกครั้ง แล้วก็
ถอดกายทิพย์อีกรอบที่ สาม ก็เหมือนเดิมอีก
ทีนี้ก็ถอดอีกรอบที่ สี่ (ระยะเวลาในการถอดกายทิพย์ ทั้ง 4 ครั้ง ใช้ระยะเวลาที่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ) พอถอดกายทิพย์ออกมารอบที่ สี่ ก็พิจารณาดูอีก ก็เหมือนเดิม ก็ช่างมันไม่สนใจแล้วว่าจะต้องคงสภาวะเดิมตลอด
ก็เตรียมพร้อมที่จะนำเจ้ากายทิพย์นี้ออกนอกห้อง ทันใดนั้นแรงดึงดูดมหาศาล เกิด ดูดกายทิพย์นี้ไป มันมีแรงดึงดูดที่มาก ตัวข้าพเจ้าก็รวบรวมสมาธิทั้งหมดกำเนิดจิตกลับร่างกายหยาบ ด้วยความที่ถอดเข้าถอดออกบ่อยๆจนเป็นวสี จึงทำให้ผู้เขียนกลับมาพูดคุยและเล่าประสบการณ์เหล่านี้ได้ [/FONT]
[FONT=&quot]ทีนี้ก็มาพิจารณาดู เอ๋เหตุการณ์ นี้ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร แรงดึงดูดเหล่านี้มาจากไหน จนได้ข้อสรุปที่ว่าเราถอดกายทิพย์นี้มากเกินไปคือ ถอดถึง 4 ครั้ง ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ทำให้กายทิพย์นี้มีกำลังลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ จนกระทั้งกายเป็นวิญญาณ ที่อ่อนแอและหมดกำลังไปเอง [/FONT]
[FONT=&quot] สำหรับแรงดึงดูดมหาศาลนั้น โดยปกติแล้วข้าพเจ้าก็พอจะรู้ว่านั่นคือแรงดึงดูดแห่งพื้นธรณี ที่จะดูดเหล่าวิญญาณของสัตว์ทั้งหลายที่มีกำลังวิญญาณที่อ่อนแอ เช่น นก หมู หมา กา ไก่ หรือบุคคลที่หมดอายุขัย เป็นต้น ให้ไปรวมกันที่จุดใดจุดหนึ่งในโลกเบื้องต่ำ เพื่อรอการตัดสิน ผลบาปและผลบุญ ที่ยังมีติดค้าง อยู่ครับ [/FONT]
[FONT=&quot] สิ่งมี่ผู้เขียนได้รับจากประสบการณ์ในครั้งนี้ คือ
[/FONT]
[FONT=&quot]1.เกิดวสีในการเข้าออกของกายทิพย์[/FONT]
<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CA14B%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CA14B%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> [FONT=&quot] 2.หายข้อสงสัยในเรื่องดวงวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย[/FONT]
[FONT=&quot]3.ไม่ควรถอดกายทิพย์เกิน 3 ครั้ง
[/FONT]

คนดีที่สุด · 27 มีนาคม 2009

ขออนุโทนา ครับ

cap5123 · 27 มีนาคม 2009

ขออนุโมทนาครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดี ให้ผู้ที่กำลังฝึกอย่าฟืน กายทิพย์มากจนเกินไป ครับ

zonedd · 27 มีนาคม 2009

ติดตามคุณ บดินทร์จ้า ตลอดเลยครับ ขอบคุณมากๆที่เล่าให้ฟังครับ

มหาวีโร · 27 มีนาคม 2009

ขอบคุณครับที่นำเอาประสบการณ์ดีๆมีปรโยชน์มาแบ่งปันครับ

yaba150 · 27 มีนาคม 2009

ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แสดงว่าการฝึกจิตของคุณ บดินทร์จ้า ก้าวหน้าอีกหนึ่งขั้นแล้ว ส่วนผมจะขอตามไปเร็วๆนี้ครับ โมทนาด้วย

บดินทร์จ้า · 27 มีนาคม 2009

yaba150 said: ↑

ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แสดงว่าการฝึกจิตของคุณ บดินทร์จ้า ก้าวหน้าอีกหนึ่งขั้นแล้ว ส่วนผมจะขอตามไปเร็วๆนี้ครับ โมทนาด้วย
Click to expand...

ไม่มีประโยชน์ใดๆที่จะต้องปิดบังครับท่าน ไว้ผมผ่านการพิจารณา การดับของจิตที่เกิดขึ้นกับผู้เขียนในขณะนี้สำเร็จเมื่อไร แล้วท่านจะทราบว่าผมไปถึงไหนแล้วครับ

yaba150 · 27 มีนาคม 2009

อย่าลืมบอกผมด้วยนะครับ ผมจะนำมาปฏิบัติบ้าง

albertalos · 27 มีนาคม 2009

ต้องลองมั่งแล้ว แต่ปกติผมฝึกจะจับแต่ภาพกสินเกิดอาไรก้ไม่สนใจแม้แต่ภาพกสินที่มันเปลี่ยนแปลง แต่ช่วงนี้ก้กำลังฝึกเพิ่มเติมอยู่ อนุโมทนาด้วยที่มาเล่าสิ่งดีๆให้ฟัง

hamm · 27 มีนาคม 2009

ขอบคุนที่ เล่าประสบการณ์ครับ

บดินทร์จ้า · 28 มีนาคม 2009

yaba150 said: ↑

อย่าลืมบอกผมด้วยนะครับ ผมจะนำมาปฏิบัติบ้าง
Click to expand...

แล้วจะมาบอกทุกๆท่านครับ หากสำเร็จครับ

nui_sirada · 28 มีนาคม 2009

นั่งสมาธิอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ก็ได้ยินคนพูดถึงกายทิพย์บ่อยจัง กายทิพย์เป็นไงค่ะ ผู้รู้ช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยค่ะ หมายถึงวิญญาณออกจากร่างเหรอค่ะ หรือจิตเราค่ะ

บดินทร์จ้า · 29 มีนาคม 2009

nui_sirada said: ↑

นั่งสมาธิอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ก็ได้ยินคนพูดถึงกายทิพย์บ่อยจัง กายทิพย์เป็นไงค่ะ ผู้รู้ช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยค่ะ หมายถึงวิญญาณออกจากร่างเหรอค่ะ หรือจิตเราค่ะ
Click to expand...

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CA14B%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CA14B%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> [FONT=&quot] ความหมาย ตาม ธรรมะ-พจนานุกรมพุทธศาสน์ ประมวลศัพธ์
[/FONT]
[FONT=&quot]วิญญาณ[/FONT][FONT=&quot]ความรู้แจ้งอารมณ์[/FONT], [FONT=&quot]จิต[/FONT], [FONT=&quot]ความรู้ที่เกิดขึ้นเมื่ออายตนะภายในและอายตนะภายนอกกระทบกัน เช่น[/FONT] [FONT=&quot]รูปอารมณ์ในเวลาเมื่อรูปมากระทบตา เป็นต้น ได้แก่ การเห็น[/FONT] [FONT=&quot]การได้ยินเป็นอาทิ[/FONT]; [FONT=&quot]วิญญาณ ๖[/FONT][FONT=&quot]คือ[/FONT] [FONT=&quot]๑.จักขุวิญญาณ[/FONT] [FONT=&quot]ความรู้อารมณ์ทางตา(เห็น)[/FONT] [FONT=&quot]๒.โสตวิญญาณ[/FONT][FONT=&quot]ความรู้อารมณ์ทางหู (ได้ยิน)[/FONT] [FONT=&quot]๓.ฆานวิญญาณ[/FONT][FONT=&quot]ความรู้อารมณ์ทางจมูก(ได้กลิ่น)[/FONT] [FONT=&quot]๔.ชิวหาวิญญาณ[/FONT][FONT=&quot]ความรู้อารมณ์ทางลิ้น(รู้รส)[/FONT] [FONT=&quot]๕.กายวิญญาณ[/FONT][FONT=&quot]ความรู้อารมณ์ทางกาย (รู้สิ่งต้องกาย)[/FONT] [FONT=&quot]๖.มโนวิญญาณ[/FONT][FONT=&quot]ความรู้อารมณ์ทางใจ (รู้เรื่องในใจ)[/FONT] [FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]จะเห็นว่า วิญญาณหรือจิต คือความหมายเดียวกันนะครับ[/FONT]

สำหรับวิญญาณนั้น เมื่อบุคคลธรรมดาหรือสัตว์ทั้งหลายในสากลโลกนั้นๆ เมื่อละทิ้งร่างกายดับศูนย์แล้ว ย่อมไหลไปตามเหตุปัจจัยนั้นๆ คือเกิดจากธาตุวิญญาณทั้ง 6 นั้นๆพาไป หากสมมุติเป็นมนุษย์ก็มีผลบุญและผลบาป เป็นเหตุปัจจัย ที่จะได้ไปเกิดใน อบายภูมิ 4 หรือ เทวภูมิ 6 ชั้น ตามกำลังแห่งศีล
และทาน เป็นต้น
หากเป็นบุคคลผู้เจริญสมถะ ตั้งแต่ฌานที่1-4 นิวรณ์ย่อมหมดไป ทำให้ทราบว่าร่างกายเรานี้อันประกอบ ด้วย รูปและนาม นี้ มีวิญญาณหรือจิต อยู่เป็นอิสระในตัว ไม่ว่าบุคคล สัตว์หรือสิ่งของ เมื่อไม่มีนิวรณ์แล้ว วิญญาณย่อมหลุดออกมาจากกายหยาบได้ เมื่อหลุดออกมาบ่อยๆ ก็ย่อมกลายสภาพเป็นกายทิพย์ หรือกายพรหม ในภูมินั้นๆ ซึ่งจะมีลักษณะกายเบาจิตเบา ไปตามกำลังของฌานนั้นๆตั้งแต่ ฌาน 4-8 ซึ่งสามารถแสดงอิทธิอภินิหารได้คล้ายๆพระอรหัตน์ ดังเช่นเหล่าฤาษีทั้งหลาย แต่ยังไม่หลุดพ้น หากจะหลุดพ้นต้องดับจิตวิญญาณเสียก่อน
หากเป็นบุคคลที่เจริญสมถะ และวิปัสสนา กายทิพย์นั้นๆจะใสดังแก้ว ตามความบริสุทธิ์ จนกระทั้งเป็นสีรุ้ง จะมีลักษณะงูที่ลอกคราบ นี่คราบงู นี่ตัวงู น้ำหนักจะลดลงเล็กน้อย สามารถกระทำอิทธิอภินิหารดังพระอรหันต์ทั้งหลายได้ ครับ

nui_sirada · 29 มีนาคม 2009

บดินทร์จ้า said: ↑

<LINK href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CA14B%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml" rel=File-List><STYLE>  </STYLE><LINK href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CA14B%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml" rel=File-List><STYLE>  </STYLE> [FONT=&quot]ความหมาย ตาม ธรรมะ-พจนานุกรมพุทธศาสน์ ประมวลศัพธ์ [/FONT]

[FONT=&quot]วิญญาณ[/FONT][FONT=&quot]ความรู้แจ้งอารมณ์[/FONT], [FONT=&quot]จิต[/FONT], [FONT=&quot]ความรู้ที่เกิดขึ้นเมื่ออายตนะภายในและอายตนะภายนอกกระทบกัน เช่น[/FONT] [FONT=&quot]รูปอารมณ์ในเวลาเมื่อรูปมากระทบตา เป็นต้น ได้แก่ การเห็น[/FONT] [FONT=&quot]การได้ยินเป็นอาทิ[/FONT]; [FONT=&quot]วิญญาณ ๖[/FONT][FONT=&quot]คือ[/FONT] [FONT=&quot]๑.จักขุวิญญาณ[/FONT] [FONT=&quot]ความรู้อารมณ์ทางตา(เห็น)[/FONT] [FONT=&quot]๒.โสตวิญญาณ[/FONT][FONT=&quot]ความรู้อารมณ์ทางหู (ได้ยิน)[/FONT] [FONT=&quot]๓.ฆานวิญญาณ[/FONT][FONT=&quot]ความรู้อารมณ์ทางจมูก(ได้กลิ่น)[/FONT] [FONT=&quot]๔.ชิวหาวิญญาณ[/FONT][FONT=&quot]ความรู้อารมณ์ทางลิ้น(รู้รส)[/FONT] [FONT=&quot]๕.กายวิญญาณ[/FONT][FONT=&quot]ความรู้อารมณ์ทางกาย (รู้สิ่งต้องกาย)[/FONT] [FONT=&quot]๖.มโนวิญญาณ[/FONT][FONT=&quot]ความรู้อารมณ์ทางใจ (รู้เรื่องในใจ)[/FONT]

[FONT=&quot]จะเห็นว่า วิญญาณหรือจิต คือความหมายเดียวกันนะครับ[/FONT]

สำหรับวิญญาณนั้น เมื่อบุคคลธรรมดาหรือสัตว์ทั้งหลายในสากลโลกนั้นๆ เมื่อละทิ้งร่างกายดับศูนย์แล้ว ย่อมไหลไปตามเหตุปัจจัยนั้นๆ คือเกิดจากธาตุวิญญาณทั้ง 6 นั้นๆพาไป หากสมมุติเป็นมนุษย์ก็มีผลบุญและผลบาป เป็นเหตุปัจจัย ที่จะได้ไปเกิดใน อบายภูมิ 4 หรือ เทวภูมิ 6 ชั้น ตามกำลังแห่งศีล
และทาน เป็นต้น
หากเป็นบุคคลผู้เจริญสมถะ ตั้งแต่ฌานที่1-4 นิวรณ์ย่อมหมดไป ทำให้ทราบว่าร่างกายเรานี้อันประกอบ ด้วย รูปและนาม นี้ มีวิญญาณหรือจิต อยู่เป็นอิสระในตัว ไม่ว่าบุคคล สัตว์หรือสิ่งของ เมื่อไม่มีนิวรณ์แล้ว วิญญาณย่อมหลุดออกมาจากกายหยาบได้ เมื่อหลุดออกมาบ่อยๆ ก็ย่อมกลายสภาพเป็นกายทิพย์ หรือกายพรหม ในภูมินั้นๆ ซึ่งจะมีลักษณะกายเบาจิตเบา ไปตามกำลังของฌานนั้นๆตั้งแต่ ฌาน 4-8 ซึ่งสามารถแสดงอิทธิอภินิหารได้คล้ายๆพระอรหัตน์ ดังเช่นเหล่าฤาษีทั้งหลาย แต่ยังไม่หลุดพ้น หากจะหลุดพ้นต้องดับจิตวิญญาณเสียก่อน
หากเป็นบุคคลที่เจริญสมถะ และวิปัสสนา กายทิพย์นั้นๆจะใสดังแก้ว ตามความบริสุทธิ์ จนกระทั้งเป็นสีรุ้ง จะมีลักษณะงูที่ลอกคราบ นี่คราบงู นี่ตัวงู น้ำหนักจะลดลงเล็กน้อย สามารถกระทำอิทธิอภินิหารดังพระอรหันต์ทั้งหลายได้ ครับ
Click to expand...

ขอบคุณค่ะที่ช่วยอธิบาย แล้วอย่างเวลานั่งสมาธิ ขณะหลับตาเรารู้สึกว่าตัวเราลอยไปในที่ต่างๆกัน ที่เราไม่รู้จัก บางทีก็เหมือนเป็นที่ๆเราอาจจะเคยอยู่ในชาติก่อนๆ ตามความรู้สึกมันบอกว่าเราคือคนนี้แหล่ะ หมายถึงจิตเราที่พุ่งไป ร่างกายที่เราเห็น เป็นของเรา ตัวเรา ในสมาธิ คือกายทิพย์ใช่หรือไม่ค่ะ

albertalos · 29 มีนาคม 2009

งั้นขอคำแนะนำหน่อยคับ เราจะถอตจิตตอนฌาณไหนครับ มีอารมอย่างไร แล้วกำหนดอย่างไรในการถอดจิต

คือยังไม่เคยถอดจิตออกไปเองอ่ะคับเคยแต่ ไปแบบวิทีอื่น

บดินทร์จ้า · 30 มีนาคม 2009

nui_sirada said: ↑

ขอบคุณค่ะที่ช่วยอธิบาย แล้วอย่างเวลานั่งสมาธิ ขณะหลับตาเรารู้สึกว่าตัวเราลอยไปในที่ต่างๆกัน ที่เราไม่รู้จัก บางทีก็เหมือนเป็นที่ๆเราอาจจะเคยอยู่ในชาติก่อนๆ ตามความรู้สึกมันบอกว่าเราคือคนนี้แหล่ะ หมายถึงจิตเราที่พุ่งไป ร่างกายที่เราเห็น เป็นของเรา ตัวเรา ในสมาธิ คือกายทิพย์ใช่หรือไม่ค่ะ
Click to expand...

สงสัยผมจะอธิบายยากไปหน่อยมั้งครับ เอาอย่างนี้แล้วกัน
มีวิญญาณออกจากร่างลักษณะที่เบากว่าร่างกายเดิมมาก ขาไม่สัมผัสพื้น มีสติสมบูรณ์ พูดง่ายๆอีกก็คล้ายผีนั่นเหละ แต่ผีนั้นร่างกายหยาบเขาดับไปแล้ว ไม่สามารถกับมาใช้ร่างกายเดิมได้อีก แต่ถ้าเป็นบุคคลธรรมดา ผู้เข้าถึงฌาน 4 -ฌาน 8 ย่อมสามารถกระทำสิ่งใดๆได้คล้ายผี แต่เรายังสามารถกลับเข้าร่างเดิมได้เพราะเรามีสติสมบูรณ์ แค่คิดว่ากลัวตายหน่อยเดียว จิตมันก็กลับร่างแล้ว
แล้วถ้าเราถอดจิตหรือ วิญญาณนี้ บ่อยๆเข้าจนเป็นวสี ก็จะเปลี่ยนเป็นกายทิพย์ที่สามารถกระทำสิ่งใดๆได้เหมือกายหยาบ จะไปนั่งบนก้อนเมฆ หรือ ดำดิน ก็ได้ ครับ
สำหรับประสบการณ์ ของท่านที่เล่ามานั้นเขาเรียกว่า จิตระลึกชาติได้ จิตส่งใน เพราะโดยปกติแล้วหากยังไม่พ้นจากวัฏฏสังสาร ย่อมมีภาพสัญญาเก่าและใหม่ติดตัวอยู่ สัญญาใหม่มาจากไหน่ ก็มาจากการรับ รู้ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย นั่นอย่างไร ตาเคยดูทีวีใช่ใหมล่ะครับ บางทีสัญญานั้นก็เหมือนในหนังก็มีถมเถไปนะครับ ดังนั้น เรารู้อะไรแล้ว เราก็ควรปล่อย ไม่ควรยึดมั่นว่าเป็นตัวเรา เป็นของๆเรานะครับ แล้วสมาธิจะเดินหน้าครับ

บดินทร์จ้า · 30 มีนาคม 2009

albertalos said: ↑

งั้นขอคำแนะนำหน่อยคับ เราจะถอตจิตตอนฌาณไหนครับ มีอารมอย่างไร แล้วกำหนดอย่างไรในการถอดจิต

คือยังไม่เคยถอดจิตออกไปเองอ่ะคับเคยแต่ ไปแบบวิทีอื่น
Click to expand...

สำหรับกรณีของท่าน รู้แล้วปล่อยซะ เคยฝึกกสินมาอย่างไรถึงไหน เมื่อมาถึงที่สุดแล้ว ก็พิจารณาภาพกสินนั้นให้แตกละเอียดเป็นเม็ดๆนะครับ เมื่อแตกแล้วก็กำเนิดกับมารวมกันใหม่ ท่านก็จะพบว่า การเกิดภาพในสมาธินั้นมันมีกระบวนการของมัน ดังนี้ เสร็จแล้วก็ปล่อยซะ โน้มจิตตัดไปทางวิปัสสนากรรมฐานซะ อุปมาดังแม่ที่เฝ้าดูแลลูก ควรจะสอนลูกๆอย่างไร เพื่อเป็นคนดีในสังคม เมื่อลูกโตขึ้นมาลูกจะเป็นอิสระจากตัวแม่ เขาจะแยกระหว่างความดีและไม่ดี เมื่อเขาไปถึงไหนเขาจะบอกเราเอง ว่าเขาเป็นพระโสดาบันแล้วเป็นต้น เราได้แต่เฝ้าดูกับความสำเร็จของเขา ซึ่งก็คือ จิต นั่นเอง

สำหรับการถอดจิตนั้นสามารถกระทำได้ตั้งแต่ ฌาน 4 เป็นต้นไป เพราะมีกำลังเพียงพออยู่แล้วครับ ส่วนวิธีก็แล้วแต่ความถนัดนะครับ เพราะจริตย่อมแตกต่างกัน บางทีเรื่องเดียวกัน แต่ไม่เข้าใจกันก็มีถมเถมไปครับ

บดินทร์จ้า · 30 มีนาคม 2009

“[FONT=&quot]รู้อะไรก็ไม่รู้เท่าวิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดคน[/FONT]”<o></o>
[FONT=&quot] รู้วิชาอะไร รู้ อริยสัจธรรมทั้ง 4 นั่นงัย [/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]รักษาตัวรอดอย่างไร เดินตามพระอริยมรรค นั่นงัย(ศีล สมาธิ ปัญญา)[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]ยอดคนอย่างไร เข้าถึง วิมุตติ นั่นงัย ดับอวิชชาให้หมด[/FONT][FONT=&quot]เป็นอริยบุคคลซะ<o></o>[/FONT]

nui_sirada · 30 มีนาคม 2009

บดินทร์จ้า said: ↑

สงสัยผมจะอธิบายยากไปหน่อยมั้งครับ เอาอย่างนี้แล้วกัน
มีวิญญาณออกจากร่างลักษณะที่เบากว่าร่างกายเดิมมาก ขาไม่สัมผัสพื้น มีสติสมบูรณ์ พูดง่ายๆอีกก็คล้ายผีนั่นเหละ แต่ผีนั้นร่างกายหยาบเขาดับไปแล้ว ไม่สามารถกับมาใช้ร่างกายเดิมได้อีก แต่ถ้าเป็นบุคคลธรรมดา ผู้เข้าถึงฌาน 4 -ฌาน 8 ย่อมสามารถกระทำสิ่งใดๆได้คล้ายผี แต่เรายังสามารถกลับเข้าร่างเดิมได้เพราะเรามีสติสมบูรณ์ แค่คิดว่ากลัวตายหน่อยเดียว จิตมันก็กลับร่างแล้ว
แล้วถ้าเราถอดจิตหรือ วิญญาณนี้ บ่อยๆเข้าจนเป็นวสี ก็จะเปลี่ยนเป็นกายทิพย์ที่สามารถกระทำสิ่งใดๆได้เหมือกายหยาบ จะไปนั่งบนก้อนเมฆ หรือ ดำดิน ก็ได้ ครับ
สำหรับประสบการณ์ ของท่านที่เล่ามานั้นเขาเรียกว่า จิตระลึกชาติได้ จิตส่งใน เพราะโดยปกติแล้วหากยังไม่พ้นจากวัฏฏสังสาร ย่อมมีภาพสัญญาเก่าและใหม่ติดตัวอยู่ สัญญาใหม่มาจากไหน่ ก็มาจากการรับ รู้ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย นั่นอย่างไร ตาเคยดูทีวีใช่ใหมล่ะครับ บางทีสัญญานั้นก็เหมือนในหนังก็มีถมเถไปนะครับ ดังนั้น เรารู้อะไรแล้ว เราก็ควรปล่อย ไม่ควรยึดมั่นว่าเป็นตัวเรา เป็นของๆเรานะครับ แล้วสมาธิจะเดินหน้าครับ
Click to expand...

ขอบคุณน่ะค่ะ เข้าใจแล้วค่ะอิอิ

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ประสบการณ์สมาธิ :(แรงดึงดูดแห่งวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย)

บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

คนดีที่สุด สมาชิก

cap5123 Active Member

zonedd Active Member

มหาวีโร สมาชิกใหม่

yaba150 เป็นที่รู้จักกันดี

บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

yaba150 เป็นที่รู้จักกันดี

albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

hamm สมาชิก

บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

nui_sirada เป็นที่รู้จักกันดี

บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

nui_sirada เป็นที่รู้จักกันดี

albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

nui_sirada เป็นที่รู้จักกันดี

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ประสบการณ์สมาธิ :(แรงดึงดูดแห่งวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย)

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา