พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>วิธีช่วยชีวิตลูกน้อยจากอุบัติเหตุใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม
    /Modern Mom.
    http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9520000032218
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 มีนาคม 2552 21:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> วันนี้มีบทความดี ๆ จากนิตยสาร Modern Mom มาฝากกันค่ะ โดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุใกล้ตัวเรา ๆ ท่าน ๆ กันนี่เอง ส่วนจะสามารถป้องกันได้อย่างไรนั้น ต้องติดตามกันเลยค่ะ

    ********************************

    เมื่อเอ่ยถึงเรื่อง “ อุบัติเหตุ ” หลายคนคงจินตนาการถึงภาพของความชุลมุนวุ่นวายในการพยายามช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ รวมไปถึงภาพการสูญเสียชีวิตของบุคคลอันเป็นที่รัก...เหตุการณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่เกินจากความประมาทที่คิดเพียงว่า... นิดเดียว...แป๊บเดียว... แต่ทราบหรือไม่ว่า ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้สามารถแปรเปลี่ยนเป็นภาพความทรงจำที่เลวร้ายตราบนานเท่านาน...

    รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัย และป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้แนะนำแนวทางในการจัดการความปลอดภัยสำหรับเด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี พร้อมรวบรวมเทคนิคต่างๆ ในการปฐมพยาบาล ตั้งแต่การปั๊มหัวใจประคองชีวิต รวมถึงวิธีการเอาสิ่งของออกจากคอลูกน้อยอย่างถูกต้องมาฝากกันด้วยค่ะ ...

    “อุบัติเหตุที่มักเกิดกับเด็กเล็กๆ มีตั้งแต่การบาดเจ็บเพราะ รถหัดเดินพลิกคว่ำ การเขย่าตัวเด็ก ซึ่งนำไปสู่ภาวะเลือดออกในสมองและประสาทตา แขนขาหัก นอกจากนั้นยังมาจากของเล่นที่เป็นเส้นสายยาวกว่า 22 ซม. ซึ่งมีความเสียงต่อการรัดคอเด็ก รวมถึงเตียงนอน เครื่องนอน หรือท่านอน จากการศึกษาพบว่าในเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปีเสียชีวิตต่อปีถึง 180 ราย ซึ่งมีสาเหตุจากการขาดอากาศหายใจเพราะการติดค้างของศีรษะในช่องว่างระหว่างเตียงกับกำแพง หรือเฟอร์นิเจอร์อื่น หรือซี่ราวที่มีช่องว่างตั้งแต่ 6 ซ.ม.ขึ้นไป รวมไปถึงท่าการนอนคว่ำที่เชื่อกันว่าจะทำให้ศีรษะของลูกทุยสวย...ซึ่งท่านอนที่ถูกต้องควรเป็นท่านอนหงาย มีระยะห่างจากผู้ใหญ่ที่นอนด้วยอย่างน้อย 1 เมตร และใช้ที่นอนแบบไม่อ่อนนุ่มเกินไป เพื่อยับยั้งอันตรายครับ”

    ทั้งนี้ อัตราการเสียชีวิตของเด็กทารก (น้อยกว่า 1 ปี) จากการบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุปีละ 122 ราย และเด็กอายุขวบปี 280 ราย โดยส่วนใหญ่เกิดกับเด็กชาย และการจมน้ำถือเป็นสาเหตุหลัก ตลอดจนการขาดอากาศหายใจในแบบต่างๆ และจากกระแสไฟฟ้า สารพิษ การหนีบทับ ชนกระแทก และพลัดตกจากที่สูง ดังนั้น เพื่อการป้องกันจึงเน้นให้คุณพ่อคุณแม่ และคนในครอบครัวหันมาใส่ใจกับเรื่องอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกวินาที... โดยเฉพาะสำหรับเด็กเล็กวัยขวบปีแรกที่ไม่สามารถพูด หรือช่วยเหลือตัวเองได้ เพื่อเตรียมพร้อมป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน...

    
สำหรับการจัดการความปลอดภัยให้เด็กอายุน้อยกว่า 3 ปีนั้น สามารถทำได้ 3 แนวทาง คือ

    1.จัดสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กให้ปลอดภัยทั้งในบ้าน นอกบ้าน และการเดินทาง โดยแยกเด็กออกจากจุดอันตราย เช่น ตู้ ประตู บันได ปลั๊กไฟ ของมีคม สารพิษ และแหล่งน้ำ

    2.เฝ้าดูแล ปกป้องคุ้มครองเด็กโดยผู้ดูแลให้อยู่ในสายตาตลอดเวลาและควรมีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

    3.สอนเด็กให้หลีกเลี่ยงจุดอันตราย หรือทักษะการช่วยเหลือตัวเอง ซึ่งในเด็กอายุ 18 เดือนสามารถเรียนรู้คำสั่งง่ายๆ ได้

    ทั้งนี้ คุณหมออดิศักดิ์ ยังฝากเทคนิคการปฐมพยาบาลลูกเล็กด้วยตัวเองก่อนนำส่งโรงพยาบาลตามสถานการณ์ต่างๆ เพื่อลดการบาดเจ็บได้ทันท่วงที...

    สำหรับ สิ่งของติดคอ ควรระวังกับสิ่งของชิ้นเล็กที่มีขนาดเล็กกว่า 3.2x6 ซม. (ทดสอบกับแก้ววัดขนาด) ซึ่งเด็กสามารถนำเข้าปาก และสำลักอุดตันหลอดลมได้ ซึ่งถ้ามองไม่เห็นของที่ติดคออยู่ในปากลูก ไม่ควรเอามือล้วงเข้าไป เพราะอาจจะดันให้สิ่งของลึกลงไปอีกได้ มีวิธีช่วยลูกได้คือ

    1.วางเด็กคว่ำลงบนท้องแขน โดยให้มือรองศีรษะในลักษณะที่ลำตัวอยู่สูงกว่าศีรษะ

    2.ใช้ฝ่ามือเคาะหลังระหว่างกระดูกสะบักสองข้าง 4 ครั้งติดต่อกัน

    3.พลิกเด็กนอนหงายบนท้องแขน และรองท้องแขนด้วยตัก โดยให้ศีรษะอยู่ต่ำกว่าลำตัว

    4.กดกลางหน้าอกด้วยนิ้ว 2 นิ้ว (บริเวณกึ่งกลางระหว่างหัวนมทั้ง 2 ข้างลงมา) และทำซ้ำ 2 ขั้นตอนจนกว่าของที่ติดอยู่จะหลุดออกมา

    5.สังเกตการหายใจอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา หากเด็กหมดสติ ให้เป่าปากสลับกับเคาะหลัง และกดหน้าอก ซึ่งถ้าทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้วยังไม่ได้ผล ควรนำตัวลูกส่งโรงพยาบาล หรือแจ้งหน่วยฉุกเฉิน 1669

    ส่วนอุบัติเหตุจาก การจมน้ำ โดยเฉพาะในอ่างอาบน้ำในบ้านตอนที่คุณแม่เผลอ หรือไม่ทันระวัง ลูกอาจลื่นจนจมน้ำได้ อย่ามัวแต่ตกอกตกใจ รีบอุ้มลูกขึ้นจากน้ำแล้วปฏิบัติดังนี้

    1.ขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง

    2.ให้เด็กนอนราบ กดหน้าผากและเชยคางขึ้นอย่างเบามือ เพื่อเปิดทางเดินหายใจ

    3.หากเด็กหยุดหายใจ หรือหายใจผิดปกติ ควรช่วยหายใจด้วยการใช้ปากของพ่อหรือแม่ครอบจมูก และปากของเด็ก เป่าลมเบาๆ นานครั้งละ 1-2 วินาที ประมาณ 2 ครั้ง พร้อมกับสังเกตดูว่าหน้าอกของเด็กขยายเมื่อเป่าลมหรือไม่

    4.ถ้าเด็กไม่หายใจแต่มีชีพจร ให้เป่าปากต่อประมาณ 20 ครั้งต่อนาที

    5.กรณีที่ไม่หายใจและไม่มีชีพจร ต้องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ โดยใช้วิธีการปั๊มหัวใจ โดยส่วนใหญ่เด็กวัยขวบปีแรก ให้ใช้นิ้ว 2 นิ้ว กดกึ่งกลางระหว่างหัวนมทั้งสองข้าง จนกระดูกหน้าอกยุบลงประมาณ 1-1.5 นิ้ว กดหน้าอก 5 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก 1 ครั้ง

    6.เอาน้ำออกจากกระเพาะอาหาร ด้วยการใช้มือสอด และพยุงบั้นเอวของเด็กแล้วยกเอวขึ้นให้อาเจียนน้ำออกมา เพื่อกระตุ้นการหายใจ การไหลเวียนเลือด และฟื้นฟูสภาพหลังจมน้ำ ขั้นตอนนี้ทำเมื่อลูกฟื้นแล้ว หรือหลังจากการกระตุ้นการหายใจด้วยการปั๊มหัวใจ

    7.เมื่อเด็กหายใจเป็นปกติแล้ว ควรเปลี่ยนเสื้อผ้า และเช็ดตัวให้แห้ง ให้เด็กนอนคว่ำแล้วตะแคงหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อป้องกันการอาเจียนจนสำลัก จากนั้นจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล


    หากทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้วลูกยังไม่มีอาการตอบสนอง ควรรีบนำส่งโรงพยาบาล และระหว่างทางควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นไปพร้อมกัน ซึ่งแม้จะระมัดระวังมากแค่ไหนก็ตาม หากลูกวัยเบบี๋เพิ่งจะเริ่มคลาน หัดนั่ง หัดยืน ไปจนถึงหัดเดิน ก็มีความเสี่ยงต่ออันตราย และความบาดเจ็บได้ทั้งนั้น คงดีกว่าหากคุณพ่อ คุณแม่รู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกต้อง เพื่อที่ว่าลูกได้รับบาดเจ็บเมื่อใดก็สามารถช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที

    ขอขอบคุณข้อมูลประกอบจากศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัย
    และป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี

    *******************************
    สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นตามสถานการณ์ต่างๆ อาทิ ไฟดูด กระดูกหัก หรือฟกช้ำดำเขียว สามารถติดตามได้ใน นิตยสาร Modern Mom คอลัมน์ “เปิดตำราปฐมพยาบาลลูก” ฉบับเดือนเมษายนนี้... การปฐมพยาบาลที่ถูกต้องถือเป็นเรื่องจำเป็นที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ควรรู้ไว้... แต่จะให้ดีกว่านั้นควรระมัดระวัง และดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุความเจ็บตัวเหล่านี้เป็นดีที่สุดค่ะ...

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เผยผลวิจัยแก๊สโซฮอล์ มีสารก่อมะเร็ง 2 ชนิด

    http://hilight.kapook.com/view/35050


    [​IMG]
    เผยผลวิจัยแก๊สโซฮอล์ มีสารก่อมะเร็ง 2 ชนิด (ไทยรัฐ)

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 มี.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดสัมนาวิชาการเรื่องทิศทางการวิจัยกับการแก้ไขวิกฤติสิ่งแวดล้อม โดย นางเดซี่ หมอกน้อย นักวิจัยด้านอากาศ จากศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม นำเสนอผลงานวิจัยปริมาณการแพร่กระจายของสารประกอบคาร์บอนิลในอากาศในเขตกรุงเทพมหานคร ระหว่างปี 2549 - 2551 ว่า ภายหลังรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ เนื่องจากราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินและดีเซลเฉลี่ย 5-10 บาทต่อลิตรและเตรียมเพิ่มสัดส่วนปริมาณเอทานอลให้มากขึ้นจากเดิมที่กำหนด 15% เป็น 85% ทำให้คาดการณ์ว่าจะส่งผลให้สารพิษกลุ่มคาร์บอนิล ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งและอยู่ในกลุ่มสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศ มีแนวโน้มสูงขึ้นตามมาด้วย

    นางเดซี่ กล่าวว่า เมื่อทำการวิจัย และเก็บตัวอย่างสารกลุ่มคาร์บอนิล แบบใช้ปั๊มดูดอากาศครอบคลุมพื้นที่ริมถนน 49 จุดในเขตกรุงเทพมหานคร ที่มีการจราจรหนาแน่น ก็พบค่าความเข้มข้นของสารกลุ่มคาร์บอนิล 10 ชนิด อาทิ ฟอร์มัลดีไฮด์ อะเซทัลดีไฮด์ อะซีโตน อะโครรีน มีความเข้มข้นแตกต่างกันไป ที่น่าตกใจ คือ พบระดับค่าความเข้มข้นของฟอร์มัลดีไฮด์ และอะเซทัลดีไฮด์ มีความเข้มข้นเกินมาตรฐานเฝ้าระวังที่หน่วยงานประเมินด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของสหรัฐอเมริกาประเมินความเสี่ยงของคนที่รับสารชนิดนี้เพียง 1.23 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรจำนวน 40 ต่อ 1 ล้านคน มีโอกาสเป็นมะเร็ง

    นางเดซี่ กล่าวต่อไปว่า ขณะที่บริเวณริมถนนของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนพระราม 5 รัชดาภิเษก สุขุมวิท และดอน เมืองมีค่าความเข้มข้นของสารฟอร์มัลดีไฮด์ 10.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงเกินระดับความเสี่ยงของสหรัฐอเมริกา 5 เท่า และสูงกว่าเมืองโอซาก้าของญี่ปุ่น และเมืองออนทาริโอของแคนาดา 3-5 เท่า ค่าความเข้มข้นของ สารอะเซทัลดีไฮด์ อยู่ในช่วง 3.31 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรจากมาตรฐานของอเมริกา 2.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและถือว่ามีค่าความเข้มมากกว่าเช่นกัน

    นางเดซี่ กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุที่ทำให้แก๊สโซฮอล์มีสารมลพิษดังกล่าว มาจากกระบวนการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อรถยนต์ปล่อยสารมลพิษออกมาแล้วเจอกับแสงในบรรยากาศ จะส่งผลให้สารมลพิษตัวอื่นๆเพิ่มมากขึ้น โดยจะเห็นว่ากรุงเทพมหานคร ตรวจพบโอโซนในบรรยากาศสูงขึ้น รวมทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีผลต่อสุขภาพมีแนวโน้มสูงขึ้น

    "ช่วง 2-3 ปีในพื้นที่ริมถนนที่มีการจรจรหนาแน่น โดยเฉพาะตอนกลางวันควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในเขตที่มีการจราจรคับคั่ง กรมควบคุมมลพิษได้ออกมาตรฐานค่าเฝ้าระวังสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศรวม 9 ชนิด อาทิ สารเบนซิน แต่สำหรับสารฟอร์มัลดีไฮด์ และสารอะเซทัลดีไฮด์ ยังไม่มีการกำหนดมาตรฐาน แต่แนวโน้มการใช้ก๊าซโซฮอล์ที่มีปริมาณ 5 ล้านลิตรต่อวัน ก็ควรต้องเร่งพิจารณาออกมาตรฐาน"นางเดซี่ กล่าว

    ด้านนายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า มลพิษหลักเป็นฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน โดยเฉพาะใน ต.หน้าพระลาน จ.สระบุรี และพื้นที่ จ.ราชบุรี สมุทรปราการ ลำปาง พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ และนครราชสีมา ส่วนกรุงเทพมหานคร ฝุ่นริมถนนค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 8.1-205.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐาน 3.3% ลดลงจากปี 2550 ที่ตรวจวัดได้ในช่วง 9.8-242.7 มคก./ลบ.ม. หรือ 4.7%

    อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวต่อไปว่า สำหรับพื้นที่ที่ยังมีปัญหาคือ ถนนดินแดง พระราม 6 พระราม 4 ราชปรารภ พิษณุโลก สุขุมวิท เยาวราช สามเสน สุขาภิบาล 1 นอกจากนี้ยังมีปัญหามลพิษทางอากาศจากก๊าซโอโซนที่เกินมาตรฐานเป็นครั้งคราว ในกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ ราชบุรี แนวโน้มปัญหาก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จะกลับมาเป็นมลพิษอันดับต้นๆในพื้นที่กรุงเทพมหานครหลังจากที่ปี 2548-2549 มลพิษดังกล่าวไม่เคยพบเกินมาตรฐาน แต่ระหว่างปี 2550-2551 ตรวจพบเกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะในเขตที่มีการจราจรหนาแน่นมาก อาทิ พื้นที่ดินแดง

    อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้สาเหตุหลักมาจากรถเก่าซึ่งส่วนหนึ่งไม่ได้รับการดูแลรักษาเครื่องยนต์และนำรถไปติดตั้งแก๊สเป็นเชื้อเพลิง ทั้งที่ส่วนใหญ่เข้าใจว่าจะลดมลพิษ แต่จากการสุ่มตรวจพบว่ากลับมีมลพิษตัวนี้ออกมาในปริมาณสูงมาก ปัญหาน่าจะมาจากการติดตั้งระบบแก๊สในส่วนควบคุมการจ่ายแก๊สไม่มีประสิทธิภาพ ที่ผ่านมาจะเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ไม่คำนึงถึงมลพิษ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนได้ประสานไปยังกระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบกให้ตรวจสอบการระบายมลพิษจากการติดตั้งแก๊สด้วย เพราะถ้าไม่ควบคุม จะทำให้มลพิษในกรุงเทพมหานครน่าเป็นห่วงยิ่งขึ้น


    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ไทยรัฐ
    [​IMG]
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มาเล่าให้ฟังแล้วครับ วันนี้น้าชายที่เป็นเสี้ยนเห็นเข้าขอส่องดู ก็ชอบใจครับ และเขายังบอกว่า พระสมเด็จ ๒ หน้านั้น ความจริงมีจริงๆ แต่คนในวงการไม่ยอมรับ เขาย้ำว่ามีจริงๆ เขายังสะสมพระเบญจภาคีชุดทองคำด้วย ว่ากันถึง ๘๐ ล้านบาท ผมก็ว่ามันเวอร์มากครับ นี่คือนิสัยของเสี้ยน เวลาไปเอาเขามาก็กดซะติดดิน ติโน่น ตินี่ เวลาจะปล่อยนี่คุยสรรพคุณสารพัด แถมเกทับเรื่องราคาจนเวอร์อีกต่างหาก...

    ส่วนเสี้ยนที่เป็นน้าสะใภ้ คนนี้ฝึกจากเสี้ยนที่เป็นน้าชาย ฝีมือจึงยังไม่เท่าไหร่ เธอเคยเช่าอกครุฑเศียรบาตรจากในเวบไซด์แห่งหนึ่งในราคา ๕๐,๐๐๐ บาท เมื่อมาเห็นอกครุฑเศียรบาตรองค์นี้เข้า เธอก็ดูแล้วดูอีกพยายามติหาที่เสีย จนท้ายสุดสรุปเอาเองว่า มีรอยของการแต่ง อิ..อิ.. อันนี้ผมเลยสันนิษฐานว่า พระของเรารู้ดีว่า แต่งหรือเปล่า หากไม่ได้แต่งนี่แสดงว่า เข้าตาเสี้ยนแล้วนิ...55555 ที่สำคัญเงินที่เสี้ยนจ่ายไปในการหาพระจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาทนี่ เอามาให้เราหาให้นี่ สงสัยจะได้ไม่ต่ำกว่า ๒๐-๓๐ องค์ ไม่ใช่องค์เดียว
     
  5. พุทธันดร

    พุทธันดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +3,969
    คุณหนุ่มคะ
    มีผู้ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งมาค่ะ 2,000 บาท

    [​IMG]
     
  6. dragonlord

    dragonlord เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,541
    โพสให้กำลังใจไปเมื่อเช้าแต่ไม่ขึ้นอะคะ ข้อความหาย

    สู้ๆนะคะ ที่หนึ่งของทีมรออยู่ อิอิ

    ไม่ต้องห่วงนะคะ เที่ยวเผื่อแล้วที่นี่คะ

     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. นิติชัย

    นิติชัย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณสำหรับผู้มาเยื่อนเขาใหญ่ และป๋าเขมครับ ที่ช่วยกดดัน
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียบร้อยแล้วครับ โดนสอบเรียบร้อย

    ช่วงเช้าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ออกจากห้องคนที่สอง
    ช่วงบ่ายเกือบชั่วโมง ออกจากห้องคนแรก

    piggi งานนี้ไม่รู้โดนหมูกัดหรือเปล่า หุหุหุ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เตือนกินแมลงทอด อันตรายถึงตาย คลื่นไส้ - พูดไม่ได้

    http://hilight.kapook.com/view/35083

    [​IMG]


    เตือนกินแมลงทอดอันตรายถึงตาย คลื่นไส้ อาเจียน พูดไม่ได้ เผยดักแด้หนอนไหมทอดยอดฮิตอันดับ 1 (มติชนออนไลน์)

    กระทรวงสาธารณสุขเตือนพวกชอบเปิบพิศดาร กินแมลงทอดสุ่มเสี่ยงรับสารฮีสตามีน คนเป็นโรคหืดหอบ อาจแพ้รุนแรงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต พบผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัวรุนแรง พูดไม่ได้ เผยดักแด้หนอนไหมทอดยอดฮิตอันดับ 1

    นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ว่า กระแสความนิยมบริโภคแมลงประเภทต่างๆ ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ชาวชนบทนิยมนำมาปรุงเป็นกับข้าว ด้วยวิธีทอด ปิ้ง ย่าง คั่ว หมก อ่อม แกง ยำ และตำน้ำพริก แต่ขณะนี้กลายเป็นการบริโภคเป็นอาหารว่าง ปริมาณการบริโภคแมลงทุกชนิดปีละประมาณ 2 ตัน แม้อาหารประเภทนี้จะมีคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากมีโปรตีนสูง แต่ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงในการปนเปื้อนสารอันตราย เช่น สารกำจัดศัตรูพืช​

    นพ.สุพรรณ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จัดระบบเฝ้าระวังติดตามผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 24 ธันวาคม 2550 ถึงวันที่ 7 มกราคม 2551 ได้รับรายงานผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษจากการกินแมลงทอด เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 118 ราย จาก 7 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี นครศรีธรรมราช ตรัง สงขลา สุราษฎร์ธานี ชัยนาท และนครราชสีมา ส่วนใหญ่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะรุนแรง พูดไม่ได้ ตัวสั่น เหงื่อออก ใจสั่น บางรายมีอาการชา ในจำนวนนี้มี 78 ราย หรือร้อยละ 66 จำเป็นต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล​

    นพ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า ผู้ป่วยจะมีอาการภายหลังกินแมลงทอดเฉลี่ย 4 ชั่วโมง โดยแมลงทอดที่นิยมกินมี 7 ชนิด ได้แก่ ดักแด้หนอนไหม หนอนไม้ไผ่ แมงดานา ตั๊กแตนแคระ แมลงกระชอน จิ้งโกร่ง และจิ้งหรีด แต่ที่กินมากเป็นอันดับ 1 หรือประมาณร้อยละ 90 คือ ดักแด้หนอนไหมทอด รองลงมาคือ ตั๊กแตนทอด ร้อยละ 14 ซึ่งมีแหล่งรับซื้อแมลงมาจากตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยผู้ป่วยทุกรายอาการหายอย่างรวดเร็ว หลังจากที่แพทย์ให้การรักษาด้วยยาแก้แพ้ และสารน้ำเกลือแร่และน้ำเกลือ

    "กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ทำการตรวจสอบตัวอย่างดักแด้หนอนไหมทอด จ.สุราษฎร์ธานี พบสารฮีสตามีน (Histamine) ซึ่งเป็นสารก่อให้เกิดภูมิแพ้ตกค้างอยู่ในร่างกาย โดยพบสูงถึง 875 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม อย่างไรก็ตาม มาตรฐานกำหนดปริมาณฮีสตามีนในอาหารระดับสูงสุดของแต่ละประเทศแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดอาหาร โดยมีได้ตั้งแต่ 100-200 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แต่ของประเทศไทยกำหนดให้มีได้น้อยกว่า 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม" นพ.สุพรรณ กล่าว และว่า อาการภายหลังรับสารฮีสตามีนจะรุนแรงมากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณที่กินเข้าไป แต่ในกลุ่มที่มีประวัติภูมิแพ้หรือหอบหืด จะตอบสนองได้เร็วกว่ากลุ่มอื่นๆ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงกินดักแด้หนอนไหมและหนอนของตัวต่อ เพราะอาจเกิดอาการแพ้รุนแรงขั้นเสียชีวิตได้

    ด้าน นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ โฆษกกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการสอบสวนเส้นทางของแมลงทอดที่มีรายงานผู้ป่วย 7 จังหวัด พบว่ารับดักแด้หนอนไหมมาจากแหล่งเดียวกันคือ ตลาดโรงเกลือ ทั้งนี้ คนไทยและประเทศเพื่อนบ้านนิยมกินแมลงทอด และมีการป่วยอยู่เนืองๆ แต่ไม่ทราบสาเหตุ สำหรับประเทศไทยเริ่มมีรายงานการแพ้สารชนิดนี้ในปี 2550 ในกลุ่มที่ทำงานในโรงงานปลากระป๋อง จ.สมุทรปราการ ซึ่งนำปลาทูน่ามาทิ้งในอุณหภูมิห้อง ก่อนจะนำมาทำเป็นอาหาร โดยอาหารจำพวกปลาจะมีสารฮีสตามีน เมื่ออยู่ในอุณหภูมิระหว่าง 5-60 องศาเซลเซียส แบคทีเรียจะเปลี่ยนกรดอะมิโนฮีสตาดีน (Histadine) เป็นฮีสตามีน และพบในแมลงเกือบทุกชนิดที่คนไทยกิน แต่พบมากในหนอนตัวต่อ มีมากถึง 5,221 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และดักแด้หนอนไหม 5,197 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งความร้อนไม่สามารถทำลายสารฮีสตามีนได้​



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก มติชน
    [​IMG]
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ​
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เดี๋ยวนี้เข้าเวปพลังจิต จะเจอข้อความแบบนี้

    Forbidden

    You don't have permission to access /showthread.php on this server.
    <HR><ADDRESS>Apache/2.2.11 (Unix) DAV/2 PHP/5.2.9 Server at palungjit.org Port 80</ADDRESS>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  17. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ไปอบรม หรือไปส่องสัตว์ดูธรรมชาติกันครับ เนี่ย ดูไม่เครียดเลยนา..
    ปลายักษ์ครับ

    [​IMG]

    จำชื่อไม่ได้แล้ว รู้แต่เป็นปลาจากทวีปอเมริกาใต้


    [​IMG]
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รูปผมขอสงวนลิขสิทธิ์ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...