พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อ่า น่าจะเป็นประเด็นหลังดีกว่า เชื่อพี่เหอะ

    โดยเฉพาะบ้านคุณเพชร เข้าไปเห็นแล้วจะตะลึงตึงๆแน่ๆเลย

    ส่วนบ้านคุณnongnooo ก็มีมากพอสมควร

    ไม่ว่าจะเป็นคุณเพชร หรือคุณnongnooo ทั้งสองเป็นประเภทเก็บเงียบครับ
     
  2. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    ขอให้คุณหนุ่ม สนุก กับการอบรม ครับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ย้อนอดีต 10 เกม “ผี” พ่ายสุดช็อก!!
    http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9520000031610
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 มีนาคม 2552 15:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>แมนฯยู ในวันที่พ่ายแพ้</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> พ่ายแบบเละเทะต่อ ลิเวอร์พูล 1-4 ในศึก “วันแดงเดือด” ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่ส่งผลเสียมากมายต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังลุ้น 5 แชมป์ แต่ว่าเกมนี้ก็ถูกบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์ 10 เกมแพ้สุดช็อกของ “ผีแดง” เรียบร้อยแล้ว

    1.เซาแธมป์ตัน ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6-3 เมื่อ 26 ตุลาคม 1996
    หลังโดน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อัดพังพาบที่ เซนต์ เจมส์ ปาร์ค แมนฯยู ถูกกำราบอีกครั้ง ด้วยน้ำมือของ เซาแธมป์ตัน จากการยิงของ เอยัล เบอร์โควิช, แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ และแฮตทริกของ เอกิล ออสเทนสตัด มิหนำซ้ำ รอย คีน ยังโดนตะเพิดออกจากสนามอีกด้วย

    2.นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5-0 เมื่อ 20 ตุลาคม 1996
    ถูก แมนฯยู ยำใหญ่มาในศึก คอมมูนิตี ชิลด์ 0-4 แต่ว่า นิวคาสเซิล ก็มาเอาคืนอย่างเจ็บแสบด้วยสกอร์ 5-0 จากประตูของ เกวิน พีค็อก, ดาวิด ชิโนลา, เลส เฟอร์ดินานด์ และ อลัน เชียเรอร์ พร้อมขยับเข้าใกล้แชมป์ พรีเมียร์ชิป แต่สุดท้ายเป็น “ผีแดง” ที่แซงเข้าวินไปแบบหน้าตาเฉย

    3.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4 เมื่อ 14 มีนาคม 2009
    เนมายา วิดิช กองหลัง แมนฯยู ที่ได้รับคำชมล้นหลาม มาฟอร์มหลุดแถมโดนใบแดง ทำให้ ลิเวอร์พูล บุกมาถล่ม 1-4 เป็นการแพ้ย่อยยับที่สุดต่อ “หงส์แดง” นับตั้งแต่ปี 1936 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำผลงานสวยหรูชนะมา 11 นัดรวด เฟอร์นานโด ตอร์เรส, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ฟาบิโอ ออเรลิโอ และ อันเดรีย ดอสเซนา เรียงหน้ายิงให้ทีมเยือน

    4.วูล์ฟส์ ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อ 17 มกราคม 2004
    เคนนี มิลเลอร์ ดาวยิงสกอตต์ ยิงประตูโทนให้ วูล์ฟส์ ทีมท้ายตารางพลิกล็อก อัด แมนฯยู ดาวิด เบลลิยง ยิงได้ในช่วงท้ายแต่วืดตีเสมอ เนื่องจากล้ำหน้า ถือเป็นเกมสุดท้ายที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลัง “ผีแดง” ลงสนามก่อนโดนแบน 8 เดือน แต่ในท้ายที่สุดแล้ว “หมาป่า” ก็มีอันต้องตกชั้นอยู่ดี

    5.แมนเชสเตอร์ ซิตี ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-1 เมื่อ 14 มีนาคม 2004
    แมนฯยู เพิ่งตกรอบ แชมเปียนส์ ลีก มาหมาดๆ ยังบุกไปถูก แมนฯซิตี อริร่วมเมืองยำซะป่นปี้ ร็อบบี ฟาวเลอร์ ยิงเบิกร่อง ก่อนที่ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ จะมาซัดปิดกล่อง เวลานั้นกุนซือ “เรือใบสีฟ้า” คือ เควิน คีแกน ที่เคยชนะด้วยสกอร์ถล่มถลายสมัยคุม นิวคาสเซิล มาแล้ว

    6.เชลซี ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5-0 เมื่อ 3 ตุลาคม 1999
    แมนฯยู ถูกหยุดสถิติไร้พ่าย 29 นัด มัสซิโม ตาอิบี นายด่านประตูน้ำชาวอิตาเลียน โชว์ฟอร์มเหวอ เล่นแค่ 4 เกมแต่เสียไปถึง 10 ประตู นิคกี บัตต์ โดนไล่ออก เชลซี ได้ประตูจาก คริส ซัตตัน, โจดี มอริส, กุสตาโว โปเยต์ เหมาสอง และ เฮนนิง เบิร์ก ทำเข้าประตูตัวเอง

    7.แอสตัน วิลลา ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 เมื่อ 19 สิงหาคม 1995
    นัดเปิดฤดูกาล มาพร้อมกับประโยคสุดคลาสสิกจากปากของ อลัน แฮนเซน ที่ว่า “คุณไม่มีทางคว้าแชมป์โดยใช้นักเตะเด็กๆ” แมนฯยู ขาย พอล อินซ์ และ อังเดร แคนเชลสกีย์ ออกไป พร้อมดัน พอล สโคลส์, เดวิด เบ็คแฮม, นิคกี บัตต์ และ แกรี เนวิลล์ ขึ้นมา แม้จะแพ้ วิลลา แต่สุดท้าย แมนฯยู ชุดนี้เป็นแชมป์ลีกควบดับเบิลแชมป์

    8.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-1 เมื่อ 15 พฤษภาคม 2007
    แมนฯยู คว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิป ไปครองแน่นอนแล้ว แต่ว่า เวสต์แฮม ยังต้องการชัยชนะเพื่ออยู่รอด สุดท้ายเป็น “ขุนค้อน” บุกมาอัด 1-0 จากประตูโทนของ คาร์ลอส เตเบซ ส่งให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ตกชั้นแทน หลังจากนั้นหอกชาวอาร์เจนไตน์ ก็ย้ายมาเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด

    9.ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-1 เมื่อ 1 มกราคม 1996
    พอล สโคลส์ ป่วย แถม ปีเตอร์ ชไมเคิล บาดเจ็บ ส่งให้ สเปอร์ส เอาชนะไปได้อย่างราบคาบ 4-1 เท็ดดี เชอริงแฮม, โซล แคมป์เบลล์ และ คริส อาร์มสตรอง เหมาสองประตู ความพ่ายแพ้เกมนี้ส่งให้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด นำห่าง 7 แต้ม แต่สุดท้ายแล้ว แมนฯยู ก็คว้าแชมป์

    10.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ ดาร์บี เคาน์ตี 2-3 เมื่อ 5 เมษายน 1997
    เล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด แท้ๆ แต่ปล่อยให้ ดาร์บี บุกมานำห่าง 3-1 แม้ว่า โอเล กุนนาร์ โซลา จะยิงไล่ขึ้นมาแต่สุดท้ายก็ไม่ทันเวลา ประตูชัยของ “แกะเขาหล็ก” มาจากการพลิกของ เปาโล วันโชเป บริเวณครึ่งสนามก่อนที่จะลากเข้าไปยิงผ่าน ปีเตอร์ ชไมเคิล
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  6. prawangna

    prawangna Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +33
    การไต่สวนของพญายมราชและหน้าที่ของพญายม


    คตินิยมทางพระพุทธศาสนาที่ปรากฏในไตรภูมิพระร่วง และตามเรื่องราวของพระมาลัยเถระนั้น กล่าวเอาไว้อย่างชัดเจนว่าองค์พญายมราชนี้เป็นเทวดาชั้นผู้ใหญ่ที่มีคุณธรรมและมีจิตใจเมตตาเป็นอย่างยิ่ง มิได้เป็นภูตผีปีศาจแต่อย่างใด หากแต่พระองค์ทรงรับหน้าที่ในการปกครองดินแดนนรก ดินแดนแห่งการลงทัณฑ์มีหน้าที่ไต่สวนดวงวิญญาณต่างๆ ที่จำบุญบาปของตนไม่ได้

    <O:p</O:p
    สำหรับการไต่สวนดวงจิตวิญญาณเพื่อตัดสินความนั้น พญายมจะตั้งคำถาม 5 ข้อ ให้ดวงวิญญาณตอบโดยมีรายละเอียดดังนี้
    <O:p</O:p
    ข้อที่ ๑.พญายมราชจำทำการไต่ถามถึงปัญหาข้อที่ว่า
     
  7. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    นำมาฝากแฟนๆ ผีครับจากไทยโพสต์



    เซอร์ถอดใจผีท่าจะไปไม่ถึง5แชมป์

    <!-- main-content-block --><!-- 20 มีนาคม 2552 - 00:00 -->
    20 มีนาคม 2552 - 00:00


    เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รับถึงแม้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดนี้จะเป็นชุดที่ดีที่สุดที่เคยคุมทีมมาตลอด 22 ปีที่อยู่กับสโมสร แต่กลับไม่คิดว่าพวกเขาจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ทำ "ควินทูเปิล" คว้า 5 แชมป์ได้สำเร็จในฤดูกาลนี้
    แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงเวลาได้แชมป์ไปแล้ว 2 รายการ คือ ฟีฟ่าคลับ เวิลด์คัพ กับ คาร์ลิงคัพ ส่วนอีก 3 รายการที่เหลือคือ พรีเมียร์ลีก ที่ถูกมองว่ามีโอกาสสูงมากที่จะได้แชมป์เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากยึดตำแหน่งจ่าฝูงมาอย่างยาวนาน นอกจากจะมีคะแนนนำทีมที่อยู่ข้างหลัง 4 แต้มแล้ว พวกเขายังเตะน้อยกว่าทีมอื่นอยู่ 1 นัด
    ส่วนเอฟเอ คัพ ก็มาถึงรอบเซมิไฟนอลได้แล้ว ขณะที่ในแชมเปียนส์ลีกก็ยังอยู่ในเส้นทางป้องกันแชมป์ โดยกำลังรอเตะในรอบควอร์เตอร์ไฟนอล
    แต่เฟอร์กูสันกล่าวว่า ด้วยธรรมชาติของฟุตบอลถ้วยที่เป็นรายการที่คาดเดาได้ยาก ทำให้การคว้าแชมป์ทั้งหมดทั้ง 5 รายการอาจจะไกลเกินเอื้อม
    "สิ่งสำคัญเกี่ยวกับฟุตบอลถ้วยคือคุณจำเป็นต้องเล่นให้ที่ดีที่สุด แต่มันไม่ใช่แค่นั้น คุณยังต้องอาศัยโชคด้วยเหมือนกัน ซึ่งผมคิดว่าอาจจะเป็นการขอที่มากเกินไปถ้าจะหวังให้ทีมโชว์ฟอร์มดีกับทั้งมีโชคช่วยไปเสียทุกเกมที่เหลือ เพื่อให้เข้าทางของทีมคุณทั้งหมด"
    "ในตอนนี้แนวรุกของทีมกลัวแผงรับของเรา และแนวรับของทุกทีมกำลังหวาดกลัวมิดฟิลด์และกองหน้าของเรา นั่นช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักเตะ แต่มันก็ยังยากอยู่มาก"
    ระหว่างการให้สัมภาษณ์ผ่าน นิว สเตตส์แมน แมกกาซีน โดย อลาสแตร์ แคมป์เบลล์ ที่ปรึกษาของอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โทนี แบลร์ เฟอร์กูสันกล่าวว่า ความสำเร็จสูงสุดของเขาคือการคว้าทริบเปิลแชมป์ ที่ได้แชมเปียนส์ลีก, พรีเมียร์ลีก และเอฟเอคัพ ในปี 1999
    เขายังยอมรับว่าความผิดพลาดที่สุดของเขาคือการปล่อย "ยาป สตัม" กองหลังชาวดัตช์ไปจากสโมสร และที่ผิดหวังมากสุดคือการไม่ได้เซ็นสัญญา "พอล แกสคอยน์" ตอนที่เขาย้ายออกจากนิวคาสเซิลเมื่อปี 1988 เฟอร์กูสันยังกล่าวว่าเขายังไม่มีความคิดที่จะรีไทร์
    "ตอนนี้ผมอายุ 67 แล้ว แต่สุขภาพก็ยังดีอยู่ ผมยังมีแรงขับดันและพลังานเหลือเฟือที่จะทำงานต่อ ผมอยู่ที่นี่มากว่า 22 ปีแล้ว แต่ผมยังสนุกกับการมาสนามซ้อมทุกครั้ง"
    ขณะเดียวกันทีมคู่แข่งสำคัญของแมนฯ ยูฯ คือลิเวอร์พูล ทีมที่เพิ่งยัดเยียดความพ่ายแพ้ครั้งยับเยินให้กับทีมปีศาจแดงถึงโอลด์แทรฟฟอร์ดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ข่าวดี เมื่อสามารถจับราฟาเอล เบนิเตซ ต่อสัญญายาวอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ต่อไปอย่างน้อยจนถึงปี 2014
    และจากการที่สามารถจับกุนซือคนเก่งปักหลักอยู่กับทีมต่อไปด้วยสัญญา 5 ปีเป็นที่เรียบร้อย น่าจะทำให้นักเตะซูเปอร์สตาร์ของทีมหลายๆ คนตัดสินใจยอมต่อสัญญาใหม่ให้ทีมเสียที อย่างเดิร์ก เคาต์ เคยยอมรับว่าเขาได้รับการแนะนำให้รอจนกว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับสัญญาของเบนิเตซ เช่นเดียวกับ แดเนียล แอ็กเกอร์ ที่พักเจรจาสัญญาใหม่เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว รวมไปถึง เฟร์นันโด ตอร์เรส, สตีเวน เจอร์ราร์ด กับโฆเซ เรย์นา ที่ทางสโมสรจะต้องจับเซ็นสัญญาอยู่ช่วยทีมต่อไปให้ยาวนานที่สุด.
     
  8. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    พี่หนุ่มครับผมขอรบกวนสอบถามหน่อยนะครับ
    พี่หนุ่มได้ส่งหนังสือมาหรือยังครับ ผมกลัวส่งมาแล้วหายครับ
    จึงสอบถามดูเพราะไม่เห็นมีครับ
    ถ้ายุ่งก็ไม่เป็นไรครับ รบกวนช่วยตอบด้วยนะครับ
     
  9. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    สมเด็จพระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน พระอาจารย์ของสมเด็จโต พรหมรังสี
    <O:p
    สมัยเมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (พระอาจารย์โต พรหมรังสี) ท่านบวชเป็นพระภิกษุใหม่ ๆ ยังไม่มีสมณศักดิ์ใดๆ นั้น ท่านเรียนพระปริยัติจนแตกฉานที่วัดมหาธาตุ สนามหลวง โดยมีพระสังฆราชสุกไก่เถื่อน เป็นพระอาจารย์ วิธีการเรียนของท่านก็แปลกกว่าวิธีของพระภิกษุรูปใด ๆ นั่นคือ ท่านจะกำหนดล่วงหน้ามาว่า วันนี้ท่านจะเรียนจากหน้าไหนถึงหน้าไหนในหนังสือ พอมาถึงสำนักเรียน ก็จะเปิดหนังสือออกแล้วแปลไปเรื่อยโดยไม่ติดขัดจนจบหน้าที่กำหนดไว้ ต่อหน้าพระพักตร์สมเด็จพระสังฆราชสุกฯ พอจบท่านก็กราบแล้วกลับวัดระฆัง จนกระทั่งวันหนึ่ง สมเด็จพระสังฆราชสุก ฯ มีรับสั่งว่า


    <O:p</O:p
     
  10. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    พระเถรานุเถระ ชั้นสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ พระญาณสังวร หลายพระองค์ แล้วยังปรากฏหลักฐานว่ามีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่หลายท่านให้ความเคารพในปัจจุบัน ท่านเหล่านั้น ล้วนต่างเคยร่ำเรียนศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ปรากฏในทำเนียบสายวิชชา ตัวอย่างเช่น
    <O[​IMG]</O[​IMG]<O[​IMG]
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) มาศึกษาแต่ครั้งยังเป็นสามเณร เมื่ออายุประมาณ ๑๙ ปี จนเมื่ออุปสมบทแล้ว พระญาณสังวร (สุก) เป็นกรรมวาจาจารย์ ท่านจึงมาศึกษาต่อจนจบห้องสุดท้ายคือ ออกบัวบานพรหมวิหาร
    <O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร ศึกษาวิชชากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับกับพระสังวรานุวงเถระ (เมฆ) จนจบ

    <O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]พระอาจารย์เสาร์ กันตะสีโล วัดเลียบ อุบลราชธานี (อุปสมบท พ.ศ. ๒๔๒๕) ขึ้นพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ท่านจำพรรษาอยุ่วัดพลับ ๓ ปีจึงจบ
    <O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]พระอาจารยมั่น วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร เดิมเกิดจังหวัดอุบลราชธานี อุปสมบท พ.ศ. ๒๔๓๔ วัดคำบง (มหานิกาย) ท่านสัญจรจาริกมาศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ จำพรรษาที่วัดพลับ ๑ พรรษา จนจบเบื้องต้น ๔ ห้องพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ

    ทั้งสามท่านจบ ปิติ- ยุคล-สุข-อานาปานสติ
    <O[​IMG]</O[​IMG]
    พระภิกษุขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล เกิด พ.ศ. ๒๕๓๐ บรรพชาอุปสมบท พ.ศ.๒๔๕๑ ที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้เดินทางมาวัดราชสิทธ์ (พลับ) เมื่อท่านมานั้นออกพรรษามาแล้ว มาขึ้นกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ พระภิกษุขาวศึกษาพระกรรมฐานอยู่ประมาณปีเศษ ก็จบพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ออกพรรษาแล้วอีกปี จึงเดินทางกลับบ้านเกิด
    <O[​IMG]</O[​IMG]
    <O[​IMG]พระราชสังวรภิมนต์ (โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี มาศึกษาต่อ ครั้งเป็นพระโต๊ะ

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  11. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ทำไมถึงเรียกพระพิมพ์นี้ว่า"พระยอดธง" ?

    พระยอดธง คือพระพุทธรูปที่ตรงส่วนฐาน มีเดือยยื่นออกมาเพื่อให้เสียบติดกับยอดธง เพื่อใช้ประดิษฐานที่ยอดธงที่ใช้ในการออกศึกสงคราม เพื่อความคุ้มครองให้กับกองทัพ ในการคุ้มครองภยันตราย จากข้าศึกศัตรู และเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับไพร่พล และเป็นสัญลักษณ์ในการนำมาซึ่งชัยชนะในการศึก

    ตามตำนานที่บูรพาจารย์สมัยโบราณท่านเล่าให้ฟังว่า เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นมาแต่สมัยโบราณ โดยประดิษฐานไว้บนยอดธงสำหรับกองทัพที่ออกสงครามเรียกกันว่า "พระชัยยอดธง" หรือที่ประจำยอดธงสำหรับกรมกองทหารที่เรียกกันว่า "ธงชัยเฉลิมพล" การที่กองทหารมีธงชัยบรรจุพระพุทธรูปไว้ที่ยอดธงนี้ก็คงจะทำตามแบบอย่างธงชัยของทหารในสมัยโบราณที่ถือลัทธิไสยศาสตร์

    รตนะสูตร กล่าวถึงอานุภาพพระรัตนตรัย กรณียเมตตสูตร กล่าวถึงอานุภาพแห่งเมตตา ธชัคคสูตร กล่าวถึงธงชัยของเทวดา และพระพุทธเจ้า มีเรื่องย่อว่า เมื่อเทวดารบกับอสูร พระอินทร์สั่งเทวดาว่า ถ้าเกิดความกลัวในการรบให้มองไปที่ธงรถศึกของเทวดาชั้นผู้ใหญ่ เช่น ท้าวปชาบดีเทพ ท้าววรุณเทพ ความกลัวจะหายไป พระพุทธเจ้าตรัสโดยนัยเดียวกันว่า ถ้าพระสงฆ์สาวกรูปใดเข้าไปบำเพ็ญเพียรในป่าเกิดความกลัวขณะนั่งสมาธิ ให้มองไปที่ยอดธงของพระองค์ อันหมายถึงให้สวดพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ ความกลัวจะหายไป

    บทความที่นำเสนอนี้ ผมได้เรียบเรียงจากข้อมูลแต่ละที่ จับมาปะติดปะต่อกัน เพื่อหาข้อสรุปเพื่อเป็นธรรมทานให้ทราบถึงที่มาของการจัดสร้างพระยอดธงของแต่ละที่แต่ละพระเกจิอาจารย์เท่านั้น

    ภาพพระยอดธงจากเวป www.myamulet.com/<WBR>article?lang=th

    ขออภัยด้วยที่ผมไม่สามารถ post ภาพพระยอดธงของวังหน้า และพระยอดธงที่สร้างในสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาได้ เนื่องจากคุณหนุ่มได้ขอเอาไว้ เพื่อไม่ให้คนมีมิจฉาทิฐิได้ไว้ สำหรับในคณะพระวังหน้าก็คงจะมีไว้บูชากัน การได้ทราบถึงที่มาที่ไปของการสร้างเพื่อโน้มนำให้เกิดศรัทธา และอธิษฐานจิตได้ตรงตามความปรารถนาหากสิ่งนั้นไม่เป็นภัยต่อชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์...


    ติดตามได้ที่กระทู้นี้ครับ
    http://palungjit.org/showthread.php?p=1982000#post1982000
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2009
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949

    ยังเลยครับน้องเอ

    ไว้กลับไปจากอบรมก่อนนะครับ จะทยอยส่งให้สำหรับท่านที่ผมยังไม่ได้ส่ง ช่วงนี้ยุ่งหลายๆเรื่องครับ

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ขอบคุณครับคุณเพชร

    แต่สำหรับชาววังหน้าฯ ได้เห็นกันแล้วครับ และมวลสารที่นำมาสร้างเป็นมวลสาร(ชนวน)ที่เหลือจากการสร้างพระพุทธชินราช ,พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ครับ

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>8 วิธีถนอมหลังห่างไกลอาการปวด
    http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9520000032001
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 มีนาคม 2552 14:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจาก www.phunchulee.com</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> การนั่งแบบไม่มีพนักพิงจากเก้าอี้ นั่งจมลงไปในเก้าอี้ นั่งชิดแป้นพิมพ์หรือเมาส์เกินไป เท้าไม่สัมผัสพื้น นั่งบนเก้าอี้ที่ไม่เหมาะสมทั้งโต๊ะทำงาน โต๊ะคอมพิวเตอร์ นั่งนานๆ โดยไม่มีการหยุดพัก รวมไปถึงการยกของหนักผิดวิธี ซึ่งทุกข้อที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ดร.นิโคล ลีเดอท ไคโรแพรคเตอร์ จากประเทศออสเตรเลีย หนึ่งในทีมแพทย์ของคลีนิกกายภาพบำบัดดีสปายน์ ไคโรแพรคติก บอกว่านั่นคือสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังได้

    ดร.นิโคล กล่าวว่า สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดอาการปวดหลัง นั่นก็คือ การนั่ง และการยกของที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าการนั่งบนเก้าอี้เป็นเวลานานๆ โดยไม่ลุกขึ้นและผ่อนคลายกล้ามเนื้อนั้น อาจจะส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังได้ เนื่องจากมีการเกร็งกล้ามเนื้อมากเกินไป อีกทั้งการยกของหนักๆ โดยใช้ท่ายกที่ผิดลักษณะแล้ว ก็อาจจะทำให้เกิดการเจ็บปวดหลังได้เช่นเดียวกัน

    สำหรับใครที่มีอาการปวดหลังเนื่องจากสาเหตุการนั่งเก้าอี้ และการยกของหนักๆ ดร.นิโคล แนะนำว่า พฤติกรรมการนั่งเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมากที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ปวดหลัง อีกทั้งเก้าอี้ที่ดีมีส่วนทำให้ลดการปวดหลังลงได้ ซึ่งหลักของการนั่งที่ถูกวิธีนั้น มีดังต่อไปนี้

    1. ควรนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิง โดยมีความกว้างและลึกที่ทำให้ผู้นั่ง นั่งให้หลังชนเก้าอี้ได้ โดยที่เท้าสัมผัสกับพื้น หากไม่สามารถนั่งเช่นนี้ได้ให้หาที่วางขาให้เข่าอยู่ในลักษณะเท่ากัน และวางเมาส์ไว้ใกล้ตัวเพื่อจะได้ไม่ต้องเอื้อมไปจับ พัก 1-2 นาที ทุกๆ 20-30 นาที ลุกขึ้นและผ่อนคลาย

    2. พยายามนั่งให้หลังชิดพนักเก้าอี้ทุกครั้ง ไม่ควรนั่งจมลงไปในเก้าอี้ เพราะจะทำให้หลังงอได้

    3. อ่านหนังสือให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม หากต้องอ่านหนังสือ หรือ เอกสาร และพบว่าเก้าอี้อยู่สูงกว่าวัตถุ ควรหาแฟ้มเอกสาร หรือกล่องมารองหนังสือเพื่อให้หนังสืออยู่ระดับเดียวกับสายตา เพราะถ้าหากอยู่ต่ำกว่าสายตาก็จะทำให้เวลาอ่านต้องมองขึ้นมองลง อาจทำให้เกิดอาการปวดที่คอและหลังท่อนบนได้

    4. ไม่ควรนั่งเก้าอี้ที่มีพนักเก้าอี้ใหญ่มากเกินไป เพราะจะทำให้ต้องเขยิบเข้าไปนั่งกลางเก้าอี้ ทำให้ขาไม่ได้รับน้ำหนัก ก็อาจทำให้ปวดหลังได้ สำหรับพนักเก้าอี้ที่เหมาะสมจะต้องทำให้หลังของคุณพิงพนักเก้าอี้ได้ และทำให้รู้สึกสบาย ไม่ทำให้หลังโค้งงอมากเกินไป ถ้าหากว่าคุณเป็นคนตัวสูง ให้หาเบาะรองนั่งมารองเพราะว่าจะช่วยรับน้ำหนักที่ขาของคุณได้มากขึ้น

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจาก www.wachirawit.ac.th</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับวิธีการถนอมหลัง เนื่องจากการยกของหนักๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหลังนั้น ดร.นิโคล ได้แนะเทคนิควิธีเกี่ยวกับการยกของหนักอย่างถูกต้องดังต่อไปนี้

    1.. ในการยกของแต่ละครั้งควรพยายามให้หลังโค้งตามธรรมชาติอยู่เสมอ เพราะส่วนโค้งของหลังเป็นส่วนที่รับน้ำหนักและพยุงหลังได้ดีที่สุด สันหลังจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากเมื่อคุณต้องยกของ วิธีการที่ดีและช่วยป้องกันไม่ให้ปวดหลังก็คือการยกสะโพกและงอเข่าช่วยทุกครั้งเมื่อยกของหนัก

    2. ควรแยกขาออกจากกัน ในขณะที่ยกของเพราะจะช่วยทำให้คุณอยู่ในตำแหน่งที่สมดุลเมื่อต้องยกของ เพราะระยะห่างระหว่างขาที่กว้างขึ้นจะเป็นประโยชน์มากในการรองรับน้ำหนักตัวและจากวัตถุที่ยก

    3. พยายามเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องก่อนยกของทุกครั้ง เพราะว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องจะช่วยพยุงหลังของคุณ ในขณะที่คุณยกของหนักๆ ก็จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บหรืออาการปวดที่เกิดจากการยกของได้

    4. ควรใช้อุปกรณ์ช่วยในการยกโดยมีวิธีการยกของที่ถูกต้อง คือการถือของห่างจากลำตัวเพราะจะเป็นการช่วยเพิ่มแรงดัน และในขณะที่ยกและเคลื่อนย้ายสิ่งของนั้นควรหมุนตัวไปทั้งตัวแทนที่จะหมุนแค่กระดูกสันหลัง ควรวางของให้อยู่ในตำแหน่งสมดุลใน อีกทั้งไม่ควรยกของให้ประชิดแนบลำตัว เพราะหลังของคุณสามารถรับน้ำหนักได้เพียง 100 ปอนด์เท่านั้น

    ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่มักมีปัญหาทางด้านกระดูกสันหลัง กระดูกงอ การเจ็บป่วยจากการไม่สมดุลของร่างกาย และการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือ ผู้สูงอายุ โดยกลุ่มผู้ใหญ่จะมีจำนวนมากสุด และโรคที่พบก็คือ ปวดหัว ปวดคอ ปวดไหล่ ปวดสะโพก และมีอาการชา ดังนั้นควรเอาใจใส่ดูแลรักษากระดูกสันหลังให้ดีก่อนสายเกินไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รู้เท่าทัน เมื่อ "ญาติ-เพื่อน" ออกปากขอยืมเงิน
    http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9520000031895
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 มีนาคม 2552 10:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ในวันที่สังคมไทย และสังคมโลกยังอยู่ด้วยกันอย่างช่วยเหลือเกื้อกูล มีสิ่งใดก็นำมาแบ่งปันกัน ใครไม่มีก็ช่วยประคับประคองกันไป ไม่รบราฆ่าฟันกันด้วยเรื่องของความโลภ กิเลส หรือเงินตรา คำว่า "หนี้" ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องถูกตราเอาไว้ในพจนานุกรม

    แต่ในเมื่อวันหนึ่ง มนุษย์บางส่วนเลือกที่จะปฏิเสธโลกแบบเดิม หันมาเรียกร้องหาโลกแห่งทุนนิยม โลกแห่งการแข่งขันเสรี (?) โลกที่ใครมือยาวสาวได้สาวเอา โลกที่ต้องมีโทรศัพท์มือถือไว้โฟนอินให้โก้เก๋ นับถือเงินตราเป็นพระเจ้า สิ่งหนึ่งที่มนุษย์เหล่านั้นต้องพึงสังวรไว้ก็คือ "การรู้เท่าทัน" โลกในแบบที่พวกเขาต้องการ เพราะมีหลายคนที่อยู่กับโลกใบนั้นอย่างหลงระเริง ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ติดกับข้าวของหรูหรา เงินตรา และอำนาจ จนยอดหนี้พุ่งทะลุยอดรายได้ รายการจ่ายบัตรเครดิตยาวเป็นหางว่าว มีเจ้าหนี้เงินกู้มากมายก่ายกอง

    โดยเฉพาะในยุคนี้ ยุคที่เศรษฐกิจบนโลกทุนนิยมเจอสัญญาณอันตราย ไม่สามารถก้าวต่อไปได้ในแนวทางเดิม เราจึงมี "มนุษย์หนี้" หรือเหยื่อที่ไม่รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น และในวันใดวันหนึ่ง ก็อาจต้องพบเจอ "มนุษย์หนี้" ที่เป็นญาติสนิทมิตรสหายมาหยิบยืมเงินกันถึงหน้าประตูบ้านก็ได้

    แนวทางที่จะช่วยแก้ไขสถานการณ์กลืนไม่เข้า คายไม่ออกที่เกิดขึ้น อาจทำได้โดย

    พูดคำว่า "ไม่" ให้ติดปาก

    ปฏิเสธคำขอยืมเงิน โดยไม่ต้องใช้ถ้อยคำผัดผ่อนต่าง ๆ นานา เช่น "ขอเวลาฉันคิดหนึ่งวัน, รอสิ้นเดือนให้เงินเดือนฉันออกก่อน" หรือ "ขอปรึกษาภรรยาก่อน" บางคนอาจเลือกใช้วิธีผัดผ่อนผ่านถ้อยคำเหล่านี้เพราะคิดว่าจะช่วยรักษาสัมพันธภาพที่เคยมี หรือเคยดีเอาไว้ได้ แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ เพราะถ้าให้ยืมไม่ได้ ความจริงก็คือให้ยืมไม่ได้ ด้านเพื่อนของคุณเองก็จะเสียเวลารอตามเงื่อนไขที่คุณบอกไว้ แล้วมาถามใหม่ว่า ให้เขาขอยืมได้หรือไม่ สู้ปฏิเสธเขาไปเลยตั้งแต่ต้น ให้เขาเอาเวลาที่จะรอความหวังจากเราไปหาทางแก้ไขปัญหา "หนี้ของตนเอง" ดีกว่า คนเราเมื่อจนตรอก (และต้องยังมีสัมมาทิฐิมากพอ) สมองของเขาจะเริ่มทำงานเองว่า เขาจะแก้ปัญหาอย่างไร ให้ผ่านพ้นภาวะวิกฤตนี้ไปได้ แม้จะไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากคนอื่น

    เสนอความช่วยเหลือทางอื่น

    ถ้าเห็นใจ และต้องการช่วยเหลือจริง ๆ แต่ติดว่า เรื่องการเงินของครอบครัวของคุณเองเองก็มีอุปสรรคเช่นกัน และไม่ได้มีมากพอที่จะให้ขอยืมเงินก้อนไปได้ ก็ให้คิดหาทางช่วยทางอื่น เช่น เสนอให้มาอยู่รวมกันที่บ้านแทน จะได้ลดค่าใช้จ่ายของผู้มาออกปากขอยืมได้ส่วนหนึ่ง หรือมองหาว่าอะไรที่คุณสามารถช่วยเขาได้ในสิ่งที่เขาขาด โดยที่ไม่เป็นในลักษณะของ "เม็ดเงิน"

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=293 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=293>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แปรคำขอยืมเงินเป็นเอกสาร

    เป็นเรื่องน่ากระอักกระอ่วนใจอยู่ไม่น้อย ที่เวลาคนสนิทมาขอยืมเงิน แล้วทางฝ่ายผู้ให้ยืมต้องขอให้เขาทำเป็นเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร หลายคนอาจจะคิดว่า ถ้าต้องบากหน้ามาขอยืมเงินจากญาติหรือเพื่อนแล้วมาเจอแบบนี้ จะมาขอยืมทำไมกัน สู้ไปกู้ธนาคารไม่ดีกว่าหรือ แต่มันเป็นเรื่องที่ผู้ให้กู้ควรทำ ไม่ว่าคนที่มาขอยืมคนนั้นจะเป็นเพื่อนสนิทมิตรเก่าเลเวลใดก็ตาม เพราะอย่าลืมว่า ทันทีที่คุณมอบเงินก้อนเงินเก็บของคุณให้เขายืมไป คนที่จะหนักใจแทนก็คือฝ่ายของคุณเอง ว่าเขาจะคืนหรือไม่ การมีเอกสารยืนยันชัดเจนเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินช่วยให้คุณสบายใจได้ในจุดนี้ เพราะมีความชัดเจนเรื่องตัวเลข ระยะเวลาในการกู้ยืม ไม่ต้องถกเถียงกันให้เสียเวลา แค่ยึดตามหนังสือสัญญา อีกทั้งในแง่ของการดำเนินคดีตามกฎหมายก็เป็นเอกสารดังกล่าวก็เป็นหลักฐานชั้นดีเสียด้วย

    หลีกเลี่ยงการลงทุนร่วมกัน

    มีเพื่อน หรือคนสนิทบางคน มาเหนือเมฆกว่านั้น แทนที่จะใช้คำว่าขอยืมเงินไปทำธุรกิจ ก็เล่นคำเป็นว่า ชวนไปทำธุรกิจร่วมกัน พร้อมยกตัวอย่างประสบการณ์ต่าง ๆ นานา ของตัวเองที่เคยมีมาในอดีตมาเล่าให้คนมีเงินเคลิบเคลิ้ม หลงให้ยืมเงินไป น่าเสียดายที่หลายคนเสียเพื่อน (แย่ ๆ )ไปพร้อมกับเสียเงินก้อนที่สะสมมาด้วย เพราะฉะนั้น พิจารณาเจตนาของคนที่มาชักชวนทำธุรกิจร่วมกันให้ดี ๆ ว่าเขาต้องการไอเดีย-แรงงานของคุณ หรือแค่ "เงิน" ของคุณเฉย ๆ

    ที่สำคัญ อย่ารู้สึกผิดว่าตัวเองใจร้าย เพราะคุณก็ต้อง "รู้เท่าทัน" โลกใบนี้เช่นกัน

    ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก USNews.com
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  18. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    มาเป็นกำลังใจให้เช่นกันครับ
     
  19. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    กำลังจะเดินทางครับ
     
  20. dragonlord

    dragonlord เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,541
    มารอฟังผลนะคะ

    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    วันนี้ผมนำพระสมเด็จริมทางข้างถนนไปเลี่ยม ๖ องค์ เอาไว้ไปเจอน้าชายที่เป็น"เสี้ยน"วันเช็งเม็งวันเสาร์นี้ เมื่อปีที่แล้วเขาเอาสมเด็จอกครุฑเศียรบาตรมาให้ชมพร้อมทั้งบอกว่าไปหลอกเขามา ๕๐,๐๐๐ บาท แต่บอกว่าจะปล่อย ๓,๐๐๐,๐๐๐ ...งวดนี้เลยเอาอกครุฑเศียรบาตรอาบน้ำว่าน รุ่น ๑ ไปประชัน ได้ความว่าเสี้ยนเขาจะว่ายังไง จะเอามาบอกเล่าสู่กันฟัง....
     

แชร์หน้านี้

Loading...