พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. Wirak

    Wirak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2008
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +52
    ขอร่วมบุญด้วยครับ

    4.พระสมเด็จ อรหัง (วัดระฆัง) จำนวน 9 องค์ คงเหลือ 6 องค์

    ผมมอบให้กับท่านที่เคยร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2550 เวลา 09:36 PM จนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2552 ร่วมทำบุญ 1,500 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    ส่วนท่านที่ไม่เคยร่วมทำร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ต้องร่วมทำบุญ 5,000 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    ผมเคยร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ไม่ทราบว่าจะขอร่วมทำบุญในราคา 1500 บาทได้ใหมครับ
     
  2. นกหะยรก

    นกหะยรก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +8
     
  3. พรสว่าง_2008

    พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    __/|\__

    จะอยู่บ้าน
    หลังเก่า
    หลังใหม่
    หรือหลัง
    ไหนๆ
    แต่
    ใจ
    ยัง
    เหมือน
    เดิม

    ...ครบ 10 บรรทัดพอดี (อิ๊ๆๆ)...
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาสรุปแล้วนะครับ

    สำหรับการแสดงความเห็น ก็มีเพียงแค่ 4 ท่านที่ผมจะมอบพระสมเด็จ(top of the top) ให้ท่านละ 1 องค์

    โมทนาสาธุครับ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ได้ครับ ผมจำได้ว่าเคยร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งมาแล้วครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

    ผมมีพระวังหน้า มอบให้กับทุกๆท่านที่ร่วมทำบุญ ตามรายละเอียดดังนี้

    1.พระพิมพ์วังหน้า(พิมพ์เจ้าสัว) บุเงิน จำนวน 12 องค์ คงเหลือ 2 องค์

    ผมมอบให้กับท่านที่เคยร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2550 เวลา 09:36 PM จนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2552 ร่วมทำบุญ 700 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    ส่วนท่านที่ไม่เคยร่วมทำร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ต้องร่วมทำบุญ 2,100 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    รายนามท่านที่ร่วมทำบุญ
    1.คุณkaticat ร่วมทำบุญ 11,001.11 บาท ผมมอบให้ 5 องค์
    2.คุณเทพารักษ์ ร่วมทำบุญ 700 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)
    3.คุณdrmetta<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1869258", true); </SCRIPT> ร่วมทำบุญ 700 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)
    4.คุณnarin96 ร่วมทำบุญ 700 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)
    5.คุณพรสว่าง_2008<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1871468", true); </SCRIPT> ร่วมทำบุญ 700 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)
    6.คุณbamby ร่วมทำบุญ 2,100 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และโอนเงินร่วมทำบุญแล้ว ลว.10/2/52)


    2.พระพิมพ์วังหน้า(พิมพ์พระสังกัจจายน์ปิดตา) บุนาค จำนวน 4 องค์ หมดแล้ว

    ผมมอบให้กับท่านที่เคยร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2550 เวลา 09:36 PM จนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2552 ร่วมทำบุญ 1,000 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    ส่วนท่านที่ไม่เคยร่วมทำร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ต้องร่วมทำบุญ 3,000 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    รายนามท่านที่ร่วมทำบุญ
    1.คุณkaticat ร่วมทำบุญ 11,001.11 บาท ผมมอบให้ 1 องค์
    2.คุณdragonlord<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1867800", true); </SCRIPT> ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และโอนเงินร่วมทำบุญแล้ว ลว.11/2/52)
    3.คุณเทพารักษ์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)
    4.คุณdrmetta<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1869258", true); </SCRIPT> ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)


    3.พระสมเด็จ (วังหน้า อกครุฑ อาบน้ำว่าน) จำนวน 15 องค์ คงเหลือ 10 องค์

    ผมมอบให้กับท่านที่เคยร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2550 เวลา 09:36 PM จนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2552 ร่วมทำบุญ 1,000 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    ส่วนท่านที่ไม่เคยร่วมทำร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ต้องร่วมทำบุญ 3,000 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    รายนามท่านที่ร่วมทำบุญ
    1.คุณkaticat ร่วมทำบุญ 11,001.11 บาท ผมมอบให้ 3 องค์
    2.คุณเทพารักษ์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)
    3.คุณjirautes ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)


    4.พระสมเด็จ อรหัง (วัดระฆัง) จำนวน 9 องค์ คงเหลือ 6 องค์

    ผมมอบให้กับท่านที่เคยร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2550 เวลา 09:36 PM จนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2552 ร่วมทำบุญ 1,500 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    ส่วนท่านที่ไม่เคยร่วมทำร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ต้องร่วมทำบุญ 5,000 บาท ผมมอบให้ 1 องค์


    รายนามท่านที่ร่วมทำบุญ
    1.คุณkaticat ร่วมทำบุญ 11,001.11 บาท ผมมอบให้ 2 องค์
    2.คุณเทพารักษ์ ร่วมทำบุญ 1,500 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)

    โมทนาบุญทุกประการครับ
    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1410
    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1411

    <!-- / message --><!-- sig -->

    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ

    หมายเหตุ 2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชา เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไปครับ

    หมายเหตุ 3 ท่านใดจองและร่วมทำบุญก่อน มีสิทธิ์ได้ก่อน

    โดยท่านที่ร่วมทำบุญ ต้องสแกนหรือถ่ายรูปใบอนุโมทนาบัตรหรือสลิปการโอนเงินที่เป็นชื่อของท่านให้ผมทราบก่อน แล้วผมจะส่งพระพิมพ์ให้ ส่วนค่าจัดส่ง,ค่ากล่องและเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ผมเป็นผู้จ่ายให้เองครับ
    ----------------------------------------------


    หมายเหตุ หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป และเป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

    หมายเหตุ 1 พระวังหน้า ที่ผมนำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญในกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ และผมได้บอกบุญในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ เป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

    แต่หากจะนำไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอเพื่อคุ้มครองตนเอง และหรือการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ( การบูชาพระคุณพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุธเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า เนื่องจากการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติม) ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์ และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง ,ช่างราษฎร์ทุกๆท่านและเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้าและที่อยู่ในองค์พระพิมพ์(พระเครื่อง)ครับ

    ซึ่งเรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

    โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ
     
  8. tanutda

    tanutda สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +6
    แจ้งการโอนเงิน

    วันนี้ได้ทำการโอนเงินเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้วนะค่ะ
    ส่วนที่อยู่ในการจัดส่งจะ PM ไปแจ้งนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2100.jpg
      2100.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.8 KB
      เปิดดู:
      34
  9. Wirak

    Wirak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2008
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +52
    โอนเงินให้แล้วนะครับ

    ผมโอนเงินให้แล้วครับ
    ขอบคุณมากครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1500.jpg
      1500.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.1 KB
      เปิดดู:
      37
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>การลงทุนใน Gold Futures (ตอน 1)
    http://www.manager.co.th/MutualFund/ViewNews.aspx?NewsID=9520000015406
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 กุมภาพันธ์ 2552 10:54 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>คอลัมน์ ถนนสู่การลงทุน
    ดร.กิตติพันธ์ คงสวัสดิ์เกียรติผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาสาทรธานี
    ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจไซเบอร์ (RSU Cyber University)
    และผู้จัดการโครงการหลักสูตร MBA มหาวิทยาลัยรังสิต

    Gold Futures (โกลด์ฟิวเจอร์ส)
    หรือ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า เป็นตราสารอนุพันธ์ หรือเครื่องมือทางการเงินชนิดหนึ่งที่ผู้ลงทุนสามารถใช้เก็งกำไรจากการผันผวนของราคาทองคำ ทั้งในภาวะขาขึ้นและภาวะขาลงของราคาทองคำ คุณลักษณะเด่นของตราสารอนุพันธ์ชนิดนี้คือ เป็นตราสารที่สามารถซื้อก่อนขายหรือขายก่อนซื้อก็ได้ และที่สำคัญที่สุดของการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ประเภทนี้คือ ใช้เงินลงทุนน้อยประกอบกับราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวทุกวัน จะทำให้โอกาสในการรับผลตอบแทนนั้นมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง แต่ผู้ลงทุนต้องไม่ลืมที่ว่า การลงทุนใดที่ให้ผลตอบแทนสูง โอกาสในการรับความเสี่ยงก็จะสูงด้วยเช่นเดียวกัน

    โกลด์ฟิวเจอร์ส หรือ สัญญาฟิวเจอร์สทองคำ จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนในตลาดทุน ในการทำกำไรและกระจายความเสี่ยงของกลุ่มหลักทรัพย์ลงทุน และผู้ลงทุนที่เดิมเคยลงทุนในการเก็งกำไรในราคาทองคำในระบบตลาดปกติ ซึ่งจะต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้อ หรือลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในสัญญาประเภทนี้ โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สได้ง่าย สะดวก ผ่านระบบซื้อขายของตลาดอนุพันธ์ (TFEX ) โดยมีบริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด (TCH) เป็นผู้ประกันการชำระราคาจากการซื้อขาย และมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นผู้กำกับดูแลการดำเนินงานของ ตลาดอนุพันธ์

    สัญญาฟิวเจอร์สทองคำ นั้นได้เริ่มมีการซื้อขายกันวันแรกในตลาดอนุพันธ์ของประเทศไทยในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552 โดยในช่วงแรกนี้ การลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์ส หรือ สัญญาฟิวเจอร์สทองคำ นี้อาจมีผู้ลงทุนจำนวนน้อย เพราะผู้ลงทุนโดยทั่วไปยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับกลไกการทำงานของการซื้อขายตราสารอนุพันธ์มากทใดนัก แต่ในอนาคตอันใกล้ เครื่องมือทางการเงินชนิดใหม่นี้จะมีผู้ที่เข้ามาลงทุนในจำนวนที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความสะดวกในการลงทุน และจำนวนเงิเริ่มต้นในการลงทุนไม่สูงมากนัก

    โกลด์ฟิวเจอร์ส หรือ สัญญาฟิวเจอร์สทองคำ จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ลงทุน ทําให้สามารถซื้อและขายทำกำไรได้ทั้งในภาวะราคาทองขาขึ้น และราคาทองขาลง โดยในการ ซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สจะไม่มีการส่งมอบทองคำกันจริง ๆ ระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย แต่ใช้วิธีจ่ายชำระเงินตามส่วนต่างกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้นเท่านั้น วิธีการชำระกำไรขาดทุนแบบนี้เรียกว่า “ การชำระราคาเป็นเงินสด” (Cash Settlement) โดยผู้ลงทุนสามารถ “ ซื้อก่อนขาย” หรือ “ ขายก่อนซื้อ” ก็ได้ ซึ่งกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นนั้น จะเท่ากับส่วนต่างระหว่างราคาขายและราคาที่ซื้อเอาไว้ เช่น หากผู้ลงทุนคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต ผู้ลงทุนก็จะสามารถซื้อโกลด์ฟิวเจอร์สไว้ก่อน และเมื่อราคาทองคำในอนาคตปรับตัวขึ้นจริง ผู้ลงทุนก็จะก็สามารถขายโกลด์ฟิวเจอร์สได้ ทำให้ผู้ลงทุนได้รับกำไรเท่ากับส่วนต่างของราคาซื้อและขาย และในกรณีที่ผู้ลงทุนคาดว่าราคาทองจะปรับตัวลดลง ผู้ลงทุนก็จะสามารถขายโกลด์ฟิวเจอร์ส การขายทองคำล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์แบบนี้ ผู้ลงทุนไม่มีความจำเป็นจะต้องมีทองคำไว้ในมือ หรือจะต้องทำการซื้อไว้ก่อน เหมือนการซื้อทองในตลาดจริง เพียงแต่ผู้ลงทุนคาดว่าราคาทองคำนั้นจะลดลงในอนาคต ผู้ลงทุนก็ส่งคำสั่งขายล่วงหน้าไว้ เมื่อราคาทองคำในอนาคตลดลงจริง ผู้ลงทุนก็จะทำการขายได้ในราคาที่ได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้า ซึ่งมีราคาสูงกว่า

    การซื้อหรือขายโกลด์ฟิวเจอร์ส คือ การซื้อหรือขายทองคำล่วงหน้า ราคาของโกลด์ฟิวเจอร์สจึงเป็นราคาทองคำที่ผู้ลงทุนคาดการณ์ในอนาคต ซึ่งอาจจะแตกต่างจากราคาทองคำที่มีการซื้อขายและส่งมอบกันในปัจจุบัน (Spot Price) ในตลาดจริง การคาดการณ์ราคาทองที่แตกต่างกันนี้ เป็นโอกาสในการทำกำไรจากโกลด์ฟิวเจอร์ส เช่น ในภาวะทองราคาขึ้น ราคาทองในปัจจุบันอาจอยู่ที่ 14,000 บาทต่อทองคำหนัก 1 บาท แต่ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สที่ครบกำหนดในอีก 6 เดือนข้างหน้า อาจมีราคาซื้อขายอยู่ที่ 14,500 บาทต่อทองคำหนัก 1 บาท สำหรับผู้ลงทุนที่ซื้อโกลด์ฟิวเจอร์สไว้ ก็คือ ผู้ลงทุนที่คาดว่าราคาทองคำในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะสูงกว่า 14,500 บาท จึงทำการซื้อโกลด์ฟิวเจอร์ส โดยผู้ซื้อหรือผู้ลงทุนนี้คาดการณ์ว่าจะมีส่วนต่างราคาในกรณีที่ทองคำปรับตัวสูงขึ้นกว่าที่ได้กำหนดเอาไว้ เช่น หากในอนาคตราคาทองทำเป็น 15,500 บาท ผู้ลงทุนจะได้รับกำไรทันที 1,000 บาทต่อทองคำหนัก 1 บาท เป็นต้น

    สำหรับผู้ขายโกลด์ฟิวเจอร์ส ก็คือ ผู้ลงทุนที่คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นไม่ถึง 14,500 บาทต่อทองคำหนัก 1 บาท ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ผู้ลงทุนจึงทำการขายล่วงหน้าในราคา 14,500 บาท และรอซื้อกลับเมื่อราคาถูกลง หากราคาทองคำในอนาคตเป็น 13,500 บาทต่อทองคำหนัก 1 บาท ผู้ลงทุนจะได้รับกำไรทันที 1,000 บาทต่อทองคำหนัก 1 บาท เพราะเปรียบเสมือนว่า ผู้ลงทุนสามารถซื้อทองคำได้ในราคา 13,500 บาท และขายตามที่ได้กำหนดล่วงหน้าไว้ 14,500 บาท ตามที่ได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้า แต่การซื้อขายตราสารอนุพันธ์ประเภทนี้ไม่ได้มีการส่งมอบทองคำกันจริง เพียงแต่เป็นการ การชำระราคาเป็นเงินสด (Cash Settlement) เท่านั้น

    ข้อมูลจาก www.tfex.co.th
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

    ผมมีพระวังหน้า มอบให้กับทุกๆท่านที่ร่วมทำบุญ ตามรายละเอียดดังนี้

    1.พระพิมพ์วังหน้า(พิมพ์เจ้าสัว) บุเงิน จำนวน 12 องค์ คงเหลือ 2 องค์

    ผมมอบให้กับท่านที่เคยร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2550 เวลา 09:36 PM จนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2552 ร่วมทำบุญ 700 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    ส่วนท่านที่ไม่เคยร่วมทำร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ต้องร่วมทำบุญ 2,100 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    รายนามท่านที่ร่วมทำบุญ
    1.คุณkaticat ร่วมทำบุญ 11,001.11 บาท ผมมอบให้ 5 องค์
    2.คุณเทพารักษ์ ร่วมทำบุญ 700 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)
    3.คุณdrmetta<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1869258", true); </SCRIPT> ร่วมทำบุญ 700 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)
    4.คุณnarin96 ร่วมทำบุญ 700 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)
    5.คุณพรสว่าง_2008<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1871468", true); </SCRIPT> ร่วมทำบุญ 700 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)
    6.คุณbamby ร่วมทำบุญ 2,100 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และโอนเงินร่วมทำบุญแล้ว ลว.10/2/52)
    7.คุณtanutda ร่วมทำบุญ 2,100 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และโอนเงินร่วมทำบุญแล้ว ลว.11/2/52)


    2.พระพิมพ์วังหน้า(พิมพ์พระสังกัจจายน์ปิดตา) บุนาค จำนวน 4 องค์ หมดแล้ว

    ผมมอบให้กับท่านที่เคยร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2550 เวลา 09:36 PM จนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2552 ร่วมทำบุญ 1,000 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    ส่วนท่านที่ไม่เคยร่วมทำร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ต้องร่วมทำบุญ 3,000 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    รายนามท่านที่ร่วมทำบุญ
    1.คุณkaticat ร่วมทำบุญ 11,001.11 บาท ผมมอบให้ 1 องค์
    2.คุณdragonlord<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1867800", true); </SCRIPT> ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และโอนเงินร่วมทำบุญแล้ว ลว.11/2/52)
    3.คุณเทพารักษ์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)
    4.คุณdrmetta<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1869258", true); </SCRIPT> ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)


    3.พระสมเด็จ (วังหน้า อกครุฑ อาบน้ำว่าน) จำนวน 15 องค์ คงเหลือ 10 องค์

    ผมมอบให้กับท่านที่เคยร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2550 เวลา 09:36 PM จนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2552 ร่วมทำบุญ 1,000 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    ส่วนท่านที่ไม่เคยร่วมทำร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ต้องร่วมทำบุญ 3,000 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    รายนามท่านที่ร่วมทำบุญ
    1.คุณkaticat ร่วมทำบุญ 11,001.11 บาท ผมมอบให้ 3 องค์
    2.คุณเทพารักษ์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)
    3.คุณjirautes ร่วมทำบุญ 1,000 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)


    4.พระสมเด็จ อรหัง (วัดระฆัง) จำนวน 9 องค์ คงเหลือ 6 องค์

    ผมมอบให้กับท่านที่เคยร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2550 เวลา 09:36 PM จนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2552 ร่วมทำบุญ 1,500 บาท ผมมอบให้ 1 องค์

    ส่วนท่านที่ไม่เคยร่วมทำร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ต้องร่วมทำบุญ 5,000 บาท ผมมอบให้ 1 องค์


    รายนามท่านที่ร่วมทำบุญ
    1.คุณkaticat ร่วมทำบุญ 11,001.11 บาท ผมมอบให้ 2 องค์
    2.คุณเทพารักษ์ ร่วมทำบุญ 1,500 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และยังไม่ได้โอนเงินร่วมทำบุญ)

    3.คุณWirakร่วมทำบุญ 1,500 บาท (จองแล้ว 1 องค์ และโอนเงินร่วมทำบุญแล้ว ลว.11/2/52)


    โมทนาบุญทุกประการครับ
    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1410
    http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1411

    <!-- / message --><!-- sig -->

    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ

    หมายเหตุ 2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชา เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไปครับ

    หมายเหตุ 3 ท่านใดจองและร่วมทำบุญก่อน มีสิทธิ์ได้ก่อน

    โดยท่านที่ร่วมทำบุญ ต้องสแกนหรือถ่ายรูปใบอนุโมทนาบัตรหรือสลิปการโอนเงินที่เป็นชื่อของท่านให้ผมทราบก่อน แล้วผมจะส่งพระพิมพ์ให้ ส่วนค่าจัดส่ง,ค่ากล่องและเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ผมเป็นผู้จ่ายให้เองครับ
    ----------------------------------------------


    หมายเหตุ หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป และเป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

    หมายเหตุ 1 พระวังหน้า ที่ผมนำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญในกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ และผมได้บอกบุญในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ เป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

    แต่หากจะนำไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอเพื่อคุ้มครองตนเอง และหรือการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ( การบูชาพระคุณพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุธเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า เนื่องจากการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติม) ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์ และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง ,ช่างราษฎร์ทุกๆท่านและเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้าและที่อยู่ในองค์พระพิมพ์(พระเครื่อง)ครับ

    ซึ่งเรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

    โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 42 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 37 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">



    </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, รัชนี99, guawn+, nongnooo+, Sitachack </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ว่าไงครับน้องกวง และคุณnongnooo

    แอบมาบอก ที่ปรึกษา รมต. ชอบพระสมเด็จ(อัศจรรย์โกลาฤกษ์) พี่ท่านนึงที่โทร.คุยกับผมเมื่อสักพักนี้ แถมมีอีกหลายๆท่าน ที่เอ่ยชื่อแล้ว ผู้ที่ชอบการเมืองรู้จักดี ไว้เจอกันแล้วจะเล่าให้ฟังครับ
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้คุยกันเรื่องของความรัก ความห่วงใยกัน ขอนำเสนอความซึ้งใจในความรัก ความห่วงใย 2 เรื่องครับ

    ____________________________________

    รักเหนือนิยาม ของ ตาลอบ - ยายทอง

    http://hilight.kapook.com/view/33714

    [​IMG]

    [​IMG]


    รักเหนือนิยาม ของ "ตาลอบ" "ยายทอง" (คมชัดลึก)

    หลายคนที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่อง Happy Birthday ของ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง คงซาบซึ้ง และน้ำตาไหลไปตามๆ กัน กับเรื่องราวความรักของชายคนหนึ่ง ที่ต้องดูแลผู้หญิงอันเป็นที่รัก ซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ภาพที่เห็นนั้นชวนให้ย้อนนึกไปถึงเรื่องราวในโลกแห่งความเป็นจริงของสองสามีภรรยาคู่หนึ่ง "ตาลอบ" และ "ยายทอง" ที่ทุกวันนี้ชีวิตของพวกเขา ไม่ต่างจากเรื่องราวที่นำเสนอบนแผ่นฟิล์มเลย

    ใครที่เคยชมรายการ "คนค้นฅน" หรืออาจผ่านตาจากฟอร์เวิร์ดเมล คงเคยสัมผัสเรื่องราวของตายายคู่ทุกข์คู่ยาก ที่ทั้งสองอยู่กันด้วยความรัก ความเข้าใจ และคำสัญญาที่จะรักและดูแลกันตลอดไปจนวันตาย​

    และบรรทัดต่อจากนี้ เป็นอีกบทบันทึกของหัวใจ ที่ไม่ต้องการคำนิยามใดๆ

    นับถอยหลังไปอีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงวัน "วาเลนไทน์" วันซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงออกถึงความรักที่ใครหลายคนให้ความสำคัญ ไม่ว่าใครจะนิยามความรักว่าเป็นของคู่กัน ความเหมือน ความพอดี ความลงตัว​

    หากแต่นิยามความรักของสองตายายแห่งอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย อย่าง "ตาลอบ" อมร สีสุภเนตร วัย 76 ปี ที่มีต่อ "ยายทอง" นั้น กลับมองว่าวันวาเลนไทน์ที่จะมาถึงนั้น ไม่เคยมีความหมายต่อทั้งคู่เลย เพราะชีวิตรักที่ตาและยายได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากว่า 50 ปีนั้น ไม่เคยมีวันไหนที่ความรักจะลดน้อยลงไปตามกาลเวลา ทว่า กลับเพิ่มพูนขึ้นสวนทางกับสังขารที่เริ่มจะโรยรา

    สำหรับตาลอบวันนี้ มันก็เป็นแค่วันธรรมดาๆ วันหนึ่งเท่านั้น​

    "ดอกกุหลาบมันจะสู้สิ่งที่เราทำดีให้แก่กันทุกวันได้ยังไง มันเทียบกันไม่ได้หรอก ตาไม่เห็นว่ามันจะสำคัญกับชีวิตตรงไหน เพราะถึงไม่มีวันนี้ ยังไงตาก็ยังรักยายเท่ากันทุกวัน" ตาลอบบอกขณะปรนนิบัติภรรยาที่นอนป่วย​

    สำหรับพื้นเพเดิมของยายทองเป็นคนอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ส่วนตาลอบเป็นคนเชียงคาน จังหวัดเลย ปัจจุบันสองตายายอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเล็กๆ สภาพเก่าๆ หลังหนึ่งตามลำพังสองคนโดยมีลูกๆ คอยดูแลอยู่ห่างๆ เมื่อมองเข้าไปในบ้านจะสังเกตเห็นว่าบ้านของตาเสมือนเป็นโรงพยาบาลขนาดย่อมๆ เพราะอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในการดูแลยายนั้น ตาได้ดัดแปลงให้เหมือนกับทางโรงพยาบาล ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้ดูแลยายได้อย่างเต็มที่​

    คงสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น


    [​IMG]


    ย้อนไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ตาลอบซึ่งเป็นช่างตัดผมหนุ่มฐานะยากจนได้พบรักกับยายทอง แม่ค้าขายอาหารที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวงามประจำหมู่บ้านในงานรำวงสร้างโบสถ์ที่วัดป่ากลาง อำเภอเชียงคาน หลังจากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมา 5-6 ปี จนมั่นใจในความรักที่มีให้ต่อกัน ชายหนุ่มจึงเอ่ยปากขอหญิงสาวที่เขารักแต่งงาน เป็นงานแต่งงานที่เรียบง่าย ไม่มีพิธีกรรมใหญ่โตอะไร ไม่มีเงินสินสอดทองหมั้นมากมาย มีเพียงคำมั่นสัญญาที่ชายหนุ่มมอบไว้ให้แก่หญิงสาวที่เขารักว่า จะครองรักและดูแลกันตลอดไปจนกว่าวันสุดท้ายจะมาถึง

    ทั้งคู่อยู่กันจนกระทั่งแก่เฒ่า และตลอดเวลาที่ผ่านมา ความรักที่สม่ำเสมอพอที่จะทำให้ชีวิตรักของคนคู่นี้กลายเป็นตำนานรักแท้ที่น่าจดจำ แต่เหมือนมีบททดสอบ จู่ๆ ปี 2538 ยายทองก็ล้มป่วยลงด้วยการเป็นอัมพฤกษ์ทางด้านซ้าย ซึ่งก็พอจะช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง

    แต่เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา อาการของยายทองก็กำเริบทรุดหนักลงไปอีก จากอัมพฤกษ์กลายเป็นอัมพาต ไม่สามารถพูดคุยกับตาลอบได้อีก นอกจากส่งเสียงร้องไห้ ซึ่งบางครั้งก็มีแต่เสียงร้อง บางครั้งก็มีแต่น้ำตา ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการสื่อสารเพียงอย่างเดียวที่ตาลอบรับรู้และเข้าใจเสมอว่ายายต้องการอะไร​

    "ยายเขาร้องไห้ เพราะว่าเขาอยากจะพูดกับเรา แต่เขาพูดไม่ได้ เขาจึงบอกเราด้วยการร้องไห้ออกมา พอตาได้ยินเสียงไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตาก็จะเดินไปพูดกับเขา หรือไม่ก็ต้องส่งเสียงตอบกลับไป ส่วนใหญ่ตาจะบอกเขาว่า อย่าร้องเลย เราอยู่ตรงนี้แล้ว บางทีก็บอกยายว่า เราจะอยู่กับเธอ จะดูแลเธอไปจนกว่าจะตายจากกัน... ที่บอกอย่างนี้เพื่อให้ยายรู้ว่าตาอยู่ใกล้เขาไม่ได้หนีไปไหน"

    ปฏิเสธไม่ได้ว่า น้อยครั้งนักที่เราจะได้เห็นภาพฝ่ายชายดูแล ปรนนิบัติฝ่ายหญิง ซึ่งสิ่งที่ตาทำนั้นได้พิสูจน์ให้โลกรู้ว่าความรักของตาที่มีต่อยายนั้นเป็นตำนานความรักอันยิ่งใหญ่ที่ใครๆ ต่างก็แสวงหา​

    "ตาอยากใช้ชีวิตอยู่กับยายจนวินาทีสุดท้าย เราจะต้องไม่ทอดทิ้งกัน เราต้องมั่นคงต่อกัน ตาสัญญากับยายว่าจะดูแลยายให้ดีที่สุดจนวินาทีสุดท้าย ตาตั้งใจรักษายายให้ดีที่สุด ตาทุ่มเทชีวิตให้ยายทั้งหมด เพราะยายมีความหมายกับตาสุดชีวิตเลย ทุกวันนี้ตายังมีความหวังอยู่ว่ายายจะอาการดีขึ้นและกลับมาพูดกับตาได้เหมือนเคย เราต้องอยู่แบบมีความหวัง เพราะความหวังนี่แหละที่จะทำให้เรามีกำลังใจดูแลยายต่อไปจนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง"

    ถึงแม้ว่าบั้นปลายชีวิตอันแสนสุขจะถูกพรากไป และแทนที่ด้วยความทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บป่วยของอีกฝ่ายหนึ่ง คำมั่นสัญญาทุกคำที่ตาลอบเคยมอบไว้ให้แก่ยายทองก็ยังไม่มีคำใดหรือตัวอักษรตัวใดเปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย​


    [​IMG]


    ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ยายทองล้มป่วย แทบจะทุกนาทีของชีวิตตาลอบได้มอบให้แก่การเฝ้าดูแลประคบประหงมยายทองอย่างใกล้ชิด ไม่เว้นแต่ยามหลับหรือยามตื่น การดูแลปรนนิบัติยาย ตาลอบจะทำเพียงคนเดียวทุกครั้ง และตาจะใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อย แม้แต่แพมเพอร์สตาก็จะไม่ใส่ให้ยาย เพราะเกรงว่าจะอับชื้นและทำให้เป็นแผลกดทับได้ ตาจึงไม่เคยเบื่อกับการที่ต้องคอยเช็ดอึ เช็ดฉี่อยู่ตลอดทั้งวัน เสื้อผ้าของยายตาก็จะไม่ซักผงซักฟอกเพราะกลัวยายจะแพ้และเป็นผื่น

    ภาพที่ชาวเชียงคานเห็นจนชินตาคือภาพชายชรา ปั่นรถจักรยานที่มีเตียงพยาบาลพ่วงติดอยู่ด้านหน้า โดยมียายนอนลืมตาแน่นิ่งอยู่บนเตียงเคลื่อนไปตามถนนหนทางต่างๆ รถคันนี้เป็นรถที่ตาลอบประดิษฐ์ขึ้นมาเองกับมือ เพราะถ้าจะซื้อเตียงแบบโรงพยาบาลนั้นก็เกินกำลัง ด้วยความที่ตาเคยมีความรู้ทางช่างจึงต่อเตียงพยาบาลขึ้นมาและดัดแปลงต่อเติมให้เตียงนั้นเคลื่อนที่ได้ และมีหลังคาคอยคุ้มแดดคุ้มฝนและมีมุ้งคอยกันยุงและแมลงต่างๆ ​

    ตายังรู้ใจยายดีว่ายายชอบให้ตาพาเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ตาจึงมักปั่นเตียงเคลื่อนที่คันนี้พายายไปเที่ยวในที่สำคัญๆ ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นสถานที่พบรักกัน สถานที่ๆ ทำมาหากิน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ยายระลึกถึงความหลังอันงดงาม และกระตุ้นความจำ ความรู้สึกของยาย อย่างน้อยๆ ความหลังเหล่านี้ก็เสมือนเป็นน้ำหล่อเลี้ยงความเศร้าหมองของชะตากรรมที่ทั้งคู่ต้องเผชิญอยู่บ้าง​

    ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตาลอบได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่าสัญญาที่ชายหนุ่มมอบไว้แก่หญิงสาวอันเป็นที่รักนั้น ไม่ใช่แค่เพียงลมปาก หรือถ้อยคำหวานหู หากแต่เป็นถ้อยคำที่ออกมาจากความรู้สึกข้างในหัวใจจริงๆ...

    คำมั่นสัญญา ที่ยังทำอย่างซื่อตรงสม่ำเสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรก็ตาม


    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คมชัดลึก
    [​IMG]

    ____________________________________​

    พลังรักปู่-ย่ายื้อชีวิต หลานป่วยมะเร็ง-ลามทั่วตัว11ก้อน!





    [​IMG]

    [​IMG]


    พลังรักจากปู่-ย่ายื้อชีวิต หลานป่วยมะเร็งร้าย-ลามทั่วตัว11ก้อน! (ข่าวสด)

    เมื่อ 3 ปีก่อน เด็กชายคอนนาห์ บรูม วัย 5 ขวบ ชาวเมืองโกรแนต์ ประเทศอังกฤษ ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าป่วยเป็น "โรคมะเร็งนิวโรพลาสโทมา" ซึ่งเป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นจากระบบประสาท โดยเซลล์มะเร็งสามารถแพร่ไปทั่วร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และ2 ปีที่แล้ว แพทย์ที่โรงพยาบาลเด็กแอลเดอร์เฮย์ มีความเห็นว่า แพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถช่วยเด็กชาย จึงแนะกับครอบครัวว่า ควรให้คอนนาห์ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุข

    แต่ครอบครัวบรูมซึ่ง มีปู่ ย่า และพ่อของคอนนาห์ไม่ยอมแพ้ ใช้ทุกวิถีทางต่อสู้กับมะเร็ง จนปัจจุบันเด็กชายยังมีชีวิตอยู่ และก้อนมะเร็ง 10 ก้อนจาก 11 ก้อน มีขนาดเล็กลง ทั้งยังไม่พบการไหลเวียนของเลือด คาดว่าก้อนมะเร็งเหล่านี้น่าจะตายไปแล้ว

    นางเด็บบี้ บรูม ผู้เป็นย่ากล่าวว่า "ก่อนที่หมอจะพบว่าเป็นมะเร็ง คอนนาห์ปวดท้องอย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่นานเกือบ 1 ปี เมื่อหมอชี้ว่าหลานเป็นมะเร็ง ก็บอกกับฉันว่า อาการอย่างนี้เป็นมะเร็งขั้นที่ 4 และมีก้อนมะเร็งทั้งหมด 11 ก้อน กระจายอยู่ทั่วลำตัว ทั้งที่ คอ ที่หน้าอกใกล้กับหัวใจ ตับ ลำไส้ ขา และอีกหลายที่ พอรักษาได้ประมาณ 1 ปี หมอบอกว่า มะเร็งลามเข้าไปใกล้อวัยวะสำคัญ และคอนนาห์อาจมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงไม่กี่เดือน"

    อย่างไรก็ตาม แพทย์ได้ให้ความหวังสุดท้ายว่า อาจให้คอนนาห์ทดลอง "ยาทาโพทีแคน" แต่ยานี่จะไปทำลายไต หัวใจ และมีโอกาสรอดจากการทดลอง 50% ซึ่งครอบครัวบรูมเห็นว่า มีความเสี่ยงสูงเกินไปที่จะนำยามาทดลองกับคอนนาห์

    เมื่อการแพทย์สมัยใหม่รักษาไม่ได้ ครอบครัวบรูมจึงค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต เพื่อหาทางเลือกใหม่ๆ ในการรักษา เช่น ให้รับประทานแต่อาหารออร์แกนิก ดื่มน้ำที่กรองแล้ว เข้าห้องอบเซาน่าทุกวันเพื่อเอาพิษมะเร็งออก เมื่อคอนนาห์รับประทานอาหารออร์แกนิกและดื่มน้ำกรอง ทางครอบครัวพบว่า เด็กชายหายเจ็บปวด แม้ผู้เชี่ยวชาญจะระบุว่า ระดับของสารพิษในอาหารและเครื่องดื่มไม่น่าทำให้เกิดโรคมะเร็ง

    ครอบครัวบรูมยังลองวิธีใหม่ๆ หลายอย่าง เช่น เรกิ ซึ่งเป็นการรักษาด้วยพลังแม่เหล็กไฟฟ้าจากญี่ปุ่น โดยก่อนหน้านี้มีการทดลองเกี่ยวกับเรกิ พบว่า ไม่สามารถช่วยลดขนาดของก้อนเนื้อ แต่ทำให้ผู้ป่วยบางรายคลายเครียดและคลายความเจ็บปวดได้

    นางเด็บบี้ กล่าวว่า "ฉันไม่ทราบเหมือนกันว่า การรักษาวิธีใดที่ทำให้ก้อนมะเร็งลดขนาด แต่ถ้าพบว่าวิธีใดไม่ได้ผล ก็จะเปลี่ยนหาวิธีใหม่ๆ เราจะไม่ยอมแพ้และจะหาทุกวิธีที่มีในโลกมาช่วยหลาน"

    ดร.จูลี่ ชาร์ป จากสถาบันวิจัยมะเร็ง มีความเห็นว่า "มะเร็งบางชนิดสามารถหายไปโดยอธิบายไม่ได้ และอาจกลับมาอีกก็ได้ สำหรับเด็ก 2 ใน 3 ที่ป่วยเป็นนิวโรบลาสโทมาสามารถรักษาได้" ด้านนายแพทย์อีมอน เจสซอป แพทย์ประจำตัวของคอนนาห์ กล่าวว่า "มะเร็งนิวโรบลาสโทมาอาจกลับมาใหม่ได้ และเมื่อมันกลับมา จะกลับมาเร็วมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อ 2 ปีก่อน เรามีความเห็นว่ามะเร็งของคอนนาห์รักษาไม่ได้แล้ว การที่คอนนาห์ยังมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ก็เป็นเพราะผู้ที่เป็นปู่และเป็นย่า ต้องยอมรับว่าครอบครัวบรูมเป็นครอบครัวที่น่าทึ่งจริงๆ"


    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ข่าวสด
    [​IMG]
     
  15. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    ผมว่าผมรู้สึกดีนะที่ย้ายมา ณ ห้องนี้เพราะวัตถุประสงค์หลักแต่เริ่มและไม่เคยเปลี่ยนก็เพื่อการทำบุญ
    กระทู้นี้เป็นแบบอย่างในการตั้งกระทู้ทำบุญต่างๆของผม เมื่อเราเติบโตขึ้นก้อต้องขยับขยายสายบุญกันไป แต่จุดเริ่มและสิ้นสุดก้อคือกระทู้นี้
    ผมยอมรับว่าหลังๆไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านเนื่องจากงานเยอะทั้งงานประจำที่หาเลี้ยงชีพและงานบุญที่ร่วมกันกับท่านอ.จเร แต่ก้อยังโทรคุยกันอยู่เสมอแม้พี่หนุ่มจะลืมน้องประจำ

    กระทู้นี้เจอเรื่องต่างๆมามากมาย โดยเฉพาะเรื่องที่เสี้ยนพระต่างๆคอยเข้ามาหาเรื่อง
    เนื่องจากความไม่รู้ว่าพระวังหน้านั้นมีจริงถูกครูบาอาจารย์ที่รู้น้อยสอนสั่ง แต่พี่ๆทั้งพี่หนุ่มและพี่เพชรก้อได้นำข้อมูลทั้งนำหลักการวิเคราะห์ต่างๆมาอธิบายแล้วก้อยังไม่เชื่อ ปฎิเสธอย่างเดียวว่าไม่มี คงต้องรอให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
    ซึ่งอย่างแรกที่เราเห็นกันก้อพิสูจน์มาแล้วว่ากระทู้นี้เป็นของจริงถึงอยู่มาได้นานขนาดนี้และมีผู้เข้าชมติดตามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทองแท้ย่อมเป็นทองอยู่วันยังคำครับ พวกมิจฉาทิฐิที่จ้องทำลายกระทู้นี้ไม่นานย่อมแพ้ภัยตัวเองครับ

    สุดท้ายนี้ผมขอให้งานบุญที่ทำอยู่หรือกำลังจะทำสำเร็จดั่งหวังครับ
    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2009
  16. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มาดูฤกษ์การย้ายย้อนหลัง จึงทราบว่าเป็นทลิทโทฤกษ์ 55555 เหมาะกับงานบุญที่ต้องอาศัยปัจจัยสร้างงานบุญต่างๆนะ..
     
  17. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    สมบัติของพระราชา


    <TT>
    </TT>คนซื่อสัตย์ คือ สมบัติของพระราชา
    ที่มา หนังสือพิมพ์สยามรัฐฉบับวันศุกร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๑


    เมื่อหลายปีก่อน (ประมาณสัก ๑๓ปี) มีนักธุรกิจคนหนึ่งไปหาอาตมาที่วัดสุทัศน์ฯ
    เป็นนักธุรกิจที่ทำงานอยู่กับคุณเจริญคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี
    เมื่อพบกัน ท่านผู้นี้ก็แจ้งความประสงค์ของการมาพบ และเล่าเรื่องที่เป็นจุดประสงค์ ดังนี้...
    "ท่านคงพอจะจำผมได้นะครับ เราเคยพบกันที่บ้านของคุณเจริญคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี
    ผมมีเรื่องอยากจะเล่าให้ท่านฟังดังนี้ว่า
    เมื่อก่อนผมเป็นครูสอนวิชาภูมิศาสตร์และวิชาประวัติศาสตร์
    ปกติผมต้องไปค้นคว้าข้อมูลในหอสมุดแห่งชาติ
    ต่อมา ก็มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งผูกเปีย ๒ ข้างเข้าไปค้นข้อมูลอย่างจริงจัง
    ว่างก็สนทนากันถึงเรื่องวิชาการ
    ...อยู่มาวันหนึ่งนักเรียนหญิงคนนั้นก็ชวนผมไปเที่ยวบ้าน
    โดยบอกว่าจะให้พ่อเลี้ยงข้าวหนึ่งมื้อ ในฐานะที่ให้ความรู้ด้านวิชาการ
    โดยมีการนัดแนะกันที่พระราชวังดุสิต สวนจิตรลดา
    โดยเธอบอกว่าเมื่อเข้าประตูที่ ๑
    แล้วขอให้บอกแก่คนที่เฝ้าประตูด้วยคำพูดนี้ (เป็นคำเฉพาะ)
    ...ครั้นถึงวันนัดหมายผมก็เดินทางไปโดยรถแท็กซี่
    เมื่อเข้าประตูผมก็มิได้สงสัย คงบอกเจ้าหน้าที่ตามนั้น
    ครั้นถึงขั้นที่ ๒ ผมก็บอกตามนั้นอีก เจ้าหน้าที่ก็อัธยาศัยดี ให้ความเคารพผมอย่างยิ่ง
    แต่พอถึงขั้นที่๓ ผมก็เริ่มเห็นภาพชัดเจนว่า...แท้ที่จริงเด็กผู้หญิงคนนั้นคือ
    "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี"
    ซึ่งตอนนั้นยังมิได้เฉลิมพระยศนี้...
    ...ท่านครับ พอผมนึกออกก็เริ่มสั่นแล้ว
    แต่เหตุที่ผมนึกไม่ออกนั้น เพราะผมไม่เคยคิดเลยว่า
    เจ้าฟ้าจะสนพระทัยในวิชาการอย่างจริงจัง
    เวลาค้นคว้าก็ทรงสืบค้นด้วยพระองค์เองทุกอย่าง
    ทรงค้นคว้าและจดจำอย่างขมีขมัน
    โดยมิได้มีข้าราชบริพารเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพระองค์
    และเวลาที่ทรงสนทนาก็ให้ความนับถือคู่สนทนา
    ยิ่งรู้ว่าผมเป็นครูสอนวิชาดังกล่าว
    ...เมื่อผมรู้ว่านักเรียนหญิงคนนั้นคือสมเด็จพระเทพฯ ผมก็ประหม่า
    และแล้วรถแท็กซี่ก็ถึงที่นัดพบ
    สักครู่พระองค์ก็เสด็จออกมาแล้วตรัสปฏิสันถาร
    ถึงตอนนี้ผมก็ก้มลงกราบกับพื้น
    และที่ทำให้ผมสั่นยิ่งขึ้นก็คือ
    ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณพ่อของเด็กผู้หญิงคนนี้คือ
    "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"
    ...ท่านครับ
    สักครู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เสด็จออกมา
    ทรงมีพระพักตร์ที่ยิ้มแย้มแล้วตรัสว่า
    "เห็นลูกสาวบอกว่าเป็นเพื่อนกัน"
    เมื่อพระองค์ตรัสดังนี้
    ผมก็ก้มลงกราบด้วยความประหม่าเป็นที่สุด แล้วกราบบังคมทูลว่า
    "มิเป็นการบังอาจ พระพุทธเจ้าข้า"
    ...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณตรัสว่า
    ขอให้ทำตัวตามปกติไม่ต้องประหม่าหรือกลัวแต่อย่างใด
    พระองค์ตรัสขอบใจที่ได้เป็นเพื่อนสนทนาในวิชาการดังกล่าว
    จากนั้นพระองค์ก็ตรัสว่า
    "อันที่จริงก็มีผู้อยากขอเข้าเฝ้าฯ เป็นจำนวนมาก
    บางรายก็ขอนำเงินขึ้นทูลเกล้าถวาย แต่เราก็ไม่สามารถจะรับเงินของบางคนได้
    เราจะรับเงินของเขาได้อย่างไร ในเมื่อเงินที่เขานำมาถวายเรานั้น
    เป็นเงินที่เกิดจากการขายแผ่นดินของเรา
    เราจึงรับเงินนั้นไม่ได้
    ...ถ้าจะถามพระราชาอย่างเราว่าพระราชาอย่างเราต้องการอะไร
    เราก็ขอตอบว่า...พระราชาอย่างเราต้องการคนที่ซื่อสัตย์
    เพราะคนที่ซื่อสัตย์ คือ สมบัติของพระราชาอย่างเรา"
    ...ท่านครับ
    ผมก้มลงกราบถวายบังคมพระองค์อีกครั้ง ด้วยความซาบซึ้งน้ำตาไหล
    ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้แก่ครูสอนหนังสือเล็กๆ คนหนึ่ง
    พระราชดำรัสของพระองค์มีคุณค่ายิ่งต่อชีวิตของผม
    จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็พระราชทานเลี้ยงก๋วยเตี๋ยว
    เป็นอาหารที่ผมรับประทานแล้วอิ่มตลอดชีวิต........
    ...ท่านครับ จากวันนั้นมา
    ชีวิตผมก็เปลี่ยนแปลงไป โดยที่ผมเองก็มิได้รู้ว่าทำไม
    ชีวิตของผมซึ่งเป็นครูต้องเปลี่ยนแปลงงานที่ทำโดยมิได้ตั้งใจ
    ชีวิตเจริญก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ
    แต่พระราชดำรัสที่พระองค์ตรัสไว้นั้นจารึกอยู่ในใจผมเสมอ
    ...ผมอยากจะเรียนท่านให้ทราบเพียงเท่านี้แหละครับ
    ถ้าท่านจะกรุณานำไปเล่าให้คนทั้งหลายได้รับทราบ
    ก็จะเป็นลาภของคนที่ฟัง
    เขาจะได้รู้ว่าพวกเขาควรทำอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนของพระราชา
    อาจารย์ท่านนี้เมื่อเล่าจบก็ลากลับด้วยสีหน้าที่อิ่มสุขและน้ำตาที่คลอเบ้าตา
    มิใช่เพียงอาจารย์ท่านนี้ที่อิ่มสุขเท่านั้น
    อาตมาเองซึ่งเป็นผู้ฟังก็อิ่มสุขน้ำตาคลอเบ้าเช่นเดียวกัน


    บทความของ พระราชวิจิตรปฏิภาณ วัดสุทัศน์
     
  18. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    ผมว่าต่อให้ลงรูป อัศจรรย์โกลาฤกษ์ ก็ไม่รู้ หรือหาได้ก็อาจจะไม่เหมือนหรอกครับ หุหุ แต่ก็ไม่ลงหรอกครับ เหอๆ
     
  19. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    อ๋อ พูดถึงประเด็นนี้กันอยู่หรือครับ ผมเองก็เคยนำไปเรียนถามหลวงพ่อ เพราะว่าผมก็ได้มาหลายตำรา
    สุดท้ายท่านเลยเล่าเรื่อง "นะโมพุทธาแยะ" ให้ฟัง ก็สรุปได้ว่าใจเป็นประธาน

    ผมก็เลยเลือกสวด โล เพราะเป็นฉบับที่ผมได้จากหนังสือสวดมนต์ที่ หลวงตาที่วัดระฆัง ท่านแจก ตอนผมใส่บาตรเช้าๆเมื่อผมเรียนอยู่ศิริราช
    และอีกอย่างคือเห็นว่าคล้องจองดีครับ แหะๆ ก็ไม่รู้คิดถูกคิดผิดแต่ก็สวดอย่างนี้มาตลอด
     
  20. khongbeng

    khongbeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +657
    แวะมาติดตามข้อมูลข่าวสารครับ....
     

แชร์หน้านี้

Loading...