พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ก็มีพลังคุ้มกันเช่นกัน เฉกเช่นนำชิ้นส่วนผ้าถุงของแม่มาห้อยคอเพื่อระลึกถึงคุณความดีของแม่ พลังคุ้มกันเกิดจากแรงกตัญญู..แรงศรัทธา ทำไมจะไม่ได้ ทำไมจะไม่แรง ขนาดไม้กวาดกวาดพื้นที่บ้านอาจารย์ปู่นี่ ไม่รู้ว่าขลังขนาดไหน เอามาโบกบนหัวคนนี่ เสนียดจัญไรตัวไหนก็ไม่กล้ามา.....5555555

 

ว่าแต่"พกหิน" กับ"เข็นครก"ขึ้นเขา นี่ แบบไหนเหนื่อยแรงกว่ากัน...

 

<TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 11:42 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>MOUNTAIN<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 11,733
<IF condition="">
</IF>พลังการให้คะแนน: 12237


</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title --><CENTER>FW: แจ้งที่อยู่ครับ

</CENTER>
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><!-- ads code --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-0334174069738588";/* 250x250, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 1/26/09 */google_ad_slot = "5725017666";google_ad_width = 250;google_ad_height = 250;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><IFRAME name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-0334174069738588&dt=1233204785054&lmt=1233204785&output=html&slotname=5725017666&correlator=1233204785054&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Fprivate.php%3Fdo%3Dshowpm%26pmid%3D918768&ea=0&ref=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Fprivate.php&frm=0&ga_vid=374927090.1231193809&ga_sid=1233200432&ga_hid=865193452&ga_fc=true&flash=9.0.124.0&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_tz=420&u_his=17&u_java=true&dtd=47" frameBorder=0 width=250 scrolling=no height=250 allowTransparency></IFRAME>
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset"></TD></TR></TBODY></TABLE>
ได้รับแหวนหยกหิน จากคุณเพชร เมื่อกี้นี้เองครับ
ขอขอบคุณเป็นอย่างมาก เป็นหินหยกเก่า มีอายุไม่น้อยเลยครับ

พอแกะออกมาจากกล่อง ก็ลองสัมผัสพลังดู
มีกระแสพลังที่แรงมากปกคลุมทั้วตัว และที่ชัดเจนอีกกระแสหนึ่งคือ กระแสพลังแห่งเมตตาสูงสุดครับ
สักพัก ปรากฏภาพที่เป็นภาพแทนตัวของคุณหนุ่ม(สิทธิพงศ์) ภาพพระอาจารย์ใหญ่ทั้งห้า พระองค์
ขึ้นมาแวบหนึ่ง คงเป็นพลังมหาเมตตาคุ้มครองแคล้วคลาด ที่ท่านสื่อผ่านมาให้เราได้สัมผัส

สาธุๆ ขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งครับ

ตอนนี้ใส่อยู่ที่นิ้วชี้ซ้ายมือ พอดีเป๊ะเลยครับ
มีพลังมาปรับสมดุล เริ่มมึนหัวเล็กน้อย แล้วค่อยๆเบาขึ้น จนรู้สึกโล่ง เบาสบาย หากกำหนดจิตเข้าสมาธิ ผมว่าจะได้ความสงบนิ่งอย่างรวดเร็วสุดยอดมากครับ


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ในความเห็นของผม
ในสมัยโบราณ จวบจนสมัยนี้ มีการสร้างพระพุทธรูป หรือพระพิมพ์(พระเครื่อง) หรือวัตถุมงคลต่างๆ ต้องนิมนต์พระภิกษุมาอธิษฐานจิตอยู่เสมอ

เรื่องของพลังจิต หากคนหรือมนุษย์มีการฝึกฝนจิต พลังของจิตก็จะกล้าแข็งไม่เท่ากัน อย่างที่ผมเคยยกตัวอย่างเรื่องของคลื่นวิทยุหรือคลื่นโทรทัศน์ หากเป็นคลื่นของวิทยุสมัครเล่นที่ไม่ได้ขึ้นเสาอากาศ ก็ไปได้ไม่เกิน 2-5 กม. หากเป็นคลื่นวิทยุชุมชน ก็ไปได้ไม่เกิน 20-50 กม. แต่ถ้าเป็นคลื่นโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมก็ไปได้ทั่วโลก

แล้วเรื่องของ วันเปื่อย วันเน่า วันตาย ก็ยังมีมาเกี่ยวข้องกันอีก

แล้วเรื่องบุญ เรื่องกรรม ก็ยังมีมาเกี่ยวข้องอีก(แล้ว)

ก้อนหินก้อนหนึ่ง ที่ไม่ได้ผ่านการอธิษฐานจิตจากพระภิกษุ จากพิธีพุทธาภิเษก หากให้นำมาห้อยคอหรือพกแทนพระพิมพ์(พระเครื่อง) หรือวัตถุมงคลต่างๆที่ผ่านการอธิษฐานจิตมา ได้หรือไม่

ส่วนผ้าถุงของแม่นั้น เป็นคนละกรณีกับก้อนหินนะครับคุณเพชร

ผมให้ข้อคิดไว้ และให้เป็นวิจารณญาณของผู้อ่าน
แต่ส่วนตัวผมไม่พกแน่ ก้อนหินเนี่ย หนักกระเป๋า

สำหรับคุณเพชร และน้องเอ ผมมีสายสินญ์(ไม่แน่ใจสะกดถูกหรือเปล่า) ที่หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้าและหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 5 พระองค์อธิษฐานจิตมอบให้ครับ

.

 

ทุกวันนี้ผมก็เข็นครกขึ้นภูเขาอยู่ทุกวัน
แต่โชคยังดีที่มีผู้ที่มาช่วยเข็นหลายท่านครับ

.

 

ต้องสะกดด้วย "ญจน์" ครับ

 

ขอบคุณครับคุณเพชร

สายสิญจน์

 

แสดงว่า คนที่พูดว่า "พกหิน 1 ก้อน หากมีศรัทธาและจิตอันเป็นกุศลบริสุทธิ์ บวกกับบุญที่กระทำมา หินก้อนนั้นก็มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง" ก็ต้องไม่ใส่พระพิมพ์หรือวัตถุมงคลอื่นใดเลย นอกจาก "ก้อนหิน" หุหุหุ

 

ขอบคุณครับพี่หนุ่ม

 

ก้อนหินไม่แน่ใจคะ แต่ดินที่แพงที่สุดในโลกน่าจะเป็นพระรอดกรุมหาวันนะคะ อย่าดูถูกหินไปนะคะ ก้อนนึงตามหลัก ธรณีแล้วก็มีอายุเป็นล้านๆปีได้ และปัจจุบัน หินก็มีส่วนในการบำบัดโรค ได้เช่นกัน ซึ่งก็แปลว่า ก้อนหิน (บางก้อน) ก็มีพลังงานในตัวเองนะคะ

 

รับทราบครับ
แต่หินในความหมายที่ผมบอก ให้พกเพื่อความเป็นสิริมงคล
ไม่ใช่หินที่เป็นอัญมณี

หินเป็นส่วนหนึ่งของโลก ย่อมมีความสำคัญในเรื่องๆนึง แต่กับอีกเรื่อง อาจจะเป็นคนละประเด็นกันนะครับ

หินที่คนหากันทั่วโลกและเป็นที่นิยมกันมาก คืออัญมณี
ตัวอัญมณีมีพลังในตัวเอง แต่เป็นพลังธรรมชาติ ซึ่งแตกต่างกันกับพลังของพระอริยสงฆ์อธิษฐานจิตครับ


.

 

อัญมณีมงคล
http://www.geocities.com/easycoms/horos-12.htm

คำว่า "แก้ว" ในสมัยก่อนนั้นหมายถึง สิ่งมีค่า หมายถึงรัตน หรือมณี อย่างที่เรียกว่า พระแก้วมรกต แต่ถ้าหมายถึง ของมีค่าอื่นๆ ก็ต้องอัญมณี หรือรัตนชาติ
สำหรับคนไทยถือว่า อัญมณี ยอดมงคล ยอดนิยม คือรัตนชาติที่เรียกว่าแก้ว 9 ประการ หรือ นพรัตน์ ซึ่งมีชื่อตาม โบราณว่า แก้ววิเชียร แก้วแดง แก้วอินทนิล แก้วไพฑูรย์ แก้วรัตกาลมิศก แก้วโอทาตปีตมิศก นิลรัตน์ แก้วบุษราคัม แก้วมุกดาหาร

ในเมื่อแก้วทั้ง 9 นี้ถือว่าเป็นอัญมณีมงคลไทย ก็สมควร ที่เราจะได้รู้จัก ถึงคุณค่า และความเชื่อ แต่ละมณี นั้นว่ามีมาอย่างไร

- เพชร (Diamond) คือเพชรดีของไทย ในบรรดาหินที่มีค่าทั้งหลายในโลก เพชรเป็นหินที่มีค่าที่สุด เพราะ มนุษย์ในสมัยโบราณถือว่า เพชรเป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์ แสงจากเพชรเป็นเสมือนแสงจากดวงอาทิตย์ ที่สามารถขับไล่ ความมืดที่น่ากลัวได้ สามารถกระตุ้นให้เกิดความกล้าหาญ แสงพราวแห่งเพชร นั้นเป็น ตัวแทนของสติปัญญา ความรอบรู้ ความสดใสของแสงเพชรแสดงความบริสุทธิ์เหนือความบริสุทธิ์ใดๆ

คำว่า Diamond นั้นมาจากภาษากรีกว่า Adamas แปลว่า "ไม่แตก" คือความแข็งแกร่ง ตัดก็ไม่ขาด นอกจากตัวมันเอง เพราะฉะนั้นเพชรจึงต้องตัดด้วยเพชรเท่านั้น

ในความเชื่อ ผู้ใดมีเพชรไว้ในครอบครองจะถือว่ามีอานุภาพ ยิ่งครอบครองมากยิ่งเชื่อว่ามีอานุภาพมาก มงคลข้อนี้ สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวท่านเอง และเชื่อว่าผู้ครองเพชร จะชนะศัตรูแล้วยัง ได้ครองความเป็นใหญ่ในที่สุด

- ทับทิม (Ruby)
- มรกต (Emerald)
- บุษราคัม (Topaz)
- โกเมน (Garnet)
- นิล (Jet)
- ไข่มุก (Pearl)
- เพทาย (Zircon)
- ไพฑูรย์ (Lapis Lazuli)
ทั้ง 9 อัญมณี มงคล ตามความเชื่อของไทย คนสมัยก่อนจะนิยมนำเพชรพลอยทั้ง 9 มารวมในหัวแหวนหัวเดียวกัน

อัญมณีมงคลประจำวันเกิด

- ท่านที่เกิดวันจันทร์ ให้ใช้เพชรสีเหลือง ไพฑูรย์สีเหลือง พลอยสีเหลือง ไข่มุกสีเหลือง และบุษราคัม
- ท่านที่เกิดวันอังคาร
- ท่านที่เกิดวันพุธ
- ท่านที่เกิดวันพฤหัสบดี
- ท่านที่เกิดวันศุกร์
- ท่านที่เกิดวันเสาร์
- ท่านที่เกิดวันอาทิตย์

อัญมณีประจำเดือนเกิด

- มกราคม ให้ใช้ โกเมน หรือทับทิม
- กุมภาพันธ์ ให้ใช้ พลอยสีม่วงเข้ม
- มีนาคม ให้ใช้ เพชรสีชมพู
- เมษายน ให้ใช้ เพชร
- พฤษภาคม ให้ใช้ มรกต
- มิถุนายน ให้ใช้ ไข่มุก
- กรกฎาคม ให้ใช้ ทับทิมหรือโกเมน
- สิงหาคม ให้ใช้ นิล หรือพลอยสีเข้ม
- กันยายน ให้ใช้ นิลสีฟ้า หรือสีคราม หรือไพริน
- ตุลาคม ให้ใช้ ไข่มุก
- พฤศจิกายน ให้ใช้ บุษราคัม
- ธันวาคม ให้ใช้ เพชรสีฟ้า

 

เพชรดี
มณีแดง
เขียวใสแสงมรกต
เหลืองใสสดบุษราคัม
แดงกล่ำโกเมนเอก
สีเมฆหมอกนิลกาฬ
มุกดาหารหมอกมัว
แดงสลัวเพทาย
สังวาลสายไพฑูรย์

 

คุณพี่หนุ่มคะ อัญมณีประจำวันหายคะ มีแค่วันจันทร์
อัญมณีมงคลประจำวันเกิด

- ท่านที่เกิดวันจันทร์ ให้ใช้เพชรสีเหลือง ไพฑูรย์สีเหลือง พลอยสีเหลือง ไข่มุกสีเหลือง และบุษราคัม
- ท่านที่เกิดวันอังคาร
- ท่านที่เกิดวันพุธ
- ท่านที่เกิดวันพฤหัสบดี
- ท่านที่เกิดวันศุกร์
- ท่านที่เกิดวันเสาร์
- ท่านที่เกิดวันอาทิตย์

 

พลังงานศักย์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
<!-- start content -->



พลังงานศักย์ คือพลังงานที่เมื่อเราเคลื่อนที่ก็จะเกิดพลังงานศักย์ขึ้นแต่ถ้าเป็นพลังงานจลน์เมื่อเราหยุดอยู่กับที่ก็จะเกิดพลังงานจลน์ขึ้นทันที่

<TABLE class=toc id=toc summary=เนื้อหา><TBODY><TR><TD>เนื้อหา

[ซ่อน]

• <LI class=toclevel-1>1 ตัวอย่าง <LI class=toclevel-1>2 พลังงานศักย์โน้มถ่วง <LI class=toclevel-1>3 พลังงานศักย์ยืดหยุ่น <LI class=toclevel-1>4 พลังงานเคมี <LI class=toclevel-1>5 พลังงานของมวลที่อยู่นิ่ง
• 6 ดูเพิ่ม

</TD></TR></TBODY></TABLE><SCRIPT type=text/javascript>//<![CDATA[ if (window.showTocToggle) { var tocShowText = "แสดง"; var tocHideText = "ซ่อน"; showTocToggle(); } //]]></SCRIPT>
[แก้] ตัวอย่าง

หนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะจะมีพลังงานศักย์โน้มถ่วงมากกว่าหนังสือที่วางอยู่บนพื้น หรือกล่าวว่า หนังสือที่อยู่ที่ต่ำจะมีพลังงานศักย์โน้มถ่วงต่ำกว่าหนังสือที่อยู่ที่สูง เมื่อเรายกหนังสือที่วางบนพื้นขึ้นไปไว้บนโต๊ะ งานโดยการยกของเราจะถูกสะสมในรูปพลังงานศักย์ (พลังงานของเราเป็นพลังงานทางเคมีที่เก็บอยู่ในอาหาร) เราจะเห็นพลังงานศักย์ได้ โดยการผลักหนังสือให้ตกจากโต๊ะ หนังสือจะได้รับพลังงานจลน์จากความเร็วของมันจนกระทั่งตกถึงพื้น พลังงานจลน์อาจเปลี่ยนเป็นความร้อน หรือเสียงจากการกระทบก็ได้
อีกตัวอย่างหนึ่ง ในเมือง Wales ที่ Dinorwig นั้นมีทะเลสาบอยู่ 2 แห่ง ซึ่งแห่งหนึ่งสูงกว่าอีกแห่งหนึ่ง เมื่อมีไฟฟ้ามากเกินพอ น้ำจะถูกสูบขึ้นไปในทะเลสาบที่สูงกว่า เมื่อใดที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้า น้ำจะไหลลงมาปั่นกังหันน้ำเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า จากตัวอย่างนี้พลังงานศักย์ถูกสะสมโดยงานที่ต้านแรงโน้มถ่วง
ปัจจัยที่มีผลต่อพลังงานศักย์โน้มถ่วงได้แก่ มวลของวัตถุ, ระยะทาง และความเข้มของสนามโน้มถ่วง วัตถุที่อยู่บนดวงจันทร์จะมีพลังงานศักย์น้อยกว่าวัตถุชิ้นเดียวกันที่อยู่บนโลกและอยู่ระดับเดียวกัน เพราะว่าดวงจันทร์มีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่า

[แก้] พลังงานศักย์โน้มถ่วง

งานที่ทำโดยแรงโน้มถ่วงที่มีค่าคงตัว F ต่อวัตถุที่มีมวล m (เมื่อวัตถุตกลงมาจากระดับเดิมเท่ากับ h) จะเท่ากับ W = Fh = mgh ค่านี้คือพลังงานศักย์โน้มถ่วงของวัตถุ
เขียนได้เป็น

<DL><DD></DD></DL>เมื่อ m คือ มวลของวัตถุ, g คือความเร่งโดยความโน้มถ่วง และ h คือความสูงจากระดับอ้างอิง (m มีหน่วยเป็นกิโลกรัม, g มีหน่วยเป็น เมตรต่อวินาทียกกำลังสอง, h มีหน่วยเป็นเมตร) แต่ในอวกาศ g ไม่ใช่ค่าคงตัว ดังนั้นสูตรจึงต้องอยู่ในรูปปริพันธ์ ในกรณีที่วัตถุเป็นทรงกลม (เช่น ดาวเคราะห์) h คือความสูงจากพื้นผิว ปริพันธ์จะมีลักษณะนี้

เมื่อ h<SUB>0</SUB> คือรัศมีของทรงกลม M คือมวลของทรงกลม และ G คือค่าคงตัวโน้มถ่วง

[แก้] พลังงานศักย์ยืดหยุ่น

พลังงานศักย์ยืดหยุ่น คือ พลังงานที่สะสมในของแข็งที่เปลี่ยนรูปได้ เช่น สปริง ตามกฎของฮุก กำหนดให้

<DL><DD></DD></DL>เมื่อ k คือค่าคงตัวของสปริง มีหน่วยเป็น N/m และ x คือการกระจัดจากตำแหน่งที่อยู่นิ่ง มีหน่วยเป็นเมตร

[แก้] พลังงานเคมี

พลังงานเคมี เป็นพลังงานศักย์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างและสลายของพันธะเคมี

[แก้] พลังงานของมวลที่อยู่นิ่ง

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ได้สร้างสมการที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ซึ่งมาจากทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ มีอยู่ว่า

<DL><DD></DD></DL>เมื่อ E<SUB>0</SUB> คือพลังงานของมวลที่อยู่นิ่ง, m คือ มวลที่อยู่นิ่ง (rest mass) ของวัตถุ, และ c คือ อัตราเร็วของแสงในสุญญากาศ (ห้อย 0 ไว้เพื่อแยกความแตกต่างกับพลังงานรูปแบบอื่น แต่โดยปกติ สมการนี้จะไม่ห้อย 0 ไว้)
พลังงานของมวลที่อยู่นิ่ง คือพลังงานที่เก็บสะสมอยู่ในมวลที่อยู่นิ่ง สมการนี้แสดงให้เห็นว่ามวลกับพลังงานมีความเกี่ยวข้องกัน: มวลเพียงนิดเดียวสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานมหาศาลได้

[แก้] ดูเพิ่ม

• พลังงานจลน์

<TABLE style="CLEAR: both; BORDER-RIGHT: #90a0b0 1px solid; BORDER-TOP: #90a0b0 1px solid; FONT-SIZE: 90%; BACKGROUND: #fcfcfc; MARGIN: 10px 0px 0px; BORDER-LEFT: #90a0b0 1px solid; WIDTH: 100%; BORDER-BOTTOM: #90a0b0 1px solid" cellSpacing=0 cellPadding=3><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=40></TD><TD style="COLOR: #696969" align=left>พลังงานศักย์ เป็นบทความเกี่ยวกับ ฟิสิกส์ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหาหรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
<SMALL>ข้อมูลเกี่ยวกับ พลังงานศักย์ ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ หรือ ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:ฟิสิกส์</SMALL>
</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- NewPP limit reportPreprocessor node count: 105/1000000Post-expand include size: 5645/2048000 bytesTemplate argument size: 852/2048000 bytesExpensive parser function count: 0/500--><!-- Saved in parser cache with key thwikicache:idhash:17291-0!1!0!!th!2 and timestamp 20090127132044 -->ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/พลังงานศักย์".
หมวดหมู่: พลังงาน | ฟิสิกส์เบื้องต้น | บทความเกี่ยวกับ ฟิสิกส์ ที่ยังไม่สมบูรณ์
หมวดหมู่ที่ซ่อนอยู่: บทความที่รอการตรวจสอบรูปแบบ

 

ข้อมูลมาแค่นั้นครับ

ไว้จะหามาให้นะครับ

 

พลังงานจลน์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา

<!-- start content --><TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0.5em; PADDING-LEFT: 0.5em; PADDING-BOTTOM: 0.5em; PADDING-TOP: 0.5em" vAlign=top noWrap width=60>

​

</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.5em; PADDING-TOP: 0.5em" vAlign=center width="100%">บทความนี้ต้องการแหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม เพื่อให้บทความน่าเชื่อถือและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

<SMALL>คุณสามารถช่วยพัฒนาวิกิพีเดีย โดยเพิ่มแหล่งอ้างอิงที่เหมาะสม - การอ้างอิงแหล่งที่มา วิธีการเขียน บทความคัดสรร และ นโยบายวิกิพีเดีย</SMALL>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

พลังงานจลน์ คือพลังงานที่มีอยู่ในวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ เช่น รถยนต์กำลังแล่น เครื่องบินกำลังบิน พัดลมกำลังหมุน น้ำกำลังไหลหรือน้ำตกจากหน้าผา จึงกล่าวได้ว่า "วัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ล้วนมีพลังงานจลน์ทั้งสิ้น ปริมาณพลังงานจลน์ในวัตถุจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับมวลและความเร็วของวัตถุนั้น"

[แก้] การหาค่าพลังงานจลน์

สามารถหาค่าได้จากสูตรต่อไปนี้

<DL><DD><DL><DD></DD></DL></DD></DL>เมื่อ

• E<SUB>k</SUB> = พลังงานจลน์ มีหน่วยเป็นจูล (J)
• m = มวลของวัตถุ มีหน่วยเป็นกิโลกรัม (kg)
• v = อัตราเร็วของวัตถุ มีหน่วยเป็นเมตรต่อวินาที (m/s)

[แก้] ดูเพิ่ม

• พลังงานศักย์

<TABLE style="CLEAR: both; BORDER-RIGHT: #90a0b0 1px solid; BORDER-TOP: #90a0b0 1px solid; FONT-SIZE: 90%; BACKGROUND: #fcfcfc; MARGIN: 10px 0px 0px; BORDER-LEFT: #90a0b0 1px solid; WIDTH: 100%; BORDER-BOTTOM: #90a0b0 1px solid" cellSpacing=0 cellPadding=3><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=40></TD><TD style="COLOR: #696969" align=left>พลังงานจลน์ เป็นบทความเกี่ยวกับ ฟิสิกส์ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหาหรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
<SMALL>ข้อมูลเกี่ยวกับ พลังงานจลน์ ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ หรือ ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:ฟิสิกส์</SMALL>
</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- NewPP limit reportPreprocessor node count: 100/1000000Post-expand include size: 6594/2048000 bytesTemplate argument size: 1382/2048000 bytesExpensive parser function count: 0/500--><!-- Saved in parser cache with key thwikicache:idhash:119704-0!1!0!!th!2 and timestamp 20090127015653 -->ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/พลังงานจลน์".
หมวดหมู่: พลังงาน | ฟิสิกส์เบื้องต้น | บทความเกี่ยวกับ ฟิสิกส์ ที่ยังไม่สมบูรณ์
หมวดหมู่ที่ซ่อนอยู่: บทความที่ขาดแหล่งอ้างอิง

 

อัญมณี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
<!-- start content -->




อัญมณี และ หินสีแบบต่างๆ


อัญมณี คือ มวลของแข็งที่ประกอบไปด้วยแร่ชนิดเดียวกัน หรือหลายชนิดรวมตัวกันอยู่ตามธรรมชาติ เนื่องจากองค์ประกอบของเปลือกโลกส่วนใหญ่เป็นสารประกอบซิลิกอนไดออกไซด์ ดังนั้นเปลือกโลกส่วนใหญ่มักเป็นแร่ตระกูลซิลิเกต นอกจากนั้นยังมีแร่ตระกูลคาร์บอเนต เนื่องจากบรรยากาศโลกในอดีตส่วนใหญ่เป็นคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำฝนได้ละลายคาร์บอนไดออกไซด์บนบรรยากาศลงมาสะสมบนพื้นดินและมหาสมุทร สิ่งมีชีวิตอาศัยคาร์บอนสร้างธาตุอาหารและร่างกาย แพลงตอนบางชนิดอาศัยซิลิกาสร้างเปลือก เมื่อตายลงทับถมกันเป็นตะกอน หินส่วนใหญ่บนเปลือกโลกจึงประกอบด้วยแร่ต่างๆ

<TABLE class=toc id=toc summary=เนื้อหา><TBODY><TR><TD>เนื้อหา

[ซ่อน]

• <LI class=toclevel-1>1 ความเชื่อไทย <LI class=toclevel-1>2 หินสีชนิดต่างๆ <LI class=toclevel-1>3 อัญมณีประจำวันเกิด
• 4 ดูเพิ่ม

</TD></TR></TBODY></TABLE><SCRIPT type=text/javascript>//<![CDATA[ if (window.showTocToggle) { var tocShowText = "แสดง"; var tocHideText = "ซ่อน"; showTocToggle(); } //]]></SCRIPT>
[แก้] ความเชื่อไทย

ในสมัยโบราณว่า ความรู้ ความเชื่อถือ และการใช้อัญมณีของคนไทย เริ่มมีมาแต่สมัยใดยังไม่มีหลักฐานกำหนดแน่ชัด เราอาจ ทราบเรื่องอัญมณีของไทยในอดีตได้จากวรรณคดีไทย บางเรื่อง บางตอน เริ่มตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยามาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ คนไทยเริ่มรู้จักและใช้อัญมณีไม่กี่ชนิด มีการจัดแบ่งอัญมณีออกเป็น ๙ ชนิด เรียกว่า นพรัตน์ หรือนวรัตน์ หรือแก้วเก้าประการ เป็นต้น ในตำรานพรัตน์มีคำกลอนที่มีอิทธิพล ทำให้คนไทยไม่น้อยรู้จักสนใจและนิยมนับถืออัญมณีว่าเป็นสิริมงคล แล้วก็ยังใช้เป็นหลักทรัพย์ที่ถือเป็นมรดกสืบทอดแก่ทายาทในวงศ์ตระกูล เป็นของกำนัลตอบแทนผู้มีน้ำใจช่วยเหลือยามที่เคยตกทุกข์ได้ยากเป็นของสำหรับหมั้นหมาย เป็นต้น

[แก้] หินสีชนิดต่างๆ

• อำพัน
• อเมทริน
• แอมะซอไนต์
• อเมทิสต์
• ไข่มุก
• อาเกต
• บลูเลซอาเกต
• มอสอาเกต
• อะเลกซานไดรต์

[แก้] อัญมณีประจำวันเกิด

• วันอาทิตย์ ถูกโฉลกกับอัญมณีเช่น ทับทิม เพชรสีแดง โกเมน
• วันจันทร์ ถูกโฉลกกับอัญมณีเช่น มุกดา บุษราคัม อำพัน ไข่มุกสีทอง เพชรสีเหลือง
• วันอังคาร ถูกโฉลกกับอัญมณีเช่น เพชรสีชมพู ปะการัง ไข่มุกสีชมพู และโรส ควอตซ์
• วันพุธ ถูกโฉลกกับอัญมณีเช่น หยก มรกต กรีน โกเมนสีเขียว
• วันพฤหัสบดี ถูกโฉลกกับอัญมณีเช่น โกเมนสีส้ม คาร์เนเลียน ไพฑูรย์
• วันศุกร์ ถูกโฉลกกับอัญมณีเช่น ไพลิน บลูโทปาซ
• วันเสาร์ ถูกโฉลกกับอัญมณีเช่น หยกดำ นิล โอนิกซ์

[แก้] ดูเพิ่ม

• แร่รัตนชาติ

<!-- NewPP limit reportPreprocessor node count: 37/1000000Post-expand include size: 2051/2048000 bytesTemplate argument size: 557/2048000 bytesExpensive parser function count: 0/500--><!-- Saved in parser cache with key thwikicache:idhash:47743-0!1!0!!th!2 and timestamp 20090121020016 -->ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/อัญมณี".
หมวดหมู่: อัญมณี | เครื่องประดับ
หมวดหมู่ที่ซ่อนอยู่: บทความที่รอการตรวจสอบรูปแบบ

 

แล้วแต่ว่าจะพกหินเพื่ออะไรครับ ถ้าพกเล่นเฉยๆยังไงก็คงไม่ศักดิ์สิทธิ์ครับ แต่ถ้าพกหินโดยคิดว่าเป็นพระ ผมคิดว่าถ้าเป็นคนดีจริงศรัทธามากจริงๆ ถ้าพระท่านเมตตาท่านก็จะมาแอบเสกให้ศักดิ์สิทธิ์เองครับ โดยเจ้าตัวอาจไม่รู้ก็ได้ครับ

ในทางกลับกัน พระเครื่องที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เจ้าตัวพกโดยเอาไปโยนเล่นเป็นก้อนหิน ท่านก็ไม่อยู่หรอกครับ ท่านอธิษฐานให้ศักดิ์สิทธิ์ได้ ท่านก็ถอนพลังคืนได้เช่นกันครับ

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

 

แต่ที่แน่ๆครับ