หลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา

ในห้อง 'กระทู้เก่า' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 8 ธันวาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    สำหรับกระทู้นี้ผมตั้งขึ้นมาเพื่อเผยแผ่เกียรติคุณของ พระเดชพระคุณ หลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต แห่ง วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา และเพื่อแลกเปลี่ยนประสปการณ์กันในหมู่ผู้ศรัทธาในองค์หลวงปู่ทิมครับ

    [​IMG]

    ขอบอกก่อนว่าผมไม่ใช่ศิษย์ก้นกุฎิหลวงปู่และไม่ได้เป็นผู้ให้เช่าพระหลวงปู่ใดๆทั้งสิ้น ผมเป็นเพียงผู้ที่ 'ศรัทธา' ในองค์หลวงปู่ทิม และเคยกราบหลวงปู่แค่ 'ครั้งเดียว' ครับ

    แต่จากประสปการณ์ที่ผมเคยอธิษฐานขอให้ท่านช่วยนั้น ประสปความสำเร็จในทุกเรื่องเลยทีเดียว ซึ่งในเรื่องของวัตถุมงคลนั้นผมต้องยกไว้เป็นอันดับต้นๆเลยในใจผม ที่ผมอาราธนาติดตัวแล้ว 'ไม่เงียบ' ครับ เพราะท่านช่วยได้จริงๆครับ

    กระทู้นี้ผมจะเขียนเรื่องประสปการณ์ที่ผมได้พบเจอมาเกี่ยวกับหลวงปู่และอยากให้เพื่อนๆญาติธรรม ที่เคยกราบและศรัทธาในองค์หลวงปู่ มาแลกเปลี่ยนประสปการณ์กันครับ ซึ่งผมเป็นเด็กใหม่มากๆที่ศรัทธาในตัวหลวงปู่ อยากได้ฟังความรู้และประสปการณ์ต่างๆจากรุ่นพี่อีกเยอะครับ -/\-
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 93120312ak6.jpg
      93120312ak6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.4 KB
      เปิดดู:
      15,762
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2008
  2. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    ครับ... และสำหรับวัตถุมงคลที่ขึ้นชื่อที่สุดของหลวงปู่ท่านคงไม่มีใครที่ศรัทธาในท่านและไม่ทราบ ของสิ่งนั้นก็คือ 'ชานหมาก' ของหลวงปู่ครับ

    ซึ่งถือว่าเป็น 'ของที่ดีที่สุด' ของท่านครับ เรียกได้ว่าใครที่เคยมากราบท่านที่ วัดพระขาว หรือไปกราบท่านในโอกาศที่ท่านได้ไปนั่งปรกอธิษฐานจิตที่ใด ก็จะมีไว้บูชากันแล้วครับ เป็นของฟรีพุทธคุณหลักล้านจริงๆครับ

    มีพี่คนหนึ่งที่ผมรู้จักได้เรียนถามหลวงปู่ท่านว่า

    'หลวงปู่ครับ พระรุ่นไหนของหลวงปู่ที่ดีที่สุดครับ ?'

    หลวงปู่ท่านตอบว่า

    'ชานหมากฉันดีสุด'

    'ของดีมีแจกกันตลอดกลับไม่ชอบใช้ แต่ชอบไปเช่าพระฉันราคาแพงๆ'

    แค่นี้ก็คงจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้วนะครับ สำหรับการเลือกอาราธนาวัตถุมงคลของหลวงปู่ แต่ไม่ใช่ว่ารุ่นอื่นๆไม่ดีนะครับ ถือว่าผ่านมือหลวงปู่แล้วดีทุกรุ่นครับ แต่ชานหมากเป็นวัตถุมงคลชิ้นเดียวจริงๆที่หลวงปู่ท่านรับรองครับ และท่านยังพูดกับทุกๆคนที่ได้รับชานหมากกับท่านจากมือว่า

    'มีอะไรให้คิดถึงปู่'

    'ถ้าก้างปลาติดคอ ให้เอาชานหมากมานึกถึงปู่ แล้วลูบคอ' (พูดไปพลางทำท่าให้ดู)

    ซึ่งแต่ละคนที่ได้อาราธนาชานหมากติดตัวนั้นต่างก็ยอมรับในความศักดิ์สิทธิ์ครับ ซึ่งผมเป็นคนหนึ่งที่เจอกับตัวเองมาบ่อยครั้ง จนกลัวเหมือนกันที่จะลืมว่าหลวงปู่ท่านช่วยอะไรเราบ้าง กระทู้นี้ก็จะเป็นอีกกระทู้ที่จะมาเขียนเรื่องราวประสปการณ์ของชานหมากหลวงปู่ ทั้งจากตัวเองและคนรอบข้างที่ได้พบเจอมา เพื่อเผยแผ่เกียรติคุณของหลวงปู่ และไม่อยากลืมเรื่องราวที่ได้พบเจอมาให้หายไปกับกาลเวลาครับ
     
  3. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    ขอยืมภาพจากเวป www.luangputim.com ครับ

    ต้องขอแนะนำเลยครับเวปนี้ ท่านใดศรัทธาในตัวหลวงปู่ทิม อยากให้เข้าไปดูไปอ่านกันนะครับ ข้อมูลเรื่องหลวงปู่เพียบครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.8 KB
      เปิดดู:
      2,254
  4. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    ผมไม่ได้เขียนเชียร์ท่านนะครับ ด้วยสัจจะจริง เป็นความศรัทธาและความประทับใจส่วนตัวล้วนๆครับ และอยากให้ทุกท่านมี ของดี ของฟรี ไว้บูชากันครับ

    ชานหมากพร้อมรูปถ่ายหลวงปู่

    [​IMG]

    วัตถุมงคลที่ใครๆ ก็คงรู้กัน ว่าศักดิ์สิทธิ์มาก
    ถ้าใครได้มีโอกาสไปวัดพระขาว ไปกราบหลวงปู่ทิม
    ก็ต้องมีบูชากันแล้ว เพราะ หลวงปู่ท่านจะแจกให้ลูกศิษย์ทุกคน
    เวลาจะทำอะไรก็หยิบขึ้นมาแล้วอธิษฐานถึงท่านก็จะสำเร็จ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.3 KB
      เปิดดู:
      2,612
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2008
  5. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    เล่าสักเรื่องก่อนนอนเกี่ยวกับ

    ชานหมากหลวงปู่ทิม วัดพระขาว


    [​IMG]

    สำหรับตัวผมเองนั้น ได้ยินชื่อของ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว บ่อยมากที่สุดก็เมื่อประมาณปลายปีที่แล้วช่วงที่ จตุคามฯ โด่งดัง ถ้าท่านไม่เชื่อลองไปหาโบชัวร์ของจตุคามแต่ละรุ่นมาดูเถิดจะมีชื่อของ หลวงปู่ทิม วัดพระขาว นั่งปรกอธิษฐานจิตทั้งนั้น

    จากนั้นไม่นานผมก็ลองเข้าเวปศึกษาตามอ่านเรื่องราวของท่านและทราบว่า ชานหมาก ของท่านศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ไปอ่านเจอข้อความของท่านหนึ่งในเวป http://www.luangputim.com/home.html กล่าวว่า หลวงปู่ทิมท่านบอกนักบอกหนาว่า

    "ชานหมากของท่านนั้นช่วยให้ก้างปลาที่ติดคออยู่หลุดออกได้ โดยเมื่อก้างติดคอให้นำชานหมากมาอธิษฐานถึงท่านแล้วก็ลูบๆที่คอแล้วก้างจะหลุด"

    แล้วท่านก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี พร้อมยังบอกว่า ใครที่ได้ฟังเรื่องใช้ชานหมากช่วยให้ก้างปลาหายติดคอได้และถ้าคนนั้นพกชานหมากอยู่จะมีเหตุให้ก้างปลาต้องมาติดคอจริงๆ เพื่อจะได้พิสูจน์ เออ แปลกดี !

    ไม่นานนักผมก็ได้ชานหมากชุดแรกมาจาก พี่โมทย์ (Ahingsaka) และได้เลี่ยมติดตัวไว้ไม่นานก็ได้มอบให้แม่ได้พกติดตัว อีกลูกหนึ่งให้แฟนติดตัวไว้ และก็ไม่ลืมเล่าเรื่องก้างปลาติดคอให้ฟัง แนวขำๆ ว่าระวังเธอจะโดนก้างปลาติดคอบ้าง

    ปรากฎว่าวันนั้นกินปลาอะไรสักอย่างกันนี่แหละ แล้วก้างปลาเจ้ากรรมดันติดคอขึ้นมาจริงๆ !!!

    จากนั้นเลยได้ฤกษ์ลองชานหมาก นำขึ้นมาอธิษฐานถึงหลวงปู่ทิม เป็นที่สุดลูบๆที่คอ แปปเดียว ! ก้างปลาหลุดลงคอไปเลย !!! แปลกดีไหมครับ [​IMG]

    ใครอยากรู้ว่าช่วยได้จริงรึเปล่า คุณหาชานหมากมาพกไว้แล้วก็กินปลาสิครับ
    [​IMG][​IMG] [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 90932051gc3.jpg
      90932051gc3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.2 KB
      เปิดดู:
      5,338
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2008
  6. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    *-* หลวงปู่ทิม วัดพระขาว สุดยอดพระเมตตาสูงแห่งบางบาล กรุงเก่า ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูงมากใครไปกราบท่านจะเห็นรอยยิ้มและแววตาแห่งความเมตตาอันสูงสุด ผมพาลูกสาวไปท่านมักจะแจกขนมและชานหมากอยู่เสมอครับ เรื่องชานหมากท่านมีประสบการณ์จริงเหนือคำบรรยายครับ ขอบคุณน้องบอยสำหรับข้อมูลดีๆครับ *-* thaiput007@hotmail.com
     
  7. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    เอารูปเกี่ยวกับหลวงปู่ทิมเพิ่มสีสันกระทู้ครับ
    ผมได้ไปกราบ(เอาหน้าผากแตะ)เท้าหลวงปู่แล้วครับ
    ระลึกถึงพระรัตนตรัยและหลวงปู่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2008
  10. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,840
    ค่าพลัง:
    +16,082
    อยากได้มั่ง ต้องทำงัยครับพี่น้อง
     
  11. anoldman

    anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +4,558
    สาธุๆ

    ครูบาอาจารย์รุ่นๆ นี้ ชานหมากท่านจะดีมากๆเลยครับเท่าที่เห็นมา (เป็นความเห็นส่วนตัว)
    ขออนุโมทนาครับ
     
  12. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    ไปกราบหลวงปู่ที่วัด ได้รับชานหมากแน่นอนครับผม

    แถมยังได้แวะนมัสการองค์ หลวงพ่อขาว ด้วยครับท่านศักดิ์สิทธิ์มากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2008
  13. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    หลวงพ่อพระขาว

    [​IMG]

    สันนิษฐาน

    ว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ปั้นด้วยปูนมาแต่โบราณ หน้าตักกว้างประมาณ ๔ ศอก สูงประมาณ ๖ ศอก ชาวบ้านเรียกชื่อว่า "หลวงพ่อขาว" เป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านมาก

    ความศักดิ์สิทธิ์

    เป็นที่เลื่องลือกันมากมาย อธิษฐานบนบานสมความปารถนา บุคคลใดมีหลวงพ่อขาวไว้สักการะบูชา จะมีแต่ความสุข ความเจริญ ค้าขายมีกำไร แคล้วคลาดปลอดภัย ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข

    คำบูชาหลวงพ่อพระขาว

    ข้าพเจ้าขอบูชา หลวงพ่อพระขาว อันเป็นรูปเปรียบแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ พุทธสถานแห่งนี้ ด้วยเครื่องสักการะอันประเสริฐนี้ ขอการบูชา หลวงพ่อพระขาว ด้วยเครื่องสักการะอันประเสริฐนี้ จงเป็นไป เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าตลอดกาลนานเทอญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      170.7 KB
      เปิดดู:
      2,527
  14. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,840
    ค่าพลัง:
    +16,082
    อนุโมทนาครับ จะหาโอกาสไปซักครั้ง
    แต่อยู่อุดร ขอกราบท่านที่บ้านก่อนละกัน อิอิ
     
  15. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    [​IMG]

    การไปกราบหลวงปู่ทิม ครั้งแรกของผมนั้นก็เมื่อ วันที่ 17 เดือน ต.ค. ที่ผ่านมาผมได้เดินทางไป จ.อยุธยา และแวะกราบครูบาอาจารย์หลายองค์ แต่สำหรับหลวงปู่ทิม ต้องรีบมาแต่เช้าเพราะช่วงนั้นท่านอาพาธครับ และท่านไม่ค่อยได้พักด้วย ใครมานิมนต์ให้ท่านไปนั่งปรกอธิษฐานจิตที่ไหน ถ้าท่านไม่ติดกิจที่ไหนท่านมักจะไปให้ทุกที่ครับ แสดงถึงความเมตตาของท่าน จนสุขภาพท่านย่ำแย่ลงไปมาก ช่วงนี้ลูกศิษย์ก็เลยขอให้ท่านงดรับนิมนต์ครับ ถ้าไม่งดรับนิมนต์ก็เป็นห่วงในสุขภาพท่านครับ และใครไปกราบท่านที่วัดส่วนมากจะไม่เจอครับ แต่ก็เป็นข้อดีที่ท่านงดรับนิมนต์เพราะลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาไปที่วัดจะได้กราบท่านได้ครับ

    ซึ่งในเช้าวันนั้นผมได้ไปกราบท่านและร่วมกันถวายภัตตาหารเช้าแด่ท่านด้วยครับ ขอเชิญร่วมอนุโมทนากันครับ และหลังจากท่านฉันเสร็จพวกเราก็ทยอยเข้าไปกราบท่าน ท่านก็ให้ลูกศิษย์หยิบบาตรมาและหยิบชานหมากให้เราคนละลูกและบอกว่า 'มีอะไรให้คิดถึงปู่นะ' ทำให้พวกเราทราบซึ้งมากครับ

    [​IMG]

    ซึ่งหลังจากได้กราบลาหลวงปู่เพื่อเดินทางต่อท่านก็อวยพรให้พวกเราโชคดี และหลังจากนั้นพวกเราได้เดินทางไปที่ วัดพุทธไธศวรรย์ เพื่อกราบ หลวงพ่อหวล ครับ หลังจากออกจากวัดแล้วได้เดินทางต่ออีกประมาณเกือบ ชม. เพื่อแวะทานข้าว พอถึงร้านข้าวเพื่อนของผมคนหนึ่งตกใจมาก เพราะว่า กระเป๋าเงินหายไป ครับ ซวยล่ะที่นี้เงินในนั้นมีหลายพันด้วยสิ ถ้าหายก็ไม่มีค่ารถกลับบ้านล่ะเหวย มันก็เลยเดินออกไปหายังไงก็ไม่มี สุดท้ายกินข้าวไม่ลงครับ เลยคุยกันว่ากระเป๋าเงินอาจจะตกหายที่ วัดพุทธไธศวรรย์ ก็ได้เดี๋ยวยังไงกินข้าวเสร็จจะตีรถกลับไปดู แต่ถ้าหายแล้วคนเก็บได้ก็โอกาศน้อยมากๆครับ ที่จะได้คืน เพื่อนผมเริ่มหน้าซีด ผมเลยแนะนำเพื่อนแบบทีเล่นทีจริงว่า

    'เฮ้ย เมื่อเช้าหลวงปู่ทิม บอกว่ามีอะไรให้คิดถึงหลวงปู่ มึงลองอธิษฐานบอกหลวงปู่ดูสิวะ'

    มันก็เลยหยิบเอา ชานหมาก ที่หลวงปู่ให้มาเมื่อตอนเช้ามาจบอธิษฐานครับ ไวเหมือนโกหก !! นาทีต่อมานั้นเองมีโทรศัพท์จากบ้านมันโทรเข้ามาครับ บอกว่ามีคนเก็บกระเป๋าเงินได้ที่ วัดพุทธไธศวรรย์ แล้วก็เลยค้นเจอเบอร์โทรบ้านเลยโทรมาที่บ้าน โห อึ้งเลยครับ หลวงปู่ท่านช่วยหรือบังเอิญนี่ ที่ยังได้กระเป๋าเงินคืนอีก อยุธยาไม่สิ้นคนดีจริงๆครับ จากนั้นเพื่อนผมคนนั้นก็แขวนชานหมากหลวงปู่ติดตัวตลอดครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      195.3 KB
      เปิดดู:
      2,059
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.3 KB
      เปิดดู:
      2,297
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2008
  16. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    ผมขอถือวิสาสะนำ ประวัติและปฎิปทา ของ หลวงปู่ทิม แห่ง วัดพระขาว มาลง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ญาติธรรมที่สนใจครับผม

    โดยข้อความทั้งหมดผมไม่มีเจตนาอื่น เพียงแต่จะเผยแผ่เกียรติคุณและเรื่องราวของหลวงปู่ทิมเท่านั้นครับผม เพราะผมยังเห็นว่ามีหลายๆท่านยังไม่ทราบครับ

    ข้อมูลทั้งหมดจากเวป www.luangputim.com ครับ

    ชีวประวัติหลวงปู่

    [​IMG]

    ในปี พ.ศ.๒๔๕๖ ซึ่งเป็นปีฉลู ชาวบ้านพระขาว และ ชาวประชาราษฎรในเขตอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทุกคนต่างก็เศร้าสลดอย่างสุดซึ้ง เมื่อได้ทราบข่าวคราวการจากไปอย่างไม่มีวันกลับคืนมาของพระเกจิอาจารย์ ผู้ซึ่งมีวิชาอาคม และเวทมนตร์ที่เก่งกาจมาก ในสมัยนั้นสามารถใช้คาถาอาคม สะบัดผ้าไปทางไฟที่กำลังลุกไหม้ให้ดับได้อย่างใจนึก และ ยังมีวาจาสิทธิ์อีกด้วย ให้แม่ครัวใช้กระบุงใส่ถ้วย ชาม จาน นำไปกระเหย่าน้ำล้างโดยไม่แตกร้าวแม้แต่น้อยนิดเลยทีเดียว ท่านผู้นั้นก็คือ

    "หลวงพ่อปั้น แห่งวัดพิกุล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา" ซึ่งชาวอยุธยาต่าง เสียดายเป็นอย่างยิ่งในการจากไปของท่าน ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชั้นยอดในยุคนั้น เมื่อมีเกิดก็ย่อมมีดับสูญ เป็นธรรมดาในโลกมนุษย์ปัจจุบัน มีสุขแล้วก็ต้องทีทุกข์มีดีใจก็ต้องเสียใจ เป็นเรื่องธรรมดา ของสามัญชนใน ภพนี้ สุดที่จะหลีกเลี่ยงได้เลย เมื่อชาวพระขาว อ.บางบาล ต่างเสียอกเสียใจกันใหญ่หลวงแล้ว เทพเจ้าแห่งเบื้องบนท่านเกิดความสงสารมีเมตตาต่อชาวบ้านย่ายนี้ จึงประทานเด็กผู้ชายให้มากำเนิดในปีเดียวกันนี้ ณ ถิ่นฐาน ย่านเดียวกัน ตำบล อำเภอ และจังหวัดเดียวกันนี้ทุกประการ ดั่งคำพังเพยที่ว่า "กรุงศรีอยุธยาย่อมไม่สิ้นคนดี มีวิชา"

    เด็กชายผู้นี้ บิดา มารดาได้ตั้งชื่อ และแจ้งเกิดต่อกำนัน ต.พระขาว อ.บางบาล ให้ชื่อว่า "เด็กชายทิม ชุ่มโชคดี" เกิดเมื่อ วันอาทิตย์ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๔๕๖ ปีฉลู ที่บ้าน เลขที่ - หมู่ที่ ๓ ต.พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรคนที่ ๕ ของคุณพ่อพร้อม คุณแม่กิ่ม ชุ่มโชคดี ตามลำดับดังนี้

    คนแรก พี่ทอง ชุ่มโชคดี เป็นหญิง เสียชีวิตตั้งแต่เยาว์วัย
    คนที่ ๒ พี่เทียบ ชุ่มโชคดี
    คนที่ ๓ พี่ทัศน์ ชุ่มโชคดี เป็นผู้ใหญ่เก่า หมู่ ๕ ต.พระขาว (เสียชีวติแล้ว)
    คนที่ ๔ พี่ทอด ชุ่มโชคดี
    คนที่ ๕ หลวงปู่ทิม ชุ่มโชคดี
    คนที่ ๖ นายสังวาลย์ ชุ่มโชคดี

    "เริ่มการศึกษา"

    [​IMG]

    ครั้งแรกเมื่อยังเป็นเด็ก ได้ศึกษาเล่าเรียนกับวัดพิกุล อ.บางบาล พ่อ-แม่ สมัยก่อนมักจะพาลูกหลานไปฝากให้พระตามวัดที่อยู่ใก้ลบ้านสอน อบรมบ่มนิสัยก่อน เพราะยังไม่มี ร.ร.อนุบาลเหมือนสมัยนี้ พออายุย่างเข้า ๑๐ ขวบ ก็มาเข้าเรียน ซึ่งเป็นโรงเรียนประชาบาล อยู่วัดพิกุลที่นั้น

    ค่าเล่าเรียนเก็บเป็นรายเดือนๆ ละ ๕๐ สตางค์ ในสมัยนั้น โดยเฉพาะเด็กวัดไม่คิดค่าเล่าเรียน หลวงปู่เป็นเด็กวัดอยู่กับหลวงปู่น้อย สมัยนั้นใช้พระสอนเพราะยังไม่มี ร.ร. มีพระสังเวียนเป็นผู้สอน ต่อมาเจริญขึ้นมี ร.ร.ประชาบาลเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก มีครูจำเนียร ภู่ประเสริฐ เป็นครูใหญ่และครูน้อยเสร็จ หลวงปู่ได้อยู่กับ หลวงปู่น้อย ซึ่งเป็นพระปลัดของ หลวงพ่อปั้น หลวงปู่ท่านเกิด ไม่ทันหลวงพ่อปั้นซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งกาจมาก ในสมัยนั้นแต่ก็เกิดปีเดียวกับหลวงพ่อปั้นท่านมรณภาพพอดี เสมือนกับว่าเทพเจ้าท่านได้ให้มาเป็นตัวแทนกับหลวงพ่อปั้นก็ว่าได้ ใครจะรู้หลวงปู่ท่านได้ศึกษาเล่าเรียน อยู่วัดพิกุลมาจนอายุ ๑๓ ปี ก็จบ ป.๔ ออกจาก ร.ร.วัดพิกุลก็มาช่วย บิดา-มารดา ทำนาอยู่กับบ้าน เพราะหลวงปู่ทิม พื้นเพของหลวงปู่ ท่านเป็นชาวนา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    "รับใช้ชาติครั้งที่ 1"

    [​IMG]

    เข้าอายุเกณฑ์ทหาร หลวงปู่ท่านถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารทันทีโดยไม่ต้อง คัดเลือกเลย เพราะหลวงปู่ท่านเป็นคนใหญ่โต จัดอยู่ในประเภท ดี ๑ ประเภท ๑ ไม่ ต้อง จับ เลือก ใบดำ - ใบแดง เหมือนสมัยปัจจุบัน

    ใน ปี พ.ศ.๒๔๗๗ หลวงปู่ ประจำอยู่ ร.พัน ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ ตำบลสวนเจ้าเชตุ(หน้าวัง- สราญรมย์) เป็นทหารประจำการอยู่ ๑ ปี กับ ๓ เดือนก็ปลดจากทหารเกณฑ์

    "เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์"

    [​IMG]

    ประมาณเดือนกรกฎาคม ๒๔๗๘ เมื่อกลับมาอยู่บ้านก็มาบวชตามประเพณีของลูกผู้ชายไทย เพื่อทดแทนพระคุณ และค่าน้ำนมของ พ่อ-แม่ อุปสมบทณ วัดพิกุล อ.บางบาล จ.อยุธยา มีหลวงพ่อปุ้ย วัดขวิด อ.บางบาล เป็นอุปัชฌาย อาจาร์ย และ หลวงลุงหลิ่มวัดโพธิ์กบเจา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ มีพระอธิการ หลิ่ว เจ้าอาวาสวัดพิกุล เป็นพระอนุสาวนาจารย์อุปสมบท อยู่ในบวรพระพุทธศาสนา ๑ พรรษา ก็ลาสิกขา

    ในระหว่างอุปสมบท ๓ เดือน นั้น หลวงปู่ได้ทำกิจของสงฆ์โดยท่องหนังสือ และสวดมนต์ไหว้พระ ไม่มีีใครเสมอเหมือนได้เลย เพราะทั้งเจ็ดตำนาน และสิบสองตำนาน หลวงปู่สามารถท่องจำได้ทั้งหมดทั้งสองอย่าง จนพระอาจารย์หลิ่ว เจ้าอาวาสวัดพิกุล อ.บางบาล ท่านไม่อยากให้หลวงปู่สึก ท่านเสียดายมาก เมื่อหลวงปู่ไปขอลาสิกขา จากท่าน คงจะเป็นเพราะบุญและบารมีของหลวงปู่ขั้นต้นมีเพียงเท่านี้ก่อน เพื่อเป็นพื้นฐานสาเหตุที่หลวงปู่ต้องลาสิกขาในครั้งนี้ ก็เพราะมีความสงสารมารดาเป็นอย่างมากที่ต้องลำบากตรากตรำทำนา เนื่องจากบิดาท่านมาเสียชีวิตตั้งแต่หลวงปู่ท่านยังตัวเล็กๆ จึงตัดสินใจลาสิกขา เพื่อมาช่วยมารดาทำนาเป็นการตอบแทนพระคุณที่ได้อุ้มเลี้ยงหลวงปู่มาตั้งแต่เล็กจนเติบโตใหญ่ พระคุณท่านใหญ่หลวงนักถึงจะเปรียบเอาโลกมาทำปากกาเอานภามาแทนกระดาษ เอาน้ำทั้งหมดมหาสมุทรมาแทนน้ำหมึก ประกาศพระคุณแม่ไม่พอ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2008
  18. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    "รับใช้ชาติครั้งที่ 2"

    [​IMG]

    เมื่อย่างเข้าวัยเบญจเพศ ทางมารดาท่านก็มาอ้อนวอนให้มีครัวเรือน ตามประเพณีของผู้เฒ่าผู้แก่สมัยโบราณ เพื่อที่จะได้มีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น พูดตามภาษาชาวบ้านก็คือ จะได้เป็นผู้ใหญ่เสียที พูดตามภาษาชาวบ้านก็คือ จะได้เป็นผู้ใหญ่เสียที

    หลวงปู่ใช้ชีวิตในการครองเรือนตามประเพณีอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ก็มีเหตุการณ์จำเป็นเกิดขึ้น คือ ในปีพ.ศ.๒๔๘๔ เป็นปีที่หลวงปู่มีความภาคภูมิใจมากในชีวิต ที่ได้เกิดขึ้นมาเป็นลูกผู้ชายไทย เพราะได้มีโอกาสรับใช้ชาติบ้านเมือง เพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณให้กับพื้นแผ่นดินที่ตนได้อาศัยเพื่อที่ใช้ฝังร่างกายในบั้นปลายของชีวิต เมื่อหมดลมหายใจ จะได้ไม่เป็นหนี้ในผืนแผ่นดินที่ตนกำเนิด เมื่อทางรัฐบาลไทยต้องการเรียกร้องดินแดนคืนจากฝรั่งเศส มีเมืองปอยเปรส -
    ศรีโสภณ - เสียมราษฎร์ และ พระตะบอง ซึ่งเป็นดินแดนที่ประวัติศาสตร์ไทยจารึกไว้มาจนทุกวันนี้

    หลวงปู่ท่านถูกระดมไปผ่านศึกยังประเทศเขมรในครั้งนี้ด้วย เป็นเหตุการณ์ที่หลวงปู่ระลึกถึงทุกคืนวันคืน หลวงปู่ท่านได้ปะทะข้าศึกอย่างชนิดที่เรียกว่า ประจัญบานต่อหน้าเลยทีเดียว ด้วยบุญญาธิการ และ วาสนาที่มีมาแต่กำเนิด หลวงปู่ก็รอดปลอดภัยมาได้ด้วย

    คุณพระพุทธ - พระธรรม - พระสงฆ์ และ คุณของ บิดา - มารดา

    ที่หลวงปู่ท่านได้ระลึกและนึกถึงอยู่ประจำใจ ในขณะที่กองทัพทั้งสองฝ่ายกำลังต่อสู้กับข้าศึกชนิดประจัญบานอยู่นั้น หลวงปู่ท่านมีจิตใจเป็นวิหารธรรมมั่นอยู่เสมอ คือ มีความตั้งใจว่า

    "ข้าพเจ้าที่ยิงไปนี้ไม่ได้ต้องการเอาชีวิตท่าน ข้าพเจ้าที่ยิงไปนี้ก็เพื่อป้องกันแระเทศ ชาติ - ศาสนา - องค์พระมหากษัตริย์ เพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญ ขอพวกท่านจงหลีกไปเสีย"

    ซึ่งชี้ให้เห็นว่าหลวงปู่ท่าน กำหนดดวงจิตเป็นเมตตาธรรมแผ่เมตตาธรรมต่อศัตรูที่กำลังจ้องจะปลิดชีวิตของตนแม้แต่ชีวิตของตนก็ยังไม่ห่วง แสดงให้เห็นถึงชีวิตจิตใจของหลวงปุ่ท่าน ซึ่งมีจิตเป็นกรรมฐานตั้งแต่ครั้งเมื่อยังเป็นฆราวาสเลยจริงๆ ผลสุดท้ายข้าศึกก็พ่ายแพ้แตกทัพกลับไป ทำให้ไทยเราได้ชัยชนะในการรบทำสงครามแย่งดินแดนต่างๆ ที่ตกเป็นของกัมพูชากลับคืนมาตามเดิม ใช้ระยะเวลาออกศึกสงครามประมาณ ๖ เดือนเศษ ศึกสงครามก็สงบลง

    หลวงปู่ท่านได้รับบัตรเหรียญชัยสมรภูมิเป็นเครื่องเทิดทูนประจำตัวนับว่าหลวงปู่ ท่านได้รับเกียรติยศอันสูงส่งยิ่ง ซึ่งเป็นเกียรติยศที่ภาคภูมิใจที่สุดของหลวงปู่ ที่ได้มีโอกาส มารับใช้ประเทศชาติบ้านเมืองในยามที่ประเทศชาติต้องการ ซึ่งเป็นคำพูดที่ออกจากใจจริงของหลวงปู่ท่านช่างผิดกับชายในสมัยนี้ชอบหลบหนีหาโอกาสหลีกเลี่ยงทหารกันมากต่อมาก

    "รับใช้ชาติครั้งที่ 3"

    [​IMG]

    เมื่อสิ้นศึกสงครามเรียกร้องดินแดนคืนได้แล้วหลวงปู่ ท่านก็กลับมาพักผ่อนยังบ้านเกิดเมืองนอน พระนครศรีอยุธยา ได้ประมาณ ๗ เดือนเศษๆ ในระหว่างนั้นศึกสงครามยังไม่สงบดี หลวงปู่ก็ต้องถูกเรียกระดมกลับเข้าไปประจำการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นศึกสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทยเรา คือ

    "สงครามโลกครั้งที่ ๒"

    เราทราบกันดีจาก ปู่-ย่า-ตาและยาย ที่ได้เล่าสู่ให้ฟังกันบ่อยๆ ครั้งกระนั้นประเทศไทยเราถูกเข้าร่วมรบกับประเทศญี่ปุ่นและเยอรมัน เหตุการณ์ครั้งนั้นไม่มีอะไรตื่นเต้นมากนัก ด้วยเหตุที่ว่าหลวงปู่ท่านประจำการอยู่รักษาความสงบภายใน เพื่อคุมเชิงรบให้กับฝ่ายสัมพันธมัตร จนกระทั่ง สงครามสงบลง ตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่ท่านก็ได้รับอิสรภาพเรื่อยมา จนทุกวันนี้

    กลับจากศึกสงครามมาทำนาอยู่ยังบ้านพระขาว อ.บางบาล กับครอบครัวตามเดิมใช้ชีวิตครองเรือนอยู่กินกับบุตรและภรรยาชั่วระยะเวลาไม่กี่ปีก็เกิดเบื่อหน่ายในทางโลก โบราณท่านว่าเมื่อบุญญาธการและวาสนามีมาถึงก็จะทำให้บังเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตของการเป็นฆราวาสแล้วก็จะช่วยดลบันดาลให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆนานาขึ้น คือชาวบ้านในตำบลพระขาว และใก้ลเคียงเกิดโรคระบาดอย่างร้ายแรง โรคนั้นก็คือ "โรคห่ากินคน" หรืออหวาตกโรคนั้นเอง ชาวบ้านแถวย่านนั้นได้ล้มเจ็บกันและก็ตายด้วยโรคห่ากันเป็นจำนวนมาก หลวงปู่ท่านก็ประสบกับเขาเหมือนกันแต่บุญวาสนาให้ฟังดังต่อไปนี้วันหนึ่งในเวลาเช้า หลสงปู่เตรียมตัวจะไปไถนายังกลางทุ่ง ก็เกิดปวดท้องขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนเสียก่อน แล้วก็ไปถ่ายเพียงครั้งเดียวแท่ๆ ก็หมดแรงเดินแทบไม่ไหว ต้องกลับขึ้นมานอนบนเรือนอาศัยเยียวยาแบบชาวบ้านในสมัยนั้น คือ รักษาพยาบาลด้วยตนเองไม่มีมดมีหมดเหมือนกับสมัยนี้ แล้วให้ภรรยาขุดเอาข่าที่ปลูกไว้ข้างบ้านมาโขลกกินกับเหล้าขาวจนหมดแก้วท้องก็หยุดเดินทันที ถึงกระนั้นก็ยังมีลมปั่นป่วน อยู่ในท้องโครกคราก หลวงปู่ก็เริ่มมีสติระลึกนึกขึ้นมาได้ว่า โรคนี้มันร้ายแรงมากนัก โดยยกมือขึ้นมาดู ว่านิ้วและฝ่ามือเป็นล่องหรือเปล่า ถ้าชักล่องก็ต้องตายแน่ แล้วก็เอากระจกมาส่องดูอีกว่าใบหน้าตาของตนเองลึกและโหลอย่างเขาว่ากันก็ต้องตายแน่ๆ

    จึงตั้งจิตแล้วอธิษฐานในใจต่อ

    "คุณพระพุทธ คุณพระธรรม และคุณพระสงฆ์"

    ว่า

    "อย่าเพิ่งหมดอายุเลย ตัวของข้าพเจ้านี้ยังปฏิบัติมาในบวรพระพุทธศาสนา นี้น้อยนักให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสช่วยต่อพระพุทธศาสนา อีกสักหน่อยเถิดค่อยตายจะไม่ว่ากระไรเลย (เพราะหลวงปู่ได้ถืออุโบสถอยู่เป็นประจำตลอดมาตั้งแต่ยังเป็นฆราวาส)"

    ด้วยแรงอธิษฐานของหลวงปู่ในครั้งกระนั้นโรคนี้ก็ได้บรรเทาและก็หายอย่างปาฏิหารย์เลยทีเดียว

    เมื่อหายจากโรคห่านี้แล้ว หลวงปู่ก็ได้รัษาพระอุโบสถตามสัญญาเรื่อยมาไม่เคยขาดเป็นเวลา ๕ ปี ก็บังเกิดมี จิตใจศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาขึ้นอย่างจับจิตจับใจอย่างมากและบุญญาและบารมี ช่วยดลใจบันดาลให้มองเห็นอะไรเกิดเบื่อหน่ายในชีวิตของการเป็นฆราวาส ตั้นแต่บัดนั้นเรื่อยมา หลวงปู่ท่านจะเล่าให้เราฟังต่อดังนี้

    [​IMG]


    วันหนึ่งเป็นวันถืออุโบสถ ข้าพเจ้าได้มารักษาอุโบสถที่วัดพิกุล ในตอนบ่ายมีพระธรรมเทศนาขึ้นที่วัดบนศาลาการเปรียญ ข้าพเจ้าได้ฟังพระธรรมเทศนาจบแล้วก็เลยเข้าไปคุยกับพระในกุฎิ บังเอิญพระท่านได้วางหนังสือนวโกวาท เอาไว้ที่เตียงนอนของท่านข้าพเจ้าก็หยิบมาอ่านดูในเรื่อง สิกขา ๓ คือ เรื่อง

    ศีล สมาธิ และ ปัญญา ซึ่งแปลความว่า
    ความสำรวม กาย-วาจา ให้เรียบร้อย

    ชื่อว่าศีล ความรักษาใจมั่น
    ชื่อว่าสมาธิ ความรอบรู้ในกองสังขาร

    ชื่อว่าปัญญา เท่านั้นเองข้าพเจ้าก็บังเกิดความเลื่อมใสแล้วก็ตั้งใจ

    ปฏิญาณในใจว่า

    "เมื่อเกิดมาเป็นลูกผู้ชายต้องบวช ให้ได้อีกสักครั้งหนึ่ง"

    ข้าพเจ้ามานึกถึงเมื่อบวชครั้งแรกไม่ได้เรียน-ไม่ได้รู้อะไรเลย แม้แต่หนังสืออย่างนี้ ็ไม่มีอ่านและก็ไม่มีครู - อาจารย์สั่งสอนด้วย ข้าพเจ้ามีความตั้งใจมั่นและแน่วแน่จะต้องบวชให้ได้อีกครั้งตั้งแต่บัดนั้นมา

    หมายเหตุ บางคนอาจจะเข้าใจว่าการบวชครั้งที่ ๒ นี้ เรียกว่าเป็นชาย ๒ โบสถ์ คำว่า ชาย ๒ โบสถ์ หมายถึง คนที่บวชสองหน หนละศาสนา เช่น บวชครั้งแรกบวชอยู่ในบวรพุทศาสนาแล้วสึกออกไปบวชอยู่อีกศาสนาหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่พุทธศาสนา เช่นนี้ เรียกว่า ชาย ๒ โบสถ์ โบราณว่าเป็นคนไม่ดี...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    *-* ท่านใดที่เคยได้ไปกราบหลวงปู่ทิม วัดพระขาว มักได้รับความเมตตาเสมอเหมือนกันทุกๆคน ถ้ามีเด็กตัวเล็กๆไปด้วยหลวงปู่จะเมตตาหยิบขนมเซียงไฮ้ให้ทุกๆคน และยังได้รับของดีอันบริสุทธิ์ คือ ชานหมาก ของหลวงปู่อีกด้วย ชานหมากนี้หลวงปู่เคยย้ำหลายหนว่าให้นำติดตัวไว้ มีอะไรก็ให้นึกถึงท่าน แม้แต่ก้างติดคอให้อาราธนาเอาชานหมากลูบคลำบริเวณลำคอจะหายอย่างอัศจรรย์ ประสบการณ์ด้านอยู่คงก็มีไม่น้อย ขอให้ท่านศรัทธาอย่างแท้จริง หมั่นไหว้พระสวดมนต์ทำแต่ความดีแค่นี้เพียงพอแล้วครับ *-* thaiput007@hotmail.com
     
  20. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    ขอบคุณครับพี่ออย ^^"
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...