พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

อ่า....ของตาลุงเค้าผมไม่เกี่ยวครับ ขอจากท่านปาทานก็น่าจะดีนะครับ หุ หุ

 

post นี้ของคุณหนุ่ม sithiphong ผมก็ไม่เห็นด้วยเลย ไม่มีปุ่มกดว่า"ไม่เห็นด้วย" ความจริงก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของชาวบ้านเลยจริงๆ อยากเข้าใจกันยังไงก็ตามสบาย แต่เหตุที่ต้อง post ความเห็นนี้เพราะว่า อันแรกผมไม่ขอโมทนากับคุณหนุ่มในความเห็นนี้ อันที่ ๒ เพราะคุณzeedflower มีความเข้าใจผิดในข้อความของคุณหนุ่ม ที่พูดถึงเรื่องการ"เหยียบ" และ"ทิ้ง" เขา(คุณหนุ่ม)ไม่ได้จะเหยียบ และทิ้งเอง แต่จะนำไปให้คนที่ไม่เชื่อเขาทั้งเหยียบ และทิ้ง(โปรดอ่านทบทวนอีกครั้งหนึ่งด้วยความเคารพ) ซึ่งวิธีนี้ผมไม่เห็นด้วยที่จะพิสูจน์กันแบบนี้(ความจริงเขามีวิธีพิสูจน์ด้วยกายวาจาใจด้วยความเคารพสูงสุดอธิษฐานปูผ้าขาวขอดูการลอยน้ำในพานเป็นต้น) ทางฝ่ายนี้ก็จะทำหน้าที่แทนท่านท้าวยมฑูตอยู่เรื่อย อันนี้ผมก็คิดว่าผู้เชิญชวนด้วยวิธีนี้ก็น่าจะเป็นกรรมติดตัวไปด้วย ขอโทษด้วยครับที่ต้องพูดตรงๆในฐานะของกัลยาณมิตรคนหนึ่ง

ส่วนถ้อยวาจาที่กล่าวเชือดเฉือนให้เกิดความทุกข์ใจกัน(เช่นคำว่า"คนบาป ในคราบนักบุญ" หรือการท้าทายกันในทางลบๆเป็นต้นล้วนไม่เกิดบุญใดๆเลย)ในเวบธรรมะนี้ หากอด หรืองดได้ก็จะเป็นบุญกุศลกับผู้อ่าน หรือผู้ที่เข้ามาศึกษาไม่เพียงกระทู้นี้ครับ..

ขอโมทนา...

 

Invite a friend
Give Gmail to:
Send Invite 97 left
Preview Invite


อ่า...ตัวเลขนี้แสดงระดับความหล่อ จากคะแนนเต็ม 100 ช่ายมั้ยครับท่านปาทาน หุ หุ

 

ผมขอเสนอแนวทางครับ ผมว่าทำอะไรเนี่ย สามัคคีกันดีที่สุดครับ
ทั้งคุณ เพชร ,คุณ nongnooo ,ท่านปาทาน , คุณ ตั้งจิต และท่านอื่นๆ ดีไหมครับ
ใจดีกันทั้งนั้นเลยครับ อันนี้ผมยืนยันได้ หุหุ

 

โมทนาด้วยครับ

ด้วยความรักและเคารพยิ่งสำหรับผมที่มีต่อ พี่หนุ่ม ครับ

 

ขอบคุณครับ

.

 

นั่นนะสิ ไม่เข้าใจ ผมเหลือแค่ 41 เท่านั้นเอง วันนี้เชิญไปหลายท่านครับ

มีท่านนึงที่ผมเชิญมา พอสมัครแล้ว ผมเห็นตัวเลขอยู่ที่ 60 มากกว่าผมตอนสมัครอีก

น่าจะเป็นที่ระดับความหล่อแน่เลย ผมถึงได้น้อยกว่าเพื่อน เหอๆๆๆ

เดี๋ยวจะงงกัน ตัวเลขที่คุยกันคือ จำนวนที่สามารถเชิญมาสมัคร gmail ได้ครับ

.

.

 

มาแจ้งให้ทราบครับ




เป็นไปตาม ก(ธ)รรม ครับ

.

 

กลั้นปัสสาวะ เรื่องธรรมดาที่น่ากลัว
http://women.kapook.com/health00076/

​

ทำงานเพลิน ติดประชุมต่อเนื่อง ต้องเดินทางตลอดทั้งวันเจอสภาพรถติดอยู่ในรถ ไม่สามารถที่จะปัสสาวะได้ ก็เลยต้องกลั้นปัสสาวะด้วยความจำเป็น แถมบางคนไม่ค่อยชอบดื่มน้ำระหว่างทำงาน เพราะขี้เกียจที่จะลุกไปเข้าห้องน้ำ ไม่เห็นต้องเป็นห่วงเลย ไม่น่าเกิดปัญหาอะไร แค่กลั้นปัสสาวะเฉยๆ คงไม่เป็นไร
แล้ววันร้ายคืนร้ายก็เกิดขึ้น หลังจากกลั้นปัสสาวะ แล้วเกิดอาการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่ค่อยออก เจ็บแสบท่อปัสสาวะ บางคนมีอาการปัสสาวะเป็นเลือดด้วย ตกใจบวกกับ ความทรมานที่นึกไม่ถึง ก็เรียกว่าเกิดเรื่องเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะขึ้นแล้วคนที่เคยมี ประสบการณ์ก็จะบอกได้ว่า เกิดภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบเฉียบพลัน

เรื่องที่เกิดขึ้นมักเกิดกับสตรีมากกว่าคุณผู้ชาย เนื่องเพราะความแตกต่างของสรีระของสองเพศคือ ท่อปัสสาวะของคุณผู้หญิงจะสั้นกว่ามากคือ มีความยาวเพียง 4-5 cm. เท่านั้น ในขณะที่ท่อปัสสาวะของผู้ชายจะยาวกกว่ามาก จึงทำให้โอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะของสตรีง่ายกว่า

ธรรมชาติได้มีกลไกที่สำคัญในการที่จะล้างและขับเอาเชื้อโรคที่อาจจะหลุดเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะคือ การปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอ ทุกครั้งที่มีการปัสสาวะก็คือ การล้างเอาเชื้อโรคที่พลัดหลงเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะทิ้งสู่ภายนอกนั่นเอง ในกรณีที่กลั้นปัสสาวะไว้เป็นเวลานานๆ ก็เปรียบเหมือน การที่ปล่อยให้เกิดน้ำขังนิ่งไม่เกิดการไหลเวียนไว้ในบ่อเป็นเวลานานๆ เชื้อโรคต่างๆ ก็จะเจริญเติบโตมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนน้ำในบ่อเน่าเสีย ก็คือ เกิดการเพิ่มจำนวนเชื้อโรคในน้ำปัสสาวะจนก่อให้เกิดโรค คือเกิดการติดเชื้อได้นั่นเองและเชื้อโรคก็จะวิ่งเข้าเล่นงานอวัยวะที่ใกล้ที่สุดคือ กระเพาะปัสสาวะ เกิดการอักเสบและทำให้เกิดอาการ ต่างๆตามมา

ความจริงประการหนึ่งที่ร่างกายทำได้คือ เชื้อโรคในปริมาณน้อยๆ ไม่สามารถทำให้เกิดโรคได้ แต่เชื้อโรคชนิดเดียวกันเมื่อเพิ่มจำนวนขึ้นมากๆ ก็ก่อให้เกิดโรคได้และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากมายนั่นเอง
การกลั้นปัสสาวะบ่อยๆ จึงเป็นการกระทำที่ไปเปลี่ยนกลไกการทำความสะอาดกระเพาะปัสสาวะนั่นเอง และทำให้เกิดปัญหาการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะตามมาได้ พบได้บ่อยในคนที่นั่งทำงานเพลิน ไม่ค่อยปัสสาวะ บางครั้งไม่ปวดมากแต่ร่างกายได้เตือนแล้วว่า ถึงเวลาที่ควรปัสสาวะแล้ว บางรายหนักยิ่งขึ้นไปอีกคือคนที่ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำ ทำให้การสร้างปัสสาวะลงลด ก็ไม่ต้องไปฉี่บ่อยและยังกลั้นอีกด้วย ก็เรียกว่า ทำร้ายร่างกายตนเองมากขึ้น โอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อก็ง่ายยิ่งขึ้น

ร่างกายของมนุษย์ มีความลึกซึ้งมากในเรื่องกลไกการป้องกันตัวเองแม้กระทั่งเรื่องการปัสสาวะ คือ พบว่า เวลาที่ไปปัสสาวะ ส่วนของปัสสาวะที่ออกมาในช่วงต้นๆ จะเป็นปัสสาวะที่เกิดขึ้นก่อนและขังอยู่ในกระเพาะปัสสาวะนานกว่า ส่วนที่ปัสสาวะออกมาทีหลัง

ในทางการแพทย์ใช้หลักการในการเป็นแนวทางการวินิจฉัยโรคคือ ถ้าปัสสาวะที่ออกมาก่อน มีความขุ่น (มักจะเกิดจากการอักเสบติดเชื้อ) ก็พอจะบอกได้ว่าการอักเสบเกิดขึ้นในระบบปัสสาวะส่วนที่อยู่ต่ำๆ เช่น กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ แต่ถ้าปัสสาวะที่ออกมาก่อนใสดี และเริ่มขุ่นในช่วงท้ายๆ ก็ให้คิดว่าการอักเสบน่าจะเกิดที่ส่วนทางเดินปัสสาวะที่อยู่สูง เช่น หลอดไต หรือ ที่ไตข้างใดข้างหนึ่ง หลายคนคงสงสัยว่าจะตรวจอย่างไรว่าปัสสาวะส่วนต้น หรือส่วนปลาย วิธีการง่ายๆ คือ ให้ปัสสาวะใส่แก้ว ใหญ่สามใบ ก็จะพอบอกได้ว่าส่วนต้นและส่วนปลายมีความผิดปรกติหรือไม่

เมื่อมีการอักเสบของน้ำปัสสาวะ ก็จะทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบตามมา จะมีอาการคือ ปัสสาวะบ่อย แสบ เจ็บที่ท่อปัสสาวะ บางคนบอกว่าเหมือนโดนมีดบาดเวลาปัสสาวะทีเดียว มักจะกลั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้ บางรายที่มีอาการมากอาจจะปัสสาวะเป็นเลือดได้ ซึ่งเมื่อเกิดสภาพอย่างนี้คนไข้มักทนต่อไปไม่ได้ต้องไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาทันที เมื่อเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ จะทำให้กระเพะปัสสาวะเกิดความไวกว่าปรกติ คือ ความสามารถในการเก็บปัสสาวะจะทำได้น้อยลง จึงทำให้ปัสสาวะบ่อย ครั้งละไม่มาก บางรายการอักเสบไม่อยู่เพียงแค่ กระเพาะปัสสาวะ แต่ลุกลามขึ้นไปที่ไตเกิดการอักเสบที่เรียกว่า กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งคือ การอักเสบของเนื้อไตและเยื่อบุภายใน หลอดไตที่เชื่อมต่อกับไต (เรียกว่า กรวยไต ) ถือว่าเป็นโรคที่มีความรุนแรง ซึ่งหากรักษาไม่ถูกต้องอาจมีอันตรายร้ายแรง เช่น เกิดโลหิตเป็นพิษ หรือ ไตวายเฉียบพลันได้

สาเหตุที่ทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่พบบ่อยได้แก่เชื้อ อีโคไล ( E.Coli ) ซึ่งเป็นเชื้อที่พบในอุจจาระของคนทั่วไป เนื่องจากทวารหนักและท่อปัสสาวะอยู่ใกล้กันมากโอกาสในการปนเปื้อนจึงเกิดขึ้นได้ และทำให้เชื้อโรคหลุดเข้าไปในน้ำปัสสาวะ เกิดการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะและย้อนขึ้นไปตามหลอดไต เกิดการอักเสบที่กรวยไตได้ โรคกรวยไตอักเสบเฉียบพลันจะมีอาการ ไข้สูง หนาวสั่นมาก ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มักมีอาการปวดท้อง ปวดบั้นเอวด้านในด้านหนึ่ง และปัสสาวะขุ่น ถ้าเป็นมากอาจจะปัสสาวะเป็นหนองได้

โรคกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน ถือเป็นโรคที่รุนแรงและมีอันตราย ควรได้รับการรักษาอย่างถูกต้องภายใน 24 ชั่วโมง คือ ได้รับการตรวจวินิจฉัย และหาสาเหตุร่วม เช่นการมีนิ่วอุดตันในทางเดินปัสสาวะ หากได้รับการรักษาช้าอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น ภาวะไตวายเฉียบพลัน หรือภาวะโลหิตเป็นพิษ และจะพบความรุนแรงยิ่งขึ้นในกรณีที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต่ำ พบว่าการรักษาโรคกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน ต้องได้รับยาปฏิชีวนะชนิดฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ และต้องให้สารน้ำทางน้ำเกลือในกรณีที่ผู้ป่วยอาเจียนมาก เพื่อรักษาสมดุลเกลือแร่ และน้ำในร่างกาย
การป้องกัน การอักเสบของทางเดินปัสสาวะ อาจทำได้โดย ดื่มน้ำมากๆในเวลาที่ปัสสาวะได้ เพื่อช่วยให้ร่างกายขับเอาเชื้อโรคทิ้งออกจากร่างกาย ไม่กลั้นปัสสาวะเพื่อลดโอกาสการเพิ่มจำนวนของเชื้อโรคในน้ำปัสสาวะ หลังถ่ายอุจจาระ ควรทำความสะอาดโดยใช้กระดาษชำระ เช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปสู่ด้านหลัง (ไม่เช็ดจากด้านหลังมาด้านหน้า เพราะทวารหนักอยู่ด้านหลังท่อปัสสาวะ)

หากมีอาการของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ควรรีบรักษาอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้ลุกลามการอักเสบไปที่กรวยไตและเนื้อไต ซึ่งอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยเบหวานอย่าวางใจเด็ดขาด เพราะการอักเสบที่รุนแรง อาจเกิดถุงหนองรอบไต และติดเชื้อเข้ากระแสเลือด อันตรายถึงชีวิตได้ พฤติกรรมของมนุษย์ มีผลต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้มากมาย เช่น การกิน การนอนหลับ การใช้คอในกรณีนอนอ่านหนังสือ หรือนอนดูทีวีหรือการเงยคอบ่อยๆ เรียกว่าใช้คอในท่าที่ไม่ถูกต้องก็ทำให้กระดูกต้นคอเสื่อมได้ เช่นเดียวกันการกลั้นปัสสาวะบ่อยๆ ก็ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้

การที่มีความรู้และเข้าใจความเป็นไปของธรรมชาติ ของมนุษย์ อย่างถูกต้องและนำมาปรับเปลี่ยนใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละคนจึงเป็นวิธีการที่ดี ที่จะป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพได้ทางหนึ่งทีเดียว​

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องโดย : Officemat​

 

อ่า...มารายงานว่า ช่วงนี้การตามอ่านกระทู้นั้น ช้าเป็นพิเศษ เพราะพี่ๆนั้น โชว์กันอุตลุด ทำให้ใช้เวลาในการเซฟรูปค่อนข้างนานครับ
แต่ว่า ณ ตอนนี้เหลืออีกแค่ประมาณ 80 หน้าเท่านั้นครับ

 

[FONT=&quot]"ที่ให้ปิดทองหลังพระก็เพื่อเตือนตัวเองว่า
การทำความดีไม่จำเป็นต้องอวดใคร หรือประกาศให้ใครรู้ <o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ให้ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ และถือว่าความสำเร็จในการทำหน้าที่ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เป็นบำเหน็จรางวัลที่สมบูรณ์แล้ว[/FONT][FONT=&quot]…"<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]"...ปิดทองไปข้างหลังพระเรื่อย ๆ <o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]แล้วทองจะล้นออกมาที่หน้าพระเอง"[/FONT][FONT=&quot]<o>

</o>[/FONT][FONT=&quot](จาก [/FONT][FONT=&quot]"บันทึกความทรงจำของ พล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร")<o></o>[/FONT]

[FONT=&quot]เวลาได้ยินข่าวว่ามีใคร "ทำดีถวายในหลวง" อย่างเป็นรูปธรรมขึ้นมาสักครั้ง[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ก็อดรู้สึกปลาบปลื้มใจไม่ได้นะคะ และเชื่อว่าพลังแห่งความดีในแต่ละคน แต่ละครั้งนั้น[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ย่อมส่งกระแสความสุขถึงคนรอบข้างและสังคมโดยรวม เป็นแรงบันดาลใจให้แก่กันได้ด้วย<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]อย่างเมื่อปีที่แล้ว ๓๑ ต.ค. ๕๐ มีข่าวใหญ่ขึ้นหน้า ๑ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐอยู่ข่าวหนึ่ง<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]น.ส.ดรุณี มีสุวรรณ เก็บกระเป๋าหนังสีดำที่ตกอยู่ที่พื้นได้ใบหนึ่ง และพบว่าในนั้น<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]มีเงินต่างประเทศอยู่ถึง ๑ ล้านกว่าบาท เธอจึงได้นำมามอบให้ตำรวจ เพื่อตามหาเจ้าของ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ตำรวจถามเธอว่า เงินจำนวนมากมายขนาดนี้ ไม่รู้สึกอยากได้บ้างหรือ[/FONT][FONT=&quot]?<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]คำตอบของเธอทำเอาทุกคนที่ได้ยินตื้นตันไปตาม ๆ กันค่ะ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เธอบอกว่า... เธอไม่อยากเก็บไว้ เธอขอ "ทำความดีถวายในหลวง"[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]กระแสความโลภ ความโกรธ ความหลง ของคนทุกวันนี้ เชี่ยวกรากยิ่งนักนะคะ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ถ้าไม่มั่นคงในความดีงามเสียแล้ว เกิดพลาดพลั้ง เราอาจโง่เขลาเบาปัญญา[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ทำอะไรโดยปราศจากสำนึกผิดชอบชั่วดีไปได้อย่างง่ายดาย ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]โดยเฉพาะถ้าเราพยายามจะเป็นน้ำดี ทั้งที่อยู่ท่ามกลางน้ำเสีย เราจะมีแรงสู้อยู่ได้อย่างไร[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ในหลวงท่านทรงตรัสสอนพวกเราไว้อย่างนี้ค่ะว่า[/FONT][FONT=&quot]<o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot]"การทำความดีนั้น สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเอง ผู้อื่นไม่สำคัญ
และไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องเป็นห่วงหรือต้องรอคอยเขาด้วย
เมื่อได้ลงมือลงแรงกระทำแล้ว ถึงแม้จะมีใครร่วมมือด้วยหรือไม่ก็ตาม
ผลดีที่ทำจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน และยิ่งทำมากเข้า นานเข้า ยั่งยืนเข้า
ผลดีก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น และแผ่ขยายกว้างออกไปทุกที
คนที่ไม่เคยทำดีเพราะเขาไม่เคยเห็นผล ก็จะได้เห็นและหันเข้ามาตามอย่าง[/FONT][FONT=&quot] <o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]หลักประกันสำคัญในการทำดีจึงอยู่ที่ว่า แต่ละคนต้องทำใจให้มั่นคง[/FONT][FONT=&quot] <o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่หวั่นไหวกับสิ่งแวดล้อม ที่เห็นอยู่ ทราบอยู่ มากเกินไป จนเกิดความท้อถอย[/FONT][FONT=&quot]

เมื่อใจมั่นคงแล้ว ก็ขอให้ตั้งอกตั้งใจ สร้างนิมิตและค่านิยมใหม่ขึ้นสำหรับตัวเอง ตามที่พิจารณาเห็นดีด้วยเหตุผลอันถูกต้องเที่ยงตรงแล้ว
แล้วมุ่งหน้าปฏิบัติดำเนินไปให้เต็มกำลังจนบรรลุผลสำเร็จ
ในที่สุด ความดีความเจริญที่ปรารถนาก็จะเกิดทวีขึ้น
และจะเอาชนะความเสื่อมทรามต่าง ๆ ได้ไม่นานเกินรอ...[/FONT][FONT=&quot]" [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]
(พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันศุกร์ที่ ๒๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๒๑[/FONT][FONT=&quot])<o></o>[/FONT]

[FONT=&quot]ใครสะดวกดูวีดีโอออนไลน์ อยากให้ลองเปิดหนังโฆษณาชิ้นนี้ดูกันนะคะ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่ง ที่สะท้อนความพยายามในการสร้างจิตสำนึกให้กับใครก็ตาม[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] ที่อาจกำลังอ่อนแอกับกิเลส ได้มั่นคงในความดีงาม อย่างน้อยก็เพื่อในหลวงของเรา[/FONT][FONT=&quot]<o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot]วิดีโอเรื่อง[/FONT][FONT=&quot]: "เข้มแข็งในความดี เพื่อในหลวงของเรา"<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]http://www.youtube.com/watch?v=VNTNx0Q-2MQ<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ไม่ใช่เพียงแค่ความดีเท่านั้น [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot]ที่ในหลวงท่านทรงปรารถนาให้คนไทยที่เกิดบนแผ่นดินพุทธได้เจริญรอยตาม[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] พระองค์ยังทรงปรารถนาให้พวกเราชาวพุทธทุกคน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] ลงมือศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า ด้วยการลงมือพากเพียรปฏิบัติด้วยความตั้งใจจริง[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] เพราะตราบใดที่เรายังหลงดิ้นไปตามกิเลสเร่า ๆ ไปเรื่อย ๆ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้ชีวิตท่ามกลางความมืดอยู่เช่นนั้นไม่รู้จบสิ้น[/FONT][FONT=&quot]<o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot]"...ความจริงปฏิบัติพระพุทธศาสนา
ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้นไม่ใช่ของยาก
แต่ละคนทำได้ทั้งนั้น แต่ว่าจะต้องมีความตั้งใจ
เมื่อเราอยากที่จะปฏิบัติธรรม มีความอยากแล้ว
ก็หมายความว่าเรายินดี เราอยากที่จะปฏิบัติ

ถ้าเราสนใจพระพุทธศาสนาและปฏิบัติธรรมของพระพุทธศาสนา
เริ่มสนใจก็เริ่มทำได้แล้ว เพราะว่าถ้าคนเราไม่อยากปฏิบัติ ขี้เกียจปฏิบัติ
หรือไม่คิดอ่านที่จะปฏิบัติ ก็ย่อมไม่ได้ปฏิบัติ <o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อไม่ได้ปฏิบัติ ความมืดก็ครอบคลุม เพราะว่าไม่ได้เปิดไฟ
แต่ถ้าเราอยากขึ้นมา และเห็นว่าศาสนานี้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์
ก็ย่อมเป็นการเปิดไฟ แม้จะริบหรี่ก็เป็นความสว่างให้เห็น ..."[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]
(พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะผู้แทนพุทธสมาคมทั่วประเทศ
ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย วันเสาร์ที่ ๑๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๓)
[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ใครที่มักมีข้ออ้างให้ตัวเองว่า งานยุ่ง ไม่มีเวลา เอาไว้แก่ชรา เอาไว้เกษียณก่อน ฯลฯ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] เคยลองนึกดูไหมคะว่า ในหลวงท่านทรงงานหนักกว่าพวกเรากี่ร้อยเท่า[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ทรงดูแลโครงการต่าง ๆ เพื่อความสุขของพสกนิกร พระองค์ต้องเหน็ดเหนื่อยเพียงไหน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] แม้กระนั้น พระองค์ก็ยังทรงไม่ละทิ้งการศึกษาธรรมะ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เพื่อประโยชน์อันสูงสุดที่ชาวพุทธคนหนึ่งพึงจะเรียนรู้ได้ในชีวิตหนึ่งนี้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>
[/FONT] [FONT=&quot]แต่ละครั้งที่ในหลวงท่านได้เสด็จไปกราบครูบาอาจารย์พระป่าในอดีตหลาย ๆ องค์[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] พระปุจฉาของท่านนั้น ได้สะท้อนให้เห็นถึงความใฝ่พระทัย[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ในการมุ่งสู่ประโยชน์สูงสุดของธรรมะอย่างจริงจังทั้งสิ้น[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เช่นเมื่อครั้งที่ในหลวงและพระราชินีฯ ท่านได้เสด็จเยี่ยม หลวงปู่ดูลย์ อตุโล[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ เป็นการส่วนพระองค์ ในหลวงท่านก็ได้ทรงมีพระราชปุจฉาว่า
[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]"การละกิเลสนั้น ควรละกิเลสอะไรก่อน"[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]หลวงปู่ได้ถวายวิสัชนาพระองค์ว่า[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]"กิเลสทั้งหมดเกิดรวมที่จิต ให้ดูที่จิต [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]อันไหนเกิดก่อนให้ละอันนั้นก่อน"[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]
(จากหนังสือ หลวงปู่ฝากไว้)[/FONT][FONT=&quot]<o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot]นอกจากนี้ ยังมีครั้งหนึ่ง ที่ในหลวงท่านได้เสด็จเยี่ยม [/FONT][FONT=&quot]
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย <o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]พระองค์ก็ได้ทรงมีพระราชปุจฉาถึง "ที่สุด" ในพระพุทธศาสนาว่า[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]
"ที่สุดของศีล คืออะไร[/FONT][FONT=&quot]?<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ที่สุดของสมาธิ คืออะไร[/FONT][FONT=&quot]?<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]และที่สุดของปัญญา คืออะไร[/FONT][FONT=&quot]?"<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]หลวงปู่เทสก์ท่านได้ถวายวิสัชนาพระองค์ว่า[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]"ที่สุดของศีล คือ เจตนาวิรัติ<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ที่สุดของสมาธิ คือ อัปนาสมาธิ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]และที่สุดของปัญญา คือ ไตรลักษณ์"
[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ใครอ่านแล้วยังงง ๆ ไม่รู้ว่าคำศัพท์ทั้งสามหมายถึงอะไร[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ก็ขอทิ้งไว้เป็นปริศนาธรรมให้ลองไปค้นคว้าหาคำตอบกันดูก็แล้วกันนะคะ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ขอเฉลยเฉพาะคำสุดท้ายคือ "ไตรลักษณ์" และอยากให้ถือคำนี้เป็นคำสำคัญค่ะ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เพราะที่สุดแล้ว เราปฏิบัติธรรมทั้งหลายทั้งปวงกันไปก็มิใช่เพื่ออะไร[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]แต่เพื่อให้มีปัญญาเห็นสิ่งนี้เท่านั้นเอง คือ "ไตรลักษณ์" หรือ ลักษณะสามประการ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot]ได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือแปลอีกทีว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] เพราะปัญญาที่เห็นเช่นนี้ได้เท่านั้น ที่จะทำให้เราคลายวางจากความยึดถือทั้งปวง[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] เป็นความสว่างที่เข้ามาแทนที่ความมืด เป็นความสุขที่แท้จริง อย่างไม่กลับเป็นอื่นอีก[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]วันนี้... หากจะมีสิ่งใด ที่เราจะพึงเดินตามรอยในหลวงของเราได้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]นอกจากความเข้มแข็งมั่นคงต่อความดีงาม [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot]และการเพียรศึกษาปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างไม่ขี้เกียจขี้คร้านแล้ว[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] ก็อยากให้พวกเราได้นึกถึงความเพียรอันบริสุทธิ์ของ "พระมหาชนก" [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ไว้เป็นแบบอย่างในชีวิต (อ่านเรื่องย่อ พระมหาชนก)[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]จากชาดกในพระพุทธศาสนา เรื่อง "พระมหาชนก" [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สะท้อนถึงพระปณิธานความตั้งใจมั่นในความเพียรของพระองค์[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] และพระองค์เองก็คงทรงปรารถนาจะถ่ายทอดเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทุกคนด้วย[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เพื่อความเป็นผู้มีความเพียรอันบริสุทธิ์ ไม่ท้อถอย ไม่เกียจคร้าน ไม่อ่อนแอ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot]และมีความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ กล้ากระทำในสิ่งอันควร อย่างไม่ละทิ้งในเป้าหมาย [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot]ท่ามกลางความวุ่นวายทั้งปวงในสังคมวันนี้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] กระแสความดีงาม กระแสความสงบ กระแสความร่มเย็น รอบ ๆ ตัวเรา<o></o>[/FONT][FONT=&quot] นับวันก็จะยิ่งหากันได้น้อยลงทุกทีนะคะ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] แต่ก็ไม่ใช่ว่า เราจะช่วยกันสร้างความสงบร่มเย็นเหล่านั้นให้กลับคืนมาใหม่ไม่ได้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] อยากฝากพระราชดำรัสของในหลวงปิดท้ายไว้อีกสักนิดหนึ่งนะคะ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากขอฝากถึงคุณผู้อ่าน และคนไทยในวันนี้ทุก ๆ คนทั่วประเทศเลยนะคะ<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]"ประเทศไทยเราอาจจะไม่เป็นประเทศที่รุ่งเรืองที่สุดในโลก [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]หรือรวยที่สุดในโลก หรือฟู่ฟ่าที่สุดในโลก [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]แต่ก็ขอให้เมืองไทยเป็นประเทศที่มีความมั่นคง มีความสงบได้ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เพราะว่าในโลกนี้หายากแล้ว [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เราทำประเทศเราให้เป็นประเทศที่สงบ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ประเทศที่มีคนช่วยเหลือซึ่งกันและกันจริง ๆ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เราจะเป็นที่หนึ่งในโลกในข้อนี้...."[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

[FONT=&quot](พระราชดำรัส ในโอกาสที่ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์[/FONT][FONT=&quot] นำคณะกรรมการบริหารมูลนิธิฯ และนักเรียนทุนพระราชทานเข้าเฝ้าฯ
ถวายพระพรชัยมงคลในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี ณ ศาลาดุสิดาลัย วันจันทร์ที่ ๒๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๙)
<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ช่วยกันขัดเกลาตัวเราเองทุก ๆ วัน และเผื่อแผ่ความร่มเย็นถึงคนรอบข้างเท่าที่เราจะทำได้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] เพื่อให้เมืองไทยเป็นหนึ่งในโลก อย่างที่ในหลวงของเราทรงตั้งพระปณิธานกันนะคะ

[/FONT] Fr :<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5Cuser%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Browallia New"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> http://www.dungtrin.com/mag เล่มที่ 56
[FONT=&quot]<o>
</o>[/FONT]

 

จากชมรมพระวังหน้า
หน้าที่=69

http://palungjit.org/group.php?do=discuss&discussionid=5&pp=30&page=69

ผมต้องขอโทษทุกๆท่านด้วยที่ทำให้ไม่พอใจ

แต่ถ้าหากว่า ไม่ต้องการอยู่ในชมรม เนื่องจากผมเป็นคนบาป แจ้งด้วยนะครับ ผมจะได้แจ้งทางเว็บมาสเตอร์ให้ลบชื่อออกจากชมรมครับ

เท่าที่ไปบ้านปู่มา ก็เลยได้บทเรียน มากคนก็มาเรื่อง(เคยมีจำนวนคนมากถึง 50 กว่าคน) น้อยคนก็น้อยเรื่องและมีความสุขใจ(มีแค่ 10-20 คน)

ขอบคุณครับ

 

วันนี้ได้คุยกับท่านปาทานแล้วใจมันสั่นๆ ลุ้นๆ อย่างไรไม่รู้ จนทนไม่ไหวต้องมาขอโพสสักหน่อย

(ping-love(ping-love(ping-love(ping-love(ping-love

 

วันนี้ขอนำหนังสือปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่องเล่ม ๑ พระสมเด็จฯของตรียัมปวาย ปริเฉจที่ ๔ พุทธาคมกรรมวิธี บางวรรคตอนมาให้อ่านกัน

"เราเชื่อกันว่า เฉพาะผู้ไร้การศึกษา หรือคนป่าเถื่อนเท่านั้น จึงเชื่อเรื่องมนต์คาถา ข้าพเจ้าเองก็เคยคิดเช่นนั้น แต่ก็มามีเรื่องประจักษ์แก่ตาทำให้เกิดความสงสัยคือ สมเด็จพระวันรัต เขมจารีมหาเถระ วัดมหาธาตุ อาจารย์ข้าพเจ้าเป็นเปรียญ ๙ ประโยค เป็นคณาจารย์ยิ่งใหญ่ เป็นผู้จัดการศึกษาทำให้สำนักวัดมหาธาตุเป็นสำนักศึกษาปริยัติธรรมที่ยิ่งใหญ่...นอกจากจะไม่เชื่อเรื่องเวทมนตร์คาถาแล้ว ยังเป็นปรปักษ์อย่างรุนแรง หาว่าลวงโลกไม่ยอมให้อยู่ในวัด ต่อมาขณะที่มีการสังคายนา พระไตรปิฎก พระอภิธรรมนั้นเป็นภาคใหญ่ และมีความยาก และสำคัญกว่าภาคอื่นๆ สมเด็จอาจารย์ของข้าพเจ้ารับหน้าที่ชำระภาคนี้ทั้งภาคแต่ผู้เดียว ซึ่งนับว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ภายหลังที่ชำระเสร็จสิ้น สังเกตเห็นสมเด็จอาจารย์เปลี่ยนความคิดไปมากในเรื่องมนต์คาถา เคยได้ยินท่านพูดว่า ความเข้าใจที่มีมาแต่ก่อนว่า เรื่องมนต์คาถาเป็นเรื่องเหลวไหลนั้น เห็นจะเข้าใจผิด สมัยต่อมาเมื่อได้เลื่อนเป็นพระพิมลธรรม ยอมประพรมน้ำมนต์ให้คน เมื่อได้เป็นสมเด็จพระวันรัต ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งที่ได้รับการรดน้ำมนต์ และเสกเป่า ความเชื่อของท่านได้เปลี่ยนไป เนื่องจากการที่ได้ตรวจพระไตรปิฎกในตอนที่สำคัญที่สุด และลึกซึ้งที่สุดโดยตลอด"

หลวงวิจิตรวาทการ
(จาก"มหัศจรรย์ทางจิต")

พระสมเด็จฯ จัดได้ว่าเป็นพระศักรพุทธปฏิมาอันกอปรด้วยมงคลการณะหลายประการเป็นองค์ประกอบ จึงทรงอานุภาพอัศจรรย์เป็นที่เลื่องลือเกริกก้อง ผิดกว่าพระเครื่องธรรมดาสามัญทั้งหลายซึ่งสร้างขึ้นในยุครัตนโกสินทร์นี้ปัจจัยสำคัญประการแรกที่สุดก็ได้แก่องค์ผู้สร้าง คือเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ผู้มีจริยวัตรอันหมดจดงดงาม จัดว่าเป็นสรณะที่ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งปวง เจนจัดทั้งด้านพระปริยัติธรรม พระกัมมัฏฐาน และพุทธเวทวิทยาคมโดยรอบ ยิ่งกว่านั้นบรรดานักโหราศาสตร์ทั้งหลายเมื่อได้วิเคราะห์ดวงชะตาของท่าน ก็ยอมรับกันว่า ท่านเกิดมาเพื่อเป็นยอดพระเกจิอาจารย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นเกณฑ์ชะตาของผู้ที่สามารถสร้างอิทธิวัตถุให้บังเกิดผลานิสงส์ได้ประสิทธิ์ยิ่งนัก นอกจากนั้นอำนาจคุณวิเศษของพระสมเด็จฯก็ขึ้นอยู่กับผงวิเศษห้าประการ อันเป็นปัจจัยมูลฐานทางกฤติยานุภาพ ตลอดจนกรรมวิธีปลุกเสก และอธิษฐานจิตอันลึกซึ้ง ยังให้บังเกิดอิทธิผลได้นานาประการ เป็นต้น

ผงวิเศษ ๕ ประการ ความพิสดาร(นายเทพย์ สาริกบุตร, คัมภีร์พระเวท,ตติยบรรพ,(พระนคร:อุตสาหกรรมการพิมพ์,๒๕๑๐) หน้า ๑๑๓-๑๑๖,๑๓๗-๑๗๖ และ๑๘๓-๑๙๑.)

ธาตุแท้แห่งคุณวิเศษ ในมวลสารของพระสมเด็จฯ คือ ผงวิเศษ ๕ ประการอันประกอบด้วย ผงปถังมัง อิธะเจ มหาราช พุทธคุณ และตรีนิสิงเห ซึ่งมิได้หมายความว่าเป็นผงแต่ละชนิดแล้วเอามารวมกัน หากเป็นผงชุดเดียวกันแต่ผ่านกรรมวิธีซับซ้อนถึง ๕ ชั้น ในชั้นต้นทำผงปถังมังนั้นมาทำเป็นผงอิธะเจ และต่อๆไปตามลำดับจนถึง ผงตรีนิสิงเห ด้วยเหตุนี้ผงวิเศษ ๕ ประการจึงทรงกฤติยาคมเข้มข้นที่สุด

 

อนุโมทนาชอบมากเลยครับ

 

ใจสั่นกันหรือครับน้องake7440

ตกลงน้องจากน้องake7440 แล้ว คุณnongnooo กับคุณเพชรสั่นป่าวครับ

แล้วใจสั่นที่ว่า สั่นสู้ป่าวครับ หุหุหุ

555555+++****

จะเป็นเรื่องอะไร วันที่นัดพบกัน ผมแจ้งให้ทราบในวันนั้นนะครับ
.

 

พิมพ์"กลับร้ายกลายเป็นดี" ก็มีนะครับ

อย่าลืมนะครับ วันนัดพบกัน จะนำไปให้ชมกัน ผมออกไปธุระก่อนครับ
.

 

ทั้งสั่นลุ้น ทั้งสั่นสู้ครับ

 

ขออนุญาตขุด โพสนี้ขึ้นมาสักหน่อย
.
.
.
.
.
.
อันนี้ผมไม่ทันจริงๆครับ เหอๆ

 

วันที่ 27
1.สวดมนต์ไหว้<O></O>
2.ภาวนาทำสมาธิ<O></O>
3.รักษาศีลสมาทานศีล<O></O>
4.รับงับความโกรธกับความโลภอันเป็นกิเลส<O></O>
5.ช่วยแม่จัดของให้เป็นที่เป็นทาง<O></O>
6.ยินดีในบุญของผู้อื่น<O></O>
7.ทำบุญอธิฐานใส่บาตรกับแม่<O></O>
8.ศึกษาธรรมะต่างๆ<O></O>
9.เพียรที่ปิดกั้นระวังความชั่วต่างๆมิให้เกิด<O></O>
10.ขยันทำงานอ่านหนังสือตั้งใจเรียนทดแทนคุณพ่อแม่<O></O>
11.เพียรที่กำจัดบาปและอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว<O></O>
12.เพียรที่จะสร้างความดี<O></O>
13.เพียรรักษาความดี รักษาความดีอย่างตั้งมั่น<O></O>
14.แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย<O></O>
15.เชื่อฟังพ่อแม่<O></O>
16.มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่สัญญากับเพื่อน<O></O>
17.เจริญพรหมวิหาร 4<O></O>
18.ใช้อิทธิบาท4เข้าช่วยในการเรียน<O></O>
19.ช่วยพ่อแม่ขายของเฝ้าร้าน
20.หมั่นระลึกและเคารพคุณพระรัตนตรัยพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพเวลามีปัญหาให้เกิดความกำลังใจและมีแรงหรือเวลากลัวต่างๆให้มีความกล้าระลึกเป็นกำลังใจว่าท่านคอยคุ้มครองช่วยเหลือเรา
21.อภัยทานแก่คนที่มาแกล้งหรือทำร้ายเราคิดมิดีกับเรา<O></O>
22.ช่วยแม่ขายของ
23.เสียสละที่นั่งให้คนชรา
วันที่ 28
1.สวดมนต์ไหว้<O></O>
2.ภาวนาทำสมาธิ<O></O>
3.รักษาศีลสมาทานศีล<O></O>
4.รับงับความโกรธกับความโลภอันเป็นกิเลส<O></O>
5.ช่วยแม่จัดของให้เป็นที่เป็นทาง<O></O>
6.ยินดีในบุญของผู้อื่น<O></O>
7.ทำบุญอธิฐานใส่บาตรกับแม่<O></O>
8.ศึกษาธรรมะต่างๆ<O></O>
9.เพียรที่ปิดกั้นระวังความชั่วต่างๆมิให้เกิด<O></O>
10.ขยันทำงานอ่านหนังสือตั้งใจเรียนทดแทนคุณพ่อแม่<O></O>
11.เพียรที่กำจัดบาปและอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว<O></O>
12.เพียรที่จะสร้างความดี<O></O>
13.เพียรรักษาความดี รักษาความดีอย่างตั้งมั่น<O></O>
14.แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย<O></O>
15.เชื่อฟังพ่อแม่<O></O>
16.มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่สัญญากับเพื่อน<O></O>
17.เจริญพรหมวิหาร 4<O></O>
18.ใช้อิทธิบาท4เข้าช่วยในการเรียน<O></O>
19.ช่วยพ่อแม่ขายของเฝ้าร้าน
20.หมั่นระลึกและเคารพคุณพระรัตนตรัยพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพเวลามีปัญหาให้เกิดความกำลังใจและมีแรงหรือเวลากลัวต่างๆให้มีความกล้าระลึกเป็นกำลังใจว่าท่านคอยคุ้มครองช่วยเหลือเรา
21.อภัยทานแก่คนที่มาแกล้งหรือทำร้ายเราคิดมิดีกับเรา<O></O>
22.ช่วยแม่ขายของ