พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ล้มละลาย
http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHhNUzB5Tmc9PQ==

คอลัมน์ที่ 13



ล้มละลาย คือภาวะที่ลูกหนี้ที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว และไม่สามารถชำระหนี้ได้

ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 กำหนดเรื่องล้มละลายว่า

มาตรา 8 ถ้ามีเหตุอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว

1.ถ้าลูกหนี้โอนทรัพย์สินหรือสิทธิการจัดการทรัพย์สินของตนให้แก่บุคคลอื่น เพื่อประโยชน์แห่งเจ้าหนี้ทั้งหลายของตน ไม่ว่าได้กระ ทำการนั้นในหรือนอกราชอาณาจักร

2.ถ้าลูกหนี้โอนหรือส่งมอบทรัพย์สินของตนเองไปโดยการแสดงเจตนาลวงหรือโดยการฉ้อฉล ไม่ว่าได้กระทำการนั้นในหรือนอกราชอาณาจักร

3.ถ้าลูกหนี้โอนทรัพย์สินของตนหรือก่อให้เกิดทรัพย์สิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด หรือขึ้นเหนือทรัพย์สินนั้น ซึ่งถ้าลูกหนี้ล้มละ ลายแล้วจะถือว่าเป็นการให้เปรียบ ไม่ว่าได้กระทำการนั้นในหรือนอกราชอาณาจักร

4.ถ้าลูกหนี้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ เพื่อประวิงการชำระหนี้หรือมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้

ก.ออกไปเสียนอกราชอาณาจักร หรือได้ออกไปก่อนแล้วและคงอยู่นอกราชอาณาจักร

ข.ไปเสียจากเคหสถานที่เคยอยู่ หรือซ่อนตัวอยู่ในเคหสถานหรือหลบไปหรือวิธีอื่น หรือปิดสถานที่ประกอบธุรกิจ

ค.ยักย้ายทรัพย์ไปให้พ้นอำนาจศาล

ง.ยอมตนให้ต้องคำพิพากษาซึ่งบังคับให้ชำระเงินซึ่งตนไม่ควรต้องชำระ

5.ถ้าลูกหนี้ถูกยึดทรัพย์ตามหมายบังคับคดีหรือไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้

6.ถ้าลูกหนี้แถลงต่อศาลในคดีใดๆ ว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้

7.ถ้าลูกหนี้แจ้งให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งคนใดของตนทราบว่าไม่สามารถ ชำระหนี้ได้

8.ถ้าลูกหนี้เสนอคำขอประนอมหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป

9.ถ้าลูกหนี้ได้รับหนังสือทวงถามจากเจ้าหนี้แล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ซึ่งมีระยะเวลาต่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน และลูกหนี้ไม่ชำระหนี้

มาตรา 9 เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ก็ต่อเมื่อ

1.ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว

2.ลูกหนี้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์คนเดียวหรือหลายคน เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท หรือลูกหนี้ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์คนเดียวหรือหลายคนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท

และ 3.หนี้นั้นอาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอนไม่ว่าหนี้นั้นจะถึงกำหนดชำระโดยพลันหรือในอนาคตก็ตาม

ตามพระราชบัญญัติล้มละลายของไทยนั้น ลูกหนี้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาที่ศาลมีคำพิพากษาให้ล้มละลายจะพ้นจาก การเป็นบุคคลล้มละลายเมื่อครบ 3 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา

สำหรับลูกหนี้ที่เป็นนิติบุคคลนั้น พระราชบัญญัติดังกล่าวเปิดช่องทางให้ลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ร้องขอต่อศาลให้ฟื้นฟูกิจการได้

เพื่อให้ลูกหนี้ที่เป็นนิติบุคคลนั้นไม่ต้องล้มละลายหากมีช่องทางฟื้นฟูกิจการให้ดำเนินต่อไป ซึ่งจะทำให้มีรายได้ที่จะนำมาชำระหนี้แก่เจ้าหนี้

การฟื้นฟูกิจการนี้ใช้ได้เฉพาะกับลูกหนี้ที่เป็นนิติบุคคลเท่านั้น บุคคลธรรมดาร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการมิได้

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฮุ่ยจี๋จี้อี : เจ็บป่วยไม่รักษา
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9510000136895
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 พฤศจิกายน 2551 18:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจาก sn2z.net</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> 讳 (huì) อ่านว่า ฮุ่ย แปลว่า ข้อต้องห้าม
疾 (jí) อ่านว่า จี๋ แปลว่า เจ็บป่วย
忌 (jì)อ่านว่า จี้ แปลว่า ข้อต้องห้าม
医 (yī) อ่านว่า อี แปลว่า รักษา, แพทย์, การแพทย์

ในอดีตกาล มีแพทย์ผู้หนึ่ง นามว่า เปี่ยนเชว่ วันหนึ่งเขามีโอกาสเข้าพบอ๋องไช่หวนกง เมื่อได้พบ เปี่ยนเชว่สังเกตอาการของอ๋องโดยละเอียดแล้วจึงกล่าวว่า "ท่านอ๋อง ดูท่าว่าท่านกำลังป่วยไข้ ทว่าตอนนี้อาการป่วยเพิ่งจะแทรกซึมอยู่ในระดับผิวหนัง หากรีบทำการรักษาก็จะสามารถหายดีได้ในเร็ววัน" อ๋องไช่หวนกงได้ยิน กลับตอบอย่างมีอารมณ์ว่า "ข้าไม่ได้ป่วย ไม่ต้องให้ท่านมารักษา" หลังจากที่แพทย์เปี่ยนจากไป อ๋องไช่หวนกงก็กล่าวกับคนรอบข้างว่า "หมอบางคนใช้ไม่ได้ วันๆ เอาแต่คิดที่จะรักษาคนไข้ คนไม่ป่วยก็หาว่าป่วย เพียงเพราะว่าจะได้ใช้เป็นข้อพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นหมอที่เก่งกาจก็เท่านั้น"

วันเวลาผ่านไปราว 10 วัน เปี่ยนเชว่กลับมาขอพบอ๋องไช่ อีกครั้ง เมื่อพบหน้ากัน เขากล่าวอย่างร้อนรนว่า "ตอนนี้โรคของท่านลุกลามไปยังกล้ามเนื้อภายในแล้ว ต้องรีบรักษาโดยพลัน" ทว่าอ๋องไช่หวนกงยังยืนยันคำเดิม "ข้าไม่ได้ป่วยไข้ เชิญท่านกลับไปเถอะ!" เปี่ยนเชว่จึงผิดหวังกลับไปอีกครั้ง

ผ่านไปอีก 10 วัน แพทย์เปี่ยนกลับมาอีกครั้ง ครานี้เมื่อพบหน้าอ๋องไช่หวนกง เขาตกใจมาก และกล่าวว่า "แย่แล้ว ตอนนี้โรคของท่านอ๋องลุกลามไปยังกระเพาะและสำไส้แล้ว ต้องรักษาทันทีไม่อาจยืดเวลาออกไปได้อีกแล้ว" ทว่าอ๋องไช่ตอบกลับอย่างโมโหว่า "ป่วยกับผีอะไรล่ะ ข้าไม่ได้ป่วย!"

อีก 10 วันถัดมา เปี่ยนเชว่กลับมาอีกครั้ง ครานี้เมื่อเห็นสภาพอ๋องไช่หวนกง เขากลับไม่พูดอะไร เพียงแค่หันหลังเดินออกจากห้องไป ทว่าพฤติกรรมของเขาทำให้อ๋องไช่หวนกงรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง จึงได้ส่งคนตามไปสอบถามแพทย์เปี่ยนเชว่ดังนี้ "ท่านมิใช่ไปเยี่ยมท่านอ๋องหรอกหรือ เหตุใดเมื่อไปถึงจึงได้หันหลังกลับออกมา?" เปี่ยนเชว่กล่าวตอบคนผู้นั้นว่า "การป่วยไข้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพียงแค่รักษาให้ทันการ ตามธรรมดาโรคภัยย่อมหายไป ที่น่ากลัวคือคนป่วยที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วย ไม่ยอมรับการรักษา ป่วยที่ผิวหนังแก้ได้ด้วยการทายาประคบร้อน ป่วยที่กล้ามเนื้อแก้ได้ด้วยการฝังเข็ม ป่วยที่กระเพาะลำไส้แก้ได้ด้วยการดื่มยา ทว่าบัดนี้โรคของท่านอ๋องได้แพร่ไปยังกระดูกแล้ว อาการขั้นนี้ทำได้เพียงแค่รอเวลาฟ้ากำหนดเท่านั้น ดังนั้นข้าจึงไม่อาจขอร้องให้ท่านอ๋องรับการรักษาใดอีก"

หลังจากนั้นเพียง 5 วัน อาการป่วยของอ๋องไช่หวนกงก็กำเริบทำให้เกิดอาการเจ็บปวดอย่างยิ่ง แม้ว่าท่านอ๋องจะส่งคนไปตามเปี่ยนเชว่มารักษา แต่ในตอนนั้นเปี่ยนเชว่ได้เดินทางออกไปยังเมืองอื่นแล้ว จากนั้นอีกเพียงไม่กี่วัน อ๋องไช่หวนกงก็สิ้นใจ

สุภาษิต "ฮุ่ยจี๋จี้อี" หรือ "เจ็บป่วยไม่รักษา" ปัจจุบันใช้เปรียบเทียบกับการปกปิดความผิดพลาดหรือไม่ยอมรับข้อเสียของตนเอง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ว่าด้วยเรื่อง

 

พระราชประวัติ​

พระบาทสมเด็จ<WBR>พระ<WBR>ปรมินทร<WBR>มหาภูมิพล<WBR>อดุลยเดช<WBR>มหาราช ​

http://school.obec.go.th/nongjabtao/prarat-pravut.htm​

รู้เรื่องในหลวงของเรา​

วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๗๐ ตรงกับวันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๒ ค่ำ ปีเถาะ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดช พระราชโอรสพระองค์เล็กในสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ และหม่อมสังวาลย์ ประสูติ ณ โรงพยาบาลเมานท์ออเบร์น เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสสาซูเสตต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เหตุที่ประสูติที่อเมริกา เพราะขณะนั้น พระบรมราชชนก เสด็จทรงศึกษาและปฏิบัติหน้าที่ราชการในต่างประเทศ ทรงมีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ​

<TABLE id=AutoNumber13 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width="11%"></TD><TD width="79%" colSpan=3>• พระนาม “ ภูมิพลอดุลยเดช ” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รับพระราชทานมาจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ มีความหมายว่า “ ผู้ทรงกำลังอำนาจไม่มีอะไรเทียบในแผ่นดิน ”

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• หลังจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงประกาศสละราชสมบัติเมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๔๗๗ รัฐบาลไทยในขณะนั้นได้กราบทูลเชิญพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล ซึ่งเป็นพระบรมเชษฐาธิราช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ ๘ แห่งราชจักรีวงศ์ จากนั้นในวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๔๗๘ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดช ทรงได้รับเฉลิมพระนามเป็น “ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ” ในครั้งนั้นทั้งสองพระองค์ยังประทับอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• ในปี ๒๔๘๐ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช สายพระเนตรสั้นลง เป็นเหตุให้ต้องทรงฉลองพระเนตรนับตั้งแต่นั้นมา

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• ในปี ๒๔๘๘ หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ สิ้นสุดลง รัฐบาลได้กราบบังคมทูลอัญเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ซึ่งขณะนั้นทรงพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษา เสด็จกลับมาประทับเป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทย ในการเสด็จนิวัตสู่ประเทศไทยครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะพระเจ้าน้องยาเธอฯ ได้เสด็จกลับมาด้วย โดยได้เสด็จถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๘๘ อันตรงกับวันพระราชสมภพ ขณะมีพระชนมายุครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• ใน วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ ประชาชนชาวไทยต้องประสบกับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง เมื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จสวรรคต อย่างกระทันหันด้วยพระแสงปืน ณ พระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง และในวันเดียวกันนี้เอง พระบรมวงศานุวงศ์และคณะรัฐมนตรีก็ได้กราบบังคมทูล อัญเชิญสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็น พระมหากษัตริย์ลำดับที่ ๙ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และได้มีการประกาศเฉลิมพระนามว่า “ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ” แต่เนื่องจากในขณะนั้นทรงมีพระชนมายุเพียง ๑๙ พรรษา ยังไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินด้วยพระองค์เองได้ อีกทั้งยังมีพระราชภารกิจเรื่องการศึกษา จึงได้มีการแต่งตั้งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร และพระยามานวรราชเสวี เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๔๘๙ ได้เสด็จกลับไปศึกษาต่อที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์พร้อมสมเด็จพระราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธออีกครั้ง โดยก่อนจากประเทศไทยในครั้งนั้น ได้ทรงเสด็จไปถวายบังคมลาพระบรมศพพระบรมเชษฐาธิราชที่พระบรมมหาราชวัง ขณะที่ประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังสนามบินดอนเมือง ได้มีประชาชนคนหนึ่งตะโกนว่า “ อย่าละทิ้งประชาชน ” ซึ่งพระองค์ก็ได้ทรงมีพระราชนิพนธ์เรื่อง “ เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิตเซอร์แลนด์ ” ว่าทรงอยากจะร้องบอกเขาลงไปว่า “ ถ้าประชาชนไม่ “ ทิ้ง ” ข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะ “ ละทิ้ง ” อย่างไรได้ แต่รถวิ่งเร็วและเลยไปไกลเสียแล้ว ..”

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• เมื่อเสด็จกลับไปยังประเทศสวิสเซอร์แลนด์เพื่อศึกษาต่อ ก็ได้ทรงเปลี่ยนจากสาขาวิทยาศาสตร์ มาทรงศึกษารัฐประศาสนศาสตร์ และนิติศาสตร์ เพื่อเตรียมพระองค์ในการเป็นพระประมุขของประเทศ

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• ในปี ๒๔๙๓ เมื่อเสด็จนิวัตกลับประเทศไทยแล้ว ได้ทรงกำหนดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลตั้งแต่วันที่ ๑๘ มีนาคม จนถึงวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๔๙๓ อันเป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• หลังจากนั้นใน วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯก็ได้ทรงจัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ซึ่งพระราชพิธีราชาภิเษกครั้งนี้ นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกสำหรับพระมหากษัตริย์ไทยในยุคประชาธิปไตย ที่ได้ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่นเดียวกับปวงชนชาวไทย

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• ในวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ ได้ทรงจัด พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ปกครองแผ่นดินอย่างสมบูรณ์ โดยมีพระปรมาภิไธยว่า “ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ” ซึ่งในครั้งนั้นได้ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่า “ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ” พร้อมกันนี้ได้ทรงสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ พระอัครมเหสี ขึ้นเป็น “ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ”

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• ในวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๔๙๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงผนวช ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราช (หม่อมราชวงศ์ชื่น นภวงศ์) วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงเป็นพระราชอุปชฌาย์ และสมเด็จพระสังฆราชได้ถวายพระสมณฉายานามว่า “ ภูมิพโล ภิกขุ ” ทรงประทับจำพรรษา ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงดำรงอยู่ในเพศบรรพชิตอยู่ ๑๕ วันจึงลาผนวชเมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ ในระหว่างทรงผนวช ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีเป็นผู้สำเร็จราชการทรงปฏิบัติราชการแผ่นดินแทนพระองค์ ซึ่งทรงปฏิบัติราชกรณียกิจในตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้อย่างเรียบร้อยเป็นที่พอพระราชหฤทัย จึงได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี นาถ ในปีเดียวกันนี้เอง

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• ในปี ๒๕๐๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้ เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรัชกาล โดยเริ่มจากประเทศสาธารณรัฐเวียดนาม อินโดนีเซีย และสหภาพพม่า และในปี ๒๕๐๓ ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศในทวีปยุโรป รวม ๑๔ ประเทศ ตั้งแต่วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๐๓-วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๐๔ ซึ่งในการเสด็จฯเยือนต่างประเทศครั้งนั้น นอกจากจะช่วยกระชับความสัมพันธ์กับมิตรประเทศแล้ว ทั้งสองพระองค์ยังได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจจนบังเกิดผลสำเร็จ นำผลประโยชน์มาสู่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยมากมาย ทรงเป็นที่กล่าวขานถึงพระบารมีเลืองลือขจรไกล

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• ในปี ๒๕๐๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก จึงทรงโปรดเกล้าฯให้มีพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลในวโรกาสมหามงคลข้างต้นตามโบราณราชประเพณี ที่นิยมเฉลิมฉลองวโรกาสที่พระเจ้าอยู่หัวฯทรงเจริญพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระบรมราชบุรพการี

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• ในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๑๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงกระทำ “ พระราชพิธีรัชดาภิเษก ” อันเป็นพิธีเฉลิม ฉลองสิริราชสมบัติครบ ๒๕ ปี และในปี ๒๕๒๐ คณะบุคคลอันประกอบด้วยประชาชนทุกสาขาอาชีพ ได้พร้อมกันแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการน้อมเกล้าฯถวายพระราชสมัญญา “ มหาราช ” พร้อมจัดงานถวายพระพรและเฉลิมพระเกียรติในวันเฉลิมพระชนมพรรษา โดยใช้ชื่อว่า “ ๕ ธันวามหาราช ” ต่อมาเพื่อความพร้อมเพรียงในหมู่พสกนิกรชาวไทยในอันที่จะถวายพระราชสมัญญา “ มหาราช ” จึงได้มีการสำรวจประชามติทั่วประเทศ ปรากฎว่าประชาชนมีความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น จึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ถวายพระราชสมัญญา “ มหาราช ” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๐

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๙ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้น้อมเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา “ อัครศิลปิน ” แด่พระองค์ ด้วยทรงเป็นเลิศในศิลปะหลายสาขา อาทิ ดุริยางคศิลป์ ทัศนศิลป์ และนฤมิตศิลป์ เป็นต้น คำว่า “ อัครศิลปิน ” หมายถึง ผู้มีศิลปะอันเลอเลิศ หรือผู้เป็นใหญ่ในศิลปินก็ได้ เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากจะทรงเป็นเลิศในศิลปะทั้งปวงแล้ว ยังทรงมีคุณูปการได้ทรงอุปถัมภ์แก่ศิลปินทั้งหลายด้วย

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• วันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๓๑ ได้มีการจัด “ ราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ” อันเป็นพระราชพิธีเฉลิมฉลองเนื่องใน อภิลักษขิตสมัยที่ทรงครองราชสมบัติยาวนานกว่าสมเด็จพระมหากษัตราธิราชเจ้าแห่งราชอาณาจักรไทยทุกพระองค์ในอดีต ซึ่งเป็นมหามงคลวโรกาสที่หาได้ยากยิ่ง คือ ทรงครองราชย์สมบัติเป็นเวลา ๔๒ ปี ๒๒ วัน ซึ่งเป็นเวลาจำนวนปีและวันเท่ากับสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระอัยยิกาธิราช

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๓๙ เป็นวันที่ ทรงครองราชย์สมบัติครบ ๕๐ ปี รัฐบาลได้จัดงานเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่เพื่อถวายเป็นราชสักการะและถวายพระพรชัยมงคล พระองค์ได้โปรดเกล้าฯพระราชทานชื่องานว่า “ พระราชพิธีกาญจนาภิเษก ” นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษอีกวาระหนึ่งที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ไทย

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๓ ได้มีงาน “ พระราชพิธีสมมงคล พระชนมายุ ๗๓พรรษา เท่ากับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ” ( สมมงคล อ่านว่า สะ-มะ-มง-คล)คือวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระชนมายุได้ ๒๖,๔๖๙ วัน เท่ากับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ ปีนี้ เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ได้ทรงโปรดเกล้าฯพระราชทานชื่องานว่า “ พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ” ซึ่งหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งพสกนิกรชาวไทยต่างร่วมใจกันจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อถวายเป็นราชสักการะ และร่วมเฉลิมฉลองวโรกาสมหามงคลครั้งนี้ทั่วประเทศ ที่สำคัญคือจะมีประมุขและพระบรมวงศานุวงศ์จากมิตรประเทศมาร่วมถวายพระพรด้วย

​

</TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%">

​

</TD><TD width="79%" colSpan=3>• และใน วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ จะทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๘๐ พรรษา ซึ่งได้โปรดเกล้าฯพระราชทานชื่อมาแล้วว่า “ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ”ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น คือเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช “ ในหลวง ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ” ซึ่งตลอดระยะเวลาแห่งการครองราชย์ นับตั้งแต่วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ ตราบจนปัจจุบัน เป็นเวลา ๖๐ ปีเต็ม จนกล่าวได้ว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก ได้ทรงอุทิศพระวรกาย พระราชหฤทัย และพระสติปัญญาบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ทั้งปวงเพื่ออาณาประชาราษฎร์ของพระองค์อย่างมากมายมหาศาลตลอดมา จนยากยิ่งที่จะหาพระมหากษัตริย์พระองค์ใด หรือประมุขของประเทศใดในโลกมาเทียบเคียงได้ ดังนั้น ในโอกาสมหามงคลสมัยนี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทั้งในและนอกประเทศได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ด้วยการตั้งใจ “ ทำความดี ” และ “ รู้รักสามัคคี ” ถวายเป็นพระราชสักการะ ให้สมกับที่พวกเราได้มีบุญเกิดบนผืนแผ่นดินไทย ที่มี “ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ” เป็นพระประมุขของชาติ </TD><TD width="10%">

​

</TD></TR><TR><TD width="11%"></TD><TD width="79%" colSpan=3></TD><TD width="10%"></TD></TR><TR><TD width="11%"></TD><TD width="79%" colSpan=3>ขอขอบคุณ คุณอมรรัตน์ เทพกำปนาท</TD><TD width="10%"></TD></TR><TR><TD width="11%"></TD><TD width="79%" colSpan=3>กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเป็นที่มาของบทความ</TD><TD width="10%"></TD></TR><TR><TD width="11%"></TD><TD width="79%" colSpan=3></TD><TD width="10%"></TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

พระราชประวัติ​

พระบาทสมเด็จ<WBR>พระ<WBR>ปรมินทร<WBR>มหาภูมิพล<WBR>อดุลยเดช<WBR>มหาราช ​

http://school.obec.go.th/nongjabtao/prarat-pravut.htm​

<TABLE id=table13 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=592>

​

</TD><TD>

อาศิรวาท นวมราชสดุดี​

</TD></TR><TR><TD width=85>

​

</TD><TD width=592>

เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช

​

</TD><TD>

​

</TD></TR><TR><TD width=85>

​

</TD><TD width=592>

ทรงครองราชย์ ครบ ๖๐ ปี

​

</TD><TD>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE id=table10 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=86></TD><TD width=69></TD><TD width=276>สรวมชีพ อาศิรวาท บาทบดินทร์</TD><TD width=245>องค์ภูมิพล สยามินทร์ ปิ่นเกศี</TD><TD width=84></TD></TR><TR><TD width=86></TD><TD colSpan=2>ครองสิริราชย์ สืบพงศ์ วงศ์จักรี</TD><TD width=245>หกสิบปี ปกประเทศ ปกเกศไทย</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table11 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=86></TD><TD width=69></TD><TD width=276>ธ ครองแผ่นดิน โดยธรรม ตามคำมั่น</TD><TD width=245>ปณิธาน พระทรงธรรม์ นั้นยิ่งใหญ่</TD><TD width=84></TD></TR><TR><TD width=86></TD><TD colSpan=2>ธ สรรค์สร้าง ประโยชน์สุข เพื่อผองไทย</TD><TD width=245>เป็นฉัตรชัย ดับทุกข์เข็ญ ราษฎร์เย็นทรวง</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table12 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=86></TD><TD width=69></TD><TD width=276>พระทัยท่าน พระทัยทอง ผ่องรังสี</TD><TD width=245>เลิศความดี ล้ำเมตตา ค่าใหญ่หลวง</TD><TD width=84></TD></TR><TR><TD width=86></TD><TD colSpan=2>พระเนตรนั้น เพื่อห่วงใย ไทยทั้งปวง</TD><TD width=245>ราษฎร์ร้อนทรวง อยู่แห่งหน ตำบลใด</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table14 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=86></TD><TD width=69></TD><TD width=276>พระบาทบุก ขุนเขา ลำเนาป่า</TD><TD width=245>เสด็จผ่าน ธารธารา เชี่ยวกรากไหล</TD><TD width=84></TD></TR><TR><TD width=86></TD><TD colSpan=2>ทรงเหนื่อยยาก ตรากตรำ สักเพียงใด</TD><TD width=245>ขอทวยราษฎร์ พ้นภัย ก็พอเพียง</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table15 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=86></TD><TD width=69></TD><TD width=276>คิดโครงการ เนื่องใน พระราชดำริ </TD><TD width=245>ทรงตรองตริ ค้นวิจัย ให้อย่างเยี่ยง</TD><TD width=84></TD></TR><TR><TD width=86></TD><TD colSpan=2>แนะแนวทาง เศรษฐกิจ อย่างพอเพียง</TD><TD width=245>เพื่อราษฎร์เลี้ยง ชีวัน อย่างมั่นคง</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table16 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=86></TD><TD width=69></TD><TD width=276>พระอัจฉริยภาพ พระทรงชัย เกริกไกรก้อง</TD><TD width=245>ประชาคมโลกแซ่ซ้อง ล้วนเสริมส่ง</TD><TD width=84></TD></TR><TR><TD width=86></TD><TD colSpan=2>ครบครองราชย์ หกสิบปี ของพระองค์</TD><TD width=245>UN ส่ง เลขาธิการ สานสัมพันธ์</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table17 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=86></TD><TD width=69></TD><TD width=276>เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล อันทรงค่า</TD><TD width=245>ด้านพัฒนา มนุษย์ให้ ได้สุขสันต์</TD><TD width=84></TD></TR><TR><TD width=86></TD><TD colSpan=2>ประสบผล สูงสุด เกินจำนรรจ์</TD><TD width=245>UNDP คือรางวัล อันเกรียงไกร</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table18 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=86></TD><TD width=69></TD><TD width=276>รางวัลใด ไหนเล่า เท่าราษฎร์สุข</TD><TD width=245>ปัดเป่าทุกข์ ให้ไพร่ฟ้า นั้นหน้าใส</TD><TD width=84></TD></TR><TR><TD width=86></TD><TD colSpan=2>คือรางวัล ที่พระ ภูวไนย</TD><TD width=245>ตั้งพระทัย ปรารถนา มายาวนาน</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table19 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=86></TD><TD width=69></TD><TD width=276>วโรกาส ทรงครองราชย์ หกสิบปี</TD><TD width=245>ประชาไทย ทั่วธานี ขอกล่าวขาน</TD><TD width=84></TD></TR><TR><TD width=86></TD><TD colSpan=2>น้อมมนัส ถวายสัตย์ ปฏิญาณ </TD><TD width=245>จะสมาน สามัคคี ทำดีกัน</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table20 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=86></TD><TD width=69></TD><TD width=276>จะประพฤติ ตามรอยเบื้อง ยุคลบาท</TD><TD width=245>เสียสละ เพื่อชาติ ไทยสุขสันต์</TD><TD width=84></TD></TR><TR><TD width=86></TD><TD colSpan=2>ใช้ชีวิต อย่างพอเพียง เยี่ยงทรงธรรม์</TD><TD width=245>เกื้อกูลกัน มิเลือกชาติ หรือศาสน์ใด</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table21 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=86></TD><TD width=69></TD><TD width=276>สรวมเดช พระไตรรัตน์ พิพัฒน์ผล</TD><TD width=245>ขอทรงพระ เจริญชนม์ จิรสมัย</TD><TD width=84></TD></TR><TR><TD width=86></TD><TD colSpan=2>ให้พรั่งพร้อม จตุรพร นิราภัย</TD><TD width=245>พระเกียรติไกร ถิรสุข นิรันดร์กาล</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table22 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=82></TD><TD width=595></TD><TD></TD></TR><TR><TD width=82></TD><TD width=595>

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ​

​

</TD><TD></TD></TR><TR><TD width=82></TD><TD width=595>

ข้าพระพุทธเจ้า ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุรีย์ ไวยกุฬา ประพันธ์​

​

</TD><TD></TD></TR><TR><TD width=82></TD><TD width=595></TD><TD></TD></TR><TR><TD width=82></TD><TD width=595>

​

​

</TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table23 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=82></TD><TD width=595>

อาเศียรพาท นวมราชสดุดี​

​

</TD><TD></TD></TR><TR><TD width=82></TD><TD width=595>

เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๘0 ปี​

​

</TD><TD></TD></TR><TR><TD width=82></TD><TD width=595>

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช​

​

</TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
​

​

​

​

​

​

​

​

​

<TABLE id=table24 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=201></TD><TD>ภูมิ ธรรม ธ เพียบพร้อม</TD><TD width=217>บำเพ็ญ</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table25 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=130></TD><TD>พล เพื่อราษฎร์รอนเข็ญ</TD><TD width=218>ขัดข้อง</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>มหา กษัตริย์ทรงเป็น</TD><TD width=218>จอมปราชญ์</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>ราช กิจเกริกเกียรติก้อง</TD><TD width=218>ร่มเกล้าชาวประชา</TD><TD width=83></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table26 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=201></TD><TD>ที่ห้าธันวมาสนี้ </TD><TD width=217>เฉลิมชนม์</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table27 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=130></TD><TD>แปดสิบพรรษมงคล</TD><TD width=218>ปิ่นเกล้า</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>ราษฎร์เริงรื่นรวมกมล </TD><TD width=218>เฉลิมเกียรติ พระเฮย</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>ถวายพระพรบวรเจ้า</TD><TD width=218>จุ่งพร้อมจตุรพร</TD><TD width=83></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table28 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=201></TD><TD>ประชากรถวายสัตย์น้อม</TD><TD width=217>ปณิธาน</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table29 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=130></TD><TD>ยึดมั่น ธรรมสี่ประการ</TD><TD width=218>ก่อเกื้อ</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>เกิดความรักสมัครสมาน</TD><TD width=218>สามัค- คีเฮย</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>เพื่อร่วมแรงโอบเอื้อ</TD><TD width=218>ชาติให้ร่มเย็น</TD><TD width=83></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table30 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=201></TD><TD>คิด เห็น ทำ พูด ด้วย</TD><TD width=217>เมตตา</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table31 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=130></TD><TD>ร่วมประสานประโยชน์พา</TD><TD width=218>เสร็จได้</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>ยึดมั่นกฎกติกา</TD><TD width=218>สุจริต ใจแฮ</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>พินิจเหตุผลให้</TD><TD width=218>ถูกต้องครองธรรม</TD><TD width=83></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table32 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=201></TD><TD>กระแสพระดำรัสก้อง</TD><TD width=217>กังวาน</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table33 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=130></TD><TD>พระประสงค์ภูบาล</TD><TD width=218>บอกไว้</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>ปวงพสกยกคำขาน</TD><TD width=218>ครวญใคร่ คิดแฮ</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>ร่วมพัฒนาชาติให้</TD><TD width=218>รุ่งเรื้องสราญรมย์</TD><TD width=83></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table34 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=201></TD><TD>ไทยอุดมร่มด้วย</TD><TD width=217>พระบารมี</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table35 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=130></TD><TD>แผ่ปกป้องปฐพี</TD><TD width=218>สุขพ้อง</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>ตรากตรำนับแรมปี</TD><TD width=218>ปวงราษฎร์ ห่วงนา</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>หกสิบล้านใจซ้อง</TD><TD width=218>สดับเฝ้าข่าวสาร</TD><TD width=83></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table36 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=201></TD><TD>พระภูบาลทุกข์ร้อน</TD><TD width=217>เรื่องใด</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table37 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=130></TD><TD>ราษฎร์อุระหวั่นไหว</TD><TD width=218>วุ่นว้า</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>หวังแบ่งทุกข์จอมไทย</TD><TD width=218>คลายโศก เศร้าแฮ</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>ราษฎร์รัก ธ ยิ่งฟ้า</TD><TD width=218>ยิ่งหล้าสาคร</TD><TD width=83></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table38 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=201></TD><TD>คือ บิดรแผ่เอื้อ</TD><TD width=217>อารี</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table39 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=130></TD><TD>คือ กษัตริย์สืบจักรี </TD><TD width=218>เกริกหล้า</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>คือ พระมิ่งโมลี</TD><TD width=218>ปกประเทศ ไทยเฮย</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>คือ เทพจากฟากฟ้า</TD><TD width=218>เสด็จแคว้นแดนไทย</TD><TD width=83></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table40 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=201></TD><TD>เปรมใจปราโมทย์พร้อม</TD><TD width=217>ไผทสยาม</TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table41 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=130></TD><TD>เฉลิมพระชนม์ฉลองความ</TD><TD width=218>สุขถ้วน</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>เฉลิมพระเกียรติทุกเขตคาม</TD><TD width=218>สมโภช</TD><TD width=83></TD></TR><TR><TD width=130></TD><TD>แปดสิบพรรษเลิศล้วน</TD><TD width=218>ผ่องแผ้วสุขศานติ์</TD><TD width=83></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE id=table42 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=201></TD><TD></TD><TD width=217></TD><TD width=84></TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE id=table9 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" height=12 cellPadding=0 width=760 border=0><TBODY><TR><TD width=82></TD><TD width=595>

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ​

​

</TD><TD></TD></TR><TR><TD width=82></TD><TD width=595>

ข้าพระพุทธเจ้า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุรีย์ ไวยกุฬา ประพันธ์ ​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>


​

 

วันที่ 25
1.สวดมนต์ไหว้<O></O>
2.ภาวนาทำสมาธิ<O></O>
3.รักษาศีลสมาทานศีล<O></O>
4.รับงับความโกรธกับความโลภอันเป็นกิเลส<O></O>
5.ช่วยแม่จัดของให้เป็นที่เป็นทาง<O></O>
6.ยินดีในบุญของผู้อื่น<O></O>
7.ทำบุญอธิฐานใส่บาตรกับแม่<O></O>
8.ศึกษาธรรมะต่างๆ<O></O>
9.เพียรที่ปิดกั้นระวังความชั่วต่างๆมิให้เกิด<O></O>
10.ขยันทำงานอ่านหนังสือตั้งใจเรียนทดแทนคุณพ่อแม่<O></O>
11.เพียรที่กำจัดบาปและอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว<O></O>
12.เพียรที่จะสร้างความดี<O></O>
13.เพียรรักษาความดี รักษาความดีอย่างตั้งมั่น<O></O>
14.แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย<O></O>
15.เชื่อฟังพ่อแม่<O></O>
16.มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่สัญญากับเพื่อน<O></O>
17.เจริญพรหมวิหาร 4<O></O>
18.ใช้อิทธิบาท4เข้าช่วยในการเรียน<O></O>
19.ช่วยพ่อแม่ขายของเฝ้าร้าน
20.หมั่นระลึกและเคารพคุณพระรัตนตรัยพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพเวลามีปัญหาให้เกิดความกำลังใจและมีแรงหรือเวลากลัวต่างๆให้มีความกล้าระลึกเป็นกำลังใจว่าท่านคอยคุ้มครองช่วยเหลือเรา
21.อภัยทานแก่คนที่มาแกล้งหรือทำร้ายเราคิดมิดีกับเรา
22.ร่วมบุญสร้างพระทองคำ
23.ร่วมซื้อserver
24.ร่วมบุญสร้างมณทปวิหาร
25.บูชาพระรายได้ส่วนหนึ่งนำไปทำบุญ
วันที่ 26
1.สวดมนต์ไหว้<O></O>
2.ภาวนาทำสมาธิ<O></O>
3.รักษาศีลสมาทานศีล<O></O>
4.รับงับความโกรธกับความโลภอันเป็นกิเลส<O></O>
5.ช่วยแม่จัดของให้เป็นที่เป็นทาง<O></O>
6.ยินดีในบุญของผู้อื่น<O></O>
7.ทำบุญอธิฐานใส่บาตรกับแม่<O></O>
8.ศึกษาธรรมะต่างๆ<O></O>
9.เพียรที่ปิดกั้นระวังความชั่วต่างๆมิให้เกิด<O></O>
10.ขยันทำงานอ่านหนังสือตั้งใจเรียนทดแทนคุณพ่อแม่<O></O>
11.เพียรที่กำจัดบาปและอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว<O></O>
12.เพียรที่จะสร้างความดี<O></O>
13.เพียรรักษาความดี รักษาความดีอย่างตั้งมั่น<O></O>
14.แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย<O></O>
15.เชื่อฟังพ่อแม่<O></O>
16.มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่สัญญากับเพื่อน<O></O>
17.เจริญพรหมวิหาร 4<O></O>
18.ใช้อิทธิบาท4เข้าช่วยในการเรียน<O></O>
19.ช่วยพ่อแม่ขายของเฝ้าร้าน
20.หมั่นระลึกและเคารพคุณพระรัตนตรัยพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เคารพเวลามีปัญหาให้เกิดความกำลังใจและมีแรงหรือเวลากลัวต่างๆให้มีความกล้าระลึกเป็นกำลังใจว่าท่านคอยคุ้มครองช่วยเหลือเรา
21.อภัยทานแก่คนที่มาแกล้งหรือทำร้ายเราคิดมิดีกับเรา<O></O>
22.เสียสละที่นั่งให้คนชรา<O

 

http://palungjit.org/showthread.php?p=1692092#post1692092

ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

<TABLE class=tborder id=post1691933 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">26/11/2551, 09:37 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1567 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พรหมประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1691933", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Jun 2006
สถานที่: ปทุมธานี / แหลมฉบัง
ข้อความ: 1,090
<IF condition="1"><!--############# AWCoding Back-End created by AWNetwork, Inc. ######################################## Version 3.0.8 ##############################--> <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
</IF>พลังการให้คะแนน: 1193


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1691933 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เรียน เฮียหนุ่ม ที่นับถือ

พระวังหน้าและพระสมเด็จที่มอบให้ผมที่ซอย ๑๐ ประชาอุทิศ ผมได้นำไปฝากบรรจุในพระเจดีย์ที่กำลังสร้างขึ้นใหม่บนยอดเขารัง ณ.ปรียานันท์ธรรมสถาน จ.นครสวรรค์ ทั้งหมดแล้วไม่ได้เหลือเก็บไว้เลยแม้แต่องค์เดียว พร้อมกับพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปัจจุบันที่ได้มาหลายวาระและพระบุบโพธาตุของสมเด็จองค์ปฐม ที่ได้มาจากการร่วมบุญกับพระชยภัทร
เมื่อวันงานบวงสรวงฉลองศาลาปฏิบัติธรรมที่เพิ่งสร้างเสร็จ ในวันอาทิตย์ที่ ๒๓พ.ย.ที่ผ่านมานี้
ขอเฮียหนุ่มจงร่วมโมทนาด้วยครับ (มีรูปมาให้ดูสองภาพ)




</TD></TR></TBODY></TABLE>





มีรูปมาให้ชมน้อยไปนิดนึงครับน้า

โมทนาบุญทุกประการกับน้าแผนด้วยครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สารพัดเห็ดเพื่อสุขภาพจากโครงการหลวง
http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9510000139595
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 พฤศจิกายน 2551 16:21 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=420 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=420> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เห็ดยานางิ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ช่วงฤดูกาลเช่นนี้ “เห็ด” กำลังออกดอก ต้นอวบน่ากินมาก ๆ ตอนนี้ โครงการหลวง จึงจับมือกับ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซารามอินทรา จัดงาน "เทศกาลเห็ดและผักเพื่อสุขภาพโดยโครงการหลวง" เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะเห็ดพันธุ์หายาก และพืชผักเมืองหนาวที่มีคุณภาพปลอดสารพิษ

ภายในงานจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจเกี่ยวกับเห็ดและผักเมืองหนาวที่น่าสนใจ อาทิ

สัมผัสความมหัศจรรย์ของ “เห็ด” ในแง่มุมที่คุณไม่เคยทราบ จาก “นิทรรศการจำลองโรงเพาะเห็ด” พบกับเห็ด 3 สายพันธุ์ เห็ดนางรมดอย เห็ดนางรมทอง และเห็ดนางรมฮังการี ที่นำมาปลูกในโรงเพาะขนาดยักษ์ใหญ่กลางศูนย์การค้าฯ พร้อมนิทรรศการมอบความรู้และคุณประโยชน์ที่ได้จากเห็ดสายพันธุ์ต่าง ๆ


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เห็ดปุยฝ้าย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> พร้อมเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อเห็ดนานาสายพันธุ์ อาทิ เห็ดปุยฝ้าย เห็ดนางรมฮังการี เห็ดนางรมดอย เห็ดนางรมทอง ฯลฯ และเห็ดที่ออกผลผลิตเพียงปีละ 1 ครั้ง ได้แก่ เห็ดซูงิตาเกะ เห็ดนาเมโกะ ซึ่งมีรสชาติหอมอร่อยมากเป็นพิเศษ และทุกสายพันธุ์ที่นำมาจำหน่ายเป็นเห็ดดอกอ่อนคุณภาพดีซึ่งจะมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีพืชผักเมืองหนาว สดใหม่ไร้สารพิษ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ส่งตรงมาจากโครงการหลวง เพื่อจำหน่ายในราคาพิเศษเฉพาะในงานเท่านั้น

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เห็ดนางรมฮังการี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากนี้ยังเปิดให้ร่วมชิมเมนูเด็ดจากเห็ด 9 ชนิด อาทิ เห็ดนาเมโกะ เห็ดยานางิ เห็ดนางรมดอย เห็ดนางรมฮังการี เห็ดซูงิตาเกะ เห็ดนางรมทอง เห็ดเข็มทอง เห็ดปุยฝ้าย เห็ดหอมสด โดยเชฟจากร้านอาหารและโรงแรมชื่อดัง อาทิ โรงแรมรามาการ์เด้น ร้านจิวตี่ ร้านบัณฑิตลูกชิ้นปลา ฯลฯ ที่จะมาปรุงเมนูกันสด ๆ ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ

พบกิจกรรมไฮไลท์ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2551 ตื่นตาตื่นใจกับแฟชั่นโชว์จากนางเอกสาวสวยนำทีมโดยพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา โบว์ อัจฉราภรณ์ อินทรสกุล ออย ศรุตา เรืองวิริยะ


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เห็ดนางรมทอง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ไปชมสารพัดเห็ด พืชผักเมืองหนาวและผลิตภัณฑ์โครงการหลวงคุณภาพดี ที่ทั้งสดอร่อยและไร้สารพิษในราคาพิเศษเฉพาะในงาน "เทศกาลเห็ดและผักเพื่อสุขภาพโดยโครงการหลวง" พร้อมชมกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ระหว่างวันที่ 25-30 พฤศจิกายน 2551 บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา รามอินทรา


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เห็ดนาเมโกะ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เห็ดซูงิตาเกะ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผมเองชอบวรรณกรรมของจีนในบางเรื่องครับ

http://www.manager.co.th/China/ViewBrowse.aspx?BrowseNewsID=6521&SourceNewsID=7010

หน้าแรกผู้จัดการ Online | หน้าแรกมุมจีน | ภาษาและวรรณกรรม

.

 

อ่า...เห็ดน่ากินจัง อืม...ช่วงนี้น้ำหนักชักจะขึ้น เริ่มจะต้องควบคุมตัวเองแล้วครับ

 

ขอฝากตัวด้วยนะครับพอดีรู้จักกับคุณเทพารักษ์
ผมสนใจเรื่องพระน่ะครับแต่ทำงานตลอดเลย
ไม่มีเวลาต่อไปก็คงได้ลงเองบ้างหรืออาจจะรบกวน
คุณเทพารักษ์(ซะส่วนมาก)55++ให้ทำบุญให้
ขอโทษจริงๆนะครับไม่มีเวลาจริงๆ
ทำคอมก็ไม่เป็นครับ
ผมชื่อ เจ๊ค ครับ(ไม่ได้เป็นแฟนคุณเทพารักษ์นะครับ)
เห็นคุณเทพารักษ์ไปทำบุญบ่อยผมเลยถามฝนน่ะครับ
นี่ก็ให้เพื่อนลงให้ครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เหรินเอี๋ยนเข่อเว่ย(人言可畏) : คำคนช่างน่ากลัว
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9510000085715

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 กรกฎาคม 2551 18:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>人 (r&eacute;n) อ่านว่า เหริน แปลว่า คน
言 (y&aacute;n) อ่านว่า เอี๋ยน ในที่นี้แปลว่า คำซุบซิบนินทา
可 (kě) อ่านว่า เข่อ ในที่นี้แปลว่า น่า
畏 (w&egrave;i) อ่านว่า เว่ย แปลว่า กลัว

ครั้งหนึ่งเมื่ออดีตกาลนานมา มีชายหนุ่มผู้หนึ่งนามว่า "จ้งจื่อ" เขาชอบพออยู่กับอยู่กับหญิงสาวนางหนึ่ง และวางแผนที่จะแอบลอบมาพบกับหญิงสาวคนรักที่บ้านของนาง

ทว่าเนื่องจากความรักของทั้งสองยังไม่ได้รับการยอมรับจากผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง นางจึงเกรงว่าหากผู้ใหญ่รู้เข้าจะต้องถูกว่ากล่าว จึงได้ร้องเพลงเพื่อบอกใบ้จ้งจื่อว่า
"จ้งจื่อเอย โปรดอย่าเดินเข้าประตูบ้านข้า เพราะจะเหยียบย่ำต้นข้าวโพดที่ข้าปลูกไว้
ข้าเสียดายต้นพืช ทั้งยังเกรงคำพูดของบิดา-มารดา
จงจื่อเอย ข้ายังคงคำนึงถึงท่าน เพียงเกรงคำดุด่าของบุพการี"

ในตอนนั้น หญิงสาวคิดขึ้นมาได้อีกว่า หากพี่ชายของตนทราบเรื่องก็ย่อมต้องดุด่านางเช่นกัน จึงร้องเพลงต่อไปว่า
"จ้งจื่อเอย โปรดอย่าปีนกำแพงบ้านข้า เพราะจะทำลายต้นหม่อนที่ข้าปลูกไว้
ข้าเสียดายต้นพืช ทั้งยังเกรงคำพูดของบรรดาพี่ชาย
จ้งจื่อเอย ข้ายังคงคำนึงถึงท่าน เพียงเกรงคำดุด่าของพี่ชาย"

นอกจากนั้น หญิงสาวยังคงเกรงชาวบ้านที่ทราบเรื่องจะพากันติฉินนินทา จึงได้ร้องเพลงต่อไปอีกว่า
"จ้งจื่อเอย โปรดอย่าปีนเข้ามาทางสวนหลังบ้านข้า เพราะจะทำให้ต้นจันทน์ที่ข้าปลูกไว้ล้มตาย
ข้าเสียดายต้นไม้ ทั้งยังเกรงลมปากของคน
จ้งจื่อเอย ข้ายังคงคำนึงถึงท่าน เพียงเกรงคำติฉินนินทาจากชาวบ้าน"

สำนวน "เหรินเอี๋ยนเข่อเว่ย" หมายความว่า คำพูดของคนเป็นสิ่งที่น่ากลัว โดยเฉพาะคำติฉินนินทาใส่ร้าย ที่มักจะทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหายตามมา

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ยินดีต้อนรับครับ

.

 

Private Message: Re: สอบถาม

พี่sithiphong ขอถามเรื่องพระสมเด็จพระธาตุพนมปี 2411 กับ ปี2451 ประวัติกับข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และ สมเด็จวังหน้าที่มีมุกติดมีจริงไหมครับ และผมเกิดวันเสาร์ ปีระกา ช่วยบอกการแขวนพระวังหน้าครับ สุดท้ายผมขอรูปที่ถามด้วยนะคับ แถมสมเด็จปัญจศิริยุคแรกด้วยก็ดี ส่งมาเมลผมก็ได้ครับ



มี pm เข้ามาถามผม ผมขอมาตอบหน้าบอร์ด จะได้ทราบกันหลายๆท่านครับ

พระสมเด็จพระธาตุพนม น่าจะเริ่มมีการสร้างขึ้นประมาณ ปี พ.ศ.2408 จนถึงปี พ.ศ.2451 แต่การสร้างในแต่ละครั้ง มีความแตกต่างกันทั้งเนื้อหาทรงพิมพ์ ,มวลสารในการจัดสร้าง และองค์ผู้อธิษฐานจิต

ส่วนพระวังหน้า ที่มีมุกเป็นส่วนประกอบในการสร้างพระพิมพ์นั้น ผมเองไม่เคยเห็น แต่ถ้าเป็นพระวังหลวงมีแน่นอน มีคำถามต่อไปว่า อ้าว แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า เป็นพระวังหน้า หรือ พระวังหลวง การตอบปัญหาในเรื่องนี้ มีส่วนประกอบหลักๆอยู่เพียง 2 เรื่องคือ เนื้อหาทรงพิมพ์ ,องค์ผู้อธิษฐานจิต
และการตรวจสอบทางด้านจิต (คือการดูผ่านสมาธิ) รายละเอียดมีค่อนข้างมากและเยอะ จึงไม่ขอแจ้งนะครับ

เรื่องของการห้อยพระวังหน้า ผมแนะนำให้ลองไปหาอ่านเรื่อง "ศิลปการใช้พระเครื่อง" ซึ่งเขียนโดยท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ในกระทู้พระวังหน้าฯนี้

ผมนำเรื่องของสี มาให้ชมกัน


แต่โดยปกติ ในความเห็นผม พระวังหน้า ไม่ว่าจะเกิดปีไหน วันไหน เมื่อมีความศรัทธา ความเชื่อมั่นในครูบาอาจารย์ ห้อยได้ทุกพิมพ์ครับ องค์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ,หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด และหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ทุกๆพระองค์ ท่านมีความเมตตาต่อลูกหลานท่านอยู่เสมอ

คงจะสงสัยว่า หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด เกี่ยวข้องอะไรกับพระวังหน้า ผมยังไม่แจ้งในตอนนี้นะครับ ต้องขอโทษด้วยครับ

ส่วนเรื่องรูป ผมเองจะไม่ส่งให้ใครนะครับ แต่มีบางส่วนในกระทู้พระวังหน้าฯ ที่ผมเองพยายามบอกมาตลอดว่า ให้เข้าไปศึกษา(ในกระทู้พระวังหน้าฯ)ก่อน สิ่งที่ผมเองได้ลงในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ ผมลงไม่ถึง 2 % ของความรู้ที่ผมมีอยู่ และความรู้ที่ผมมีอยู่นั้น ก็ไม่ถึง 1 % ขององค์ความรู้ที่ครูบาอาจารย์ผมมี และองค์ความรู้ที่ครูบาอาจารย์ผมมี ก็ไม่รู้ว่ารู้ได้กี่เปอร์เซ็นขององค์ความรู้ทั้งหมด ผมยืนยันได้ตามนี้จริงๆ เนื่องจากมีอีกมากที่พึ่งเคยพบ เคยเห็น เคยสัมผัสกับสิ่งใหม่ๆ

ความเพียร ,ความพยายาม ,ความมุ่งมั่น ,ความศรัทธา ,การมีปัญญาในการพิจารณา สิ่งต่างๆเหล่านี้ เป็นเรื่องเพียงเบื้องต้นในการศึกษาพระวังหน้าฯครับ

โมทนาสาธุครับ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 22 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 20 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, narin96+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

สวัสดีครับคุณnarin96 และทุกๆท่าน

เจอกันอีกครั้งตอนเย็นนะครับ ผมต้องไปข้างนอก(อีกแล้ว) ก็แบบนี้หล่ะครับ manager เบ๊ หุหุหุ

.

 

อ่า....มาแล้วครับตาลุงเจ้าเก่าฝากมาโชว์ในวันเหงาๆครับ หุ หุ

 

มายกมือสนับสนุน ที่คุณ sithipong ได้โพสไว้ครับ จากการที่ผมได้ตามอ่านกระทู้มาสักพัก จนปัจจุบันเหลืออีก 100+ หน้า ก็จะครบ
ความรู้ที่ท่านทั้งหลายที่เข้ามาใหม่มักจะถามกันนั้น ก็ได้ผ่านการตอบมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ดังนั้นก็อยากให้ลองได้อ่านกระทู้กันดูครับ สำหรับท่านที่สนใจจริงๆ


ปล. ท่านปาทานครับ เรามาทำ FAQ สำหรับกระทู้กันดีไหมครับ

 

งามแท้ทั้ง 4 องค์เลยครับ

 

อ่า....มาแล้วครับตาลุงเจ้าเก่าฝากมาโชว์ในวันเหงาๆครับ หุ หุ
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>




ตาลุงฝากมาบอกว่าเหรียญพระธาตุพนมที่สร้างในช่วง2485 ตามที่โชว์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทหารรบในสงครามอินโดจีนครับ แกบอกว่าประวัติศาสตร์ต้องศึกษาให้ดีๆครับ ว่าแท้จริงเราพูดถึงที่ใดและอะไรกันแน่ครับ ไม่ใช่อารายก็เหมามั่ว คนๆไปหมดครับ หุ หุ

 

แวะกลับมาที่ทำงานก่อน รองานช่วงบ่าย

เรื่องจะทำ FAQ สำหรับกระทู้ คงลำบาก เพราะว่าไม่มีใครว่างกัน และ ตั้งใจให้เป็นความพยายาม ,ความศรัทธา ,ความอดทน ,ความเพียร และความตั้งใจที่ต้องการศึกษา ดีกว่าครับ หากข้าวมาใส่จานให้แล้ว อย่าถึงต้องเคี้ยวและป้อนให้เลย

โมทนาในความพยายาม ,ความศรัทธา ,ความอดทน ,ความเพียร และความตั้งใจที่ต้องการศึกษา ของน้องake7440 ด้วยครับ