ตำหนิกรรมผู้อื่น-กรรมฐานไม่มีผลและลงอเวจีมหานรกได้

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เด็กอนุบาล, 19 ตุลาคม 2008.

  1. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    [​IMG]


    ตำหนิกรรมผู้อื่น-กรรมฐานไม่มีผลและลงอเวจีมหานรกได้


    วันนี้เช้าได้ฟังเทศน์ท่านจิตโต(หลวงพี่สมปอง)ศิษย์หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านบอกว่าพระท่านมาเตือน นักปฏิบัติธรรมทั้งหลาย อย่าได้ประมาทไปทำความชั่วเล็กๆน้อยๆโดยไปตำหนิกรรมผู้อื่น ภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้

    โดยสรุปคือถ้าเราไม่ระวังความคิด ระวังกายกรรม ไปตำหนิกรรมผู้อื่นไปเรื่อยๆ โดยประมาทว่า เราเองก็ทำความดี ทำกรรมฐานประจำอยู่แล้ว ไม่น่าจะเป็นไรมั๊ง แต่ถ้าประมาท กรรมคิดตำหนิ กล่าววาจาตำหนิกรรมผู้อื่นก็จะเป็นอาจิณกรรม มีอำนาจในจิตมีกำลังแรงกว่ากำลังกรรมฐาน เวลาตายอำนาจอาจิณกรรมด้านชั่วนี้ก็พาจิตตกอเวจีมหานรกได้

    ผู้ปฏิบัติธรรมที่ไม่ประมาทตามคำสอนพุทธองค์จึงควร ตั้งใจไว้เสมอทุกวัน ทุกเช้า ว่าเราจะใช้สติระวังความคิดตลอดทั้งวัน ไม่ให้ไปคิดชั่ว พูดชั่ว ตำหนิกรรมผู้อื่น ถ้าเค้าทำไม่ถูก ก็อย่าไปตำหนิด้วยความเกลียดชัง แต่ให้ใช้หลักคิดเมตตาสงสาร ว่าถ้าเค้ายังเป็นแบบนั้นอยู่ ก็น่าสงสารยิ่ง เพราะเป็นการสร้างอกุศลกรรมเป็นอาจิณนำเค้าไปสู่อเวจีมหานรกได้ เราพึงหวังดีว่า วันนึงเค้าคงคิดได้ เค้าจะได้รอดพ้นภัยในวัฏสงสาร ไปสู่พระนิพพานได้ในที่สุด

    ถ้าของหยาบแค่นี้ เราทำไม่ได้ การปฏิบัติกรรมฐานก็จะไม่มีผลเพราะอารมณ์ใจเราไม่มีความประณีต ละเอียดพอ ที่จะเข้าถึงภูมิธรรมสูงๆขึ้นจากการทำสมถะวิปัสสนาได้
     
  2. oku

    oku เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2007
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +230
    ขออนโมทนาครับ จะพยายามทำครับ บางครั้งอามรณ์ก็พาไปครับ
     
  3. Khundeaw

    Khundeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +706
    ดีครับ..เตือนกันไว้บ้าง

    ผมน้อมรับครับ...

    อนุโมทนาสาธุ สาธุ
     
  4. ZeusInw

    ZeusInw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +333
    คับ พยายาม จะไม่คิด พยายามนะคับ
     
  5. p_pand_j

    p_pand_j Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +71
    ขออนุโมทนาค่ะ

    เราเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งไม่ดีอยู่แล้ว

    แล้วก็อยากทำตัวให้ไม่คิดไม่พูดในสิ่งที่ไม่สมควร

    แต่มันก็ยากมากเลย เพราะสังคมกับเราในปัจจุบัน

    มันมีแต่เรื่องราวมากมาย แต่ก็จะพยายามค่ะ
     
  6. ภัทรวรรัฏฐ์

    ภัทรวรรัฏฐ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +18
    อนุโมทนา สาธุค่ะ

    จะพยายาม ระงับ และข่มจิต ไม่ให้เกิด ความคิดไปตำหนิใครค่ะ
     
  7. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    [​IMG] โมทนาสาธุ....
    <!-- / message -->
     
  8. ritta

    ritta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +228
  9. seahero

    seahero เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +602
    จะพยายามไม่ประพฤติชั่ว ทั้งทางกาย วาจา ใจครับ
     
  10. ซ้อจิตต์

    ซ้อจิตต์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +63
    อนุโมทนาค่ะ วันนี้ไปอ่านเจอคำสอนของหลวงปู่เทสก์ เอามาฝากดังนี้นะคะ
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    คนเรารู้จักแต่ผูกแต่ไม่รู้จักแก้ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) <o:p></o:p>


    พระพุทธเจ้าผู้เลิศด้วยพระปัญญาพิจารณาเห็นแจ้งชัดด้วยความจริงว่า โลกทั้งโลกเป็นเครื่องห่อหุ้มด้วยอวิชชา โมหะ มีภูมิทั้งสามเป็นเสมือนเรือนจำเป็นเครื่องอยู่ มีตัณหา อุปทานเป็นเครื่องสัญจรไปมา มีกามารมณ์ รูปารมณ์และอรูปารมณ์เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง

    พระองค์ทรงรู้อย่างนี้แล้ว จึงทรงเบื่อหน่ายคลายความใคร่ความยินดีในภูมิทั้งสามนั้นด้วยวิปัสนาญาณ เห็นภูมิทั้งสามนั้นเป็นเรื่องส่งนอกด้วยจิตของพระองค์เอง (ส่งนอกในที่นี้หมายถึงส่งนอกด้วยกามารมณ์ รูปารมณ์ และอรูปารมณ์) มีแต่ไหลไปในอนาคตไม่เข้าถึงปัจจุบันสักที

    พระพุทธเจ้าทรงรู้แจ้งชัดอย่างนี้แล้ว จึงทรงสละปล่อยวางจิตที่เป็นอดีตและอนาคตที่ปรุงแต่งภพทั้งสามเข้ามาอยู่เป็นกลางๆ คือตัวใจ และรู้อยู่ว่าเป็นกลางๆ ภพชาติก็หมดไป

    การประพฤติกิจในพระพุทธศาสนานี้ทั้งหมด
    มีการรักษาศีล ฝึกหัดทำสมาธิและวิปัสสนา เป็นต้น

    ก็คือ ต้องการค้นคว้าหาเหตุและผล สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ดีและชั่ว สิ่งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรมในสิ่งนั้นๆ ให้เห็นรู้เห็นตามเป็นจริงของสิ่งนั้นๆ เท่านั้น แต่สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดมันก็ไม่เป็นจริงสักที เพราะเราพิจารณาส่งออกไปข้างนอก เห็นของไม่จริงจังแปรปรวนอยู่ร่ำไป

    การค้นคว้าส่งออกไปภายนอกพิจารณาของไม่เที่ยงแปรปรวนนี้แล จึงต้องเป็นทุกข์ไม่รู้จักจบจักสิ้นสักที การพิจารณาของภายนอกนอกจากตัวของเราจึงไม่ใช่ตัวของเราและไม่เห็นตัวของเรา จึงรักษาตัวของเราให้อยู่ในอำนาจไม่ได้

    ปราชญ์ผู้ฉลาดจึงปล่อยวางทิ้งสิ่งที่มิใช่ของตัวไม่มีแก่นสาร วางสิ่งที่เป็นอดีตและอนาคตเสีย แล้วเข้าอยู่ตรงกลาง วางเฉย แล้วรู้ตัวอยู่ว่าเราวางเฉย เมื่อใจเข้ามาอยู่ตรงกลาง วางเฉยและรู้ตัวว่าวางเฉยแล้ว มันจะมีอะไรเหลือหลอ ภารกิจในพระพุทธศาสนาที่กระทำมาแต่ต้นก็เห็นจะสิ้นสุดลงเท่านี้<o:p></o:p>

    บทความจากธรรมจักรดอทเน็ต
     
  11. ttii01591

    ttii01591 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +15
    เวลาเราตักเตือนคนที่กำลังทำกรรมไม่ดีอยู่เป็นการตำหนิกรรมของเขาหรือป่าวครับ
    หรือเวลาเราสอนคนอื่นแล้วยกตัวอย่างคนที่ทำกรรมไมีดีเป็นการตำหนิกรรมของเขาหรือป่าวครับ
    มันขึ้นอยู่กับจิตของเราหรือป่าวที่จะไปกล่าวโทษเขาหรือว่าต้องการให้คนที่เรากำลังคุยอยู่ด้วยพึงระวังไม่ทำกรรมอย่างนั้น
     
  12. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    อนุโมทนา

    และการตำหนิว่าผู้อื่น ก็ทำให้ ขัดลาภได้ในชีวิต
    อย่างสิ่งดีๆกำลังจะเข้ามาในชีวิต ก็โดนกรรมจากปากตัวเองมาตัดรอน ลองอ่านดู





    หลวงปู่ดู่สอนศิษย์เรื่อง กรรมทางวาจา

    <O:p
    [​IMG]<O:p</O:p


    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p


    หลวงปู่ท่านมักกล่าวถึงมงคลที่สำคัญที่ท่านอยากให้ลูกศิษย์ได้
    นำไปปฏิบัติคือ มงคล 38 ประการ มงคลที่ท่านพูดถึงบ่อย ๆ
    นั่นคือ สัมมาวาจาชอบ คือ พูดแต่สิ่งที่เป็นมงคล
    ท่านว่าคนส่วนมากมักสร้างกรรมทางวาจา เพราะกรรมนี้สร้างได้ง่าย
    แต่เขาไม่รู้หรอกว่าผลของกรรม เมื่อส่งผลจะร้ายแรงเพียงไร
    คำพูดนั้นสำคัญมากบางคนพูดไม่ดีกับผู้อื่น
    จนเป็นเหตุถึงโกรธเกลียดกันชั่วชีวิตก็มี
    บางรายคำพูดเพียงไม่กี่คำ ก็ทำให้ไม่พูดกันไปหลายปี
    คนส่วนมากที่ขึ้นโรงขึ้นศาลหรือทะเลาะกันจนไปถึงฆ่ากันตาย
    ก็เพราะคำพูดที่ไม่ดีนี่แหละ

    หลวงปู่ท่านสอนอยู่เสมอว่า อย่าไปพูดไม่ดีกับใครเขา
    ถ้ามีคนมาว่าหรือด่าเราแต่เราไม่ว่าหรือด่าเขาตอบมันก็จะไม่มีเรื่องกัน
    แต่ถ้าแกไปด่าเขาเมื่อไรนั่นแหละเรื่องใหญ่ท่านสอนศิษย์เสมอว่า
    อย่าไปพูดทำลายความหวังของใครเขา
    เพราะนั้นอาจจะเป็นความหวังเดียวที่เขามีอยู่
    ถ้าแกไปพูดเข้าเมื่อไหร่กรรมใหญ่จะตกแก่ตนเอง


    ท่านบอกไว้อีกว่าคนที่ชอบด่าหรือใส่ร้ายผู้อื่นรวมไป
    ถึงการพูดไม่ดีต่าง ๆ กับคนอื่นนั้นกรรมจะมาเร็วมาก
    เขาผู้นั้นจะเป็นคนที่มีศัตรูทั้งภายนอกและภายใน
    ไม่เป็นที่รักของคนทั่วไป ตรงกันข้ามกับเป็นคนที่น่ารังเกียจ
    แก่คนทั้งหลายกรรมนี้จะทำให้เขามีเรื่องและเดือดร้อนอยู่เสมอ ๆ
    ทั้งทางกายและทางใจ
    <O:p
    บางคนทำกรรมนี้ไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ตัว<O:p></O:p>
    พอกรรมดีที่ตนเคยสร้างมาแต่ปางก่อนหมดหรือเหลือน้อยลง
    กรรมชั่วที่สร้างนี้ก็จะสนองเขาอย่างหนักทั้งในภพนี้และภพหน้า<O:p></O:p>

    ในภพนี้เวลาที่กรรมดีแต่ปางก่อนจะส่งผลให้มีความสุขหรือมีโชคลาภ
    กรรมชั่วก็จะเข้ามาตัดรอนกรรมดี เหมือนอย่างเขาผู้นั้น
    ซื้อหวยเลข 56 หวยก็จะออกเลข 55 หรือ 57 บางที
    ก็ติดต่อการค้าหรืองานต่าง ๆมองเห็นอยู่ว่างานนี้ได้แน่นอน
    แต่พอถึงเวลาก็ไปไม่ทันบ้างไปแล้วไม่เจอหรือมีเหตุต่าง ๆ
    มาทำให้มีอุปสรรคอยู่เสมอ ๆซึ่งที่จริงแล้วผู้นั้นจะมีโชคที่ควร
    ได้ประมาณเป็นล้าน ๆเขาก็จะได้แค่หมื่นสองหมื่นหรือโชคครั้งนี้
    จะได้หลายหมื่นแต่เขากับได้เพียงไม่กี่พันบาทหรือเพียงได้
    ไม่กี่ร้อยเท่านั้นเองนี้เป็นเพราะกรรมชั่วเข้ามาตัดรอนกรรมดี
    และรวมถึงญาติพี่น้องลูกหลานเขาเหล่านั้นก็จะทำความ
    เดือดร้อนเสียหายมาให้มีพี่น้องหรือญาติไปจนถึงเพื่อนฝูง
    ก็จะโกงทรัพย์สินเงินทองของเราบ้างบางครั้งก็พูดใส่ร้ายให้โทษ
    ด่าว่าทะเลาะวิวาททำให้เราไม่สบายกายและสบายใจเป็นอย่างมาก
    มีเรื่องเดือดร้อนต่าง ๆอยู่ตลอดเวลาอย่างไม่จบสิ้น

    มีลูกหลานก็จะดื้อด้าน ว่านอนสอนยากทำความเดือดร้อน
    ให้เสียเงินทองอยู่มิได้ขาด ว่ากล่าวลูกหลานไม่เชื่อฟัง
    ไม่เครารพนับถือลูกหลานบางคนก็จะอกตัญญูตนเองมัก
    จะเดือดร้อนด้วยการเป็นโรคร้ายที่รักษายากหรือรักษาไม่หาย
    เช่น อัมพฤต อัมพาต มะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคร้ายต่าง ๆ
    อีกมากมายหลายชนิด

    หลวงปู่ท่านบอกไว้ว่ากรรมทางวาจามีร้ายแรงมาก
    การที่เราพูดใส่ร้ายหรือพูดไม่ดีจนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนและเสียใจ
    หรือไปพูดทำลายความหวังต่างๆ ของเขาถ้ารู้ตัวให้หยุดเสีย
    ถ้าไม่หยุดหรือเลิกทำเสียกรรมไม่สนองแต่ในชาตินี้
    พอตายลงไปยังต้องไปใข้กรรมยังนรกตามขุมต่าง ๆ อีก
    ท่านจะพูดและสอนศิษย์อยู่เสมอว่า"คนดีเขาไม่ตีใคร"
    ความหมายว่าคนดีไม่ตีใครไม่ใช่เอาไม้หรือของแข็ง ๆไปตีเขา
    แต่ท่านไม่ให้พูดจากไม่ดีด่าว่าใส่ร้ายทำให้ผู้อื่นเดืดดร้อนเสียหาย
    และทุกข์ใจหลวงปู่บอกว่าคนดีเขาไม่ว่าใคร
    ถ้าแกไปว่าเขาแกก็จะเป็นคนไม่ดี





    <O:p</O:pที่มาwww.watthummuangna.com<O:p</O:p
     
  13. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>การตำหนิติเตียนผู้อื่น...ไม่ดีเลย </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต


    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]


    การตำหนิติเตียนผู้อื่น

    ถึงเขาจะผิดจริงก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเอง...ให้ขุ่นมัวไปด้วย

    ความเดือดร้อนวุ่นวายใจที่คิดตำหนิผู้อื่น...จนอยู่ไม่เป็นสุขนั้น

    นักปราชญ์ถือเป็นความผิดและบาปกรรม...ไม่มีดีเลย

    จะเป็นโทษให้ท่านได้สิ่งไม่พึงปรารถนา...มาทรมานอย่างไม่คาดฝัน

    การกล่าวโทษผู้อื่นโดยขาดการไตร่ตรอง

    เป็นการสั่งสมโทษและบาปใส่ตนให้ได้รับความทุกข์

    จึงควรสลดสังเวชต่อความผิดของตน

    งดความเห็นที่เป็นบาปภัยแก่ตนเสีย

    ความทุกข์เป็นของน่าเกลียดน่ากลัว

    แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์

    ทำไมพอใจสร้างขึ้นเอง



    คัดลอกจาก...
    http://www.84000.org/
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ที่มา : คัดจากหนังสือ ขันธะวิมุติสะมังคีธรรมะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ต้องขออนุโมทนาอย่างยิ่งกับท่านผู้โพสกระทู้นี้ เป็นการเตือนสติที่เยี่ยมมาก
    สาธุ
    สาธุ
    สาธุ
    ให้ดังถึงพระนิพพาน
     
  15. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    [​IMG]
     
  16. เสกสรรค์ ใจดี

    เสกสรรค์ ใจดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +1
    ต่อไปผมจะตั้งใจระวังให้มากว่านี้ครับ ขออนุโมทนาด้วย สาธุ
     
  17. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG][​IMG] ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...[​IMG][​IMG]
     
  18. Lokudtradham

    Lokudtradham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +339
    ใช่ครับ เราควรดูใจของตนเองเสมอก่อนที่จะดูใจคนอื่น บางทีเราก็คิดตำหนิผู้อื่นในใจแต่ไม่ได้พูดออกมาน่ะ
     
  19. SUN LIGHT

    SUN LIGHT สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2008
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +11
    จะพยายามระวังทั้งกาย วาจา และใจครับ

    ขอบคุณมากครับ
     
  20. แม่น้องนน

    แม่น้องนน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    457
    ค่าพลัง:
    +1,427
    ขออนุโมทนากับเจ้าของบทความ และ

    ทุก ๆ ท่านค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...