วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 17 กรกฎาคม 2006.

  1. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    อาจารย์ไก่ครับคนเป็นพ่อเป็นแม่ลูกตายทั้งคนก็ต้องเศร้าโศกเสียใจและยิ่งรู้ว่าเป็นความบกพร่องของคลินิคบัตรทองด้วยโทสะก็เกิดอย่างแรงทำให้การพูดให้สัมภาษน์อาจจะออกมาดูไม่ดีนัก มองอีกแง่มุมนึงเราอาจจะเห็นแง่คิดอีกแง่มุมนึงก็ดีเหมือนกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 สิงหาคม 2008
  2. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697

    อนุโมทนาค่ะ ^-^
     
  3. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ช่วงหลังนี้ ผมได้รู้สึกว่าผมพบกับความงดงามในทุกๆดวงจิต
    คือเริ่มเห็นว่าในทุกๆดวงจิตล้วนมีความงดงาม มีความดีอยู่
    ไม่มีใครที่แย่ทุกๆอย่าง ทุกๆดวงจิตล้วนมีความดีงามทั้งนั้น
    ดังนั้นผมจึงเกิดความรู้สึกที่อยากจะทำงานต่อไป
    ผมจึงตัดสินใจว่า ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ให้ทุกๆดวงจิต ได้เข้าถึงซึ่งความงดงาม
    ความดีงามในตัวเอง ความดีของตัวเขาเอง
    ผมคิดว่าผมคงจะไม่ลาเข้าพระนิพพานแล้ว เพราะว่ายังอยากช่วยให้ผู้อื่นได้พบกับความดีงามของตัวเขาเองอยู่
    เพราะฉะนั้นผมจะตั้งใจทำงานต่อไป จนถึงที่สุดที่ผมจะช่วยได้ ให้ถึงที่สุดจริงๆ
    คือไม่รู้จะช่วยอย่างไรได้มากกว่านี้อีกแล้ว จึงค่อยลาเข้าพระนิพพาน
    หวังว่าพวกเราจะได้ทำงานด้วยกันต่อไปนะครับ
     
  4. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    อนุโมทนาด้วยกับน้องชัชครับ ผมขออธิษฐานขอพลังแห่งพุทธานุภาพจงช่วยให้น้องชัชได้ทำสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจจะพยายามทำอย่างเต็มที่ให้ทุกๆดวงจิต ได้เข้าถึงซึ่งความงดงาม ความดีงามในตัวเอง ความดีของตัวเขาเอง สาธุ...สาธุ...
     
  5. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    คิดอยู่หลายตลบว่า จะหาเรื่องอะไรมาเล่าบ้างดีหนอ
    เอานี้ละกัน เรื่องใกล้ตัวสดๆ ...โปรดปิดจมูก...
    หากคุณลืมไปว่า คุณก็มีขี้อยู่ในตัว
    denceeปล.ขออนุญาตเจ้าของเรื่อง (ในใจ) แล้วนะจ๊ะdencee


    พี่สาว : [​IMG]....



    น้องสาว : เกา มันส์ มะ ...เป็นไรไป ?

    พี่สาว :

    กำลังเซรงได้ที่เลย เบื่อ....เหลือเกิน...

    มีลูกก็ทุกข์ มีสามีก็ทุกข์

    มีคนคอยห่วงก็ทุกข์ ไม่ห่วงก็ทุกข์

    มีเงินไม่มีเงินก็ทุกข์

    มีเพื่อน ไม่มีเพื่อนก็ทุกข์

    ทุกข์ของเรา ทุกข์ของคนอื่นก็คือทุกข์

    มีตา มีหู มีปากก็ทุกข์ ได้พูดก็ทุกข์ ไม่ได้พูดก็ทุกข์

    วางได้มั่ง ไม่ได้มั่งเลยทุกข์

    ถ้าจมูกอุดตัน หายใจไม่ได้ก็ยังทุกข์ พอสิ้นชีวิต ยิ่งแล้วใหญ่ อาจทุกข์หนักว่ามีชีวิตอีก..

    เฮ้ออ.. เมื่อไหร่ฉันจะเลิกบ้า ย่ำวนเวียน ซ้ำรอยเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างนี้ซะทีนะ...

    เซรงจัง... [​IMG] ......นี่ฉันเซรงจริงนะ...



    น้องสาว :


    อยากให้เป็นสมดั่งใจ ก็ยิ่งทุกข์


    เวลาเดินผ่านกองขี้หมา ปิดจมูกมั้ยพี่

    คิดเสียว่า ความทุกข์คือ กองขี้หมา

    ปิดจมูกแล้ว รีบเดินผ่านแล้ว เดี๋ยวก็พ้น

    ถ้าขี้หมากองใหญ่ สดๆ ซิงๆ ..ปิดจมูกก็ยังได้กลิ่น

    ถ้ายังต้องวนเวียนอยู่ถนนสายเดิม ก็ต้องกลับมาดมขี้หมากองเดิมๆ

    หรือไม่ก็ มีกองขี้หมาใหม่ๆ เพิ่ม

    หรือไม่ก็ พลาดพลั้ง เหยียบขี้หมาซะเอง

    คราวนี้ต้องทั้งล้าง ทั้งเหม็น ทั้งหยะแหย๋ง ...อี๊ย์ ย์ ย์

    เหม็นไป เหม็นมา ...ชิน.. ทนได้ ..ซะงั้น

    ... ผจญกองขี้หมากัน ต่อไป ..โย๊ว~


    พี่สาว :


    ในความรู้สึกของพี่กับทุกข์.....กองขี้...

    เหมือนพี่อยู่ในทะเลขี้... ทั้งสำลัก ทั้งกิน ทั้งดำลงไปในทะเลขี้เหม็นๆนั้น เห็นแสงสว่างอยู่รำไรๆ เห็นทางขึ้นอยู่แว๊บๆ จะขึ้นไปดี..หรือ..ไม่ขึ้นดี?

    ในแต่ละวัน เราก็ยังสนุกกับการดำผุด ดำว่ายในทะเลขี้ จะมีเป็นบางช่วงที่เกิดความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ฉันจะไปจากทะเลขี้นี้ .. แต่ฉันจะดันให้ใครบางคนไปก่อน แต่จนแล้วจนรอด ฉันก็ยัง "สำลัก" ขี้... อยู่ในทะเลที่เต็มไปด้วย "ขี้" อยู่ดี


    [​IMG]
    ..

    <!-- / message -->น้องสาว : (กำลังคิด ตรูไม่น่าพูดเรื่อง กองขี้ เรย ..มื้อเย็นด้วยดิ
    กระไรเลย ...ก่อนพิมพ์ก็ทรงภาพพระอยู่
    พระท่านคงกำลังสอนธรรมะพี่เราเป็นแน่แท้)


    ...
    พี่สาว :
    โยนความทุกข์ทิ้งไป จะโยนไปที่ใด? [​IMG]

    เธออยากรับต่อมั้ย? [​IMG] คง...ไม่

    แล้วควรทำอย่างไร? ปั้นเล่นฤา...[​IMG]

    อยู่กับทุกข์นั้นให้ได้ ถึงพร้อม...ปัญญา [​IMG]
    <!-- / message -->



    เหตุกาณณ์นี้จบที่ ตีหนึ่ง
    หลังจากพี่สาว พิจารณากองขี้จนหมดไส้หมดพุงแล้ว
    (พิจารณาธรรมะ)

    ค้นพบแล้วว่า หนทางแห่งการมีความสุขในกองขี้นั้น จะอย่างไร

    ส่วนเจ้าน้องสาว.. ณ นาทีนี้ ..ก็กำลังพยายามต่อไป
    ..อนิจา ..
    เดี๋ยวมาต่อ บทสรุป นะคะ

    *

    *
     
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    วิปัสนาญาณ คือการพิจารณา เห็นความสวยงามในสิ่งของ ไม่สะอาด

    และพิจารณาเห็น ความไม่สะอาด ในของที่สวยงาม

    ตอนนี้กระทู้เลยเลอะเทอะหน่อย ท่านอื่นอาจจะงงได้ครับ

    พิจารณาไป เห็นทุกคน เป็นโครงกระดูกไปหมด สวย หล่อแค่ไหนก็ตาม

    พิจารณา ไปเห็น ใครๆ เป็นถุงใส่อุจจาระ ปัสสาวะ ด้วยกันเหมือนกันหมด รวมทั้งตัวเราเองด้วย จนจิตเราปล่อยวางจากร่างกายของเราเอง ร่างกายคนอื่น สุดท้ายเป็นอสุภะไปหมด

    จนเบื่อการเกิด เบื่อการมามีร่างกายแบบนี้อีก

    ทรงกำลังใจว่า การเกิดมามีร่างกายเลวๆแบบนี้จะเป็นชาติสุดท้ายสำหรับเรา (ไปนิพพานชาตินี้)

    การอดทนลงมาเกิดในกายหยาบ ในร่างกายแบบนี้ ก็เพื่อปรารถนา รื้อขน มวลสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้พ้นจากสังสารวัฎฎ์ ให้ถึงซึ่งพระนิพพาน(ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ)
     
  7. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ปัจจะตัง มีเหตุจึงเกิดผล และเมื่อผลนั้นตั้งอยู่ก็จะเกิดผลอื่นตามมาอีกเนื่องจากผลอันเดิมกลายเป็นเหตุอันใหม่ ผลอื่นที่ตามมานี้ก็จะมีโอกาสเกิดเป็นกุศลก็ได้เป็นอกุศลก็ได้ หากเราได้มองเห็นมันชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบเราก็จะสามารถวางมันลงได้อย่างไม่มีข้อติดค้างคาใจคือจิตมันจะวางของมันเองโดยที่ไมมี่การบังคับให้วาง การไล่ดูความคิดแค่รู้ว่าคิดอยู่แล้วก็วางลง(คือหยุดคิด)ได้แค่ฌาน แต่ถ้าวิเคราะห์มองให้เห็นตั้งแต่ต้นความคิดแล้วเห็นผลที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆและเห็นจุดสุดท้าย(ความคิดดับ)นี่คือธัมมะวิจะยะสัมโภชฌงค์ ปัญญาน้อยๆจะค่อยเริ่มเกิด กฏของไตรลักษณ์จะสว่างขึ้น ความคมชัดของ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค จะเพิ่มขึ้นเอง จนเห็นชัดว่าทุกข์เป็นทุกข์ สุขก็เป็นทุกข์ด้วย คือตั้งแต่เกิดมาเราก็ผจญกับกองทุกข์ จนเติบใหญ่ก็ทุกข์ จนแก่ชราก็ทุกข์ แม้แต่ตายแล้วก็ยังทุกข์เพราะยังต้องรับผลกรรม พระพุทธองค์ทรงเป็นสัพพัญญูพหูสูตรอย่างแท้จริง นีคือสัมมาทิฏฐิข้อที่หนึ่งของมรรคแปด บางครั้งเห็นแล้วเกิดความภูมิใจในตัวเองว่าข้ารู้แล้วกูแน่แล้วก็พังเพราะมันคือความประมาทพระพุทธองค์เน้นให้พระสาวกทุกองค์จงตั้งอยู่ในความไม่ประมาทเพราะความประมาททำให้เกิดตัวหลง(โมหะ)ได้ง่ายมากๆ ความไม่ประมาทก็คือสตินั่นเอง

    ข้อความข้างบนนี้ผมได้จากอาจรย์ท่านหนึ่งที่เป็นฆารวาส
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 สิงหาคม 2008
  8. monsodsai

    monsodsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +570
    ขออนุโมทนาอย่างยิ่งกับหัวข้อธรรมนี้ค่ะ เพราะสามารถใช้เป็นคำตอบได้ดีที่สุ๊ดเลย... เวลาที่มีคนชอบถามเราว่า..."ทำไมถึงไม่แต่งงาน...จะอยู่บนคานถึงเมื่อไร"...(คิก..คิก...)
    [​IMG]
     
  9. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    เมื่อคืนก่อนนอนได้นั่งพิจารณาอรูปฌาณ๔และต่อด้วยวิปัสสนาญาณพิจารณาในสังโยชน์สิบว่าทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งตัวของเราเองนั้นมีเพียงแต่ความว่างเปล่าสิ่งที่ตัวเราได้ยึดว่าทรัพย์สมบัติของเราครอบครัวของเราบุคคลที่เรารู้จักนั้นจะอยู่กับเราไปตลอดแต่ความจริงแล้วไม่มีสิ่งใดที่เป็นของเรา

    เพราะทุกสิ่งนั้นมีความเกิดเบื้องต้นมีความเสื่อมในท่ามกลางและสุดท้ายสลายในที่สุดทุกสิ่ง

    ทุกอย่างนั้นเป็นเพียงสิ่งสมมุติเท่านั้นเองการที่ตัวเราคิดว่ากายนี้เป็นของเราบุคคลที่เรารักนั้นเป็นของเราพอลองพิจารณาลึกๆดูว่าถ้าที่คิดว่าเป็นของเรานั้นถ้าเราตายไปก็ต้องสามารถแบกไปได้

    แม้แต่ทรัพย์สินก็เช่นเดียวกันที่เราหามาก็ต้องแบกไปกับตัวเราได้เช่นกันแต่ที่ผ่านมาคนที่เรารู้จักและรักเขาเวลาเขาตายไม่เห็นว่าจะแบกร่างกายของเขาหรือทรัพย์สินไปด้วยเลยจึงทำให้เห็นว่าแท้จริงในคำสอนของหลวงพ่อท่านบอกว่าเราไม่มีในร่างกายร่างกายไม่มีเรา

    เรามีแต่เพียงจิตหรืออาทิสมานกายร่างกายที่เราอาศัยอยู่นั้นเป็นแค่เพียงบ้านเช่าเท่านั้นเองระหว่างที่พิจารณานั้นได้ขอบารมีพระท่านขอให้เห็นภาพชาติที่ผ่านมานั้นเป็นอย่างไรพอได้เห็นก็ทำให้เกิดความสลดบางชาติก็ได้ทำความเลวบางชาติก็ได้รับความสุขจากการทำบุญบางชาติก็ต้องไปรับใช้กรรมในอบายภูมิ

    ทำให้คิดว่าชาติต่างๆที่ผ่านมาที่เราได้เวียนว่ายตายเกิดนั้นมากี่ภพกี่ชาติไม่จบไม่สิ้นนี้มีความสุขหรือว่าความทุกข์แม้แต่ในชาตินี้ที่เรามาเกิดนั้นพิจารณาดูว่าตั้งแต่เกิดมานั้นมีความสุขหรือเปล่า

    ลองพิจารณาดูตั้งแต่อยู่ท้องแม่นั้นแล้วคลอดออกมามีใครบ้างที่มีความสุขไม่ว่าจะเป็นแม่พ่อและคนอื่นๆนั้นต่างต้องคอยดูแลเราคอยประคบประหงมเราไม่ให้ป่วยไข้ไม่ให้หิวโหยพอเราโตขึ้นมาก็ต้องหาเงินหาทองส่งเสียให้เราเรียนหนังสือเพื่อที่จะได้ดีในวันข้างหน้าพอเราเรียนจบคราวนี้ต้องขวนขวายหางานทำเพื่อตอบแทนพ่อแม่ที่ท่านเลี้ยงดูเรามา

    พอได้งานทำแล้วก็ต้องเก็บเงินเก็บทองสร้างหลักฐานปึกแผ่นให้มั่นคงหลังจากนั้นพอมีฐานะบ้างแล้วทีนี้ก็คิดจะสร้างครอบครัวของตัวเราพอมีครอบครัวมีลูกมีหลานตอนนี้เราเป็นอย่างไรร่างกายหมือนเดิมหรือเปล่ามันก็เปล่า

    มีแต่ความเสื่อมลงไปทุกขณะพอลูกหลานเราโตเป็นผู้ใหญ่เรานั้นก็แก่แล้วบางทีตายไปแล้วพอลองมาคิดอย่างนี้ทำให้รู้สึกเราจะวนเวียนแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ แล้วการที่เรามีตัวมานะคือคิดว่าเราดีกว่าเขา เราเลวกว่าเขา เราเสมอเขานั้นไปเพื่ออะไร (ตอนที่คิดถึงตัวมานะนี้นึกถึงคำสอนของหลวงพ่อท่าน)

    ทั้งที่ความจริงทั้งเราทั้งเขา ต่างก็เหมือนกันคือ สุดท้ายเราก็ต้องตาย แล้วเราจะแบกตัวมานะนี้ไปถึงไหนกัน มันมีประโยชน์หรือเปล่า แล้วถ้าเราแบกไปอย่างนี้ จะทำให้เราหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดไหม มันก็ไม่ ถ้างั้นเราจะแบกทำไม ก็ควรปล่อยวางลง


    พอคิดพิจารณาได้ก็รู้สึกใจเบาขึ้น ก็ขอบารมีพระท่านเมตตาขอให้ดูความจริงของเทวดา รูปพรหม อรูปพรหมว่าเมื่อหมดบุญแล้วเป็นอย่างไร พอได้เห็นว่าทั้งเทวดาพรหม อรูปพรหมนั้น พอหมดบุญก็ต้องลงมาเกิด บ้างได้เกิดเป็นคนมาสร้างบุญใหม่ บ้างก็ต้องไปใช้กรรมในอบายภูมิ จึงทำให้คิดว่าไม่ว่าจะเป็นเทวดา พรหม อรูปพรหมก็ดี ล้วนแล้วจะต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก ไม่สามารถข้ามพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ จึงตัดสินใจว่าถ้าต้องการที่จะไม่เกิดอีกนั้นต้องไปนิพพานอย่างเดียว

    พอพิจารณาตัดความที่เรามีตัวกิเลสต่างๆออกจากใจไปได้แล้ว จึงขอบารมีพระท่านพาอาทิสมานกายขึ้นพระนิพพาน (ขอตัวก่อนค่ะเดี๋ยวค่อยมาเล่าต่อให้อ่านนะคะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 สิงหาคม 2008
  10. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    วันนี้ผมได้สอนสมาธิเข้าเรื่องกสิณแล้วครับ
    วันนี้สามารถเห็นดวงแก้วกันได้เป็นจำนวนมาก เป็นพันๆคน
    เล่นเอาขายหน้าเด็กไปเลย 55
    วิธีคือเริ่มจากลูกบอลสีแดง เป็นสีขาว แล้วเป็นเพชร
    จากนั้นก็แยกออกมา2 ลูก 4 ลูก
    หมุนไปมา ขยับไปมา ย่อ ขยาย รวมกัน และเอาจิตจับให้นิ่ง
    ทุกๆคนตามกันได้ดีถ้าตั้งใจทำจริง
    ขอให้อานิสงค์ที่ทุกๆดวงจิตช่วยกันเจริญพระกรรมฐานนั้น
    ทำให้คำอธิษฐานอันเป็นสัมมาทิฏฐิ สัมมาสมาธิ สัมมาปัญญา สัมมาปฏิบัติ ทั้งหมดเป็นจริง
    สามารถช่วยให้ทุกๆดวงจิตได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานโดยเร็วด้วยเทอญ สาธุ
     
  11. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    พอขอบารมีพระท่านพาขึ้นพระนิพพานแล้ว พระที่เห็นอยู่ตรงหน้านั้นไม่เหมือนทุกครั้งที่ได้ขึ้นไปกราบ คือเห็นท่านได้ชัดเจนขึ้น ทั้งพระพักตร์ ,สรีระของพระท่าน เครื่องทรงของท่านเห็นได้ชัดมาก ทุกทีจะเห็นไม่ค่อยแจ่มแบบนี้ จนตัวเองอดสงสัยว่ารู้สึกแปลกๆ ไม่เหมือนทุกครั้ง ทำไมเห็นได้ชัดแจ๋วขนาดนี้

    ลองสำรวจอาทิสมานกายของตัวเองก็เห็นชัด ก็ไปกราบครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆก็เห็นว่าใช่นี่ สักพักก็มากราบพระท่าน และครูบาอาจารย์ทุกท่าน แล้วถวายดอกบัวแก้วซึ่งเป็นบุญกุศลที่ได้ทำมา ยังสงสัยอยู่ จึงขออนุญาติพระท่านขอสำรวจไปวิมานของตัวเอง พอไปวิมานก็เดินดูรอบๆ พอดีพระพุทธเจ้าท่านเสด็จมา จึงก้มลงกราบท่าน พระท่านได้พูดว่าเธอตัดสังโยชน์ตรงสักกายทิฏฐิและตัวมานะไม่ใช่หรือ ตอบท่านว่า "ค่ะลูกโง่มานาน ที่แบกทั้งสังขารและตัวมานะนี้มาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ มาชาตินี้ก็ยังแบกอีก แท้จริงแล้วพอลองพิจารณาอย่างละเอียด สุดท้ายทุกสิ่งทุกอย่างเหลือเพียงแต่ความว่างเปล่า เกิดขึ้นในเบื้องต้น เสื่อมในท่ามกลาง สุดท้ายสลายไปในที่สุด" ทีนี้ก็สงสัยอีกเสียงที่เราได้ยินนั้นเป็นความคิดของเราเองหรือท่านพูด กลัวเป็นอุปาทานค่ะ

    สักพักมีเสียงบอกในจิตว่า ถ้าอยากรู้ว่าของจริงเป็นอย่างไร อุปาทานเป็นอย่างไร ตั้งใจปฏิบัติขัดเกลาตัวมานะและตัดสักกายทิฏฐิให้เบาบางขึ้น แล้วจะรู้ได้ด้วยตัวเราเอง ตอบรับท่านว่า "ค่ะ"

    จากนั้นก้มลงกราบพระท่าน ขอพุทธบารมีพระเมตตาของพระองค์ท่านรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระในจิตของตัวเอง แล้วนึกถึงความรักที่มีต่อพระองค์ท่านทุกๆพระองค์ ครูบาอาจารย์ทุกท่าน ความรักที่มีต่อพระเจ้าอยู่หัว ความรักที่มีต่อพ่อแม่ญาติพี่น้อง ความรักที่มีต่อพี่ๆน้องๆในเว็บพลังจิต ความรักที่มีต่อมวลสรพสัตว์ทั้งหลายทั้งในโลกใบนี้ ทั้งทั่วจักรวาล อนันตจักวาลไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมนึกถึงบุญกุศลที่ได้เคยทำมา รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ตอนที่นึกถึงนั้นความรู้สึกมีความสุขมาก เลยได้พูดออกไปว่าตั้งแต่แผ่เมตตามามีครั้งนี้ที่รู้สึกมีความสุขมากที่สุด ไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อน จึงตั้งจิตอธิษฐานปักหมุดไว้ว่า "ขอการแผ่เมตตามีพระเมตตาบารมีของพระพุทธองค์ท่านนี้ แผ่ออกไปกระทบดวงจิตทุกๆดวง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดก็ตาม เจ้ากรรมนายเวร เทวดาที่รักษาคุ้มครองที่ปกปักรักษาประเทศชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ และที่ปกปักรักษาคุ้มครองผู้คน ขอให้ทุกๆดวงจิตที่ได้รับ มีความสุข ปราศจากทุกข์ พ้นภัยจากวัฏฏสงสาร สัมผัสพระนิพพานอันเป็นบริสุทธิ์ด้วยเทอญ

    สำหรับดวงจิตที่มีความโกรธ อาฆาต พยาบาท เมื่อได้สัมผัสกระแสแห่งเมตตานี้มีบารมีของพระพุทธองค์เป็นที่สุด ขอได้คลายจากความอาฆาตพยาบาททั้งปวงเทอญ ขอให้เมล็ดพันธุ์แห่งความดีงาม ความรัก ความเมตตานี้ ขอให้ซึมซับเบ่งบานในทุกๆดวงจิตด้วยเทอญ เพื่อที่ทุกๆดวงจิตนั้นมีความรักความเมตตา มีรอยยิ้มไมตรีให้ซึ่งกันและกัน พ้นจากทุกข์ พ้นภัยจากวัฏฏสงสาร สัมผัสพระนิพพานอันเป็นบริสุทธิ์ด้วยเทอญ จากนั้นแผ่เมตตาออกไป ตอนนั้นมีความรู้สึกว่าพลังของการที่แผ่ออกไป มีพลังมหาศาลมากค่ะ

    ตอนที่แผ่เมตตาออกไป มีความรู้สึกอีกอย่างขึ้นมาคือ น้ำตาได้ไหลออกมาอย่างมากไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน และรู้สึกว่ามีความรักต่อองค์พระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์ท่านมากค่ะ มีความรักต่อพ่อแม่พี่ๆน้องรวมถึงในเว็บนี้ด้วย ความรักที่มีต่อสรรพสัตว์ในโลกและจักรวาลนี้ ความรักที่เกิดขึ้นนี้เป็นความรักที่ปราศจากเงื่อนไข ไม่มีความต้องการสิ่งใดตอบแทนทั้งสิ้นค่ะ

    อย่างไรขอแบ่งปันความรักที่ปราศจากเงื่อนไขนี้ขอแผ่ไปให้ทุกๆท่านค่ะ ขอให้ทุกท่านได้พบความสุขอย่างแท้จริง และขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ(kiss)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 สิงหาคม 2008
  12. malee123

    malee123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2008
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +2,843
    ยินดีด้วยค่ะที่เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้น....

    ขออนุโมทนากับการแบ่งปันความรักที่ปราศจากเงื่อนไขนี้ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  13. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    <table id="post319665" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">13-09-2006, 01:57 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> kananun <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_319665", true); </script>
    หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 04:28 PM
    วันที่สมัคร: May 2006
    ข้อความ: 6,182
    ได้ให้อนุโมทนา: 15,917
    ได้รับอนุโมทนา 125,733 ครั้ง ใน 6,245 โพส
    <if condition=""></if> พลังการให้คะแนน: 9332 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_319665" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- icon and title --> ความรู้เพิ่มเติมเรื่องการโมทนาครับ
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- / icon and title --> <!-- message --> ---การโมทนาบุญนั้น เป็นบุญเป็นกุศลในสายพรหมวิหารสี่ใน มุทิตาจิต และผลของการโมทนาบุญนั้นจะบังเกิด ผลบุญที่เรียกกันว่า โมทนามัย ซึ่งมีผลหย่อนจากตัวผู้ทำบุญ กุศลนั้นเองบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก ขึ้นอยู่กับผู้ขอโมทนานั้นได้โมทนาเต็มหัวจิตหัวใจเพียงไร ในขณะเดียวกันศัตรูของการโมทนาบุญนั้น ได้แก่ ความอิจฉา ริษยา เห็นผู้อื่นได้ทำบุญทำกุศล เกรงว่าจะได้ดีกว่าตน สิ่งนี้เป็นโทษต่อความดีที่จะพึงเกิดขึ้นในจิตของตนเอง ทั้งๆที่บุญจากโมทนามัยนี้เป็นสิ่งที่เราได้มาเปล่าๆไม่ต้องลงแรงลงทรัพย์เพื่อการทำบุญ แค่เพียงจิตเรายินดีอย่างบริสุทธิ์ใจต่อความดี ต่อกุศลที่ท่านผู้อื่นได้ ลงมือกระทำและบำเพ็ญด้วยความเต็มใจเท่านนั้น ส่วนผู้ที่ท่านได้เป็นต้นบุญต้นกุศลนั้นเล่า ควรวางกำลังใจในสัมมาทิษฐิว่าอันบุญ อันกุศลที่เราได้บำเพ็ญแล้วนั้น มีท่านผู้อื่นได้โมทนาและยินดีในบุญกุศลและความดีนี้แล้ว ย่อมทำให้กระแสแห่งบุญแห่งกุศลนี้ งอกงามเพิ่มขึ้น สืบต่อกันไปประดุจ เปลวเทียนที่จุดต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด และเมื่อนั้นเราก็ยินดีในบุญจากโมทนามัยของท่านผู้ขอโมทนาบุญกับเราด้วย ซึ่งหมายความว่ารวมแล้วเราได้บุญ จากกุศลที่เราได้ทำได้บำเพ็ญโดยตรงแล้วเรายังได้บุญจากการโมทนาบุญ ของท่านผู้ขอโมทนาบุญกับเราทุกๆท่านอีกด้วย แต่หากท่านมีมิจฉาทิษฐิคิดไปเองว่า หากมีผู้มาโมทนาบุญกับเราเดี๋ยวบุญเราจะหมดเราไม่ให้หรอก เมื่อนั้นจิตท่านก็จะปรากฏความเศร้าหมองทำให้บุญที่เราทำมีผลย่อหย่อนลงไป และทำให้เราไม่ได้กุศลจาก การโมทนาบุญของผู้ขอโมทนาบุญจากเรา
    ดังนั้นเราจึงควรวางกำลังใจและอธิฐานจิตเราเมื่อมีผู้ขอโมทนาบุญจากเราว่า

    "เราขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้กับท่านทั้งหลายที่ขอโมทนาบุญกับเราในทุกครั้งทุกโอกาส ไม่ว่าเราจะทำในอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี และที่จะบำเพ็ญต่อไปในอนาคตก็ดี ที่เราได้ทราบก็ดี ไม่ทราบก็ดี จะเป็น มนุษย์หรือเทพพรหม เทวา พญานาค ก็ดี ที่มีกายเนื้อก็ดี ไม่มีกายเนื้อก็ดี ขอให้เขาเหล่านี้ จงประสพแต่ความสุขพ้นจากความทุกข์พ้นภัยจากวัฏสงสาร สัมผัสพระนิพพานอันเป็นบรมสุขด้วยเทอญ"

    ส่วนการโมทนาบุญนั้น แบ่งออกได้ตามขนาดของบุญและวาระได้สามประการคือ
    1. การอนุโมทนา หมายถึงการโมทนาบุญ ของบุคคลใด ในการทำบุญเฉพาะครั้งใดครั้งหนึ่ง เช่น พี่เราได้เลี้ยงพระเพลที่วัด เราก็ได้อนุโมทนาบุญด้วยครั้งหนึ่ง
    2.การโมทนาบุญ หมายถึงการโมทนาบุญในกองกุศล ที่หมู่คณะนั้นได้บำเพ็ญ เช่นการโมทนาบุญกฐินที่เวบพลังจิตได้จะเป็นเจ้าภาพร่วม หรือการโมทนาบุญของบุคคลใด บุคคลหนึ่งโดยเฉพาะในบุญที่เขาบำเพ็ญมาตลอด เป็นต้น
    3.การมหาโมทนาบุญ นั้นหมายถึงการ โมทนาความดี กุศล ผลบุญทั้งปวงที่ได้ปรากฏขึ้น ทั่วอนันต์จักวาล ทั้งสามไตรภูมิ หนึ่งนิพพาน ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต ซึ่งล่วงข้ามมิติของสถานที่และกาลเวลา เป็นมหากุศลที่ จะไหลรวมมาหล่อเลี้ยง ดวงจิตของพระโพธิสัตว์ทุกดวงให้สว่างไสว การมหาโมทนาบุญนี้ เป็น การปฏิบัติ มุทิตาอัปปันณานฌาน นั่นเอง พระโพธิสัตว์และท่านผู้ฉลาดในการโมทนาย่อมเข้าใจในการทำมหาโมทนาเป็นปรกติ ธรรมดา


    หวังว่าท่านทั้งหลาย จะได้ความรู้ในเรื่องการโมทนาบุญเพิ่มขึ้น และได้ใช้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติ ต่อไปครับ ขอกราบโมทนาบุญของทุกท่าน ทุกโอกาส ทุกวาระ นับแต่อดีต ปัจจุบันและที่ท่านจะบำเพ็ญกันต่อไปในอนาคตครับ
    </td></tr></tbody></table>
     
  14. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    มรดกแมว

    .............๑.............

    แมวสามแม่หนึ่งลูกสอง
    รักกันปรองดอง
    ไร้เรื่องขัดข้องหมองใจ

    ความรักเมตตาห่วงใย
    แม่เอาใจใส่
    ลูบไล้เลียขนเช้าค่ำ

    แมวมีมรดกเก็บงำ
    ก้อนน้ำอ้อยดำ
    ฉ่ำหวานไว้ล้างคาวลิ้น

    ใครหิวก็แบ่งกันกิน
    อยู่มาชาชิน
    สุขจินต์ประสาแมวแมว

    วันหนึ่งตะวันพลบแล้ว
    แม่ร้องเหมียวแหมว
    เรียกสองแก้วตามาพบ

    ไม่นานชีพแม่อาจจบ
    ชรามาซบ
    อายุขัยครบจบแล้ว

    ลูกจงปรองดองสองแมว
    พี่ขวัญน้องแก้ว
    ด้วยใจผ่องแผ้วสดใส

    มรดกที่แม่ทิ้งไว้
    คือน้ำอ้อยใจ
    ฉ่ำหวานด้วยได้กรุณา

    ยามหิวให้รู้คุณค่า
    กินคนละครา
    อย่าผ่าแบ่งซีกปลีกชิ้น

    ลูกแมวรับคำตามจินต์
    แม่สั่งเสียสิ้น
    ก็สิ้นลมลับมรณา

    ไม่นานลืมคำสั่งลา
    สองแมวเจรจา
    ผ่าซีกแบ่งน้ำอ้อยหวาน

    แบ่งครึ่งสมควรแก่การ
    กติกาผ่าน
    ไม่มีร้าวฉานสักนิด

    แมวน้องนั่งตรองในจิต
    แล้วชวนพี่พิศ
    เราแบ่งกันผิดแล้วพี่

    พี่ควรคิดดูดีดี
    เพราะพี่เป็นพี่
    ต้องรักน้องนี้กว่าใด

    รักแล้วทำไมทำไม
    แบ่งเท่ากันได้
    ถือว่าไม่ยุติธรรม

    ที่ถูกน้องต้องได้ล้ำ
    มากกว่าสักคำ
    จึงจะควรค้ำกติกา

    แมวพี่หยีตามองหน้า
    ยุติธรรมแล้วหนา
    อย่ามาเล่นลิ้นลมเลย

    พี่น้องปรองดองเปิดเผย
    สนิทชิดเชย
    อย่าเอ่ยน้ำคำช้ำใจ

    ก็แบ่งตามตกลงไว้
    เท่ากันแล้วไง
    แล้วใยน้องจึงตีรวน

    ไม่ได้รวนแต่ถี่ถ้วน
    ที่เห็นสมควร
    น้องต้องได้มากกว่านะ

    ต่างตัวต่างอ้างตรรกะ
    ทิฏฐิมานะ
    ตามจินตนาตนนึก


    พี่น้องสองแมวเปิดศึก
    สามัญสำนึก
    ตกผลึกมรดกผกผัน

    ยื้อแย่งแข่งดีทุกวัน
    มิอาจแบ่งปัน
    ยุติตามตุลาการ

    ลิงหนุ่มเจ้าเล่ห์เหล่ผ่าน
    สังเกตเหตุการณ์
    แล้วรู้แจ้งในเจตนา

    จึงร้องทักทายไปว่า
    เฮ้ยนี่สองรา
    แม่ว่าให้เจ้าปรองดอง

    ใยจึงแย่งชิงหม่นหมอง
    แมวพี่แมวน้อง
    แบ่งของต้องพิจารณา

    เอาความเป็นธรรมเข้าว่า
    เปี่ยมด้วยกรุณา
    อันไหนมันหนามันบาง

    อืม..มันก็เท่ากันไม่ต่าง
    ใยจึงบาดหมาง
    มันก็ยุติธรรมแล้วหนา

    แมวน้องรีบร้องบอกว่า
    ตามธรรมดา
    พี่ต้องรักน้องกว่าใด

    แบ่งปันของกันนั้นไซร้
    ผู้น้องต้องได้
    มากกว่าพี่เป็นธรรมดา

    เจ้าลิงเจ้าเล่ห์เหล่ตา
    คว้าน้ำอ้อยพี่มา
    กัดกินนิดว่าแค่นี้พอไหม

    แมวน้องลำพองดีใจ
    ถูกต้องเลยไง
    ฉันได้มากกว่าพี่แล้ว

    แมวพี่หรี่ตาใจแป้ว
    มันเกินไปแล้ว
    ได้มากกว่าฉันตั้งเยอะ

    ลิงจ๋อบอกว่าพอเถอะ
    อย่าเถียงเลอะเทอะ
    เดี๋ยวเปรอะความยุติธรรม

    ว่าแล้วคว้าน้ำอ้อยกำ
    ของน้องมากล้ำ
    ไม่ยากเดี๋ยวจ๋อจัดการ

    กัดกินผ่านลิ้นลิ้มหวาน
    พอไหมสองท่าน
    แมวพี่บอกพอดีเลย

    น้องแมวบอกว่าอ้าวเฮ้ย
    เท่ากันเหมือนเคย
    มันเลยไร้ความยุติธรรม

    ลิงจ๋อฉอเลาะลึกล้ำ
    พี่คำน้องคำ
    ลิ้มหวานอิ่มหนำแล้วจากลา

    น้ำอ้อยน้ำใจไร้ค่า
    สองแมวมองตา
    กว่าจะรู้ค่าก็สายแล้ว.....

    สิริมงคล.....๒๖/๐๑/๕๑;12

    คนรักแมวค่ะ
     
  15. พัฒนาตน

    พัฒนาตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +1,282
    วันนี้ได้ใช้วิปัสสนาญาณพิจจารณาไปเรื่อยๆระหว่างนั่งรถไปสอบ คิดว่าว่าร่างกายนี่มันทุกข์มีแต่ความเจ็บป่วย โลกมนุษย์มีแต่ความทุกข์ และวุ่นวาย พอพิจารณาไปสักพักจนลมหายใจหายไป หรือเข้าถึงลมสบายแล้ว อาการต่างๆ ทั้งเวียนหัว หอบ ปวดตัว ก็หายไป
    เหมือนกับที่น้องชัดทำ และที่พี่เล็กบอก ธรรมะนี่รักษาทุกข์ได้ดีจริงๆครับ ผล
    พลอยได้คือ วิปัสสนายิ่งแจ่มใสขึ้น การดูจิตดีขึ้น และเหมือนกับธรรม่ะต่างๆที่เคยได้เรียนรู้ก็เข้าใจมากขึ้น ขอบคุณจริงๆสำหรับคำแนะของพี่ๆน้องๆทุกคนครับ
    สู้ๆครับ
     
  16. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    การที่ปฏิบัติธรรมจนสามารถเข้าใจได้ดีในครั้งนี้ ต้องขอกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์คือ พระพุทธองค์ และครูบาอาจารย์มีหลวงพ่อท่านเป็นที่สุด

    กราบขอบพระคุณอาจารย์คณานันท์ ได้สอนธรรมะต่างๆให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง

    กราบขอบพระคุณพี่ธร ตุ๊กตาแก้ว น้องชัช น้องซัน น้องกร น้องเจน และทุกท่านที่ได้นำธรรมะมาเล่าสู่กัน ทำให้ปูเองได้เห็นแนวทางที่นำมาประยุกต์ใช้แก้ไขปรับปรุงในการปฏิบัติธรรมที่ติดขัดได้ดีขึ้นค่ะ หนทางข้างหน้าถึงแม้มีอุปสรรคมากมาย ไม่ท้อหรอกค่ะ เพราะมีพี่ๆน้องๆ กัลยาณมิตรที่ประเสริฐแบบนี้ กราบขอบพระคุณทุกท่านมากค่ะ ^_^
     
  17. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    <TABLE class=tborder id=post1446322 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>vanco<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1446322", true); </SCRIPT>
    ทีมงานเว็บพลังจิต (เต้)

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Feb 2007
    สถานที่: Vancouver
    ข้อความ: 11,571
    ได้ให้อนุโมทนา: 47,465
    ได้รับอนุโมทนา 91,493 ครั้ง ใน 11,454 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 5491 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1446322 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->เด็กไทยกระหึ่มโลก
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เด็กไทยกระหึ่มโลก คว้าที่ 2 โลกคอมพ์โอลิมปิก </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 สิงหาคม 2551 12:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>โชว์เหรียญรางวัลที่ได้รับจากอียิปต์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เหรียญทอง นายภานุพงศ์ ภาสุภัทร ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เหรียญทอง นายธนะ วัฒนวารุณ ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เหรียญเงิน นายอาภาพงศ์ จันทร์ทอง ร.ร.มหิดลวิทยานุสรณ์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ทองแดง นายวิสิฐ ภัทรนุธาพร ร.ร.มหิดลวิทยานุสรณ์ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เด็กไทยสร้างชื่อ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง แถมสามารถทำคะแนนพิชิตที่ 2 ของโลกในการแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกวิชาการได้อีกด้วย

    น.ส.นารี วงศ์สิโรจน์กุล รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) แจ้งว่า ตามที่ได้คัดเลือกและจัดส่งผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ วันที่ 16-23 สิงหาคม 2551 ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ผู้เข้าร่วมแข่งขันประมาณ 300 คนจากจำนวน 77 ประเทศ ผลปรากฏว่าผู้แทนประเทศไทยสามารถทำได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง

    ที่สำคัญก็คือ นายภานุพงศ์ ภาสุภัทร นักเรียนจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ซึ่งนอกจากจะได้เหรียญทองแล้ว ยังสามารถทำคะแนนเป็นอันดับที่ 2 ของโลกอีกด้วย ส่วนผู้ที่ได้เหรียญทองอีกคนหนึ่งคือ นายธนะ วัฒนวารุณ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

    สำหรับผู้ที่ได้เหรียญเงิน ได้แก่ นายอาภาพงศ์ จันทร์ทอง โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เหรียญเงิน และนายวิสิฐ ภัทรนุธาพร โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ได้เหรียญทองแดง

    นายภานุพงศ์ ภาสุภัทร หรือ ไอซ์ เจ้าของเหรียญทองอันดับที่ 2 ของโลก วัย 17 ปี ซึ่งเคยสร้างเกียรติประวัติคว้า 1 เหรียญทองจากการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศปี 2550 และ 2 เหรียญเงินจากการแข่งขันเดียวกันในปี 2548 และ 2549 กล่าวว่า สำหรับปีนี้ไอซ์สนใจไปแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกแทนเพราะอยากนำความรู้ทางคณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งได้รับประสบการณ์ดีๆ กลับมาจากการแข่งขันมากมาย ส่วนเรื่องเหรียญรางวัลเป็นเพียงของขวัญให้กับความพยายามของตัวเอง

    นายธนะ วัฒนวารุณ (แบงก์) ที่เคยได้เหรียญเงินจากการแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกระหว่างประเทศปี 2550 ณ ประเทศโครเอเชียมาแล้ว กล่าวว่า ชอบเขียนโปรแกรม เพราะชอบสิ่งที่เห็นภาพและจับต้องได้ มั่นใจพอสมควรในการแข่งครั้งนี้ แต่เป้าหมายในการแข่งขันคือสามารถทำได้ดีที่สุด เท่าที่ความสามารถของตนเองจะทำได้ เรื่องเหรียญรางวัลนั้นเป็นเพียงผลพลอยได้
     
  18. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697

    จะตั้งตารอจ้า dencee^_^
     
  19. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    มารผจญตัวร้าย !!

    ;aa38

    วันนี้ได้ไปถวายสังฆทาน ร่วมถวายพระอุปคุต กับกลุ่มคณะ
    เป็นปิติและ อิ่มบุญดีค่ะ ขออนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลด้วยค่ะ


    ;enter


    วันนี้รู้สึกว่ามีอารมณ์ แปลก ๆ ที่เข้ามาแซรงซ้อนในจิตของนู๋ให้ใหลไปตามรู้สึกนั้น
    คนที่เห็นการแสดงออก อาจจะเข้าใจผิดไปเรยก็ได้

    แต่ก็พยายามควบคุมตัวเองให้ได้ ,,,
    ความคิดที่มันไม่ใช่เรา เข้ามาได้เสมอ มันเลวร้ายและมันกลืนกิน
    ความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้พี่ ๆ ไปมาก
    มันเปลี่ยนแปลงเป็นความรู้สึกธรรมดา ๆ กลายเป็นความรู้สึกแปลก ๆ เลวร้าย
    ที่พิมพ์แบบนี้เพราะว่า มันทรมานกับการต้องรับสภาพความคิดที่มันผุดขึ้นมาในสมอง
    โดยที่พยายามดับมันไปแต่มันก็ผุดขึ้นมาอีก !

    มันเหมือนต้องการให้นู๋มองพี่ เป็นอะไรสักอย่างที่ต้องหักล้างหรือออกห่างกันไป
    เข้าใจว่าตัวเองเคยผ่านเรื่องเลวร้ายมา แล้วสิ่งนั้นยังแฝงอยู่คอยหลอกหลอน
    และทำให้ต้องตีตัวออกห่างพี่ ๆ ,,, หรือ เข้ากับพี่ ๆ ไม่ได้ T_T"
    จะมีความคิดที่คอยมาสร้างความขุ่นเคื่องให้ต้องตกอยู่ในภวงค์
    นู๋เป็นแบบนี้อยู่ลึก ๆ


    แต่ เรื่องมันไม่เป็นเรื่อง มันก็แค่ กิเลสตัวหนึ่งที่เรารู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นกิเลส
    แล้วยังอยู่กัยมันยังใหลไปตามมันอีก

    ก็กราบขอประทานโทษต่อ พี่เล็ก พี่มน พี่ซัน พี่นากา พี่นัท พี่ธร ด้วยน่ะค่ะ
    หากตัวมารร้ายมันเข้าสิง จิตให้นู๋ ล้างผลาญตัวเอง
    ล้างผลาญจิตใจอันดีงามของตัวเองให้กลายเป็นตัวอะไรที่ติดอยู่ตันหา
    ล้างผลาญจิตใจของนู๋ให้เคร้าหมองยังไม่พอ มันยังไปละลายละลวงกับ พี่ ๆ อีก

    เอาเป็นว่านี้เป็นบทเรียน และอยากให้พี่ ๆ รู้ไว้ว่า ความคิดและการแสดงออก
    ของนู๋ในบ้างครั้งก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง ขอประทานโทษด้วย ณ ที่นี้น่ะค่ะ
    ไม่ได้ต้องการคิด ไม่ได้ต้องการแสดงออกเช่นนั้นเรย แต่มันก็ทำไปแล้ว !!

    ถึงจะผ่านเรื่อง ที่มานแย่ ๆ มามากจนทำให้ ณ ตอนนี้ เป็นแบบนี้
    แต่ก็พยายามที่จะคงเส้นคงวาในการปฎิบัติ เพิกเฉยต่อความคิดแปลก ๆ ที่มันมีเกิดขึ้น
    ตั้งอยู่ แล้ว ดับไป เป็นธรรมดา พยายามไม่ปรุงแต่งอะไรมาก
    อกุศลใดเข้ามาสิงจิต ก็ขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยตัวรู้ จากการทรงภาพพระ
    ขอบารมีท่านครอบจิตนี้ไว้ค่ะ

    แล้วเรื่องจะผ่านไปได้ด้วยดี
    จิตที่แท้จริงของนู๋นั้น เครพพี่ ๆ มากน่ะค่ะ พี่ ๆ มีพระคุณกับนู๋มาก
    หลาย ๆ อย่างที่แสดงออกไปที่เป็นอกุศลจิตก็ขอให้เป็นโมฆะกรรมต่อกันน่ะค่ะ

    ก็ขอให้นู๋ได้เครพ เชื่อฟังพี่ ๆ อย่างบริสุทธิ์ ใจค่ะ
    อย่าได้มีความคิดแปลก ๆ เข้ามาแซรกให้หลงไปใน ตันหา อีกเรยน่ะค่ะ ..

    จะไปบวชพราหมณ์กับคุณพ่อพรุ่งนี้แล้ว รู้สึกเคว้ง ๆ อยู่ - -"
    แต่เชื่อใน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อใหญ่ ค่ะ
    เมื่อมีจิต อันเป็นกุศลปราถนาที่จะกระทำความดีแล้วไม่ว่ายังไง ก็ต้องทำให้ได้
    ดั่งที่ตั้งใจไว้ค่ะ แล้วหวังว่าความตั้งใจอันเป็นกุศลนี้
    จะทำให้นู๋ได้ ก้าวไปอีกขั้นของการมโนมยิทธิค่ะ
    เพื่อใช้การอันเป็นประโยชน์ต่อตนเองและอื้นได้ในภายภาคหน้านี้แน่นอนค่ะ

    พี่เล็กบอกว่าให้ ฝึกกรรมฐานทั้ง 40 กองเรย
    โอเชค่ะ จะพยายามฝึกให้ได้ตามการวัดที่ส่งมาค่ะ !


    ขอเน้นเรื่อง
    สะสมบารมี 30 ทัศ

    - อานาปานสติกรรมฐาน
    - ตัดสังโยชน์ 10
    - ละสักกายทิฐิ
    - พิจารณามรณะนุสติ
    - ทรงพุทธานุสติ ธรรมนุสติ สังฆานุสติ เทวดานุสติ
    - ทรงพรหมวิหาร 4
    - ฝึกกสิน อรูป
    - ทรงอารมณ์พระนิพพาน

    กรุณาส่งกำลังใจมาด้วยน่ะค่ะ ,,, แล้วขึ้นไปพบกันค่ะ
    ขอบพระคุณค่ะ

    ;12;12;12;12;12
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2008
  20. พัฒนาตน

    พัฒนาตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +1,282
    สู้ๆน่ะคับ พี่ๆทุกคนเป็นห่วงเจนทั้งนั้นแหละ พยามเข้าน่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...