คู่มือรักษาโรคด้วย "พลังจักรวาล"

ในห้อง 'ลงประกาศ ซื้อ-ขาย หรือทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย Little yoda, 5 ตุลาคม 2007.

  1. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453
    การบำบัดด้วยคลื่นพลังงาน

    ศาสตร์การบำบัดด้วยคลื่นพลังงานไม่ใช่ของใหม่ มีมาตั้งแต่สมัยก่อนพุทธกาล ฤาษี นักบวชส่วนใหญ่ ใช้พลังจิตดึงพลังงานจากธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ มาช่วยรักษาร่างกายและแม้แต่ในสมัยพุทธกาล อริยบุคลต่างใช้วิธีดูแลสุขภาพอย่างคล้ายคลึงกัน พุทธศาสนามองร่างกายมนุษย์มองร่างกายมนุษย์เราทุกคนว่าประกอบขึ้นด้วยสสาร คือรูป (ร่างกาย) และพลังงาน (จิตวิญญาณ) และบางทฤษฎีมองว่ามนุษย์เป็นสนามพลังงานที่มความซับซ้อน ความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นคือสภาวะขาดความสมดุลของพลังงานในร่างกาย หากมีวิธีปรับเปลี่ยนให้พลังงานเหล่านี้กลับเข้าสู่สภาวะสมดุลได้ ระบบการทำงานของเซลล์และระบบภูมิคุ้มกันร่างกายจะกลับคืนเป็นปกติได้ด้วย ในขณะที่ทฤษฎีของวิทยาศาสตร์การแพทย์มองความเป็นมนุษย์ว่าเป็นเพียงส่วนประกอบของสสาร ที่มีอวัยวะ เช่น แขน ขา หัวใจ ปอด ฯลฯ และมีสารเคมีไหลเวียนอยู่ มีประสาทและสมองควบคุมการทำงาน มีระบบการทำงานเหมือนเครื่องจักรกล เพียงแต่มีความละเอียดและซับซ้อนกว่า ดังนั้นเมื่อเกิดโรคหรือมีความเจ็บป่วย จึงมีสาเหตุมาจากการทำงานผิดปกติของอวัยวะ หรือความไม่สมดุลของสารเคมีภายในร่างกาย วิธีรักษาจึงต้องปรับปรุงการทำงานของอวัยวะเหล่านั้นใหม่ โดยการใช้ยา เพื่อมุ่งทำลายเชื้อโรค ผ่าตัดและใส่อวัยวะอันใหม่แทนที่อันเก่าที่ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ

    ในปัจจุบันนี้ มนุษย์เริ่มเข้าใจแล้วว่า "ยา" บางชนิดนอกจากใช้บำบัดโรคไม่ได้ผลแล้ว ยังเกิดผลข้างเคียงต่อเซลล์อื่นๆในร่างกายและมีราคาแพงเกินจริง ทางเลือกของสุขภาพมีด้วยกันหลายทางเลือก และวิถีแห่งสุขภาพองค์รวมของคลื่นพลังงานบำบัดหรือที่เรียกสั้นๆว่า การบำบัดด้วยคลื่นพลังงาน เป็นทางเลือกที่ไม่ใช้ยา หากแต่ใช้พลังจิต พลังพีระมิด พลังงานจากน้ำและอาหาร เป็นอุปกรณ์ช่วยในการบำบัดรักษา

    พลังจิต

    พลังจิตเป็นพลังงานที่ทุกคนมีอยู่แล้วในตนเอง ในแต่ละวันพลังจิตถูกนำไปใช้เพียงเล็กน้อย เพื่อการกินอยู่ หลับนอน พักผ่อน สืบพันธุ์ นึกคิด เพียง 7% เท่านั้นเอง หากได้รู้วิธีการนำส่วนที่เหลืออีก 93% มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการบำบัดดูแลสุขภาพด้วยตนเองได้ นอกจากจะเป็นการปลูกฝังให้แต่ละบุคคลรู้วิธีของการพึ่งตนเองแล้ว ยังช่วยส่งเสริมแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย มนุษย์ทุกคนจะมีอาการเจ็บป่วยหรือไม่ก็ตาม ไม่มีใครอยากตาย เพราะแต่ละคนต่างถูกผูกและดึงไว้ด้วยความรักชีวิต รักและผูกพันกับบุคคลในครอบครัว ความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน ฯลฯ ความรู้สึกทั้งหมดเหล่านี้ หากสามารถนำมารวมเป็นหนึ่งเดียวได้ จะมีกำลังมหาศาลมากพอที่จะต่อสู้กับโรคภัยที่เบียดเบียน และช่วยสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ด้วยศักยภาพของพลังจิต จึงสามารถนำพลังพีระมิดมาใช้เป็นประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย

    ที่มา : http://santati2007.googlepages.com/vibration
     
  2. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453
    [FONT=courier new,monospace][/FONT]
    [FONT=courier new,monospace][​IMG][/FONT]
    [FONT=courier new,monospace]Santati News [/FONT]​
    [FONT=arial,sans-serif]ข่าวความเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลง[/FONT]

    12 ส.ค. 2551


    ภาวะความรุนแรงของมลพิษที่เพิ่มขึ้นในชั้นบรรยากาศเป็นสิ่งที่มนุษย์แต่ละคนสามารถค้นคว้าหาความรู้ประกอบเป็นเหตุและผลของการรับรู้ แก้ไขไปตามขั้นตอนได้โดยไม่ยากนัก แต่"การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และสลาย"ของพลังงานตามธรรมชาติย่อมจะดำเนินไปตามหลักของกฏแห่งกรรม หรือทฤษฎีของเหตุและผลที่บ่งชี้ว่าสร้างเหตุไว้อย่างไรย่อมได้รับผลตามเหตุนั้น อุปกรณ์สำคัญที่ใช้ตรวจจับการแปรเปลี่ยนเหล่านี้มนุษย์เราทุกคนต่างมีกันอยู่แล้วสิ่งนี้คือ"จิต"


    พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณได้เคยกล่าวถึงกฏแห่งกรรมรวม หมายถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับดาวโลกและมนุษย์ในโลกทุกคนต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้นร่วมกันโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้(รายละเอียดเหล่านี้ผู้เขียนขอไม่กล่าวถึง ผู้สนใจใคร่รู้ควรจะได้ฟังจากคำสอนของพระอาจารย์โดยตรงเพราะเป็นการบอกถึงเหตุและผลของกฏแห่งกรรมนั้นรวมทั้งแนวทางของการแก้ไขไว้อย่างชัดเจน) ความรู้ที่พระอาจารย์ได้เคยบอกกับลูกศิษย์ไว้เมื่อวันที่ 26-27 ก.ค. 51 ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพครั้งยิ่งใหญ่ต่อโลกของเราในประมาณวันที่ 4-24 ส.ค. 51 นั้น เมื่อพระอาจารย์ได้ใช้พลังจิตตรวจเช็คโดยละเอียดอย่างรอบคอบในปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นแล้วเห็นว่า เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้ไม่ได้ดำเนินไปตามกฏแห่งกรรม ขัดแย้งต่อหลักคำสอนของศาสนาพุทธ เป็นปฏิบัติการของพลังงานต่างมิติ พระอาจารย์จึงไม่ให้ความร่วมมือใดๆทั้งสิ้นและได้บอกความจริงกับลูกศิษย์ในทันทีที่รู้เมื่อเวลาสองทุ่ม วันพุธที่ 30 ก.ค. 51 และได้ให้วิธีปฏิบัติวิธีใหม่เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 51 "จินตนาการการดึงพลังงานจากเท้าขวาของสฟิงซ์" เพื่อต่อสู้กับภาวะอึดอัดหายใจได้ยากอันเนื่องมาจากการที่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก ต่างโคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน ซึ่งภาวะเช่นนี้จะเกิดขึ้นต่อเนื่องระหว่างวันที่ 4-17 ส.ค. 51
     
  3. entomo62

    entomo62 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +8
    สนใจมากครับ อยากได้ 1 ชุด (เล่ม 1 และ 2) หวังว่าคงไม่มีปัญหากับผู้เริ่มต้นที่จะศึกษาเรื่องนี้นะครับ

    e-mail: entomo62@hotmail.com
     
  4. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453
    ไม่มีปัญหาสำหรับผู้เริ่มใหม่ครับ
    ที่สำคัญคือ เราต้องมีความรัก ความเมตตา เป็นพื้นฐานครับ
    เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การเรียนรู้ก็จะก้าวหน้า
    จิตวิญญาณก็จะพัฒนาได้สูงขึ้นครับ

    ส่งรายละเอียดให้แล้วครับทาง Email
     
  5. ai_rung

    ai_rung สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    จองทั้ง2เล่มเลย จ่ายตังค์ยังไงก็บอกนะคะ
    ai_rung@yahoo.com
     
  6. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453
    ฐานความรู้ของพลังพีระมิด

    ที่มา: คู่มือการฝึกนั่งสมาธิ เล่ม 3 พลังจิตและพลังพีระมิด ทางเลือกเพื่อสุขภาพ (โดย คุณจีรพันธุ์ ประศาสน์วุฒิ)

    [​IMG]

    ความลี้ลับมหัศจรรย์ของ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453
    การสร้าง “พีระมิด” เพื่อนำ “พลังพีระมิด” มาใช้ให้เกิดประโยชน์มีหลักการที่สำคัญ คือต้องศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างแรงดึงดูดจากศูนย์กลางของกาแลคซี่ทางช้างเผือกกับดาวบริวารอื่นๆ รวมทั้งสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในกาแลคซี่

    ศูนย์กลางของแรงดึงดูดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกาแลคซี่ทางช้างเผือกคือ ดวงอาทิตย์ดวงแม่ (หลุมดำ, The Sun Energy, The Dead Sun) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานใหญ่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ มนุษย์ สรรพสัตว์ และสิ่งต่างๆ ใน “ดาวโลก” รวมทั้งดวงอาทิตย์ในสุริยจักรวาล ต่างตกอยู่ในแรงดึงเข้าและผลักออกที่เกิดขึ้นในทุกๆ 1 วินาที จากอิทธิพลของแรงดึงจากศูนย์กลางที่ใหญ่ที่สุดของอาทิตย์ดวงแม่ และด้วยสาเหตุอันนี้เข็มทิศจึงชี้ไปทางทิศเหนืออยู่ตลอดเวลา

    ยิ่งไปกว่านี้ดวงอาทิตย์ดวงแม่ คือต้นกำเนิดของ “พลังแม่เหล็กโลก” ที่กำลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพ การดำรงชีวิตมนุษย์ และสัตว์ในดาวโลกอยู่ในขณะนี้ (ในสากลจักรวาลจะประกอบด้วยกาแลคซี่เป็นจำเป็นมาก แต่ละกาแลคซี่จะมีดวงอาทิตย์ดวงแม่เป็นศูนย์กลางเสมอ และใน 1 กาแลคซี่จะประกอบด้วยสุริยจักรวาลที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางอยู่เป็นจำนวนมากอีกเช่นกัน ฉะนั้นความหมายของคำว่า ดวงอาทิตย์ดวงแม่ คือดวงอาทิตย์ดวงที่ใหญ่ที่สุด มีพลังดึงดูดจากศูนย์กลางมากที่สุดของแต่กาแลคซี่นั่นเอง

    “พลังแม่เหล็กโลก” มีคุณลักษณะพิเศษ คือเป็นพลังงานที่สามารถย่อยสลาย ทำลายโมเลกุลของสสาร และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดตามจังหวะของแรงดึงเข้าและผลักออก ที่เกิดขึ้นในทุกๆ 1 วินาที ที่มีแรงดึงจากศูนย์กลาง คือจากดวงอาทิตย์ดวงแม่ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้นิวเคลียสโมเลกุลในสรรพสัตว์สิ่งที่ถูกทำลายและเสื่อมลงไปตลอดเวลาตามจังหวะของแรงดึงจากศูนย์กลาง แต่ละบุคคลคงเคยเห็นและรู้จักไม้ผุ กระดาษเปื่อยยุ่ย ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์เน่าหรือของใช้นานาชนิดเกิดการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา แต่เราเคยเห็นกระบวนการี่กำลังทำให้เกิดการเน่าเปื่อย ผุพังเหล่านี้บ้างหรือไม่ เนื่องจากสาเหตุของการเสื่อมสลายเหล่านี้ เป็นกระบวนการทำงานของพลังงานที่ละเอียดอ่อน

    ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ทางจิตของอารยธรรมแอตแลนตีส และอารยธรรมอียิปต์ ได้วิวัฒนาการไปถึงการนำพลังงานที่เกิดจากการสร้างวัตถุรูปทรงสามเหลี่ยม เหลี่ยมมุม 60 องศา 4 รูป หรือ 4 ด้าน นำมาประกอบกัน เรียกว่ารูปทรงพีระมิด โดยมีหลักของการวางหรือการจัดตั้งให้หันด้านสามเหลี่ยมด้านใดด้านหนึ่ง หันหน้าไปทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของดวงอาทิตย์ดวงแม่และเป็นแหล่งกำเนิดของพลังงานแม่เหล็กโลก

    เนื่องจากรูปทรงสามเหลี่ยมพีระมิด มีคุณลักษณะพิเศษ คือไม่มีนิวเคลียสหรือจุดศูนย์กลาง จึงทำให้พลังงานแม่เหล็กโลก (รวมทั้งพลังงานอื่นๆ ในปัจจุบันนี้ เช่นคลื่นวิทยุ คลื่นโทรศัพท์ คลื่นโทรทัศน์ คลื่นไมโครเวฟ ฯลฯ) เมื่อเกิดการกระทบหรือชนกับด้านสามเหลี่ยมด้านใดด้านหนึ่งจะเกิดการสะท้อนพลังงานแม่เหล็กโลกกลับออกไป (รวมทั้งพลังงานอื่นๆ ทุกชนิด) ไม่สามารถทะลุผ่านเข้าไปในสถานที่ก่อสร้างเป็นรูปทรงพีระมิดได้

    ด้วยวิทยาการอันนี้ พีระมิดและมหาพีระมิดทั้งหลายของชาวอียิปต์จึงได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บพระศพหรือมัมมี่ รวมทั้งทรัพย์สมบัติที่มีค่าทุกชนิดของฟาโรห์ ไว้ได้นานนับเป็นพันๆ ปี โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนต่างดาวที่มีความก้าวหน้าทางพลังจิตสูง คือมนุษย์ดาวอังคาร ในการนำพลังงานตัวที่ 7 คือการเปลี่ยนพลังงานจากวัตถุ เป็นพลังงานแสงและการเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นพลังงานวัตถุ เพื่อใช้ในการเคลื่อนย้ายแท่งหินใหญ่ที่มีน้ำหนักหลายตัน โดยการเปลี่ยนพลังงานจากแท่งหิน ให้เป็นพลังงานแสงก่อน แล้วจึงนำไปจัดวางในตำแหน่งที่ต้องกาน หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนพลังงานแสงให้กลับเป็นพลังงานวัตถุ คือเปลี่ยนเป็นแท่งหินอีกครั้ง เมื่อมีการจัดวางเรียบร้อยแล้ว

    ด้วยหลักการและประโยชน์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น พระอาจารย์รัตน์ รตนญโณ ยังได้ศึกษาค้นคว้า ศึกษาวิธีการเพิ่มเติมและนำพีระมิด ซึ่งเป็นความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์โบราณนำมาประยุกต์เป็นภูมิปัญญาตะวันออก และเสนอเป็นทางเลือก เพื่อสุขภาพแก่สังคมไทย ให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วย ผู้ที่สนใจศึกษา สามารถช่วยแก้ไขโรคที่รักษาได้ยาก หรือหมดแนวทางรักษา เช่น เอดส์ มะเร็ง ระบบทางเดินลมหายใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต เอ็นทับเส้นประสาท หมอนรองกระดูกอักเสบ เครียด ไมเกรน ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญในการนำพลังพีระมิดมาใช้ให้เป็นประโยชน์ 2 อย่าง คือ

    1. ใช้เป็นอุปกรณ์เสริมช่วยในการฝึกสมาธิ และการฝึกการใช้พลังจิต เพื่อช่วยรักษาโรคและสร้างภูมิต้านทานด้วยตนเอง

    2. ใช้เป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยในการหายใจ

    อนึ่ง พีระมิดทุกก้อนที่พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ ได้เมตตา อนุญาตให้ลูกศิษย์ ผู้ป่วย ผู้สนใจศึกษา นำไปใช้เป็นอุปกรณ์เสริมนั้น นำมาจาวัตถุธาตุที่มีอำนาจตอบสนอง ธาตุรู้ในใจ หรืออาจจะเรียกว่า “แร่มโนธาตุ” จึงทำให้สามารถช่วยรักษาโรคได้แทบทุกชนิด และไม่สามารถลอกเลียนแบบได้
     
  8. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453



    [​IMG]

    เศษเสี้ยวการรู้มนุษย์ (3) โดยทางน้ำไหล

    "สุขภาพของชีวิต" เกิดขึ้นจากภาวะดุลยภาพของสุขภาพกายเนื้อและสุขภาพ กายจิตโดยที่กายเนื้อถูกหล่อเลี้ยงด้วยอาหารและอากาศ ส่วนกายจิตถูกหล่อเลี้ยงด้วยพลังสมาธิและพลังธรรมชาติภายนอก (สุริยะปราณ อากาศปราณ และปฐพีปราณ) มนุษย์ใช้พลังงานจากกายเนื้อในการดำเนินกิจกรรมชีวิต และใช้พลังงานจากจักระต่างๆ ในกายจิตมาซ่อมแซมและบำรุงรักษากายเนื้อ ดังนั้นร่างกายของมนุษย์ในขณะที่มีชีวิตอยู่จึงต้องใช้พลังงานตลอดเวลา จึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่มนุษย์จะต้องทดแทนพลังงานที่ถูกผลักออกไปใช้อย่างต่อเนื่องด้วยการพัฒนาพลังสมาธิและดูดซับพลังจากธรรมชาติภายนอกอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดพลังหมุนเวียนภายในร่างกายอย่างสมดุล <O:p></O:p>

    ผู้เขียนได้นำเสนอวิธีบริหารกายจิตในลักษณะของการเพิ่มพลังให้จักระทั่วไป และวิธีการเพิ่มพลังเฉพาะในแต่ละจักระในวารสารสองฉบับที่ผ่านมาซึ่งทั้งสองวิธีดังกล่าวล้วนแต่ต้องใช้พลังสมาธิเป็นเครื่องมือ เพื่อเป็นการสร้างความหลากหลายของการเพิ่มพลังให้จักระ ในฉบับนี้ผู้เขียนจึงนำเสนอวิธีบริหารกายจิตเพื่อเพิ่มพลังของจักระโดยใช้อุปกรณ์ประกอบ อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบในการเพิ่มพลังของจักระนี้มี 4 ชนิด

    <O:p<O:p<O:p1.อัญมณี โดยธรรมชาติของอัญมณีจะต้องใช้เวลาอันยาวนานมากที่หินจะกลายเป็นอัญมณี จากกระบวนการอันยาวนี้ ทำให้อัญมณีได้รับแสดงคอสมิคจากดวงอาทิตย์ และแหล่งกำเนิดพลังอื่นๆ เป็นเวลาอันยาวนานเช่นกัน พลังคอสมิคที่สั่งสมในอัญมณีมีจำนวนมหาศาล ซึ่งสามารถปล่อยพลังออกมาได้ อัญมณีที่ใช้ในการเพิ่มพลังให้จักระต่างๆ นั้นจะแตกต่างกันไป ตามสีของจักระดังนี้

    ก. African Ruby เป็นทับทิมสีแดง ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 1
    ข. Cermelian เป็นอัญมณีสีส้ม ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 2
    ค. Citrine เป็นอัญมณีสีเหลือง ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 3
    ง. Chreesoprase เป็นอัญมณีสีเขียว ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 4
    จ. Turquoize เป็นอัญมณีสีฟ้า ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 5
    ฉ. Lapislazuri เป็นอัญมณีสีน้ำเงิน ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 6
    ช. Amathyse เป็นอัญมณีสีม่วง ใช้เพิ่มพลังจักระที่ 7

    [​IMG]
    วิธีการเพิ่มพลังจักระด้วยอัญมณี สามารถทำได้โดยการกำอัญมณีที่สีตรงกับจักระที่เราต้องการเพิ่มพลังไว้ในมือพร้อมๆ กับ เพ่งสมาธิไปที่จักระนั้นๆ อย่างแน่วแน่ จะช่วยส่งผลให้สีของจักระนั้นๆ เข้มมากขึ้น อันเป็นการบ่งบอกถึงจำนวนพลังของจักระที่เพิ่มขึ้น อนึ่งในการเพิ่มพลังจักระด้วยการใช้อัญมณีจะมีความรู้สึกร้อนและเนื้อเต้นหนึบตรงมือที่กำอัญมณี

    ที่มา : อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบในการเพิ่มพลังของจักระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2008
  9. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453
    2.แสงและสี การเพิ่มพลังให้จักระโดยใช้แสงและสีนั้นสามารถทำได้ด้วยการใช้ "ตู้ไฟ" ซึ่งเป็นตู้ที่ประกอบด้วยกระจกสีต่างๆ โดยการบังคับสีของแสงให้ส่องตรงกับสีของจักระที่ร่างกายมนุษย์ ซึ่งจะช่วยทำให้พลังสีของจักระนั้นๆ เข้มมากขึ้น และมีพลังมากขึ้น อันจะส่งผลทำให้จักระมีสมมรถนะในการดูดซับพลังธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น

    3. เสียงเพลง โดยทั่วไปแล้วจังหวะและโทนของดนตรีในบทเพลงจะมีผลตามอารมณ์ของมนุษย์ และมีผลต่อการทำงานของจักระเป็นอย่างมาก จักระจะหมุนได้เร็วหรือช้านั้น มีอารมณ์ของมนุษย์เป็นตัวแปรที่สำคัญตัวแปรหนึ่ง ดังนั้นการฟังเพลงที่มีจังหวะและโทนของดนตรีที่สมดุล จึงมีประโยชน์ต่อการเพิ่มพลังให้จักระสามารถทำงานได้อย่างกระปรี้กระเปร่า เพลงที่นิยมใช้ในการเพิ่มพลังของจักระต่างๆ ได้แก่บทเพลงของ "บีโธเฟนหมายเลข 5 " ซึ่งมีจังหวะและโทนดนตรีชนิดต่างๆ ที่หลากหลาย ดนตรีแต่ละช่วงจะเหมาะกับการใช้กระตุ้นแต่ละจักระแตกต่างกันไป โดยที่ผู้ฟังทำสมาธิในขณะที่ฟังเพลงและจะสามารถสัมผัสด้วยความรู้สึกว่าเพลงที่ฟังอยู่นั้นกำลังกระตุ้นอยู่ที่จักระใดของร่างกาย นั้นคือจักระนั้นกำลังได้รับการเพิ่มพลังจากเสียงเพลง

    4. กลิ่นหอม ในชีวิตประจำวันของมนุษย์กลิ่นต่างๆ ที่แผ้วผ่านเข้ามาทำให้มนุษย์มีความรู้สึกที่แตกต่างกันไป บางครั้งรู้สึกพอใจ บางครั้งรู้สึกอารมณ์เสียเช่นเดียวกัน กลิ่นหอมจากไม้และดอกไม้ต่างๆ มีความแตกต่างกัน บางครั้งกลิ่นหอมที่ค่อนข้างรุนแรง บางครั้งเป็นกลิ่นหอมที่เบาบางและหวาน กลิ่นเหล่านี้ล้วนแต่มีอิทธิพลต่อการหมุนของจักระในร่างกายมนุษย์จากการศึกษาค้นคว้าของกลุ่มคนที่สนใจทางด้านนี้ได้พบว่า กลิ่นหอมแต่ละชนิดจะมีผลต่อการกระตุ้นจักระแตกต่างกันไปดังต่อไปนี้

    ก. กลิ่นกานพลูและไม้ซีด้า สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 1
    ข. กลิ่นกระดังงาและไม้จันทร์หอม สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 2
    ค. กลิ่นลาเวนเดอร์และกลิ่นโรส แมรี่ สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 3
    ง. กลิ่นกุหลาบ สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 4
    จ. กลิ่นยูคาลิป สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 5
    ฉ. กลิ่นมะลิและสะระแหน่ สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 6
    ช. กลิ่นดอกบัว สามารถใช้กระตุ้นการทำงานของจักระที่ 7

    จะสังเกตได้ว่า ในห้องบูชาพระ ซึ่งใช้นั่งสมาธิมักจะมีไม้หอมต่างๆ อยู่ด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยทำให้สมาธิแน่วแน่นั้นคือการใช้กลิ่นหอมในการกระตุ้นการหมุนของจักระนั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2008
  10. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453
    จักระที่หมุนเร็วและแรงย่อมมีสีชัดเจนสดใสเจิดจ้าและแวววาว ฉะนั้นการเติมพลังให้จักระนอกจากสามารถทำได้ด้วยท่าบริหารต่างๆ แล้ว เรายังสามารถใช้วิธีเพิ่มสีของจักระได้โดยตรง เมื่อสีจักระชัดเจนมากขึ้น นั้นหมายถึงจักระหมุนเร็ว และแรงขึ้น วิธีอัดจักระหรือเพิ่มสีให้แก่จักระสามารถทำได้ดังต่อไปนี้

    1. ตัดกระดาษสีต่างๆ ตามสีของจักระทั้ง 7 ให้เป็นวงกลม มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 - 5 นิ้ว
    2. นำวงกลมกระดาษสีทั้ง 7 สีติดบนฝาผนังห้องในระดับสายตา โดยติดเรียงลำดับสีของจักระที่ 1 2 3 4 5 6 และ 7 (แดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า น้ำเงิน และ ม่วง) การเรียงจะเรียงแนวตั้ง หรือแนวนอนก็ได้
    3. นั่งเพ่งดูสีของจักระที่ต้องการอัด ทำสมาธิพร้อมๆ กับจินตนาการดึงสีนั้นเข้ามาอยู่ในจักระที่กำลังทำการอัดสี และจินตนาการให้เห็นสี-แสงของจักระนั้นโชติช่วงแจ่มใส
    4. ทำเช่นนี้ให้ครบทั้ง 7 จักระ
    5. ทำบ่อยๆ จนกว่ามีความรู้สึกว่า ไม่ว่าจะหลับตาหรือลืมตาก็ยังคงเห็นสีของจักระต่างๆ อยู่ในความทรงจำ

    ส่วนสถานที่ที่เหมาะสำหรับทำการอัดสีของจักระนั้น ควรเป็นห้องที่มีแสง แต่ต้องมีแสงน้อยหรือแสงสลัว ทั้งนี้เพราะจะทำให้สามารถเห็นสีได้อย่างถูกต้อง (ไม่หลงสี) และเห็นสีที่คงที่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2008
  11. CHAYA MARUTY

    CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    ไม่ได้เข้ามานาน กระทู้นี้ ยาวนานพอกันเลย เยี่ยมจริง ๆ มีประโยชน์มากครับ
     
  12. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453
    ยินดีครับพี่ ชยา
    ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยือนครับ
     
  13. CHAYA MARUTY

    CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    เออครับ มีเรื่องเล่าให้ชาวพลังจักรวาลฟังครับ ตั้งแต่ฝึกพลังจักรวาล มานี่ ผมก็ไม่เคยได้รักษาใครเป็นเรื่องเป็นราวซะที จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้ว น้องของแฟน ได้เข้าโรงพยาบาล ผลตรวจออกมาว่า เป็นไวรัสตับอักเสบ บี ผมเองก็ไปเยื่ยมวันเว้นวัน นอนรักษาที่โรงพยาบาล อยู่ราว 10 วัน แต่ค่าการอักเสบยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ยังคงอยู่ที่ 2800-2300 กลับไปกลับมา อยู่อย่างนี้ หมอท่านก็ยังไม่อนุญาติให้กล้บบ้าน ก็เลยมาคิดว่า จะลองรักษาด้วยพลังดู ก็เลยถามความสมัครใจของคนไข้ ปรากฎว่า น้องตกลง จะรับการรักษา ก่อนการรักษา ก็พูดกะน้องเล่น ๆ ว่า เออ ถ้า รักษาแล้ว ผลค่าอักเสบ ออกมาเหลือ 800 แล้วจะทำยังไงนี่ แล้วก็หัวเราะกัน ก็เริ่มการรักษา แค่่ครั้งเดียวน่ะ อีกวันต่อมา ไม่น่าเชื่อ ผลตรวจค่าอักเสบ ออกมา เป็น 800 กว่า ๆ หมอก็งงเต็ก ว่า ลดมาได้อย่างไร ก็เลยบอกว่า ถ้าอยู่ค่านี้ ซัก 2 วัน จะให้กลับบ้านได้ ทุกคนก็ดีใจ ก็เลยให้ผมรักษาอีกครั้ง ปรากฎว่าอาการดีขึ้น 2 วันก็กลับบ้านได้จริง เป็นประสพการณ์จริงครับ ไม่น่าเชื่อจริงว่าตัวเองจะทำได้ครับ แต่ทำผิดกฎครับ คือไม่ควรรักษาคนไข้ใน รพ. ครับ คราวหน้าไม่กล้าแล้วครับ ขอยกความดีนี้ให้ท่าน อ.DR.CHOO พี่สามเหลี่ยม น้องลิตเติลโยดา และท่านอาจารย์ใหญ่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2008
  14. triangle-w

    triangle-w เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    3,417
    ค่าพลัง:
    +21,412
    ในระดับที่คุณได้รับคำแนะนำจาก Dr.choo สามารถรักษาในโรงพยาบาลได้ครับ ไม่ต้องกังวลไป
     
  15. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453
    โอ้ ยินดีด้วยนะครับพี่ รักษาเพียงครั้งแรกก็ได้รับประสบการณ์ที่ดีแล้ว
    ถ้ารักษาครั้งต่อๆ ไปก็คงจะเพิ่มความมั่นใจไปได้อีกมากมายเลยนะครับ

    อ้อ หนังสือ 2 เล่มที่ผมทำขึ้น เป็นการรักษาในระดับ 1-3 นะครับ
    ข้อห้ามต่างๆ ที่อยู่ในหนังสือนั้น ห้ามไว้เฉพาะผู้ที่จบระดับ 1-3 ครับ
    ส่วนข้อห้ามในระดับที่สูงขึ้นไปก็จะค่อยๆ ลดน้อยลงไปตามลำดับครับ
    ของพี่ได้รับการเปิดจักระจาก dr.choo ในงานมินิ ก็น่าจะอยู่ที่ระดับ 5
    แล้วนะครับ ใช้เวลาในการรักษาแต่ละโรคแค่ 2 นาทีก็พอครับ
    ถ้ามือร้อนหรืออุ่น ก่อนครบ 2 นาทีก็ให้หยุดได้เลยครับ
     
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ไปที่ห้อง จิตวิทยา & สุขภาพกายและจิต ซิ
    ผมกับ อ. สนุกกันอยู่ที่นั่น
     
  17. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453
    อ้อ ดีเลยครับ อ.suwi ผมก็แว๊บเข้าไปอ่านดูหลายครั้งแล้วครับ
    งั้นก็ขอเชิญทุกท่านเข้าไปศึกษาหาความรู้กันได้ตามอัธยาศัยนะครับ

    การเปิดตาที่สาม
    พลังแผ่นดิน
    มาเล่นเกมส์อ่านจิตกันดีกว่า
     
  18. CHAYA MARUTY

    CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    ...........คือ ปกติ ไม่ได้ใช้พลังในการรักษาโรคเลยครับ ทำอย่างอื่นซะมากกว่า พอรักษาคนได้ ก็เลยตื่นเต้นครับ แต่สำหรับ ท่านที่ฝึกและศึกษาอย่างจริงจัง และรักษาคนเป็นประจำ อาจดูเป็นเรื่องธรรมดาน่ะครับ ดีใจครับ ที่ได้ทำประโยชน์ ปกติ วัน ๆ ก็เอาแต่นั่งสมาธิธรรมดา ๆ ครับ......................................................................................ไปที่ห้อง จิตวิทยา & สุขภาพกายและจิต ซิ
    ผมกับ อ. สนุกกันอยู่ที่นั่น....................อ๋อ ..........มาหนุกกันอยู่นี่เอง ไม่มีใครส่งข่าวเลยครับ ............เราจะตามไปดูๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  19. peterandpen

    peterandpen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +502
    เพิ่งมาอ่านเจอค่ะ ขอจองคู่มือเล่ม 1 และ 2 ด้วยค่ะ
    รบกวนpmชี้แจงรายละเอียดยอดเงินและการชำระเงินด้วยค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
     
  20. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453
    มนุษย์อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดทุกวัน เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่กายเนื้อ เช่นเดียวกัน การทำความสะอาด กายจิตย่อมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพของกายทิพย์ ซึ่งทำใด้โดย การปกป้องไม่ให้จักระต่างๆ ในกายจิต หมองคล้ำ

    วิธีทำความสะอาดจักระ สามารถทำได้ดังนี้
    (เป็นวิธีการปฏิบัติของพลัง cosmic)

    1) ตั้งสมาธิแล้วกำหนดนิมิตรเป็นดวงแสงรูปทรงกลมสีขาวนวลขึ้นที่จักระที่ 1

    2) เลื่อนสมาธิไปที่จักระ 2 แล้วกำหนดนิมิตรเป็นดวงแสงรูปทรงกลมสีขาวนวล ขึ้นตรงจักระ 2 หลังจากนั้นให้นึกถึงดวงแสงสีนวลปรากฎขึ้นพร้อมกัน 2
    ดวงตรงจักระ 1 และ 2

    3) เลื่อนสมาธิไปที่จักระ 3 แล้วกำหนดนิมิตรเป็นดวงแสงรูปทรงกลมสีขาวนวลตรงจักระ 3 หลังจากนั้นให้นึกถึงดวงแสงสีขาวนวล ปรากฎขึ้นพร้อมกันที้ง
    3 ดวงตรงจักระ 1, 2 และ3

    4) เลื่อนสมาธิไปที่จักระ 4 แล้วกำหนดนิมิตเป็นดวงแสงรูปทรงกลมสีขาวนวล
    ขึ้นตรงจักระ 4 หลังจากนั้นให้นึกถึงดวงแสงสีขาวนวลปรากฎขึ้น พร้อมทั้ง
    4 ดวง ตรงจักระ 1, 2, 3 และ 4

    5) เลื่อนสมาธิไปที่จักระ 5 แล้วกำหนดนิมิตรเป็นดวงแสงสีขาวนวลขึ้นตรง
    จักระ 5 หลังจากนั้นให้นึกถึงดวงแสงสีขาวนวลปรากฎขึ้นพร้อมกันที้ง 5 ดวง
    ตรงจักระ 1, 2, 3, 4 และ 5

    6) เลื่อนสมาธิไปที่จักระ 6 แล้วกำหนดนิมิตเป็นดวงแสงสีขาวนวลตรงจักระ 6
    หลังจากนั้นให้นึกถึงดวงแสงสีขาวนวลปรากฎขึ้นพร้อมกันตรงจักระ 1, 2,
    3, 4, 5 และ 6

    7) เลื่อนสมาธิไปที่จักระ 7 แล้วกำหนดนิมิตเป็นดวงแสงสีขาวนวลตรงจักระ 7
    หลังจากนั้นให้นึกถึงดวงแสงสีขาวนวลปรากฎขึ้นพร้อมกันตรงจักระ 1, 2,
    3, 4, 5, 6 และ 7 เพ่งสมาธิให้แน่วแน่ที่จักระทั้ง 7 แล้วพลังธรรมชาติจะ
    ไหลเข้าสู่กายทิพย์สว่างไสวเป็นแสง 7 ชั้น 7 สี ยังผลทำให้เกิดความสุข
    และความสงบขึ้น

    8) เพ่งสมาธิไปที่จักระ 1 พร้อมๆ กับทำนิมิตเป็นดวงแสงสีขาวนวลตรงจักระ 1
    อีกครั้ง

    9) เคลื่อนดวงแสงของจักระ 1 มาอยู่รวมกับดวงแสงสีขาวนวลตรงจักระ 2 ดวงแสงทั้ง 2 ดวงอยู่ ณ ตำแหน่งของจักระ 2

    10) เคลื่อนดวงแสงของจักระ 1 และ 2 มาอยู่รวมกับดวงแสงของจักระ 3 ดวง
    แสงทั้ง 3 ดวงอยู่ ณ ตำแหน่งของจักระ 3

    11) เคลื่อนดวงแสงของจักระ 1, 2 และ 3 มาอยู่รวมกับดวงแสงของจักระ 4
    ดวงแสงทั้ง 4 ดวงอยู่ ณ ตำแหน่งของจักระ 4

    12) เคลื่อนดวงแสงของจักระ 1, 2, 3 และ 4 มาอยู่รวมกับดวงแสงของจักระ 5 ดวงแสงทั้ง 5 ดวงอยู่ ณ ตำแหน่งของจักระ 5

    13) เคลื่อนดวงแสงของจักระ 1, 2, 3, 4 และ 5 มาอยู่รวมกับดวงแสงของ
    จักระ 6 ดวงแสงทั้ง 6 ดวงอยู่ ณ ตำแหน่งจักระ 6

    14) เคลื่อนดวงแสงของจักระที่ 1, 2, 3, 4, 5 และ 6 มารวมกับดวงแสงของ
    จักระ 7 ดวงแสงทั้ง 7 ดวงอยู่ ณ ตำแหน่งของจักระ 7 แล้วจะเห็นเป็นแสง
    สีขาวสว่างเจิดจ้ามาก

    15) กำหนดจิตปล่อยแสงสีขาวที่รวมอยู่ตรงจักระ 7 ให้ไหลลงมาอาบทุกเซลล์
    ของร่างกายแล้วไหลสู่เส้นโลหิตที่กระจายอยู่ทั่วร่างกายจากนั้นปล่อยให้
    แสงไหลลงสู่พื้นปฐพีในที่สุด แสงที่อาบร่างนี้จะช่วยชำระล้างจักระต่างๆ
    ทำให้สีสดใส

    อนึ่ง การทำความสะอาดจักระจะช่วยชำระล้างจักระต่างๆทำให้สีสดใส ควรทำเดือนละ 1 ครั้ง เพราะถ้าทำบ่อยจะทำให้รู้สึกหนาวสั่นได้ ส่วนสถานที่ที่เหมาะสำหรับการทำความสะอาดจักระ คือห้องที่มีแสงสลัวทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในจักรวาลล้วนแต่มีเหตุปัจจัยทั้งสิ้น เฉกเช่น การเสื่อมของจักระต่างๆ ในกายจิตของมนุษย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...