><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,207
    ค่าพลัง:
    +14,329
    2300.มหากาพย์พิธีเหนือโลก(มีพลอยเสกหายาก)(๖) พระรอดปลอดภัย
    เจตนาสร้างแบบริสุทธิ์ ครูบาอินโท ร่วมอธิษฐานจิตมหาพิธี 9ราตรี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    8XCQ8Z.jpg

    kyclpk-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg kycc4q-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg kycuqs-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    พระรอดปลอดภัย(หลัง อ. วัดสันป่ายางหลวง จังหวัดลำพูน ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2532 เนื้อดินสังเวชนียสถานและดินที่วังหัวกวงซึ่งเป็นดินสร้างพระของเมืองลำพูนแต่โบราณกาลมาผสม ผงยา,ผงว่าน,มวลสารต่าง ๆ ในสมัยที่ท่าน เดินธุดงค์ปฏิบัติธรรมไปในสถานที่ต่างๆ ,ใบลานจารอักขระธรรมของวัดที่หักชำรุด เอามาบดทำมวลสาร

    ประวัติพระรอด
    คนส่วนใหญ่มากเมื่อพูดถึงเมืองลำพูน มักจะเล่าสู่กันฟังถึงความวิจิตรสายงามของพระธาตุภุญชัย อันตั้งเด่นตระหง่านเป็นพันปี เท่าอายุของนครหริภุญชัยหรือลำพูน ในปัจจุบัน เช่น พระเจดีย์วัดจามเทวีและกู่บรรจุอัฎฐิพระแม่จามเทวี ปฐมกษัตริย์ของหริภุญชัย ตลอดจนพระวัดวาอารามต่างๆ อีกหลายแห่ง ซึ่งล้วนแต่มีประวัติอันยาวนานคู่บ้านคุ่เมือง

    วัดที่รู้จักกันดีในบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ เพราะเป็นที่บรรจุพระเครื่องสำคัญเป็นอันที่รู้จัก และเป็นที่นิยมกันทั่วไปนับได้ว่าเป็นลัญญสักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองลำพูน คือ วัดพระคงฤาษี ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของตัวเมืองลำพูน เป็นที่ประดิษฐานบรรจุพระคง หรือเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่าพระลำพูนดำ หรือ ลำพูนแดง แล้วแต่สีของพระ อีกวัดหนึ่งคือวัดมหาวัน ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองลำพูน เป็นวัดที่ประดิษฐานบรรจุพระเครื่องสำคัญ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขว้าง ทั้งคนในเมืองลำพูน และคนทุกภาคทุกจังหวัดของประเทศไทย ต่างก็พยายามเสาะแสวงหามาไว้บูชาพกพาติดตัวเพื่อพึ่งพลังอิทธิฤทธิ์ ให้แคล้วคลาดจากภยันอันตรายทั้งหลายทั้งปวงอันอาจจะประสบเข้ากับตนเอง และด้วยอำนาจพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณอันบรรจุไว้ในองค์พระรอดนี้ ได้ช่วยให้ผู้ที่บูชากราบไหว้อยู่เสมอ ให้แคล้วคลาดหลุดพ้นจากเหตุการณ์อันตรายได้โดยปลอดภัยราวกับปาฎิหาริย์ มานับครั้งไม่ถ้วน มีหลักฐานบุคคลที่ประสบเหตุการณ์พอที่จะสอบถามได้อยู่มาก

    เหตุที่พระรอดเป็นพระเครื่องที่ทรงไว้ ซึ่งอิทธิปาฎิหาริย์อันยิ่งใหญ่ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้นเป็นเพราะ
    1. ผู้สร้างพระรอด (รวมทั้งพระคง และพระลือ) สร้างขึ้นมาด้วยจิตอันบริสุทธิ์ ประกอบด้วยเมตตาธรรมเป็นที่ตั้ง หวังให้บุคคลผู้มีไว้ครอบครอง และบูชาอยู่เป็นนิจ ได้รับความร่มเย็นเป็นสุข รอดพ้นจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงที่จะมาเบียดเบียนชีวิต ทั้งนี้ โดยไม่หวังผลเป็นอามิสไดๆ ทั้งสิ้น
    2. นอกจะมีไว้เพื่อปกป้องประชาชนแล้ว ท่านผู้สร้าง ยังมุ่งหวังเพื่อจะให้คุ้มครองบ้านเมืองให้แคล้วคลาดปราศจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ดังนั้นการสร้างก็อธิฐานไปในทางข่มศัตราวุธและอำนายให้เกิดความแคล้วคลาด (รายละเอียดการสร้างพระรอด โปรดหาอ่านได้จากหนังสือ)

    เหตุการณ์มหัศจรรย์
    ในระยะที่ทางคณะผู้จัดสร้างพระรอด กำลังดำเนินงานกันอยู่นี้ คุณไพศาล แสนไชย ผู้สามารถติดต่อกับเทวโลกได้ และนรกได้ ทำหน้าที่ทูตจากเทวโลกและนรกโลกมาเป็นเวลานานแล้ว ได้นำข่าวจากเทวโลกมาแจ้งให้แก่พระอาจารย์อินทรว่า การสร้างพระรอดครั้งนี้ทางพระสงฆ์ที่อยู่บนเทวโลก ท่านก็ได้ทราบแล้วและทุกท่านที่ทราบ เช่น ท่านครูบาคัณธา คัณธาโล ครูบาสรีวิชัย หลวงพ่อโอภาสี ก็ขอร่วมอนุโมทนา ในเจตนารมณ์อันเป็นบุญเป็นกุศลนี้ และแจ้งด้วยว่าในวันพุทธาภิเกพระนั้น ทุกท่านก็จะลงมาร่วมด้วยพร้อมกับพระสงฆ์อีกหลายรูปที่อยู่บนเทวโลก ในโอกาสนี้ท่านครูบาคัณธา คัณธาโลก สั่งมาว่าขอหัยสาธุเจ้าอินทร ไปบอกกล่าวแก่เทวดาผู้รักษา ดอยไซและขอดินที่ดอยไซมาร่วมผสมทำพระรอดด้วย เพราะเทวดาท่านนี้ในอดีตสมัยพระนางจามเทวีท่านชื่อ ขุนเจ้าคำบุญ เคยร่วมสร้างพระรอดโดยเป็นเจ้าพิธีในการทำทุกขั้นตอน ส่วนท่านพญาพิงคราช ก็กำชับมาว่าอย่าลืมเอาว่านเพชรหลีกมาผสมด้วย จะทำให้พระรอดนี้มีอิทธิทางแคล้วคลาดหลีก พ้นจากอันตราย หลวงพ่อโอภาสี ได้ขิให้ครูบาคัณธา นำท่านไปพบกับหลวงปู่บุญ หรือพระพุทธวิถีนายก วัดกลางบางแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่านเมื่อยังทรงสังขารอยู่ในมนุษย์โลก แต่ขณะนี้ได้มาสถิตอยู่บนพรหมโลก ท่านมีความรู้เรื่องการสร้างพระเครื่องดีมากเมื่อพบกันแล้วโดยไม่ต้องแจ้งความจำนง หลวงปู่กล่าวออกมาทันทีที่คณะของครูบาคัณธา ไปถึงว่า

    เริ่มดำเนินงาน
    การดำเนินการสร้างพระรอดในครั้งนี้ พระอาจารย์อินทร ปัญยาวัฑฒโน และบรรดาผู้ร่วมงานได้ตกลงจะจะปฏิบัติตามแบบฉบับเดิมของพระแม่เจ้าจามเทวีได้ปฏิบัติมา ซึ่งองค์พระแม่เจ้าได้เล่าเรื่องการสร้างพระรอด พระคง พระลือ อย่างละเอียดผ่านคุณไพศาล แสนไชย และได้จัดพิมพ์เป็นรูปเล่มเรื่อง
    การอธิษฐานจิตแผ่เมตตาให้แก่แบบพิมพ์พระ
    แบบพิมพ์พระรอดนี้ ได้จ้างผู้ที่มีความรู้เรื่องพระรอดและเคยแกะต้นแบบพระรอดมาแล้วจนชำนาญ เป็นผู้แกะต้นแบบจัดทำพิมพ์พระให้แต่ก่อนที่จะนำแบบพิมพ์ทั้งหมดมาทำการพิมพ์พระ ท่านอาจารย์อินทร ได้นำเอาแบบพิมพ์เหล่านั้น ไปขอความเมตตาจากครูบาสังฆะที่มากด้วยพรรษา และเปี่ยมด้วยบารมีธรรมช่วยแผ่พลังจิตอธิษฐาน เพื่อให้พระรอดทุกองค์ที่กดออกจากแบบพิมพ์นั้น ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ ครูบาสังฆะที่พระอาจารย์อินทร ได้ไปขอความเมตตาจากพระคุณท่าน คือ
    1. ครูบาอินตา อินทปัญโญ วัดห้วยไว อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
    2. ครูบาอิ่นแก้ว วัดวาลุการาม (ป่าแงะ) อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
    3. ครูบาคำตั๋น อารามดอย อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
    4. พระครูวรวุฒิคุณ (ครูบาอินทร) วัดฟ้าหลั่ง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ แล้วได้ฝากแบบพิมพ์ทั้งหมด ไว้กับท่านครูบาอิน อินโทเป็นเวลา5 วัน กับ 5 คืน เพื่อขอรับบารมีจากครูบา

    การกดพิมพ์พระ
    พระรอดวัดสันป่ายางหลวง ได้ฤกษ์ลงมือกดพิมพ์พระตามแบบโหราจารย์ภาคเหนือ ในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2532 ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 3 เหนือ ยามเช้า พระเณรในวัดสันป่ายางหลวงและคณะศรัธธาผู้ร่วมสร้างพระรอด ได้ช่วยกันนำวัตถุมงคลทุดอย่าง ที่ต้องใช้ในการกดพิมพ์พระรอด เช่น ดินผสม ผงยา และผงว่าน ที่จะนำมาคลุกดินอีกครั้งหนึ่งก่อนการกดพิมพ์พระรอด น้ำทิพย์ที่นำมาผสมดินให้อ่อนนิ่ม ทั้งหมดได้นำมารวมไว้กลางพระอุโบสถ แล้ววางรูปพระเกจิอาจารย์สำคัญๆ อันเป็นที่รู้จักและเคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศไว้รอบๆ กองวัตถุมงคลนั้น เพื่ออธิษฐานของความเมตตาจากพระคุณท่าน ช่วยแผ่พลังบารมีมาปกป้องคุ้มครองพร้อมกับร่วมประจุพลังลงในวัตถุมงคลนั้นด้วย พระสงฆ์ภายในวัดสันป่ายางหลวง อันมีพระอาจารย์อินทร ปัญญาวัฑฒโน เจ้าอาวาสเป็นประธาน ได้ร่วมกันสวดชยันโต ประพรมน้ำทิพย์ซึ่งนำมาทำน้ำพระพุทธมนต์ลงไปตามวัตถุมงคลเสร็จแล้วจึงลงมือกดพิมพ์พระ โดยพระอาจารย์อินทร เริ่มประเดิมเป็นองค์แรกพิมพ์ละองค์ทุกๆ พิมพ์ การสร้างพระครั้งนี้ ท่านพระอาจารย์อินทร ได้ตั้งใจไว้ว่าจะทำให้ได้ แปดหมื่นสี่พันองค์ เท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ และเท่ากับจำนวนที่พระนางจามเทวีได้เคยสร้างไว้ครั้งแรก

    การอาบว่านยา
    การอาบว่านยาเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2532 ไปจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2533 รวมเวลา 9 วัน เริ่มด้วยพิธีการด้วยการเทศน์หนึ่งกันฑ์พระสงฑ์สวดชัยมงคลคาถา อุบาสกพิธีกรรมร่วมกับพระเณร ช่วยกันนำรพะลงอาบแช่น้ำว่านยา เป็นเวลาพอสมควร ให้เนื้อพระดูดซับเอาน้ำว่ายาไว้ แล้วนำขึ้นผึ่งบนแท่นที่ปูลาดด้วยผ้าเหลืองภายในปริมณฑล พระสงฑ์สวดชยันโตแล้วคลุมทับด้วยดอกไม้นานาชนิด ประพรมด้วยน้ำมนต์ น้ำอบน้ำหอม ทำพิธีเช่นนี้ติดต่อกันทุกเช้าเวลา 09.09 น. เป็นต้นไป จนถึงวันครบกำหนดคือ วันที่ 5 มกราคม 2533 และในตอนกลางคืนทุกคืน ได้รวมพระรอดกองไว้แล้วพระสงฑ์ภายในวัด สวดชัยมงคลคาถาเป็นประจำจนเสร็จพิธีอาบว่านยา หลังจากนั้นวันสุดท้ายคือ วันที่ 5 มกราคม 2533 ได้นำพระรอดทั้งหมดมาประพรมและคลุกด้วยน้ำมันมนต์ อันประกอบด้วยน้ำมันงา , น้ำมันจันทน์ , น้ำมันมะพร้าว , น้ำมันมะกอก , น้ำมันละหุ่ง , น้ำมันหมื้อ , ชมด , ผงจันทร์เทศ , และกฤษณา น้ำมันนี้ได้เก็บไว้ในโบสถ์ และทำพิธีสวดด้วยธรรมจักร ทุกวันพระตลอดพรรษา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 จนกระทั่งเนื้อพระดูดซับเอาน้ำมันมนต์ฉ่ำทั่วองค์พระแล้ว จึงนำออกผึ่งให้แห้ง พอพระรอดทั้งหมดแห้งพอดี ก็ลำเลียงเข้าสู่บริเวณพิธีที่จะทำพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตาต่อไป

    การอธิฐานจิตแผ่เมตตา
    เมื่อขั้นตอนทั้งหลายผ่านพ้นไป และได้สำเร็จเป็นองค์พระตามที่ต้องการแล้ว พิธีสำคัญยิ่งคือพิธีพุทธาภิเษก หรือการอธิฐานจิตแผ่เมตตาประจุไว้ในองค์พระ สถานที่ประกอบพิธีกรรมภายในโบสถ์ วัดสันป่ายางหลวง ด้วยเห็นว่า โบสถ์นั้น เป็นสถานที่ของสงฑ์โดยเฉพาะการทำพิธีกรรมของสงฑ์ เช่น การอุปสมบท การปลงอาบัติ ฟังพระปาฏิโมกข์ ก็ทำได้เอาเฉพาะในโบสถ์เท่านั้น ดังนั้น โบสถ์จึงเป็นสถานที่หมดจดสะอาดปราศจากสิ่งเลวร้ายและมลทิน

    การจัดสถานที่ได้จัดเอาบรรดาศาสตราวุธทุกชนิดเท่าที่จะจัดหาได้บางอย่างก็ต้องใช้ของสมมุติแทนสิ่งมีพิษทั้งหลาย เช่น บรรดายาพิษทั้งหลายที่ชาวบ้านใช้กัน สัตว์มีพิษ และดุร้าย เช่น งูพิษ ตะเข็บ ตะขาบ ฯลฯ เสือ สิงโต กระทิง ควายป่า ช้าง ฯลฯ สัตว์ร้ายเหล่านี้ต้องใช้ของประดิษฐ์แทนของจริง ของทั้งหมดจัดนำมาเพื่อข่มพิษร้ายโดยจัดวางไว้ใต้แท่นที่วางพระแล้วปูทับด้วยผ้าขาวโรยทับด้วยดอกไม้อันมีดอกพุธ ดอกมะลิ และดอกไม้หอมอื่นๆ อีกมาก หมายถึงการลดความเลวร้ายลงและเปลี่ยนจากร้ายให้กลายเป็นดีในที่สุด ชั้นบนเป็นชั้นที่จัดวางพระรอดที่จะนำมาเข้าพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตา ปูลาดด้วยผ้าขาวแล้วจึงวางเกลี่ยพระลงบนชั้นนั้น ประพรมด้วยน้ำอบ น้ำหอมจนทั่วกองพระ แล้วปูทับด้วยผ้าขาวอีกชั้นหนึ่ง ชั้นบนสุดก็โรยด้วยดอกไม้อันเป็นมงคล และมีกลิ่นหอม การโรยดอกไม้ชั้นนี้ ได้โรยทับขึ้นไปทุกคืน ตลอดระยะเวลา 9 คืน
    พิธีสำคัญนี้ได้ฤกษ์เริ่มพิธีในวันที่ 6 มกราคม 2533 ตรงกับวันเสาร์ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 4 เหนือ ไปจนถึงวันที่ 14 มกราคม 2533 พิธีเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. ไปจนถึงเที่ยงคืน หลังเที่ยงคืนไปแล้ว ก็ยังคงเปิดโบสถ์จุดเทียนชัยไว้ แล้วกล่าว อัญเชิญเทพเทวาทั้งหลาย และพระสงฑ์จากพรหมโลก เทวโลก ขอให้มาร่วมแผ่เมตตาและอนุโมทนาในกองกุศลนี้ด้วย พิธีกรรมนี้ทำติดต่อกันไปรวมเวลาได้ 9 คืน ในพิธีอธิฐานจิตครั้งนี้ ทางวัดได้นำพระพุทธรูปขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว จำนวน 205 องค์ พระพุทธรูปใหญ่ปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 69 นิ้ว 1 องค์ พระพุทธรูป ยืนปางห้ามมารสูง 4 ศอก 1 องค์ พระพุทธรูปปางประธานพรแบบอินเดีย ขนาดหน้าตักกว้าง 39 นิ้ว 2 องค์ เข้าร่วมพิธีด้วย พระเกจิอาจารย์หรือครูบาสังฆะ ที่นิมนต์มาร่วมในพิธีอธิฐานจิตครั้งนี้ทั้งหมด 32 รูป ส่วนมากจะมีอายุ 70 พรรษาขึ้นไป และได้บำเพ็ญจิตภาวนาสั่งสมบารมีมาตลอด แม้บางองค์จะมีอายุพรรษาน้อยกว่านั้น แต่ก็เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และสั่งสมบุญบารมีด้วยการบำเพ็ญจิตเรื่อยๆมาไม่ขาดสาย นับได้ว่าเป็นบุญอย่างยิ่งของคณะผู้ดำเนินการสร้างพระ ที่ได้รับความเมตตาอย่างสูงจากพระคุณเจ้าทุกรูป บางองค์ แม้จะสูงอายุสังขารร่างกายก็ทรุดโทรมตามปกติไม่รับนิมนต์ที่ไหนไกลๆ แต่ก็ยินดีมาร่วมพิธีกรรมครั้งนี้โดยเฉพาะ

    รายนามพระสงฆ์ที่มาร่วมพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตา
    วันที่ 6 มกราคม 2533
    1. พระมหาเจติยารักษ์ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร แสดงธรรม “ไชยะสังคะหะ “ เริ่มพิธีกรรม
    2. ครูบาดวงจันทร์ จันวโร วัดป่าเส้า อ.เมือง ลำพูน
    3. ครูบาปั๋นคำ วัดสวนลำไย อ.เมือง ลำพูน
    4. พระมหาบุญช่วย วัดสวนลำไย อ.เมือง ลำพูน

    วันที่ 7 มกราคม 2533
    1. ครูบาสิงห์แก้ว สิริวิชโย วัดป่าขาม อ.เมือง ลำพูน
    2. พระครูสุทธิธรรมสุนทร วัดบ้านหลุก อ.เมือง ลำพูน
    3. ครูบาอินตา ธนักขันโธ วัดวังทอง อ.เมือง ลำพูน
    4. ครูบาต่วน อริยวังโส วัดหนองปลาขอ อ.เมือง ลำพูน

    วันที่ 8 มกราคม 2533
    1. พระครูสังวรญาณ วัดพระเจ้าสะเลียมหวาน อ.บ้านโฮ่ง ลำพูน
    2. พระครูรัตนวงศ์วิวัฒน์ วัดห้วยแทง อ.บ้านโฮ่ง ลำพูน
    3. พระครูศิรินันทคุณ วัดช้างค้ำ อ.ป่าซาง ลำพูน
    4. ครูบาซอน ธันมชโย วัดดอนหลวง อ.ป่าซาง ลำพูน

    วันที่ 9 มกราคม 2533
    1. พระครูชยาลังการ วัดทาดอยแช่ อ.แม่ทา ลำพูน
    2. พระครูรัตนวงศ์วิวัฒน์ วัดปทุมสราราม อ.ป่าชาง ลำพูน
    3. ครุบาจันทร์ จันทวังโส วัดสันเจดีย์ริมปิง อ.เมือง ลำพูน
    4. ครูบาสุจินดา สุมังคโส วัดม่วงชุม อ.พาน เชียงราย

    วันที่ 10 มกราคม 2533
    1. พระครูชยาลังการ วัดทาดอยแช่ อ.แม่ทา ลำพูน
    2. พระครูรัตนวงศ์วิวัฒน์ วัดประทุมสราราม อ.ป่าซาง ลำพูน
    3. ครูบาจันทร์ จันทวังโส วัดสันเจดีย์ริมปิง อ.เมือง ลำพูน
    4. ครูบาสุจินดา สุมังคโล วัดม่วงชุม อ.พาน เชียงราย

    วันที่ 10 มกราคม 2533
    1. ครูสิงหวิชัย สิริวิชโย วัดฟ้าฮ่าม อ.เมือง เชียงใหม่
    2. ครูบาอินตา อินทปัญโญ วัดห้วยไซ อ.เมือง ลำพูน
    3. ครูบาแสง วัดล้อมก่องข้าว อ.สันกำแพง เชียงใหม่
    4. พระครูพิทักษ์ปัจจันตเขต วัดพระชินธาตุดอยตุง อ.แม่สาย เชียงราย

    วันที่ 11 มกราคม 2533
    1. พระครูคันธวงศ์วิวัฒน์ วัดหนองผำ อ.ป่าซาง ลำพูน
    2. ครูบาสม โสภโน วัดเจดีย์สามยอด อ.ป่าซาง ลำพูน
    3. ครูตุ่น ปัญญาวิลาโส วัดบ้านล้อง อ.ป่าซาง ลำพูน

    วันที่ 12 มกราคม 2533
    1. พระครูญาณภิรัต วัดป่าเจริญธรรม อ.สันป่าตอง เชียงใหม่
    2. พระครูศรียูรมงคล วัดทุ่งแป้ง อ.สันป่าตอง เชียงใหม่
    3. พระครูบวรสุขบท วัดป่าซางน้อย อ.ป่าซาง ลำพูน

    วันที่ 13 มรกราคม 2533
    1. พระครูวรวุฒิคุณ วัดฟ้าหลั่ง อ.จอมทอง เชียงใหม่
    2. พระครูธรรมภาณี วัดดอยชัย อ.สันป่าตอง เชียงใหม่
    3. พระครูญาณภิรัต วัดป่าเจริญธรรม อ.สันป่าตอง เชียงใหม่

    วันที่ 14 มกราคม 2533
    1. พระครูสุขบทบริหาร วัดห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร ลำปาง
    2. พระครูโถมมณียคุณ วัดบ้านเป้า อ.ห้างฉัตร ลำปาง
    3.พระครูรัตนาคม วัดพระธาตุเสด็จอ.เมือง ลำปาง
    4.พระครูรักขิตคุณ วัดม่อนพญาแช่ อ.เมือง ลำปาง
    นอกจากพระเถระที่นิมนต์มาแล้ว ทุกคืนพระสงฆ์ภายในวัดสันป่ายางหลวงอันประกอบด้วย
    1.พระปลัดอินทร ปัญญาวัฑฒโน เจ้าอาวาส
    2.พระมหาเจริญ ชุตินธโร
    3.พระอุทัย อภิญญาโณ
    4.พระชัยพร สิริปัญโญ
    5.พระคัชเชน โชติธัมโม
    ได้ร่วมพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตา กับพระเถระเป็นประจำทุกคืน ตั้งแต่คืนเริ่มต้นจนถึงคืนสุดท้าย พระภิกษุรูปอื่นที่ไม่เข้าร่วมพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตา ก็เข้าไปสวดพระคาถาพุทธาภิเษก ร่วมกันกับสามเณร ตั้งแต่เริ่มพิธีจนจบพิธีกรรมทุกๆ คืน

    พระสงฆ์จากเทวโลก พรหมโลกที่มาร่วมอธิฐานจิตแผ่เมตตา ทุกคืน หลังจากพิธีกรรมทางมนุษย์โลกจบสิ้นแล้วเวลาตั้งแต่ 24.00 น.เป็นต้นไป ได้มีพระสงฆ์จากพรหมโลก เทวโลก มาร่วมอธิฐานจิตแผ่เมตตาต่อไปอีก จนถึงเวลา 05.00
    พระสงฆ์จากเทวโลก พรหมโลก ที่มาร่วมอธิฐานจิตแผ่เมตตา พระรอดปลอดภัย

    วันที่ 6 มกราคม 2533
    1.ครูบาคัณธา คัณธาโล วัดเมืองสร้อย ตาก
    2.ครูบาศรีวิชัย วัดบ้างปาง ลี้ ลำพูน
    3.ครูบาบุญทา วัดสันป่ายางหลวง ลำพูน
    4.ครูบาอภัยสะระทะ วัดฝานหิน เชียงใหม่

    วันที่ 7 มกราคม 2533
    1.ครูบาอุปาละ วัดดอยเต (บ้านทา)ลำพูน
    2.หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช
    3.หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ชุมพร
    4.หลวงปู่เขียว วัดหลงบน นครศรีธรรมราช

    วันที่ 8 มกราคม 2533
    1.หลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน อยุธยา
    2.หลวงพ่อปาน วัดคลองด่วน สมุทรปราการ
    3.หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา
    4.หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง อุบล

    วันที่ 9 มกราคม 2533
    1.สมเด็จลูน ประเทศลาว
    2.หลวงพ่อโอภาสี วัดบางมด
    3.หลวงปู่บุญ นครปฐม
    4.หลวงปู่สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ชุมพร

    วันที่ 10 มกราคม 2533
    1.ครูบาสุริยะ วัดเท้าบุญเรือง เชียงใหม่
    2.ครูบาเถิ้ม วัดแสนฝาง เชียงใหม่
    3.ครูบาอินทรจักร วัดป่าลานห้วยยาบ ลำพูน
    4.ครูบาอุปาละ วัดดอยแต (บ้านทา) ลำพูน

    วันที่ 11 มกราคม 2533
    1.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
    2.หลวงพ่อหมุน วัดเขาตะแคงตะวันตก พัทลุง
    3.หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปราจีน
    4.ครูบาอุปาละ วัดดอยแต (บ้านทา) ลำพูน

    วันที่ 12 มกราคม 2533
    1.หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง นครปฐม
    2.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
    3.ครูบาอ้าย อินทรปัญโญ วัดสะปุ๋งน้อย (ป่าซาง) ลำพูน

    วันที่ 13 มกราคม 2533
    1.ครูบาดง ชวโน วัดดงเหนือ แพร่
    2.ครูบาแก้ว อินทรจักโก วัดเขื่อนคำลือ แพร่
    3.พระครูเนกขัมมะวิสุทธิ์ วัดดอนตัน น่าน
    4.ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน

    วันที่ 14 มกราคม 2533
    1.ครุบาคำแสน วัดสวนดอก เชียงใหม่
    2.ครูบาคำแสน วัดป่าดอนมูล เชียงใหม่
    3.หลวงปู่คำปัน วัดสันโป่ง เชียงใหม่
    4.หลวงปู่ภู วัดอินทร์วิหาร กรุงเทพ

    พระมหาเถระที่มีชื่อประจำวันนี้ ท่านจะมาร่วมอธิฐานจิต ตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึง 5โมงเช้า ตามรายการ นอกจากนี้ยังมีพระเถระอีกนับร้อยรูปจากพรหมโลก ผลัดเปลี่ยนเวียนกันมาร่วมอธิฐานจิต องค์ละประมาณ10-15 นาที แล้วกลับ ตลอดระยะเวลาพิธีอธิฐานจิต ตั้งแต่วันเริ่มต้นจนวันสุดท้าย แต่ไม่อาจจะนำรายนามท่านมาลงได้ทั้งหมด เพราะมีจำนวนมากและบางองค์คุณไพศาล ก็ไม่รู้จัก
    ในคืนเริ่มต้นและคืนสุดท้ายของพิธีกรรม พระแม่เจ้าจามเทวี ได้เสด็จมาร่วมอนุโมทนา และแผ่เมตตาด้วยแต่อยู่ภายนอกโบสถ์ พระแม่เจ้าได้ตรัสกับไพศาลว่า พระรอดปลอดภัยนี้ดีเท่ากับพระรอดในสมัยที่แม่หม่อน(พระแม่จามเทวี)สร้างสามารถปราบแป๊ (ชนะ)ภูตผี เงือกหงอน ได้ด้วย ใครมีบูชาก็จะอยู่เย็นเป็นสุข จำเริญรุ่งเรือง แม่หม่อนขออนุโมทนากับผู้ใดก็ตามที่ได้ไว้บูชาทุกผู้ทุกคน ขอให้เคารพนบยำอย่าได้เหยียบย่ำข้ามกลายเป็นอันขาด(นี่คือคำยืนยันจากดวงพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระนางจามเทวี)

    ในปีพุทธศักราช 2529 พระอาจารย์อินทรปัญญาวัฑฒโน (พระครูปัญญาธรรมวัฒน์) ได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าซึ่งชำรุด ในปีนั้นท่านได้พิจารณาว่า ในงานฉลองอุโบสถหลังใหม่จะเอาอะไรเป็นที่ระลึกแก่ญาติโยมตลอดจน พุทธบริษัทที่ได้ร่วมกันสร้างพระอุโบสถ

    ในคืนวันหนึ่งท่านนั่งสมาธิและได้เห็นรูปพระรอดปรากฏขึ้นในนิมิตนั้น รุ่งเช้าหลังจากฉันภัตตาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านได้คำนึงถึงนิมิตนั้น ท่านได้พิจารณาว่า ถ้าสร้างพระรอดเลียนแบบของเก่าก็จะไม่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง อีกทั้งจะกลายเป็นว่ารูปแบบซ้ำกันเหมือนเลียนแบบของเดิม ท่านจึงเอาสัญญาลักษณ์ อ. ซึ่งเป็นตัวอักขระสำคัญที่ทุกคนจะต้องใช้ตัว อ. นี้ รวมเข้าไปในชื่อของทุกคน คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ โอม ซึ่งเป็นอักขระนะโม มี 9 ตัว เท่ากับโลกุตระธรรมของพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า อีกทั้งเป็นชื่อของท่านด้วย พระอาจารย์อินทรปัญญาวัฑฒโนจึงได้รวบรวมมวลสารต่าง ๆ ในสมัยที่ท่าน เดินธุดงค์ปฏิบัติธรรมไปในสถานที่ต่าง ๆ ใบลานจารอักขระธรรมของวัดที่หักชำรุด เอามาบดรวมกันเพื่อทำผงพระรอด ผสมกับดินสังเวชนียสถานและดินที่วังหัวกวงซึ่งเป็นดินสร้างพระของเมืองลำพูนแต่โบราณกาลมา ได้สร้างพระรอดหลัง อ. ขึ้นจนสำเร็จและทำพิธีพุทธาภิเษก โดยได้นิมนต์พระสงฆ์คณาจารย์แห่งเมืองลำพูนมาทำพิธีพุทธาภิเษก เป็นเวลาหนึ่งเดือนกับเก้าวันเก้าคืน และได้แจกให้ญาติโยมในพิธีฉลองพระอุโบสถหลังใหม่

    หลังจากที่ญาติโยมได้รับแจกพระกันไปโดยทั่วถึงแล้ว เกิดปรากฏการณ์อภินิหารแก่ผู้ที่ได้รับแจกไป ดังนี้

    เรื่องที่หนึ่ง ตำรวจถูกยิง
    นายดาบตำรวจวิสูตร ประจำสถานีตำรวจภูธรแม่ทา จังหวัดลำพูน ถูกยิงด้านหลังขณะเข้าจับกุมยาบ้า หมดสติไป
    สองวัน ในวันที่สามจึงพื้นคืนสติเหมือนคนนอนหลับ ไม่ปรากฏแผลตามร่างกายแต่อย่างใด

    เรื่องที่สอง คนจะคลอดบุตร
    นางนภาภรณ์ บ้านกอม่วง อำเภอเมือง ลำพูน ตั้งครรภ์ เลยกำหนดคลอดมาเป็นเวลานานพอสมควร ญาติจึงนำส่งโรงพยาบาลแมคคอมิค ผลกาตรวจปรากฏว่าเด็กขวางลำตัว ขณะเตรียมตัวรอเจ้าห้องผ่าตัด แม่ของนางนภาภรณ์ได้ระลึกถึงพระรอดหลัง อ.ได้ เพราะได้ยินท่านอาจารย์พูดว่า ถ้าใครมีปัญหาอะไรที่สาหัส ให้เอาพระรอดตั้งสัจจะอธิษฐาน ทำน้ำพระพุทธมนต์ น้ำไปดื่ม กิน อาบ โดยเอาพระรอดแก่วงลงไปในน้ำเพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์ มารดาของนางนภาภรณ์ก็ทำเช่นนั้น เพราะพระรอดได้ผ่านการอาบน้ำว่าน ๑๐๘ ชนิดและน้ำมันมนต์ผ่านการทำพิธีมาเรียบร้อยแล้ว แม่ของนางนภาภรณ์จึงนำน้ำมนต์นั้นมาให้นางนภาภรณ์ดื่ม กิน ลูบหัว ลูกหน้า ลูบท้องของนางนภาภรณ์ ปรากฏเป็นที่อัศจรรย์ว่า ลูกของนางนภาภรณ์คลอดออกมาอย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด

    เรื่องที่สาม อุบัติเหตุรถชน
    นายสวัสดิ์ สันตติภัค คนบ้านพระคงฤาษี ในเมืองลำพูน อายุ ๖๐ ปีถูกรถกระบะชนกลางลำตัวขณะขับขี่จักรยานสองล้อตัดหน้ารถ เพราะไม่เห็นรถกระบะด้วยสายตาไม่ดี รถกระบะชนเต็มที่ ปรากฏว่า ขาหัก ๓ ท่อน โดยไม่มีบาดแผลอื่นใด หมดสติ ไปรู้สึกตัวที่โรงพยาบาล พอรู้สึกตัวก็คลำหาพระรอดหลังอ. ยกมือท่วมหัวพรางนึกในใจว่า รอดตายพระบารมีพระรอดหลังอ.คุ้มครอง หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ยังโดนรถมอเตอร์ไซด์ชนอีก ๒ ครั้ง แต่ก็รอดมาได้โดยไม่เป็นอะไร

    เรื่องที่สี่ พระรอดช่วยคนฟันปลอมติดคอ
    นายบุญชื่น บ้านต้นเหียว อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ รับประทานอาหารเสร็จในวันหนึ่งแล้วลุกมาบ้วนปาก ขณะกรั้วคอล้างปาก ฟันปลอมที่ใส่อยู่ประจำเกิดหลุดออกจากเหงือกที่ยึดอยู่ แล้วไหลลงไปติดอยู่ที่หลอดลม เจ็บปวดสุดแสนสาหัส ทำอย่างไรก็ไม่อาจสามารถเอาออกมาได้ ภรรยาจึงนำส่งโรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่ แพทย์ได้ทำการ x - ray ผลปรากฏว่าฟันปลอมไปติดค้างอยู่ที่หลอดลม หมอลงความเห็นว่าต้องผ่าตัดลำคอเพื่อเอาฟันปลอมออกมา ในขณะที่กำลังรอการผ่าตัด นายบุญชื่นได้รับความทรมานอย่างสุดแสนสาหัส จึงลงความเห็นให้ผ่าตัดด่วน ขณะที่รอหมอภรรยานายบุญชื่นซึ่งแขวนพระรอดหลังอ.ไว้ นึกขึ้นมาได้ จึงเดินไปเอาน้ำจากที่ดื่มน้ำบริการของโรงพยาบาลมหาราช แล้วนำพระรอดหลังอ. มาอธิษฐานว่า “ถ้าพระรอดแน่จริง ศักดิ์สิทธิ์จริง ของให้ฟันปลอมของนายบุญชื่นหลุดออกมาโดยปาฏิหารย์” ภรรยาจึงนำพระรอดหลังอ.แก่วงลงไปในน้ำเพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์ แล้วให้นายบุญชื่นอธิษฐานดื่ม ประมาณครู่หนึ่งหลังจากที่นายบุญชื่อดื่มน้ำเข้าไปแล้ว มีอาการคลื่นไส้ อยากอาเจียรอย่างรุนแรง นายบุญชื่นจึงเดินไปที่ถังขยะ ด้วยความทุรนทุรายแล้วอาเจียรออกมาอย่างหนัก ปรากฏว่า ฟันปลอมได้หลุดมากับการอาเจียรในครั้งนั้นโดยอัศจรรย์ นายบุญชื่นได้หยิบเอาฟันปลอมมาทั้งน้ำหูน้ำตา แล้วนำออกมาเพ่งดู ขณะนั้นพอดีกับพยาบาลเรียกให้ไปเข้าห้องผ่าตัด นายบุญชื่นจึงเดินไปหาพร้อมกับยื่นฟันปลอมให้พยาบาลที่จะนำเข้าห้องผ่าตัดดู แล้วบอกว่า “ผมไม่ผ่าแล้ว ฟันผมหลุดออกมาแล้ว” พยาบาลมองดูดด้วยความงุนงงว่ามันหลุดออกมาได้อย่างไร? จึงถามนายบุญชื่นว่ามันหลุดออกมาได้อย่างไร? ภรรยาจึงเล่าเรื่องเอาพระรอดหลังอ.ทำน้ำมนต์ให้พยาบาลฟัง เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮาและเล่าขานกันมากในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

    เรื่องที่ห้า ตำรวจได้ลาภ
    รตต.รัตน์ บุญชู ประจำกองกำกับการตำรวจภูธร จว.ลำพูน เป็นผู้มีความศรัทธาในตัวพระอาจารย์อินทรเป็นอย่างยิ่ง ตอนพักกลางวันของทุกวัน หลังจากรับประทานอาหารแล้วก็จะมาไหว้พระสวดมนต์ แล้วนั่งสมาธิภาวนาเป็นประจำทุกวัน วันหนึ่ง ได้ยินกิตติศัพท์พระรอดหลังอ. จึงมาขอต่อท่านอาจารย์ ไป ๑ องค์ จึงนำไปใส่กรอบติดตัว ในขณะที่รับพระไปนั้น ตั้งสัตย์อธิษฐานว่า ขอให้ได้เลื่อนยศภายในเร็ววัน ต่อมาอีก๒ อาทิตย์ รตต.รัตน์ ได้มาที่วัดเพื่อถวายสังฆทาน แล้วบอกท่านอาจารย์ว่า “ ใครว่าพระรอดหลังอ. รอดจากจากโชคจากลาภ ผมไม่เชื่อเด็ดขาด ท่านอาจารย์ครับ วันนี้ผมได้เลื่อนเป็นรตท.แล้วครับ”

    เรื่องที่หก พระธาตุเสด็จอยู่ในกรอบพระรอด
    นายถวิล ท้าวรอม (ร้านถวิลท้าวรอม) บ้านป่าซาง ได้มาช่วยกดพิมพ์พระรอดหลัง อ. ได้นำพระรอดหลังอ.ที่พระอาจารย์อินทรเป็นผู้กดเอง ใส่กรอบแขวนติดตัวไว้ อุปนิสัยของนายถวิลเป็นใจบุญสุนทานหมั่นปฏิบัติภาวนาเป็นประจำทุกวัน หลังจากนั้นไม่นาน พระธาตุได้เสด็จมาอยู่ในกรอบกับองค์พระรอดหลังอ. เป็นที่น่าอัศจรรย์ (เมื่อมองดูจะเห็นแต่เศียรพระรอดหลังอ. ส่วนองค์พระมองไม่เห็น เห็นแต่พระธาตุ)

    เรื่องที่เจ็ด แสงเลเซอร์ยิงไม่เข้า
    คุณวิภา องค์มหัสมงคล ผู้พิพากษาศาลสมทบจังหวัดนนทบุรี ได้บูชาพระรอดหลังอ.ทองคำไป ๑ องค์ วันหนึ่งได้ไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจรักษาต้อกระจก หมอนัดวันให้มาทำการรักษา เมื่อถึงวันนัดก่อนออกจากบ้าน คุณวิภาได้ยกพระขึ้นจบพร้อมกับอธิฐานขอบารมีพระรอดหลังอ.คุ้มครอง อย่าได้มีอันตรายใดใดต่อดวงตาเลย ที่โรงพยาบาล หมอทำการรักษาโดยการยิงแสงเลเซ่อร์เพื่อรักษาต้อกระจก พอเริ่มทำการรักษา หมอยิงเลเซ่อร์ ๒ - ๓ ครั้ง ปรากฏว่าเครื่องยิงหยุดการทำงาน เป็นที่อัศจรรย์ หมอได้ตรวจสอบเครื่องยิ่งเลเซ่อร์ก็ไม่พบสิ่งผิดปรกติแต่อย่างใด
    หมอจึงถามคุณวิภาว่า “คุณแขวนพระอะไรไว้?”
    คุณวิภาตอบว่า “แขวนพระรอดหลังอ. และได้อธิษฐานก่อนออกจากบ้านมาพบหมอ” สร้างความงุนงงให้กับวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นอย่างยิ่ง!!

    เรื่องที่แปด รถชนที่มาเลเซีย
    มิสเตอร์กูบูเซ็ง เจ้าของบริษัท ประเทศมาเลเซีย ได้ส่งจดหมายเป็นภาษาอังกฤษถึงท่านอาจารย์อินทรว่า มารดาของมิสเตอร์กูบูเซ็งไปออกกำลังกายตอนเช้าที่ Park หลังจากเสร็จกิจกรรมแล้วได้ขี่จักรยานสองล้อเพื่อเดินทางกลับบ้าน ขณะเดินทางกลับบ้านถูกรถยนต์ชนอย่างแรง ด้วยแรงกระแทก มารดาของมิสเตอร์กูบูเซ็งกระเด็นไปไกลหลายตลบเป็นที่น่าอัศจรรย์ว่า ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด มารดาของมิสเตอร์กูบูเซ็งจึงให้มิสเตอร์เซ็งเขียนจดหมายเล่าเรื่องประสบการณ์เหลือเชื่อให้ทางวัดสันป่ายางหลวงได้ทราบ พร้อมทั้งขอบคุณบารมีพระรอดหลังอ. ที่ช่วยให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ

    ปาฏิหารณ์ที่เกิดจากมีมากมายหลายเรื่องหลายประการจนไม่สามารถนำมากล่าวได้หมด ผู้ที่นำไปบูชาแล้วเท่านั้นจึงได้พบความอัศจรรย์และปาฏิหารย์ต่าง ๆ ของพระรอดหลัง อ

    ข้อความทั้งหมดนี้คัดลอกมาจากหนังสือ แม่หม่อนเล่าและย้อนอดีตวัดสันป่ายางหลวง จากนิมิตของคุณ ไพศาล แสนไชย เรียบเรียงโดย คุณ ประสิทธิ์ เพชรรักษ์ ทั้งหมด
    ....เพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูบให้ทุกท่านได้ทราบถึงพระรอดซึ่งทรงคุณค่าและได้รับการรับรองจากดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่จามเทวี(แม่หม่อนหรือคุณทวด)ว่ามีคุณเปรียบดังพระรอดที่ท่านได้สร้างไว้เมื่อ 2000 กว่าปีมาแล้วครับ


    สภาพสวยผิวหิ้งเดิมเก่าเก็บ พุทธคุณหายห่วง นี้แหละครับของดีราคาเยาว์ เนื้อดีพิมพ์ดีของท่านที่ทุกคนสามารถมีไว้ในครอบครองได้ แบ่งให้บูชา 432 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณกันตสีโล จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2022
  2. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,585
    ค่าพลัง:
    +30,871
    หวัดดียามเช้า.jpg
     
  3. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,207
    ค่าพลัง:
    +14,329
    2301.เล็กดีรสโต(ผงของขวัญอุดมสุข) พระผงอิทธิเจไตรมาส เทพเจ้าแห่งชาวรามัญ
    สุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ลพ.อุตตมะ,ลป.โต๊ะ อธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    8ppKM8.jpg

    19aeys-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    พระผงอิทธิเจไตรมาส รุ่นแรก พิมพ์ผงของขวัญอุดมสุข หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เนื้อผงมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีประมาณปี พ.ศ.2524 โดยทำการรวบรวมมวลสารผงวิเศษและตระเวนปลุกเสกยาวนานหลายวาระ ผู้สร้างได้ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี ในการนำพระทั้งหมดเข้าพิธี จนมั่นใจที่สุดแล้ว จึงได้แบ่งพระที่สร้างทั้งหมดถวายครูบาอาจารย์ที่ท่านนับถือศรัทธาเพื่อแจกโดยไม่คิดมูลค่าแต่อย่างใด หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมิพลี ได้อธิษฐานจิตเดี่ยวๆให้เป็นการเฉพาะเจาะจงให้กับพระพิมพ์นี้เป็นเวลานานหลายเดือน

    คณะจัดสร้าง
    - คุณบุญส่ง ไหลธนานนท์ คหบดีใหญ่แห่งจังหวัดนครปฐม
    - ท่านสุนทร แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครปฐมหลายสมัย
    - ท่านณัฏฐ์ ศรีวิหค อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด และ กรรมการ ปปช.
    - คุณถนอม เที่ยงตรง


    มวลสารศักดิ์สิทธิ์ประกอบด้วย
    - เส้นเกศาของ หลวงพ่ออุตตมะ ที่ได้เมตตามอบให้
    - ผงอิทธิเจ(มหาจักรพรรดิ) ที่ท่านลบเองเขียนเองเมื่อสมัยยังเรียนบาลีอยู่ที่พม่ามาผสมเป็นกรณีพิเศษด้วย
    - ชิ้นส่วนพระสมเด็จบางขุนพรหม, พระวัดปากน้ำ, พระกรุสมัยทราวดี
    - ผงตะไบชนวนพระกริ่งวัดสุทัศน์
    - ผงตะไบชนวนพระคันธราราษฎร์
    - หลวงพ่อยังได้เมตตามอบผงว่าน 108
    - ผงเกสร 108
    - ปูนกระเทาะจากองค์พระปฐมเจดีย์ อันเป็นพระเจดีย์ใหญ่และเก่าแก่องค์สำคัญที่สุดในสุวรรณภูมิ
    - ผงกระเบื้องจากองค์พระปฐมเจดีย์ อันเป็นพระเจดีย์ใหญ่และเก่าแก่องค์สำคัญที่สุดในสุวรรณภูมิ
    - พระเครื่องเนื้อผงรุ่นเก่าของหลวงพ่ออุตตมะที่ชำรุดแตกหักนำมาป่นผสมเป็นมวลสาร เป็นต้น


    วาระการอธิษฐานจิต
    - หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมิพลี ได้อธิษฐานจิตเดี่ยวๆให้เป็นการเฉพาะเจาะจงให้กับพระพิมพ์นี้เป็นเวลานานหลายเดือน

    - หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม เมตตาอธิษฐานจิตเดี่ยวตลอดไตรมาสปี พ.ศ.2524 และวาระอื่นอีกยาวนาน

    - หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม ได้อธิษฐานจิตเดี่ยวๆให้เป็นเวลานานหลายเดือน

    - นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระปฐมเจดีย์ โดยมีเกจิชื่อดังของนครปฐมร่วมพิธีด้วย เช่น หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร, หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ เป็นต้น
    จากนั้นทางผู้สร้างจึงนำตระเวนให้พระผู้มีชื่อเสียงแถบจังหวัดนครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี ปลุกเสกให้อีกหลายรูป


    พระผงชุดนี้จึงเป็นพระเครื่องที่ดีทั้งนอกดีทั้งใน ทั้งเจตนาในการจัดสร้างที่บริสุทธิ์จริงๆ คือสร้างเพื่อสืบอายุพระศาสนาและแจกเป็นทาน มวลสารต่างๆ ก็ตั้งใจรวบรวมมานาน อีกทั้งครูบาอาจารย์ที่เป็นองค์อธิษฐานจิต เป็นพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงและมีลูกศิษย์อยู่ทั่วประเทศตระเวนเข้าพิธีพุทธาภิเษกต่างๆ เรียกว่าที่ไหนมีจัดพิธีก็จะนำพระไปฝากเข้าพิธีทุกครั้ง บางครั้งก็นำไปถวายครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นแผ่เมตตาอธิษฐานพร

    พุทธคุณ :
    - เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย และเจริญด้วยโภคทรัพย์


    สภาพสวยเดิมเก่าเก็บไม่ได้ใช้ มวลสารแห่งความเป็นศิริมงคล พุทธคุณครอบจักรวาลครับท่าน พระดีราคาเยาว์อีกรุ่น ที่ดีนอกดีใน เจตนาการจัดสร้างบริสุทธิ์ที่สุดส่วน แบ่งให้บูชา 350บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณJae จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2022
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,207
    ค่าพลัง:
    +14,329
    2301.สวยคมผิวปรอทเดิมๆ เหรียญท่านเจ้าคุณนร น.ว.ม.
    ลป.โต๊ะ,พระสังฆราชวาส,ลป.เส่ง,ลพ.ฑูรย์ เมตตาอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    8peLMg.jpg

    img_1063-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    img_1064-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    เหรียญท่านเจ้าคุณนร ธมมวิตกโกภิกขุ น.ว.ม. ดอกบัว2ข้าง วัดเทพศิรินทร์ทราวาส กทม. เนื้อทองแดงรมดำ ตอก 1โค้ด (ตอกโค๊ดตัว อุ ด้านหลังขวา) ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 เพื่อเป็นที่ระลึกวันเสด็จพระราชกุศลเปิดอาคารโรงเรียน น.ว.ม.ราชานุสรณ์

    จำนวนการสร้าง
    - เนื้อทองคำ จำนวน 9 องค์
    - เนื้อเงิน 50 องค์
    - เนื้อทองแดง 3 แบบ (ทองแดงรมดำ ทองแดงชุบนิเกิ้น ทองแดงผิวไฟ)สร้างรวมกัน 10,000 องค์


    พิธีพุทธาภิเษก
    - ประกอบพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ เมื่อวันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2515 ณ. วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพ โดยมีสมเด็จพระวันรัต(ปุ่น ปุณณสิริ) เป็นประธานสงฆ์ ท่านเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร จุดเทียนกระบะมุก และมีคณาจารย์จำนวนมากร่วมปลุกเสก เช่น
    - หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    - ท่านเจ้าคุณโพธิวรคุณ วัดโพธินิมิตร
    - พระพุทธโฆษาจารย์(วาส) องค์สมเด็จพระสังฆราช,
    - หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยานิมิตร
    - พระธรรมไตรโลกกาจารย์ รองเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ เป็นต้น


    สภาพสวยผิวปรอทเดิมๆเก่าเก็บไม่ผ่านการบูชา พุทธคุณครอบครบ จากวาระการปลุกเสกสุดยอดสุด แบ่งให้บูชา 550 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณพุทโธ ภควา จองแล้วครับ)



    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2024
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,207
    ค่าพลัง:
    +14,329
    2302.สุดยอดมวลสารผงกายสิทธิ์(๒) พระผงพระพุทธดอนศาลาปาละ
    พ่อท่านคลิ้ง,ลพ.คล้อย,ลพ.มุม,พระครูกาชาด ประจุพลังเข้มขลัง

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    yxzp-jpg.jpg

    y6ft-jpg-jpg.jpg
    y6fk-jpg-jpg.jpg
    พระผงพระพุทธดอนศาลาปาละ เนื้อผงกายสิทธิ์ ตำรับเขาอ้อ จ.พัทลุง ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2530

    ประวัติการจัดสร้าง
    วันที่ 25 ก.ค. 2530 นี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล จะเสด็จไปทรงเป็นประธานในการ ทอดผ้าป่า - วางศิลาฤกษ์ ศาลาโรงธรรม และทรงเททองหล่อพระประธานประจำศาลาโรงธรรม ณ วัดดอนศาลา ต. มะกอกเหนือ อ. ควนขนุน จ. พัทลุง จึงขอเรียนเชิญท่านสาธุชนไปร่วมการกุศลในครั้งนี้โดยทั่วกัน

    ในโอกาสนึ้ คณะกรรมการได้จัดสร้างพระผงกายสิทธิ์ที่ระลึก เพื่อสมนาคุณแก่ผู้ร่วมทำบุญช่วยการกุศลครั้งนี้ เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาโรงธรรมนั้นให้สำเร็จลุล่วงให้แล้วเสร็จในคราวเดียวกัน

    ท่านที่ร่วมทำบุญตั้งแต่ 200 บาท ขึ้นไป จะได้รับพระพุทธดอนศาลาปาละ “ภ.ป.ร.” เนื้อผงกายสิทธิ์ สมนาคุณ 1 องค์ ทั้งนี้กำหนดให้ทำบุญบูชาได้ท่านละไม่เกิน 5 องค์ เนื่องจากจำนวนสร้างมีเพียง 2,530 องค์เท่านั้น

    ผงวิเศษอันสำคัญยิ่ง ที่ได้นำมาใช้เป็นมวลสารในการสร้างพระผงกายสิทธิ์ พระพุทธดอนศาลาปาละ ภ.ป.ร.
    1. ผงกายสิทธิ์ ของสำนักเขาอ้อโดยเฉพาะ
    2. ผงของท่านพระคูรสิทธิยาภิรัต (พระอาจารย์เอียด) วัดดอนศาลา
    3. ผงของท่านพระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา
    4. ผงพระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
    5. ผงพระครูพิพัฒนสิริธร ( หลวงพ่อคง ) วัดบ้านสวน
    6. ผงของพระอาจารย์พรหม วัดบ้านสวน
    7. ผงพระอาจารย์ฤทธิ์ วัดบ้านสวน
    8. ผงของหลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ
    9. ผงพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน นครศรีฯ
    10.ผงพ่อท่านเขียว วัดหรงบล นครศรืฯ
    11. ศงพ่อท่านแดง วัดเขาหลัก นครศรีฯ
    12. ผงพ่อท่านคลิ้ง วัดกลุงทอง นครศรึฯ
    13.ผงพ่อท่านจับ วัดท่าลิพง นครศรีฯ
    14. ผงพ่อท่านหีต วัคเผียน นครศรีฯ
    15. ผงดินจากใจกลางองค์พระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
    16.ผงพระภูธราวดี นครศรีฯ
    17. ผงดินกรุท่าเรือ - กรุนางตรา นครศรีฯ
    18. ดินจากสังเวชนียสถาน ประเทศอินเดีย
    19. ดินอาถรรพณ์ 7 โป่ง 7 ป่า
    20. ผงพระวัดสามปลื้ม
    21. พระเครื่องที่หักชำรุดจำนวนมากของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล
    22. ผงหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
    23. ผงหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
    24. ผงหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก นครปฐม
    25. ผงหลวงพ่อวงศ์ วัดทุ่งผักกรูด นครปฐม
    26. ผงยาจินดามณี หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
    27. ผงพระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    28. ผงหลวงพ่อสังข์ วัดเทพมงคล นครศรีฯ
    29. ผงว่านพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี รุ่นแรก พ.ศ. 2497


    ผงทั้งหมดนี้ได้มาผสมผสานรวมกับผงอิทธิเจ ผงพุทธคุณ อีกมากมาย จนได้เป็นเนื้อมวลสารอันหนึ่งอันเดียวกันโดยตลอด เสร็จแล้วจึงได้นำผงนี้ไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดดอนศาลา เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2530 ในพิธีพุทธาภิเษกพระชุดธาตุกายสิทธิ์ พระนาคปรก ภ.ป.ร. ก่อนจะนำมาสร้างขึ้นเป็นองค์พระ

    พิธีพุทธาภิเษก
    - เมื่อวันที่ 9 กค. 2530 เวลา 8.00 น. - 23.00 น. ณ วัดดอนศาลา จ. พัทลุง
    โดยมีพระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก คือ พระะครูกาชาด ( บุญทอง ) วัดดอนศาลา หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ หลวงพ่อฤทธิ์ วัดบ้านสวน พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา พระครูพิพิธวรกิจ ( หลวงพ่อคล้อย ) วัดภูเขาทอง พัทลุง

    ปลุกเสกเดี่ยว โดยพระคณาจารย์อีก 5 ท่านคือ
    1) พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีฯ
    2) หลวงพ่อบุญรักษ์ วัดคงคาวดี นครศรีฯ
    3) หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน ชุมพร
    4) หลวงพ่อมุม วัดนาสักชุมพร
    5) หลวงพ่อสมพงษ์ สำนักสงฆ์ขุนทะเล สุราษฎร์ธานี ( ลูกศิษย์พ่อท่านเขียว วัดหรงบล นครศรีฯ )


    ข้อมูลเก่าจาก
    - หนังสือพระเครื่องลานโพธิ์


    สภาพสวยเดิมไม่หักไม่ซ่อม เก่าเก็บไม่ได้ใช้ สุดยอดมวลสาร มหาพิธี พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 399 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2022
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,207
    ค่าพลัง:
    +14,329
    2303.ซองเดิมๆใหม่(๑) เหรียญพระบรมรูปรัชกาลที่5 พิธีปืนแตก วัดราชบพิธฯ
    ลต.มหาบัว,ลป.เทศก์,ลป.โต๊ะ,ลพ.เงิน ร่วมอธิษฐานจิตพิธีใหญ่ 108รูป

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    5rdr-jpg-jpg.jpg

    8vE4eD.jpg
    เหรียญพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 วัดราชบพิธฯ กรุงเทพมหานคร เนื้อทองแดงผิวไฟ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2513 ประกอบพิธี มหาพุทธาภิเษก เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน คือระหว่างวันที่ 29-30-31 มกราคม พ.ศ. 2514 โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระมหากรุณา ธิคุณโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธี “จุดเทียนชัย” ในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514 *** ซองเดิมจากพิธีเลย แต่ต้องแกะออกมาถ่ายรูปเพราะซองค่อนข้างมัวถ่ายไม่ชัด ***

    ข้อมูลการจัดสร้างพระหูยานปืนแตก
    พระพิมพ์หูยานลพบุรี โดยสร้างล้อพิมพ์จาก “พระหูยานศิลปะลพบุรี” โดยแกะแม่พิมพ์ขึ้นใหม่มีความสวยงามขนาดพอเหมาะคือไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ด้านหลังประดิษฐานพระปรมาภิไธยย่อ “จ.ป.ร.”


    จัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อฉลอง 100 ปีของวัดราชบพิธฯ ครั้งนั้นมีความพิถีพิถันมากโดยกำชับให้ช่างทำการเจือ “เนื้อโลหะ” ทั้งหมดที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จฯ เททองวัตถุมงคลเป็นปฐมฤกษ์ ผสมกับแผ่นยันต์ลงอักขระของบรรดา คณาจารย์ ผู้ทรงวิทยาคุณจากทั่วประเทศ ๑๐๘ รูป พร้อมทั้งชนวนโลหะวัตถุมงคลรุ่นเก่า ๆ ทุกรุ่นของวัดราชบพิธฯ ลงในวัตถุมงคล ทุกแบบทุกเนื้อและทุกพิมพ์ ให้ทั่วถึงกัน ทางวัดจึงกำหนดประกอบพิธี มหาพุทธาภิเษก เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน คือระหว่างวันที่ 29-30-31 มกราคม พ.ศ. 2514 โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระมหากรุณา ธิคุณโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธี “จุดเทียนชัย” ในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514

    พระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณจากทั่วพระราชอาณาจักร ซึ่งล้วนเเต่เป็นพระคณาจารย์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านพุทธคมในยุคนั้นทั้งสิ้นที่รับนิมนต์มานั่งปรกปริกรรมเจริญภาวนาจำนวน 108 รูป โดยผลัดเปลี่ยนกันมาร่วมพิธีในเเต่ละวัน
    รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมอธิษฐานจิต 3 วัน 3 คืน อาทิ


    วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514 ระหว่างเวลา 16.30-20.00 น.
    1.) พระเทพสังวรวิมล (เจียง) วัดเจริญสุขาราม จ.สมุทรสงคราม
    2.) พระราชธปรมากรณ์ (เงิน) วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
    3.) พระศูพิพิธวิหารการ (หลวงพ่อเทียม) วัดกษัตราธิราช จ.พระนครศรีอยุธยา
    4.) หลวงพ่อกี วัดหูช้าง จ.นนทบุรี
    5.) พระครูโสภณพัฒนกิจ วัดอัมพวา บางกอกน้อย ธนบุรี กรุงเทพฯ
    6.) พระครูสุทธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพะอง จ.สมุทรสาคร
    7.) พระครูโพธิสารประสาธน์ (บุญมี) วัดโพธิ์สัมพันธ์ จ.ชลบุรี
    8.) พระครูอุภัยภาดาทร (หลวงพ่อขอม) วัดโพธาราม (วัดไผ่โรงวัว) จ.สุพรรณบุรี
    19.) พระครูนนทกิจวิมล (หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ จ.นนท บุรี
    10.) พระครูสมุห์อำพล วัดประสาทบุญญาวาส กรุงเทพฯ
    11.) พระอาจารย์อรุณ วัดตะล่อม ธนบุรี กรุงเทพฯ
    12.) พระครูสมุห์สำรวย วัดกษัตราธิราช จ.พระนครศรีอยุธยา


    วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514 ระหว่างเวลา 20.00-22.00 น.
    1.) พระราชสุทธาจารย์ (โชติ ระลึกชาติ) วัดวชิราลงกรณ์จ.นครราชสีมา
    2.) พระนิโรธรังสีคัมภีร์เมธาจารย์ (หลวงปู่เทสก์ เทสโก) วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย
    3.) พระอินทสมาจารย์ (เงิน อินทสโร) วัดอินทรวิหาร กรุงเทพฯ
    4.) พระครูสภาพรพุทธมนต์ (สำเนียง อยู่สถาพร) วัดเวฬุวนาราม จ.นครปฐม
    5.) พระครูกัลป์ยานุกูล (เฮง) วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี กรุงเทพฯ
    6.) พระครูภาวนาภิรม วัดปากน้ำภาษีเจริญ ธนบุรี กรุงเทพ
    7.) พระครูประภัสสรศีลคุณ (เอก) วัดไผ่ดำ จ.สิงห์บุรี
    8.) พระครูสมุห์หิน วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ
    9.) หลวง พ่อใหญ่อภินันโท (จุล) วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี
    10.) พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโศธาราม จ.อุดรธานี
    11.) พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน (พระธรรมวิสุทธิมงคล) วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
    12.) พระครูใบฎีกาสมาน (หลวงพ่อเณร) วัดพรพระร่วง กรุงเทพฯ


    วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514 ระหว่างเวลา 22.00-24.00 น.
    1.) พระราชวตาจารย์ วัดมกุฏกษัตริยาราม กรุงเทพฯ
    2.) พระญาณโพธิ (เข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
    3.) พระวิเชียรมุนี วัดอินทราม กรุงเทพฯ
    4.) พระพุทธมนต์วราจารย์ (สุพจน์) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
    5.) พระโสภณมหาจารย์ วัดดาวดึงนาราม กรุงเทพฯ
    6.) พระครูพิบูลมงคล วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
    7.) พระมงคลสุรี วัดนาคกลาง กรุงเทพฯ
    8.) พระครูปลัดสงัด วัดโพธิ์ท่าเตียน กรุงเทพฯ
    9.) พระครูวินัยธร (เดช) วัดสระเกศฯ กรุงเทพฯ
    10.) พระปลัดมานพ วัดชิโนรสราม กรุงเทพฯ
    11.) พระมหาวาส วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ
    12.) พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิ (สามปลื้ม) กรุง เทพฯ


    พระสวดพุทธาภิเษก
    ระหว่างเวลา 16.30-21.00น. จำนวน 4 รูป จากวัดสุทัศนเทพวราราม,
    ระหว่าง เวลา 21.00-24.00 น. จำนวน 4 รูป จากวัดบวรนิเวศวิหาร
    วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2514 ระหว่างเวลา 18.00-20.00 น.

    1.) พระธรรมวราลังการ วัดบุปผาราม ธนบุรี กรุงเทพฯ,
    2.) พระโพธิวรคุณ (ไพฑูรย์) วัดโพธิ์นิมิต กรุงเทพฯ,
    3.) พระครูสีลวิสุทธาจารย์ วัดสง่างาม จ.ปราจีนบุรี
    4.) พระครูประภัศระธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อแต้ม) วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี
    5.) พระครูประสิทธิสารคุณ (พ้น) วัดอุบลวรรณาราม จ.ราชบุรี
    ๖.) พระครูสังฆวฒาจารย์ (หลวงปู่เย่อ) วัดอาฬาสงคราม จ.สมุทรปราการ
    7.) พระอาจารย์หนู วัดบางกะดี่ กรุงเทพฯ
    8.) พระอาจารย์มงคล (กิมไซ) วัดป่าเกตุ จ.สมุทรปราการ
    9.) พระครูสมุห์ทองคำ วัดเสาธงทอง จ.ลพบุรี
    10.) พระอาจารย์สมภพ เตชบุญโญ วัดสาลีโขภิรตาราม จ.นนทบุรี
    11.) พระอาจารย์ยาน วัดถ้ำเขาหลักไก่ จ.ราชบุรี,
    12.) พระอาจารย์บุญกู้ วัดอโศกตาราม จ.สมุทรปราการ


    วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2514 ระหว่างเวลา 20.00-22.00 น.
    1.) พระสุนทรธรรมภาณ วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
    2.) พระครูโสภณกัลป์นาณวัตร (เส่ง) วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ
    3.) พระครูวรพรตศีลขันธ์ (แฟ้ม) วัดป่าอรัญศิกาวาส จ.ชลบุรี
    4.) พระครูปสาธน์วิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลางท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
    5.) พระอาจารย์บุญเพ็ง วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
    6.) พระอาจารย์สุวัจน์ วัดป่าภูธรพิทักษ์ จ.สกลนคร
    7.) พระอาจารย์วัน วัดป่าอภัยวัน (ภูเหล็ก) จ.สกลนคร
    8.) พระอาจารย์สุพัฒน์ วัดบ้านใต้ จ.สกลนคร
    9.) พระอาจารย์ทองสุข วัดถ้ำเจ้าภูเขา จ.สกลนคร
    10.) พระอาจารย์ฟัก สันติธัมโม วัดเขาน้อยสามผา จ.จันทบุรี
    11.) พระอาจารย์ดวน วัดมเหยงค์ จ.นครศรีธรรมราช
    12.) พระอาจารย์สอาด วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ


    วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2514 ระหว่างเวลา 22.00-24.00 น.
    1.)พระเทพเมธากร วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ
    2.) พระราชวรญาณมุนี นุภพศิริมาตราม กรุงเทพฯ
    3.) พระปัญญาพิศาลเถระ วัดราชประดิษฐ์ กรุงเทพฯ
    4.) พระครูโสภณสมาธิวัตร วัดเจ้ามูล ธนบุรี กรุงเทพฯ
    5.) พระครูวิริยะกิตติ (หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี) ธนบุรี กรุงเทพฯ
    6.) พระครูพิชัย ณรงค์ฤทธิ์ วัดสิตาราม กรุงเทพฯ
    7.) พระครูปลัดถวิล วัดยางระหงษ์ จ.จันทบุรี
    8.) พระอธิการพัตน์ วัดเเสนเกษม กรุงเทพฯ
    9.) พระอาจารย์เชื้อ หนูเพชร วัดสะพานสูง กรุงเทพฯ
    10.) พระอาจารย์รัตน์ วัดปทุมคงคา กรุเทพฯ
    11.) พระครูสังฆรักษ์ (กาวงค์) วัดป่าดาราภิรมย์ จ.เชียงใหม่
    12.) พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง


    โดยมีพระสวดพุทธาภิเษก
    เวลา 18.00-21.00 น. พระภิกษุ 4 รูป จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
    เวลา 21.00-24.00 น. พระภิกษุ 4 รูป จากวัดราชประดิษฐ์
    วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2514


    ดังนั้น วัตถุมงคล ชุดฉลอง 100 ปี วัดราชบพิธฯ” นี้จึงเป็นวัตถุมงคลที่ถึงพร้อมด้วย พระพุทธคุณ, พระธรรมคุณ, พระสังฆคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ ของพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐแก่ประเทศไทยถึง 2 พระองค์ ด้วยกันคือ รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 อย่างเปี่ยมล้นยิ่งนัก.

    มูลเหตุแห่งฉายา "พระหูยานปืนแตก"
    บรรดาเซียนพระยุคครั้งโน้น นิยมเรียกขานว่ารุ่น “ปืนแตก” โดยจากคำบอกเล่าของท่านเจ้าคุณ “พระธรรมเมธี (อัคค ชิโน)” เช่นกัน เหตุที่บรรดาเซียนพระยุคนั้นเรียกกันก็สืบเนื่องจาก หลังการจัดทำพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ได้มีบรรดานายทหารจาก กรมรักษาดินแดน และ กระทรวงกลาโหม ซึ่งอยู่ใกล้กับ วัดราชบพิธฯ ได้ มาบูชาซึ่งสมัยนั้นราคาถูกมากเพียง “องค์ละ ๑๐ บาท” เท่านั้นและหลังจากบูชากันไปแล้วทหารหลายรายได้นำไปพิสูจน์ ความเข้มขลังด้วยการนำ “พระหูยาน จ.ป.ร.” ที่นำไปเลี่ยมพลาสติกแล้วไปแขวนกับ “ธงชาติ” แล้วชักธงชาติระดับเหนือศีรษะขึ้นจากนั้นทำการ ทดลองยิง ปรากฏว่า นัดแรก กระสุนปืนเกิดด้าน ยิงไม่ออก จึงทำการตรวจสอบปืนใหม่แล้วทดลอง “ยิงอีกนัด” คราวนี้ปรากฏว่าเกิดเสียง “ระเบิด” ดังขึ้นและพอสิ้นเสียงระเบิด “ทหาร” ผู้ทำการทดลองยิงก็ออกอาการ ตกใจ เมื่อเห็น ปากกระบอกปืน ที่ใช้ทดลองยิง แตกเป็นรอยร้าวทั้งลำกล้อง ใช้การไม่ได้อีกเลยตั้งแต่นั้นมาบรรดา ทหารที่อยู่ในเหตุการณ์ทดลองยิงจึงเรียก พระหูยาน จ.ป.ร. ว่ารุ่น “ปืนแตก” เป็นที่เลื่องลือกันมากในยุคนั้น นอกจากนี้บรรดาทหารที่อาสาสมัครไปร่วมรบใน “สมรภูมิเวียดนาม” ที่รอดชีวิตกลับมาก็มีการร่ำลือว่า เหตุที่รอดชีวิตเพราะได้พกพาพระหูยานรุ่นปืนแตกนี้ติดตัวไปด้วย พระหูยาน จ.ป.ร. มีพุทธคุณเข้มขลังด้าน ยอดเหนียว เนื่องจากมีเหตุ วัยรุ่นยกพวกตะลุมบอนกัน พร้อมทั้งใช้อาวุธที่มีทั้งมีดดาบและปืนฟันและยิงใส่กันแบบ เอาเป็นเอาตาย แต่ปรากฏว่าผู้ที่พกพา พระหูยาน จ.ป.ร. ติดตัวไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเลยทั้งที่บางรายถูกฟันจนเสื้อขาดและบางรายถูกยิงจนเสื้อเป็นรูทะลุแต่จุดที่ถูกฟันและถูกยิงเป็นเพียง รอยจ้ำ ช้ำแดงเท่านั้น


    สภาพสวยพร้อมซองเดิม เหมาะแก่การสะสมเป็นอย่างสูง ไม่แตกไม่บิ่น พิมพ์คมชัดลึก ของดีพิธีใหญ่ในหลวงทรงเสด็จ พุทธคุณหลักล้านราคาหลักร้อย ราคานี้ถือว่าซื้อสภาพครับเพราะนานๆทีจะได้มาพร้อมซองเดิมแบบนี้ครับ แบ่งให้บูชา 600 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณshaj จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2022
  7. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +6,837
    ขอจองครับ
     
  8. กันตสีโล

    กันตสีโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +783
    จอง
    รายการที่ 2300.มหากาพย์พิธีเหนือโลก(มีพลอยเสกหายาก)(๖) พระรอดปลอดภัย
    เจตนาสร้างแบบริสุทธิ์ ครูบาอินโท ร่วมอธิษฐานจิตมหาพิธี 9 ราตรี และ
    รายการที่ 2303.ซองเดิมๆใหม่(๑) เหรียญพระบรมรูปรัชกาลที่5 พิธีปืนแตก วัดราชบพิธฯ
    ลต.มหาบัว,ลป.เทศก์,ลป.โต๊ะ,ลพ.เงิน ร่วมอธิษฐานจิตพิธีใหญ่ 108 รูป
     
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,207
    ค่าพลัง:
    +14,329
    2304.เก็บตก สุดยอดคำเดียว พระขุนแผนดาบฟ้าฟื้น พิธีเสด็จกลับปี11
    .ชุม,อ.นำ,ลพ.คง,ลพ.ปาล ประจุพลัง2วาระ 33วัน+7วัน7คืน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    8vatAy.jpg

    thumb-518b_576a5214-jpg-3777382-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    พระขุนแผนเสด็จกลับ หลังดาบฟ้าฟื้น อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน จังหวัดพัทลุง พิมพ์ใหญ่ปีกกว้าง เนื้อว่านสบู่เลือด ผสมผงมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้าง เมื่อปี พ.ศ.2511 เพื่อถวายแด่ พระอาจารย์แดง วัดอุทัยธรรม(วัดเขาถล่ม) จังหวัดชุมพร เพื่อนำไปออกช่วยที่วัดเขาถล่ม และส่วนใหญ่อาจารย์แดง ได้แจกลูกศิษย์ท่านที่ไปทหารภาคใต้ ซึ่งจัดสร้างพร้อมกันกับพระรูปเหมือนอาจารย์ทองเฒ่า และ ปิดตานอโม

    พุทธลักษณะของพิมพ์ คือ
    : ด้านหน้าเป็นพิมพ์พระพุทธปางสมาธิในซุ้มเรือนแก้ว ส่วนด้านหลัง จารึกยันต์อักขระ และดาบไขว้กงจักร

    มีพุทธคุณที่เชื่อกันว่า
    : โดดเด่นมาก ทางด้านมหาอำนาจ, เลื่อนยศ-เลื่อนตำแหน่ง , ประมูลงาน, ด้านการเงินการทอง , การค้าการขายต่างๆมีโชคลาภอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็น มหาเสน่ห์, มหานิยมแก่ผู้ที่ได้เคยใช้ได้บูชามาแล้วมากมาย

    มวลสารที่นำมาสร้างประกอบด้วยผงวิเศษ ดังนี้
    - กรุสุพรรณบุรี-ผงพระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง ผงพระขุนแผนไข่ผ่าซีก ผงพระเนื้อชินกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

    - กรุสุโขทัย-พระเนื้อชิน พระเนื้อดิน กรุวัดมหาธาตุ พระผงหลวงพ่อโต วัดป่ามะม่วง ผงพระกรุวัดช้างล้อม ผงระกรุวัดป่ากล้วย ผงพระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ผงพระกรุวัดพระเชตุพน ฯลฯ

    - กรุพิษณุโลก-ผงพระเนื้อดินเผา วัดสะตือ ผงพระเนื้อดินเผา วัดท่ามะปราง ผงพระเนื้อดินเผา วัดจุฬามณี ผงพระกรุวัดชีปะขาว ผงพระอาจารย์แปลก วัดราชบูรณะ ผงพระกรุวัดนางพญา ผงพระกรุวัดอรัญญิก ผงพระพุทธรูปที่ชำรุด วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

    - กรุนครศรีธรรมราช-ผงพระคัมภีร์พระไตรปิฎก วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ผงตะไคร่พระเจดีย์ทุกองค์ในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ผงพระหักกรุวัดท่าเรือ ผงอิฐพระเจดีย์วัดท่าเรือ ผงพระเนื้อดินเผากรุวัดนางตรา ผงวัดท้าวโคตร ผงว่าน 108 ของพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช

    - กรุเพชรบูรณ์-ผงดินพระหัก เจ้าพ่อหลักเมือง ผงดินพระป่นวัดเสือ ผงดินหักป่นวัดช้างเผือก ผงดินพระหักป่นวัดพระแก้ว ผงดินพระหักป่นวัดมหาธาตุ

    - กรุพัทลุง-ผง ดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำคูหาสวรรค์ ผงอิทธิเจพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) วัดดอนศาลา ผงพระหักป่นวัดเขาเจียก ผงดินท้องถ้ำเขาไชยสน ผงดินดิบสมัยศรีวิชัยถ้ำอกทะลุ

    - กรุลำพูน-ผงพระรอดมหาวัน ผงพระเปิม ผงพระสาม หรือพระตรีกาย และยังมีผงพระกรุอื่นๆ อีกจำนวนมาก ตลอดจนว่านหลายชนิด เช่น

    - ว่านจำพวกเมตตามหานิยม และมหาลาภ ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว ว่านเสน่ห์จันทน์แดง ว่านนางคุ้ม ว่านนางกวัก ว่านเศรษฐี ว่านนางล้อม ว่านโบตั๋น ว่านขอทอง ว่านขอเงิน ว่านขอลาภ ว่านน้ำเต้าทอง ว่านโป๊ยเซียน ฯลฯ

    - ว่านจำพวก คงกระพันชาตรี ว่านสามพันตึง ว่านพระยาดาบหัก ว่านหอกหัก ว่านคางคก ว่านมหาเมฆ ว่านมหานิล ว่านไพลดำ ว่านสบู่เลือด ว่านเพชรตาหลีก ว่านมหากาฬ ว่านมหาปราบ ว่านขมิ้นดำ ว่านสากเหล็ก ว่านเขาควาย ว่านพระเจ้าห้าพะองค์ ว่านหนุมาน ว่านประกายเหล็ก ว่านกระชายดำ ว่านกำแพงเพชรเจ็ดชั้น

    - ว่านจำพวกกำลังมาก ว่านพญาราชสีห์ ว่านเสือ ว่านม้า ว่านนิลล้อม ว่านพญาช้างสาร ว่านพญาช้างชัก ว่านถอนโมกขศักดิ์

    - ว่านจำพวกการสิทธิ์เทวดารักษา ว่านพระจันทร์ ว่านพระอาทิตย์ ว่านพระมเหศวร ว่านพระนารายณ์ ว่านพระนางมาควดี ว่านตาลปัตรฤาษี ว่านแสงไฟ ว่านกายสิทธิ์ ว่านพญานาค ว่านพญาหมอก ว่านไมยราบ ว่านพระฤาษีประสมยา ว่านปู่เจ้าสมิงพราย ว่านปู่เจ้าเขาเขียว

    ว่านที่นำมาเมื่อไปเอาต้องดูฤกษ์ยาม และต้องทำพิธีสังเวยบวงสรวงก่อนจึงนำมาใช้ได้ น้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ที่นำมาประสมว่าน และมวลสาร
    1.น้ำพระพุทธมนต์ในพระราชวังหลวง170ปี
    2.น้ำพระพุทธมนต์ทำสังคายนา 25 พุทธศตวรรษโดยพระเถระทั่วโลก 2500 องค์ประเทศพม่า
    3.น้ำพระพุทธมนต์ 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร
    4.น้ำพระพุทธมนต์ 25 พุทธศตวรรษท้องสนามหลวง
    5.น้ำพระพุทธมนต์ วัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช
    6.น้ำพระพุทธมนต์ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    7.น้ำในสระศักดิ์สิทธ์ต่างๆทั่วประเทศ มีสระแก้ว สระคง สระยมนา สระเกตุ สระจันทร์ สระพังเงิน สระพังทอง สระศักดิ์สิทธิ์จังหวัดเพชรบุรี
    8.น้ำมนต์หลวงพ่อเลื่อม วัดสามแก้ว ชุมพร พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน นครศระรรมราช
    9.น้ำมนต์หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี
    10.น้ำในมหานที9สาย
    11.น้ำในแม่น้ำ108บางทั่วประเทศ

    พิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่ : 1
    - เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2510 ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดบ้านสวน อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยพระคณาจารย์ รวม 108 อาจารย์ เชิญวิญญาณอาจารย์สมภารนอโมและวิญญาณอาจารย์เฒ่า เข้าประทับทรงปลุกเศก เกิดเป็นตัวต่อจำนวน 1,000 ตัว มาปิดรอบปริมณฑลพิธี มีความอัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน รายนามพระคณาจารย์ อาทิ
    1.หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
    2.หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง
    3.หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ
    4.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    5.พระครูกาชาด(บุญทอง) วัดดอนศาลา
    6.หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน
    7.พระไชย วัดบ้านสวน
    8.พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
    9.พระครูกาชาด วัดอินทราวาส
    10.พระอาจารย์เล็ก วัดประดู่เรียง
    นอกจากนั้นยังมีศิษย์ฆราวาสสายวัดเขาอ้อ เช่น อาจารย์ชุม ไชยคีรี นายแจ้ง นายแคล้ว ฯลฯ ได้ปลุกเสกไปจนถึงรวมระยะเวลา 33 วัน

    พิธีพุทธาภิเษก7วัน7คืน วาระที่ : 2
    - เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2511 ประกอบพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ณ วัดถ้ำเขาเงิน จังหวัดชุมพร รายนามพระคณาจารย์ อาทิ
    1.หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
    2.หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง
    3.หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ
    4.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    5.พระครูกาชาด(บุญทอง) วัดดอนศาลา
    6.หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน
    7.พระไชย วัดบ้านสวน
    8.พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
    9.พระครูกาชาด วัดอินทราวาส
    10.พระอาจารย์แดง วัดอุทัยธรรม(วัดเขาถล่ม)
    11.พระครูปลัดพวง วัดประสาทนิกร
    12.ขุนพันธรักษ์ราชเดช
    13.อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน เป็นต้น

    หลังเสร็จพิธี อาจารย์ชุม ได้นำพระไปปล่อยในทะเลปากน้ำหลังสวน ไกลจากพิธีประมาณ 50 กม. แล้วตั้งศาลาปะรำพิธี ขึงผ้าขาวขึ้น สวดอาราธนา บริกรรมคาถาขอให้นาคและเทวดาช่วยนำพระกลับมา แล้วพระเครื่องวัตถุมงคลที่ปล่อยลงในแม่น้ำหรือทะเลในระยะไกลหลายๆกิโลนั้นเสด็จกลับมาปรากฎอีกครั้งหนึ่ง ที่ปะรำพิธี ทีละองค์ๆจนครบถ้วนเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ศาลเทพารักษ์กลางน้ำ มีผ้าขาวขึงไว้กลางอากาศเหนือศีรษะ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เวลาที่พระเสด็จกลับ จะมีสายรุ้งพาดลงมาบนศาลเทพารักษ์ ในขณะที่พระเครื่องวัตถุมงคลกำลังเสด็จกลับมา ก็จะมารวมกันอยู่บนผ้า ผ้านั้นจะค่อยๆตึงหนักขึ้นเรื่อยๆ และมีน้ำไหลออกมา
    ในวันนั้นหลวงพ่อหมุนท่านทราบก่อนเป็นองค์แรกว่าพระกำลังเสด็จมาแล้ว ก็ได้บอกให้ อ.ณรงค์ฤทธิ์ บุตรของท่านอาจารย์ชุม ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเด็ก วิ่งไปบอกให้คนย่ำฆ้องเป็นสัญญาณว่าพระได้เสด็จกลับมาแล้ว

    **** มูลเหตุที่สร้างพระขุนแผนพิมพ์นี้ว่ากันว่าหลวงปู่คงตอนประทับทรงได้สั่งให้สร้างพระพิมพ์นี้ลักษณะนี้ขึ้นครับ และพิืมพ์นี้ยังเป็นต้นแบบของพระผงบารมี คงไชยชุม ที่สร้างขึ้นในปี12-13 ด้วย พระส่วนที่เหลือยังนำไปเสกเพิ่มเติมร่วมกับพิธีที่วัดบ้านสวน ดังนั้นบางท่านได้รับจากวัดบ้านสวนก็มีเช่นกันไม่ใช่เรื่องแปลก

    คาถาพระขุนแผน ของท่านอาจารย์ ชุม ไชยคีรี
    พระขุนแผน เป็นพระที่ทรงคุณทางเลิกรบ เลิกเบียดเบียฬ กันอาวุธทุกชนิดด้วย เมื่อจะใช้ให้ภาวนาคาถานี้
    นะร้องให้ๆ นะมาเข้าหา นะจิตตัง มานิมามา จิตังมานิมามา 3 จบ ทุกครั้ง

    สภาพสวยผิวเดิมๆ คราบฝ้าไขว่านเดิม พระรุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์มากๆครับท่านใดมีไว้บูชา จะพบกับความเจริญรุ่งเรือง พุทธคุณครอบครบทุกด้าน แบ่งให้บูชา 699 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณJae จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2022
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,207
    ค่าพลัง:
    +14,329




    $$$$$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$$$$





    2305.New2 ของดีๆสายหลวงปู่เทพโลกอุดร

    พระศรีอริยเมตไตรย (แบบบรรจุกรุ) หลวงปู่ทองทิพย์ วัดป่าสีดา

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    พระศรีอริยเมตไตรย (แบบบรรจุกรุ) หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร จ.หนองคาย ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2516 พิมพ์พระศรีฯ หลวงปู่บอกให้จัดสร้างครับ โดยหลวงพี่นิล สร้าง 84,000 องค์ มีเก็บไว้สามที่ 1. พระธาตุพนม 2.พระธาตุบังพวน 3.วัดป่าสีดาฯ

    วัดสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร
    บ้านสีทายเหนือ อ.เมือง จ.หนองคาย
    อายุ 111 ปี มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2544
    ประวัติของหลวงปู่ ไม่มีใครรู้รายละเอียดและเปิดเผยได้ เพราะขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านไม่ให้สัมภาษณ์ ห้ามถ่ายรูป และลงเรื่องราวต่างๆ ของท่านในนิตยสารใดๆ ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม
    นักรบธรรมได้รายละเอียดจากอาจารย์ว่า ท่านคือพระเถระโพธิสัตว์เจ้าองค์หนึ่ง ท่านลงมาทำงานด้านศาสนาและเชื่อมแผ่นดินสองฝั่งโขงให้คนมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ก่อนที่จะพ้นคำสาบแช่งของนายศรีโคตรท่านได้ให้ความช่วยเหลือและประสานงานให้ชายคนหนึ่งกับกลุ่มชาวพระยานาคในโลกบาดาลแถวลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีหลวงปู่ศรีสุทโธเป็นหัวหน้า เพื่อฟื้นฟูศาสนาและศิลธรรมในดินแดนล้านช้างหลังจากการเข้าครอบงำของลัทธิสังคมนิยมในปีพ.ศ.2518 เป็นต้นมา จนกระทั่งเมื่อพ.ศ.2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จเปิดสมานมิตรภาพไทย-ลาวเป็นปฐมฤกษ์ บ่งบอกถึงเวลาอันสมควรที่จะต้องลงมือปฏิบัติงานตามหน้าที่แต่ละคน ซึ่งรู้กันเองโดยไม่ต้องมีใครคอยบอก
    นอกจากจะทำให้รัฐบาลสังคมนิยมของ ส.ป.ป.ลาว ยอมรับในพิธีกรรมทางด้านศาสนา เช่นการตักบาตร การบวช ประเพณีงานบุญในฤดูการต่างๆ แล้วท่านยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการทำหน้าที่ปกป้องไม่ให้กลุ่มลัทธิอนุตรธรรม เข้าไปเผยแผ่ลัทธิคำสอนที่บิดเบือนในแผ่นดินของลาวได้และขณะเดียวกันก็ยังช่วยเหลือนักโทษสงคราม MIA หรือกลุ่มนักบินอเมริกันในสมัยสงครามเวียดนามที่ถูกขังในถ้ำแห่งหนึ่งแถบแขวงเชียงขวาง ให้ออกมาและกลับคืนสู่มาตุภูมิได้ 2 คนในปี พ.ศ.2539 อีกด้วย จากที่มีจำนวนมากถึง 650 คน ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่ยังมีชีวิตอยู่
    ก่อนที่หลวงปู่เราจะมรณะภาพนั้น ท่านได้สละวิชาทั้งหมด ทิ้งฤทธิ์เดชทั้งหมด
    มีลูกศิษย์ที่เป็นมาร เมื่อไม่ได้วิชาจึงทำของใส่หลวงปู่
    ครั้งแรกหลวงปู่รอดได้เพราะเพื่อนพระที่เป็นผู้ถอดกายพันปีเหมือนกัน อยู่ที่วัดบ้านเหล่าใหญ่
    คือหลวงปู่อ้อยวัดภูน้อยเทพนิมิต อ.กุฉินารายณ์ กาฬสิน
    หลวงปู่ทองทิพย์ทราบด้วยฌาน จึงให้ลูกศิษย์ไปนิมนต์มาพบ
    เมื่อมาพบแล้วด้วยหลวงปู่อ้อยมียาลักษณะเหมือนเขากวางปะการังไปเหน็บในเอวของ
    หลวงปู่ทองทิพย์ ของที่ทำมาครั้งแรกจึงออก หลวงปู่อ้อยนิมนต์ให้หลวงปู่ทองทิพย์กลับ
    มาใช้ฤทธิ์เหมือนเดิม แต่หลวงปู่ทองทิพย์ไม่รับนิมนต์
    ครั้งสุดท้ายหลวงปู่ทองทิพย์ มีลูกศิษย์พระคนเดิม คนที่อยู่หนองคายนั่นแหละเอาไอติมให้ฉัน หลวงปู่ทองทิพย์
    เองก็รู้ว่าไอ้นี่ใส่ของให้กูกินอีกแล้ว แต่ก็ฉันด้วยความปลงในกรรมเวรนี้
    พอฉันเสร็จ ท่านก็เรียกลูกศิษย์คือหลวงพี่สอน หรือผมเรียกว่าหลงปู่เหมอ มารับไปอยู่ที่วัดบ้าน
    นาบั่ว อ.เรณูนคร จ.นครพนม ก่อนมาท่านบอก
    "สอน..ไปหาเรือมา..พ่อจะนอนในเรือ."
    หลวงปู่เหมอจึงนั่งคิดว่าเอ..แล้วเราจะไปหาเรือมาจากไหน มาให้พ่อเรานอนกันหนอ..
    จึงไปติดต่อซื้อเรือมาจาก อ.ธาตุพนม ซึ่งอยู่ไกลออกไปประมาณ 7-8 กิโลเมตร จะขอซื้อ
    ลำหนึ่ง 10,000 บาท แต่ชาวประมงไม่ขาย ยังไงก็ไม่ขาย
    หลวงปู่เหมอจึงกลับมาที่วัด จุดธูปบอกหลวงปู่ทองทิพย์ว่าคงไม่ได้เรือเพราะเขาไม่ขาย และโทรบอกหลวงปู่ทองทิพย์ตอบเที่ยง หลวงปู่ทองทิพย์หัวเราะแล้วบอก..
    "พรุ่งนี้มันก็เอามาให้เอง..."
    รุ่งเช้าอีกวันเป็นวันที่หลวงปู่ทองทิพย์จะมาวัดแล้ว หลวงปู่เหมอยิ่งร้อนใจ..ประมาณเที่ยงๆ
    ชาวประมงค์นั้นได้ขี่รถมาบอกให้หลวงปู่เหมอไปเอาเรือเลย ให้ฟรีๆ หลวงปู่เหมอแปลกใจมาก
    จึงถามว่าทำไม?
    ชาวประมงบอกว่าผูกเรือล่ามโซ่เอาใว้ แต่หลุด เรือแล่นทวนน้ำโดยไม่มีคนนั่งเลย..
    แล่นทวนน้ำมาจาก อ.ธาตุพนมทวนน้ำโขงขึ้นมาจนถึงสามแยกหน้าทางเข้า อ.เรณูนคร
    เป็นระยะทางกว่า 7 กิโลเมตร ขณะนี้ลอยอยู่กลางน้ำโขงไม่กล้าเข้าไปเอา

    หลวงปู่จึงจ้างรถไปจุดธูปบอกกล่าว เรือนั้นก็หันหัวเข้ามาหาฝั่งเอง
    พอมาถึงวัด พอดีกับหลวงปู่ทองทิพย์มาวัดพอดี เรือกลับไม่ยอมลงจากรถ เอาคนลาก 6-7 คน
    ก็ไม่ขยับ จึงเดินไปบอกหลวงปู่ทองทิพย์ที่รถตู้ หลวงปู่จึงให้จุดธูปบอกอีก คราวนี้พอดึงเรือ
    เรือนั้นก็ไหลลงจากรถ แล้วไถลยาวมาประมาณ 20 เมตรมาจอดตรงกลางศาลาเลย เป็นที่น่า
    อัศจรรย์กับลูกศิษย์ที่มาช่วยกันยกมาก
    เนื่องด้วยหลวงปู่ทองทิพย์ไม่เดินเหยียบดิน หลวงปู่เหมอจึงอุ้มท่านลงมานอนใว้ที่เรือ
    หลวงปู่ทองทิพย์ท่านรู้วาระตัวเอง จึงบอกเป็นนัยๆว่า ถ้าหลวงปู่เหยียบพื้นดินตรงไหน ตรงนั้นจะ
    มีของวิเศษแปลกๆ ออกมามาก บ่อเงิน บ่อทองของหลวงปู่ก็จะไหลมารวมกันตรงนั้น
    หลวงปู่เหมอก็ไม่ขอซักทีจะวันที่ 7 วันสุดท้าย หลวงปู่เหมอนึกได้ว่าท่านเคยบอกใว้ว่าแม้แต่
    อุจจาระของท่านก็จะกลายเป็นทองคำ หลวงปู่เหมอจึงนิมนต์หลวงปู่ทองทิพย์ว่าขออุจจาระ
    เพราะหลวงปู่ทองทิพย์ท่านไม่ถ่ายมานานแล้วประมาณ 4 เดือนไม่รูท่านอยู่ได้ยังไง จึงอยากขอดู
    หลวงปู่ทองทิพย์ท่านจึงให้ไปเอาถังเหลือง สังขทานมาถ่ายให้ ปรากฎว่าถ่ายได้เกินครึ่ง ของถัง
    สังขทาน แต่ไม่เหม็นเลย ย้ำไม่มีกลิ่นเหม็นเลย พอถ่ายเสร็จหลวงปู่เหมอจึงประคองท่านลงมาจากเรือมาทำความสะอาด หลวงปู่ทองทิพย์จึงเหยียบดิน ณ.ที่ตรงนั้น หลวงปู่เหมอจึงพูดยิ้มๆ
    ว่า พ่อหลงกลผมแล้ว พ่อเหยียบดินของผม หลวงปู่ทองทิพย์ก็หัวเราะ..
    วันที่ 8 ท่านกลับวัดที่ หนองคายจึงมรณะภาพไปด้วยความสงบ
    ...เพราะไอติมนั้น...
    ผมจึงเล่ามาจากเรื่องจริงที่อยากบอกว่า ...ลูกศิษย์คิดล้างครูเป็นอย่างนี้เอง..
    ..ผู้เป็นอริยะท่านไม่ใช้ฤทธิ์หนีเวรกรรมอย่างนี้เอง.. ((คัดลอกจากชีวประวัติปฏิปทาของหลวงปู่ทองทิพย์))


    สภาพสวยคราบกรุเดิม เก่าเก็บรักษาอย่างดี ผิวมีลอกมีรานเล็กๆน้อยตามกาลเวลา แต่สภาพนี้ถือว่าสวยสุดๆเเล้วครับ ปกติจะแตกบิ่นรานเต็มองค์เลย พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 789 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 8GtYiQ.jpg
      8GtYiQ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      544.8 KB
      เปิดดู:
      220
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2022
  11. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,207
    ค่าพลัง:
    +14,329
    2306.สุดยอดแร่กายสิทธิ์ พระพุทธชินราชแร่บางไผ่
    ลพ.คูณ,ลป.เฮ็น,ลป.ทิม,ลพ.เมี้ยน,ลพ.เก๋ ปลุกเสกมหาพิธี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    8Jftrf.jpg

    8Jfrcg.jpg
    8FY8sg.jpg
    8FYJU9.jpg

    พระพุทธชินราช พิมพ์สองหน้าฐาน 'ส' เนื้อแร่บางไผ่ แร่วิเศษที่มีความมหัศจรรย์ในตัวเอง วัดนครอินทร์ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2539 จำนวนการสร้าง 10,000องค์

    พิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่ : 1
    - หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เมตตาอธิษฐานจิต ปลุกเสกเดี่ยวก่อนพิธีพุทธาภิเษก ณ. วัดบ้านไร่

    วาระที่ : 2
    - ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดนครอินทร์ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี วันเสาร์ ที่ 6 เมษายน พ.ศ.2539 เวลา 14.00 น.
    โดยมีพระที่นั่งปรก ปลุกเสกดังนี้
    1.หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง
    2. หลวงพ่อทิม วัดพระขาว
    3. หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
    4. หลวงพ่อสร้อย วัดเลียบ
    5. หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ
    6. หลวงพ่ออินทร์ วัดบ้านบัว
    7.หลวงพ่อผล วัดเชิงหวาย
    8. หลวงพ่อทองใบ วัดสายไหม
    และ9.พระอาจารย์สมศักดิ์ ฐตสกโข วัดนครอินทร์
    พระวัดชนะสงคราม 4 รูปสวดพุทธาภิเษกตลอดพิธี



    ### แร่บางไผ่ ###
    แร่วิเศษมหัศจรรย์ ที่มีอยู่เพียงแห่งเดียว ในเมืองไทย คือที่...คลองบางคูรัด จังหวัดนทบุรี ค้นพบโดยหลวงปู่จัน วัดโมลี อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังชาวเขมร ผู้มีวิชาอาคมขลัง เมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว

    หลวงปู่จัน ได้นำแร่วิเศษนี้ มาสร้างเป็นพระปิดตา จนปรากฏชื้อเสียงโด่งดังไปทั่ว วงการพระเครื่องยกย่องเป็น “พระปิดตายอดนิยม” มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นของตัวเองโดยเฉพาะ ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน สนนราคาเช่าหาแพง องค์ละหลายหมื่นบาท จนถึงหลักแสนบาทขึ้นไป และยังมีของปลอมมากอีกด้วย
    หลังจากนั้นไม่เคยปรากฏว่ามีพระเกจิอาจารย์ท่านใด ได้สร้างพระปิดตา ด้วยเนื้อแร่บางไผ่อีก ต่อมาเมื่อพ.ศ.2536 พระอาจารย์สมศักดิ์ ฐิตสกฺโข วัดนครอินทร์ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ผู้เป็นศิษย์ของ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้นิมิตเห็นแหล่งแร่บางไผ่ ที่หลวงปู่จัน ได้เคยนำมาใช้สร้างพระปิดตาในอดีต

    พระอาจารย์สมศักดิ์ จึงได้ตั้งจิตอธิษฐาน ขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง และขอบารมีแห่งหลวงปู่จัน นำแร่ศักดิ์สิทธิ์ นำแร่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้พบนี้ มาสร้างเป็นพระเครื่อง ขึ้นภายในวัดนครอินทร์ จัดพิธีพุทธาภิเษก ขึ้นอย่างถูกต้อง จนพระเครื่องรุ่นนี้ได้รับความนิยมชมชอบ จากศรัทธาสาธุชนโดยทั่วไป ที่ได้มีโอกาสสักการบูชาพระเครื่องรุ่นนี้ และมีประสบการณ์อภินิหารในด้านต่างๆมากมาย สุดจะพรรณนาได้หมดสิ้น จนพระเครื่องที่สร้าง ได้หมดไปทุกพิมพ์ ในเวลาอันรวดเร็ว

    เนื่องจากยังมีผู้ที่ต้องการสักการบูชาพระเครื่อง “เนื้อแร่บางไผ่” อันวิเศษสุดยอดนี้อีก พระอาจารย์สมศักดิ์ จึงได้จัดสร้างพระเครื่อง “เนื้อแร่บางไผ่” ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยให้มีแบบพิมพ์แตกต่างไปจากคราวก่อน เรียกชื่อพระเครื่องรุ่นนี้ว่า พระเครื่องรุ่น “พระสมเด็จแร่บางไผ่”

    การจัดสร้างได้ทำตามแบบเดิมทุกประการคือ นำแร่บางไผ่ ที่งมหาได้จากคลองบางคูรัด มาตำบดเป็นผงแล้วหลอมให้เป็นโลหะเหลว เทลงเบ้าแม่พิมพ์ กดพิมพ์ออกมาเป็นองค์พระทีละองค์ ตกแต่งให้สวยงามคมชัด ทุกขั้นตอนทั้งหมดนี้ พระ- เณร และลูกศิษย์วัดช่วยกันทำภายในวัดนครอินทร์
    ในส่วนของพระเนื้อผง นอกจากมีผงพุทธคุณอันศักดิ์สิทธิ์มากมายแล้ว ยังได้ผสม “ผงแร่บางไผ่” ด้วยทุกองค์ เพื่อให้ครบสูตรแห่งความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ อย่างแท้จริง
    สำหรับพระสมเด็จแร่บางไผ่ฝังตะกรุดทองคำ นับเป็นพระเครื่องรุ่นแรกของเมืองไทย ที่เป็นพระโลหะหล่อแบบโบราณ และมีการฝังตะกรุดทองคำ เพราะก่อนหน้านี้ร้อยปี พันปี ยังไม่เคยมีที่ไหนสร้างมาก่อนเลย

    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - http://oknation.nationtv.tv/blog/pr...CROfCh1WyPATXoOU5ESiLZAACw9r6z781WvRvofo6rsiI

    สภาพสวยเดิมเก่าเก็บ ของดีไม่ต้องบรรยายมากครับ พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 450 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2022
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,207
    ค่าพลัง:
    +14,329
    2307.หายากสวยเดิม กันโจรและอาวุธทั้งพันชนิด
    ภาพถ่ายอัดกระจก หลวงพ่อเขียน วัดบ้านพร้าว

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-a90b_57b724ea-jpg-jpg.jpg

    HBG8Qv.jpg

    ภาพถ่ายขอบแสตมป์อัดกระจก หลวงพ่อเขียน วัดบ้านพร้าวนอก(หลวงน้าผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้กับหลวงปู่มี) จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2507 โดยหลวงปู่มี เขมธัมโม วัดมารวิชัย จังหวัดอยุธยา ภาพถ่ายรุ่นนี้เป็นมงคลวัตถุที่ หลวงปู่มีจารให้มากที่สุดเท่าที่มีการจัดสร้างมา

    สร้างพร้อมภาพถ่ายอัดกระจกรุ่นแรก ของหลวงปู่มี ส่วนภาพถ่ายหลวงพ่อเขียน วัดบ้านพร้าว เป็นภาพที่แจกในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อเขียน ด้านหลังของภาพนี้หลวงปู่มีลงจารยันต์กันโจร หรือยันต์กันอาวุธทั้งพันชนิด " อะ โจ โจ นะ จัง ทัง พัน ทัง ยา ยา นะ อะ " ด้วยปากกาสีน้ำเงิน

    หลวงพ่อเขียน วัดบ้านพร้าว (พระเกจิอาจารย์เมืองดอกบัว) จ.ปทุมธานี ว่ากันว่าหลวงพ่อเขียนรูปนี้เป็นมีวิชาอาคมแก่กล้านัก ชอบเล่นแร่แปรธาตุ มีศักดิ์เป็นหลวงน้าแท้ๆของหลวงพ่อบุญมี แห่งวัดมารวิชัย รูปถ่ายนี้ปัจจุบันหาพบได้ยาก ถือว่าเป็นของดียุคแรกๆ ของหลวงพ่อมี ที่ท่านจัดสร้างด้วยตัวของท่านเอง และลงยันต์กันโจร กันอาวุธพันชนิด ซึ่งในบรรดาวัตถุมงคลต่างๆของหลวงปู่มีจะมีน้อยนักที่หลวงปู่จะลงจารด้วยลาย มือของตัวท่านเอง และจารอักขระได้เยอะมากขนาดนี้

    ข้อมูลหลวงพ่อพร้า : http://www.baanjompra.com/webboard/thread-9804-1-1.html
    ขอขอบพระคุณ : ข้อมูลจาก พี่ออยthaiput แห่งพลังจิต


    สภาพสวยแชมป์ รูปชัดจารครบสวยปิ๊ง จำรอยจารให้ดีๆนะครับต้องแบบนี้ถึงจะทันยุคตัวจริง เก่าเก็บไม่ได้ใช้ ของดีหายากยุคต้นของหลวงปู่มี พุทธคุณและประสบการณ์สูง มหาอุตม์,คงกระพัน,คลาดแคล้วปลอดภัย แบ่งให้บูชา 2,500บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2022
  13. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,207
    ค่าพลัง:
    +14,329
    2308.สวยเดิมๆ กันนิวเคลียร์(๔)
    พระปิดตามหาลาภ หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    8LLE8D.jpg

    yx1s-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    yx1z-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    พระปิดตามหาลาภ เนื้อผงพุทธคุณ ฝังปฐวีธาตุกันนิวเคลียร์ หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2553 โดยพระครูปลัดอรรถสิทธิ์ ชินวโส เจ้าอาวาสวัดศรีมุงเมือง *** จะมีคราบผงขาวๆ เปื้อนอยู่บ้างนะครับ ***

    มวลสารพระปิดตามหาลาภ
    1. ปฐวีธาตุ หลวงพ่อประสิทธิ์
    2. ผงพุทธคุณ พระธาตุเจดีย์นพีสีพิศาลมงคล - ผงเบ้าหลอมพระเจ้าเพชรเงินล้าน
    3. ผงธูปพุทธคุณ เสาร์ 5
    4. ผงดอกไม้ บูชาพระเจ้าเพชรเงินล้าน ตั้งแต่ปี2550-2552 หลวงพ่อประสิทธิ์ เสกทุกวาระที่มีการปลุกเสกพระ
    - งานเสกมวลสารพระเจ้าเพชรศรีมุงเมือง รุ่นแรก และหล่อพระเจ้าเพชรเงินล้าน วิสาขะ 2550
    - งานเสกพระเจ้าเพชรศรีมุงเมืองรุ่นแรก และเสกพระเจ้าเพชรเงินล้าน 5 ธ.ค. 2550
    - งานเสกรูปเหมือนลอยองค์ หลวงพ่อประสิทธิ์ 16 ม.ค. 2552
    - งานกฐินมหากุศล และเสกประเจ้าเพชรเงินล้าน รุ่นแรก 22 ต.ค. 2552
    - งานเสกพระสิวลี (ต่ออายุ) 15 เม.ย.2553
    - งานบรรจุหัวใจ พระสิวลี (ต่ออายุ) 25 ก.ค. 2553 (เป็นองค์พระแล้ว)
    5. ทรายเสก เสาร์ 5
    6. กล้วยน้ำหว้า เสาร์ 5
    7. ข้าวก้นบาตร เสาร์ 5
    8. น้ำมนต์ เสาร์ 5 เป็นต้น

    การอธิษฐานจิต
    - เข้าพิธีอธิษฐานจิตโดยองค์ หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร ณ วัดศรีมุงเมือง เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553


    ปฐวีธาตุหลวงพ่อประสิทธิ์

    ปฐวีธาตุ หรือก็คือธาตุดิน แต่ถ้าบอกว่าปฐวีธาตุเจ้าคุณนรฯ กลับกลายเป็นวัตถุกายสิทธิ์ ที่มีอานุภาพครอบคลุมคุ้มครองผู้บูชาอย่างเอกอุ กันได้กระทั่งกัมมันตภาพรังสี หรือนิวเคลียร์

    สืบต่อจากท่านเจ้าคุณนรฯ ก็มีอีกหลายองค์ที่สามารถทำก้อนหินธรรมดาให้กลายเป็นวัตถุกายสิทธิ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์หลวงปู่ขาว หลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่คำพัน และหลวงปู่อ่อนสา ทุกวันนี้ปฐวีธาตุเหล่านี้ล้วนเป็นตำนาน ที่พอหาได้และมั่นใจ ก็ต้องยกให้ ปฐวีธาตุหลวงปู่คำพัน ที่บรรจุอยู่ในพระเครื่องท่านบางรุ่น และปฐวีธาตุหลวงปู่อ่อนสา ที่บรรจุอยู่ในพระปิดตาสมจินตนา นอกนั้นอาศัยความเชื่อใจทั้งสิ้น หิน เก็บตรงไหนก็เหมือนๆกัน พลังจากเนื้อในหาใช่สิ่งที่ปุถุชน คนเดินดินเช่นเราจะรับทราบ

    หลังจากสิ้นหลวงปู่คำพันก็พอทราบว่าท่านพ่อเมือง ท่านพอทำปฐวีธาตุได้ แต่ปัจจุบันทราบว่าท่านได้งดเสียแล้ว และโบ้ยให้ไปหาปฐวีธาตุหลวงปู่อ่อนสาแทน

    จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
    เพื่อนผมคนหนึ่งได้เข้าไปกราบหลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร ซึ่งบังเอิญวันนั้นท่านเอก เจ้าอาวาสวัดศรีมุงเมือง ก็ได้เข้าไปกราบหลวงพ่อประสิทธิ์เช่นกัน เป็นการไปโดยไม่ได้นัดหมาย เพื่อนผมได้กราบเรียนถามหลวงพ่อประสิทธ์ว่า

    หลวงพ่อครับ หลวงพ่อเคยได้ยินเรื่องปฐวีธาตุท่านเจ้าคุณนรฯ กับหลวงปู่คำพันรึเปล่าครับ
    เคยได้ยินอยู่

    หลวงพ่อทำได้รึเปล่าครับปฐวีธาตุ
    ทำได้อยู่

    เขาว่าปฐวีธาตุท่านเจ้าคุณนรฯ กับหลวงปู่คำพัน กันนิวเคลียร์ได้ ถ้าหลวงพ่อทำจะกันได้เหมือนกันรึเปล่าครับ
    หลวงพ่อพยักหน้ารับ

    ท่านเจ้าคุณนรฯใช้หินบางบ่อ หลวงปู่คำพันใช้หินแม่น้ำโขง ไม่ทราบของหลวงพ่อจะต้องใช้หินที่ไหนครับ
    ปฐวีธาตุก็คือธาตุดิน หินที่ไหนก็ใช้ได้หมด

    หลังจากนั้นท่านเอกก็ได้นำหินชุดแรก ที่มีผู้ศรัทธานำมาจากแม่น้ำโขงชุดแรก
    พร้อมทรายและมงคลวัตถุต่างๆ ไปขอเมตตาหลวงพ่อประสิทธิ์อธิษฐานในวันเสาร์ห้า


    โดยการนำปฐวีธาตุไปอธิษฐาน ได้กราบเรียนขอให้หลวงพ่ออธิษฐาน ให้เป็นปฐวีธาตุเหมือนท่านเจ้าคุณนรฯและหลวงปู่คำพัน
    ซึ่งหลวงพ่อก็พยักหน้ารับ

    แต่เนื่องจากปฐวีธาตุชุดแรกได้แต่หินก้อนใหญ่ ไม่สามารถบรรจุลงในพระได้จึงเกิดปฐวีธาตุชุดที่สอง โดนนำหินจากแม่น้ำโขงเหมือนเดิมแต่เป็นขนาดเล็ก นำมาเข้าพิธีพุทธาภิเศกพระสิวลีเมื่อพญาวันที่ผ่านมา แต่ไม่ได้กราบเรียนเรื่องขอให้อธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุ
    และปฐวีธาตุในชุดที่สองนี้ได้นำมาบรรจุใน พระผงพระเจ้าเพชรเงินล้านพิมพ์หกเหลี่ยม
    ซึ่งหลวงพ่อประสิทธิ์ได้เมตตาอธิษฐานจิต ในวันอาทิตย์ที่25ก.ค.ที่ผ่านมา


    และการขอเมตตาหลวงพ่อในครั้งนี้ได้กราบเรียนหลวงพ่อ
    เรื่องอธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุด้วย
    ซึ่งหลวงพ่อก็เมตตา พยักหน้ารับ



    ปฐวีธาตุ ของดีที่ต้องมีไว้บูชา
    ปฐวีธาตุ เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่มีพลังอิทธิฤิทธิ์ในตัวมันเองตามธรรมชาติ แบ่งออกเป็นตามธาตุต่างๆในธรรมชาติได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่รู้จักและเป็นข่าวกันอย่างหนาหูในช่วงนี้ได้แก่เหล็กไหลที่มีการเรียกตามถ้ำต่างๆนั้นก็คือธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งเช่นกัน ธาตุกายสิทธิ์นี้มีแบบให้คุณและให้โทษแก่ผู้ครอบครองนั้นๆล้วนแล้วแต่ว่าเป็นแบบไหน
    ปฐวีธาตุ เป็นธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งที่มาในลักษณะของหินที่อยู่ในแม่น้ำผ่านการเจียรไนจากธรรมชาติเป็นร้อยหรือพันปีมาแล้ว ปฐวีธาตุมีความใสมาก หากเอามือไปรองจะเห็นมือผ่านหิน เมื่อได้หินนี้มาแล้วต้องผ่านการอธิษฐานจิตจากผู้บรรลุธรรมชั้นสูงจากสายปฎิบัติกรรมฐานเท่านั้น สายอาคมเวทย์มนต์เสกปฐวีธาตุไม่ได้ ปัจจุบันหากจะหาปฐวีธาตุมาบูชาไม่ง่ายนักเพราะมีคนหลอกหากินบนความศรัทธาเอาหินกรวดธรรมดามาหลอกขายเป็นปฐวีธาตุ ดังนั้นจึงไม่เกิดผลอันใดแก่ผู้บูชาเสียเงินเสียทองไปเป็นจำนวนมาก
    ข้อควรรู้เกี่ยวกับปฐวีธาตุ
    - เป็นหินแม่น้ำที่ต้องอยู่ในแม่น้ำที่มีน้ำไหลเท่านั้น มีความโปร่งแสง ค่อนข้างใส
    - เป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุลม
    - ปลุกเสกจากพระปฎิบัติกรรมฐานเท่านั้น ไม่ใช่สายวิชาอาคมแต่อย่างใด เช่น หลวงปู่คำพันธ์ , หลวงพ่อประสิทธิ์ , เจ้าคุณนร
    วิธีบูชาปฐวีธาตุ
    ปฐวีธาตุเป็นของมีฤทธิ์ในตัว บางตำราว่าเป็นหินที่เกี่ยวพันกับพญานาคราช พญานาคได้เตรียมหินเหล่านี้แก่พระอภิญญาเพื่อสร้างเป็นปฐวีธาตุ พระเกจิจึงนำปฐวีธาตุมาสร้างเป็นพระเครื่องรุ่นต่างๆ เช่น หลวงปู่คำพันธ์ ดังนั้นจึงเป็นของมงคลให้ใส่น้ำหรือเอาแช่น้ำ ลอยด้วยดอกมะลิหรือดอกไม้หอมเป็นการบูชาไว้ในที่สูง หรือ ห้องพระเพื่อการกราบไหว้สักการะในแต่ละวัน ขอโชคขอลาภก็ดีทั้งนั้น
    พุทธคุณของปฐวีธาตุ
    ปฐวีธาตุเป็นธาตุกายสิทธิ์ซึ่งจะมีธาตุทั้ง 4 ทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ อยู่ในก้อนเดียวโดยการประจุเสกเข้าไปโดยพระเกจิเมื่อนำปฐวีธาตุมาใช้ให้อธิษฐานจิตเอาตามสุดจะปรารถนา สามารถกันภัยที่เกิดจากภัยธรรมชาติก็ดี เกิดจากมนุษย์ก็ดี ทั้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต (หลวงปู่คำพันธ์บอกว่าสามารถกันกันมันตภาพรังสีได้ทุกชนิด โปรดใช้วิจารณาญานด้วยนะครับ) ปฐวีธาตุที่จะเป็นก้อนเดี่ยวๆเลี่ยมห้อยคอหรือเป็นเม็ดเล็กๆโรยในพระเครื่องก็มีอานุภาพเท่ากัน หากจะหาของแท้ๆมาบูชาต้องหาจากที่มาดีๆจริงๆเท่านั้นครับ
    หากได้ปฐวีธาตุมาบูชาให้แนะนำเลี่ยมแบบเปิดหน้าและหลังให้ปฐวีธาตุให้โดนสัมผัสกับไอร่างกายของผู้ที่บูชาซึ่งจะทำให้เชื่อมจิตและสื่อจิตไปถึงปฐวีธาตุง่ายขึ้น
    คาถาบูชาปฐวีธาตุจุดธูป 7 ดอก
    "นะโม 3 จบ"
    "หิตะรา มันทิโล กะสิรา กะละลาสติ โสจะถิโห คะเนคะเน 3 จบ"


    สภาพสวยเดิมใหม่กริ๊บไม่ผ่านการบูชา พุทธคุณครบครอบ แบ่งให้บูชา 259 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)






    (คุณshaj จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2022
  14. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +6,837
    ขอจองครับ
     
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,207
    ค่าพลัง:
    +14,329

    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,207
    ค่าพลัง:
    +14,329
    2309.พิมพ์หายาก มหาพิธีหลังกึ่งพุทธกาล พระสมเด็จเกศทะลุซุ้ม
    รุ่นบูรพาจารย์ ลป.พิศดู,ลป.ลี,ลป.จันทร์เรียน อธิษฐานจิต 3วัน3คืน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    8LI2r1.jpg

    image-b3ba_58c2479a-jpg-4102054-jpg-4112447-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    image-c6f1_58c2479a-jpg-4102055-jpg-4112448-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    พระสมเด็จเกศทะลุซุ้ม รุ่นบูรพาจารย์ วัดสำราญนิเวศ(ธรรมยุต) จังหวัดอำนาจเจริญ เนื้อผงมหาพุทธคุณโรยผงชนวน สุดยอดศาสตร์แห่งพิธีกรรมโบารณอันยิ่งใหญ่ สมบูรณ์ที่สุดรวมพิธี พุทธศาสตร์ และโหราศาสตร์ไว้เป็นหนึ่งเดียว ที่สุดแห่งการรวบรวมมวลสารอันเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ กว่าหมื่นรายการที่ไม่เคยปรากฏ ณ ที่แห่งใดมาก่อน จัดสร้างและมหาพิธีพุทธาภิเษกเมื่อ วันที่ 12,13,14 สิงหาคม พ.ศ.2548

    พระพุทธปทุมเสมิงบูรพาจารย์
    ตำราการสร้างอันเปี่ยมล้นด้วยศรัทธา วิริยะยอดยิ่ง อีกหนึ่งมรดกแห่ง องค์บูรพาจารย์ ท่านเจ้าคุณอุบาลี คุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) สูงส่งด้วยวัสดุมวลสาร ยากยิ่งด้วยกฎเกณฑ์ ฤกษ์ยามอันจำกัด ด้วยคาถาพรปทุมเสมิงนี้ โบราณจารย์ ตีค่าไว้ 7,000ตำลึงทองตรึกตรองใคร่ครวญพึงทราบได้ว่า ตำราท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ แต่ละวิชา แต่ละประการล้วนแต่สูงส่งลึกซึ้งยากเกินพรรณนาตำราการสถาปนาพระปทุมเสมิงกกล่าวไว้ว่าเมื่อถึงวันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 จงประชุมหมู่ปทุมชาติอันขาวสะอาดจากสระน้ำในพระอารามทั้งหลายไกลและใกล้มุ่งหมายให้ได้9 พระอาราม ดอกบัวหลวงทั้ง 9 สระ มากน้อยประการใดพึงเก็บมาเพียงสระละ 9ดอก คัดตั้งแต่เพียงละอองเกสรนั้น ประกอบเป็นมวงสารขึ้นเป็นองค์ พระพุทธพิมพ์ สำเร็จเป็นพระปทุมเสมิง แล้วบูชาไว้ในสถานที่อันควร อนึ่งบัวหลวงทั้ง ๙สระ จำนวน 81 ดอกเก็บตามจำนวนพระชนม์มายุพระพุทธองค์ เพื่อเป็นพุทธบูชา 80 ดอก เศษอีก 1 ที่เกินเพิ่มไว้เป็นสิริมงคลแก่ผู้สัการะบูชา 81 ดอก จากสระบัวหลวงต่างพระอารามที่ต้องทำให้ครบจำนวน เพื่อ สถาปนาเป็นรูปพระพุทธปทุมเสมิงให้เสร็จสิ้นภายในวันเดียว

    พระคาถาพระพุทธปทุมเสมิง

    “โอมปะทุมะเสมิง นะสาระชะตะกะราเปิง พรหมะหิสสะ
    สัมพุทธะรูปะเปิง จตุเพิงสุมังคละ สะยาสะเนิง สัพพะเชิง ยังขะคะทาทีหิ
    ทุรักเขตตะ อะนาถบิณทิกะตุนนัง อานุภาเวนะพลวะ โลกัสสะมิง
    อะสีติ อะสีกะ คาถาระนะ พานิชชัง คุณะเสวิตัง ตันโปตี ฆาสะมัตตะ
    อะมะพะ อะกะกะ วิชัยยะ สัพพะ สิทธิ สวาหุมะ”
    พระมหาคาถาพระพุทธปทุมเสมิงนี้ โบราณจารย์ตีค่าไว้ 7,000ตำลึงทอง
    ด้วยเหตุนี้การสร้างพระปทุมเสมิง อันเป็นสิ่งที่ยากยิ่งแล้ว การบูชาครอบครอง พระปทุมเสมิงจึงถือเป็นสิริมงคลอย่างที่ยากจะพานพบ นอกเหนือจากการบูชาพระรัตนกตรัยแล้ว การบูชามหาวัตถุมงคลรุ่นบูรพาจารย์ทั้งหลายนี้ ยังเท่ากับเป็นการสร้างศาสนาสถาน 5 ประการ ดังแจ้งไว้ในหมายเหตุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น

    วาระการพิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ 3วัน3คืน

    - เมตตาอธิษฐานจิต โดยเกจิอาจารย์สุดยอดแห่งกองทัพธรรมและ ยอดคณาจารย์เกจิขลังแห่งยุค แผ่บารมีปลุกเสก วัตถุมงคล บูรพาจารย์ ทั้งสิ้น 74 พระองค์ รายนามดังเอกสารแนบด้านบน

    สุดยอดแห่งมหามงคลวัตถุมงคลังศักดิ์สิทธิ์แห่งยุค ตามรอยองค์ครูบูรพาจารย์
    ประมาณปี พุทธศักราช ๒๔๕๘ หลังจากที่ท่านพระอาจารย์เสาร์ และท่านพระอาจารย์มั่น ได้เดินธุดงค์กลับจากฝั่งลาว ท่านพระอาจารย์มั่น ตั้งใจจะกลับบ้านเกิดของท่าน เพื่อโปรดโยมมารดา ที่ บ้านคำบง ระหว่างที่พักอยู่ที่กุดเม็ก ท่านได้นำทองเก่าแก่หลายอย่างมาจากทางฝั่งลาว และฝั่งไทยมาหลอมรวมกันเพื่อเททองหล่อพระพุทธรูปขึ้น ๒ องค์ โดยท่านตั้งเตาหล่อพระ ด้วยตัวท่านเอง พระพุทธรูปสำริดองค์แรก ขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว เป็นฝีมือการหล่อของพระอาจารย์เสาร์ อีกองค์หนึ่งขนาดหน้าตัก ๗ นิ้ว เป็นฝีมือหล่อของท่านพระอาจารย์มั่น ได้นำมาประดิษฐานไว้ที่บ้านเกิดของ ท่านพระอาจารย์มั่น ณ บ้านตำบง ตราบจนถึงปัจจุบัน ยังมีพระพุทธรูปทองสำริดอีกจำนวนสามองค์ที่ท่านพระอาจารย์จันทร์ สิริจันโท ท่านพระอาจารย์เสาร์ ท่านพระอาจารย์มั่นได้ร่วมกันหล่อไว้เป็นอนุสรณ์ซึ่งพระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้มีพุทธศิลป์แบบพื้นบ้าน ประกอบด้วย พุทธลักษณะที่เรียบง่าย สมตามสมณะสารูปอันสมถะสัน โดษของพระป่าโดยแท้ หากแต่แฝงอนุภาพครบถ้วนบริบูรณ์ ด้วยเหตุแห่งเจตนาการสร้าง หล่อหลอมมาจากศรัทธาอันบริสุทธิ์ สำเร็จจากสายสัมพันธ์อันแนบแน่นทั้งในอาจารย์และศิษย์ และในฐานะสหธรรมมิก ผู้เป็นกัลยาณมิตร ชี้แนะซึ่งกันและกัน สามพระอริยะสงฆ์ผู้เป็นองค์บูรพาจารย์แห่งพระสุปฏิปันโนในสายพระธรรมยุต ทั้งหลายทั้งปวงผู้ละแล้วซึ่งวัตถุทั้งหลาย ร่วมกันสถาปนาองค์พระพุทธรูปขึ้นมานั้นนับว่าเป็นนิมิตหมายอันน่าอัศจรรย์อาจจะกล่าวได้ว่ายากที่จะหาพระพุทธรูปใดที่จะทรงไว้ซึ่งคุณค่า เสมอหนึ่งตัวแทนแห่งพระอริยะบูรพาจารย์ได้ครบถ้วน เสมอด้วยพระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้ที่มิมีอีกแล้ว
    และด้วยวาระครบรอบ 201 ปีแห่งการสถาปนาคณะสงฆ์ ธรรมยุตนิกาย และครบรอบ๗๒ ปี ของวัดสำราญนิเวศพระอารามหลวง โดยพระเดชพระคุณท่านพระวิชัยมุนี ดำริเห็นควรเพื่อเจริญศรัทธา ตามรอยบูรพาจารย์ทั้งสามท่าน อันประกอบด้วย พระเถระผู้เป็นดั่งนายกองเสบียงผู้ส่งเสริมทุกวิถีทาง ทั้งทางพุทธจักรแบะอาณาจักร เพื่อยังความเจริญแก่คณะสงฆ์ทั้งมวลจนมั่นคงเป็นปึกแผ่นตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันนั้นนามว่า ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปการมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) อีกสองนามคือท่านพระอาจารย์เสาร์กันตสีโลและท่านพระอาจารย์มั่นภูริทัตโต สามพระอาจารย์ผู้เป็นดังแม่ทัพกองธรรม นำเหล่าศิษย์ยานุศิษย์ ย่างก้าวสู่ทุกแห่งบนแผ่นดินไทย ธุลีละอองจากการย้ำแสวงหาโมกข์ธรรม ตามรอยอริยะมรรคยังคงลอยละล่องตกต้องสู่เศียนเกล้า
    เหล่าศิษย์ให้ก้าวตามอยู่มิขาดสาย ด้วยเหตุที่ว่าพระพุทธรูปอันเนื่องในพระอาจารย์ใหญ่ทั้งสามท่านนี้ เป็นดั่งอนุสรณ์ เป็นประจักษ์พยานถึงความเป็นกัลยาณมิตรผู้ถึงพร้อมใจความเพียร เข้าถึงพระรัตนตรัยครบองค์ ๓ ด้วยเจตนาเพื่อเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าด้วยผู้สร้างเข้าถึงพระธรรม พบวิมมุติโดยแท้จริงด้วยผู้สร้างเป็นสงฆ์ผู้สะอาดบริสุทธิ์
    ด้วยเหตุสำคัญแห่งองค์พระอาจารย์ทั้งสามควรด้วยประการทั้งปวง ที่จะอัญเชิญสถิตในรูปองค์จำลองขนาดย่อส่วนเป็นพระพุทธชัยวัฒน์ สถาปนานามว่า พระพุทธชัยวัฒน์บูรพาจารย์ ซึ่งมีขนาดเล็กพอเหมาะที่ศิษยานุศิษย์ผู้ปรารถนาเจริญรอยตามได้พกพาไว้ติดกาย เพื่อการบูชาคุณองค์บูรพจารย์ทั้งสามจะถึงพร้อมด้วยอามิสบูชาและปฏิบัติบูชาโดยพร้อมมูลวัดสำราญนิเวศ ได้สถปานาพระพุทธบูรพาจารย์โดยประสานด้วยโลหะธาตุ อันเป็นสิริมงคล ส่วนใหญ่ได้มาจาก บรรดาผู้มีจิตศรัทธาถวายมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งใต้ฐานได้จารึก นาม ฉายาขององค์อาจารย์ใหญ่ทั้งสามคือสิริจันโท กันตสีโล ภูริทัตโต พร้อมบรรจุมวลสารอนเป็นมงคลมีความสื่อไปยังทิศทางธรรมปฏิบัติของพระอาจารย์อันมีดินจากภายในถ้ำภูหล่น สถานที่พระอาจารย์เสาร์และพระอาจารย์มั่นได้บำเพ็ญเพียรอยู่เป็นเวลานานถึง ๖ ปี เป็นมวลสารหลักสำคัญมวลสารมงคลอื่น ๆ ก็มีดินจากถ้ำ , พระโมคคัลลานะ สารีบุตร ประเทศอินเดีย ผงพุทธคุณ ๕ ประการ ผงพุทธคุณ ๔๐๐ อาจารย์ผงอังคารธาตุ ผงพระกัมมัฏฐาน และผงพระกรุเก่าที่หัดชำรุดเป็นจำนวนมาก

    - การปรากฏขึ้นอีกครั้งของพระยันต์โบราณ “อาสัพโตนาคพันธ์”
    พระนาคพันธ์ปริวัตร และพระนาคพันธ์พรหมวิหาร จากตำราขององค์บูรพาจารย์ใหญ่ ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ จันทร์ สิริจันโท ผู้เป็นเจ้าของตำราโบราณอันศักดิ์สิทธิ์พิสดารนับแต่พระเศรษฐีนวโกฏิ พระปทุมเสมิง จนถึงสุดยอดมหาวัตถุมงคลอย่าง พระนาคพันธ์ปริวัตร และพระนาคพันธ์พรหมวิหารอันล้ำลึก พระนาคพันธ์ปริวัตร และพระนาคพันธ์พรหมวิหาร จากตำราท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ไม่เคยปรากฏรูปแบบพิมพ์ที่ชัดเจน พระนาคพันธ์ปริวัตร และพระนาคพันธ์พรหมวิหาร อันล้ำลึก ผู้ขนาบกายไปในสามโลกมีขนาดหางโอบเมืองนรก ลำตัวพาดผ่านเมืองมนุษย์ แผ่เศียรปกป้องสวรรค์ 16 ชั้นฟ้า พญานาคพันธ์ ของท่านเจ้าคุณุบาลีฯ เคยปรากฏมีแต่เฉพาะในรูปอักขระมหายันต์และผงวิเศษนาคพันธ์ แต่ยังมีแบบพิมพ์ที่เหมาะสมในการสถาปนาองค์พญานาคพันธ์ขึ้นเป็นมหาวัตถุมงคล ประกอบกับรูปพระพุทธได้อย่างเหมาะควร โดยเหตุที่ว่าพญานาคพันธ์ผู้เป็นใหญ่แห่งลุ่มน้ำโขง อันมีตำนานเกี่ยวพันกับพระธาตุองค์สำคัญอย่างแนบแน่น เพราะมีเรื่องราวสอดคล้องจากคำบอกเล่าจากพระเถระฝ่ายวิปัสสนามาทุกทางสมัยต้นแบบพระพิมพ์นาคพันธ์ปริวัตร และนาคพันธ์ พรหมวิหาร มีมูลเหตุอันน่าอัศจรรย์ นับแต่ต้นแบบศิลปะพิมพ์พระที่พบโดยบังเอิญ บนซุ้มยอดพระธาตุอิงฮัง แขวงสวรรค์เขต ประเทศลาว ซึ่งมีพุทธลักษณะ อุดมคติสมตามอุปเท่ห์ตามพระตำราทุกประการแลที่สำคัญคือยากที่จะหาศิลปะใดในยุคปัจจุบันงดงามหมดจรดเสมอเหมือน

    - ยอดพระมหายันต์และมหาคาถาพญานำยูงทอง
    แต่เดิมครั้งสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่ทรงปฏิเสธความศักดิ์สิทธ์ของ “คาถา” ทรงเคยตรัสกับพระสงฆ์ที่บวชใหม่เมื่อเวลาไปบำเพ็ญภาวนาในสถานที่อันสัปปายะและเก็บความหวาดกลัวต่อภูตผีต่างๆ ก็ให้ภาวนาคาถาบท “อิติปิโสภควา” และยังทรงกล่าวถึงพระคาถาอีกหลายๆ บทด้วยสำหรับพระคาถา”พญานกยูงทอง”ก็เป็นคาถาที่มาจากประวัติของพระโพธิสัตว์ที่ได้เสวยพระชาติเป็น “พญานกยูงทอง” ซึ่งได้มีการท่องคาถาพญานกยงูทองจนทำให้แคล้วคลาดรอดพ้น จากภัยอันตรายต่างๆ มาได้หลายครั้ง ต่อมาคุณวิเศษนี้ก็ปรากฏเป็นที่เลื่องลือจึงมีการนับถือพระคาถาพญานกยูงทองว่ามีความศักดิ์สิทธิ์สามารถดลบันดาลให้เกิดเมตตาโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าได้อีกโสตหนึ่งด้วย “นะโมวิมุต ตานัง นะโมวิมุตติยา”

    ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแต่ผู้วิมุตแล้วทั้งหลาย ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแต่ผู้วิมุตธรรม อนึ่งสำหรับคำว่า” วิมุต” ก็หมายถึง “ผู้หลุดพ้น” หรือ”พระอรหันต์” นั่นเองสำหรับพระวิปัสสนากรรมฐานในสายพระอาจารย์ใหญ่ เมื่อจัดสร้างวัตถุมงคลแล้วอัญเชิญพระคาถาพญานกยูงทองมาประทับไว้ก็มีพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอยู่หลายท่านด้วยกัน อาทิ พระอาจารย์ฝั่น อาจาโร , หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก, พระอาจารย์กว่า วัดบ้านกู่, พระอาจารย์กงมา วัดดอยธรรมเจดีย์,หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล,พระอาจารย์จวน วัดภูทอก,พระอาจารย์บัว วัดป่าหนองแซง,หลวงพ่อพุธ วัดป่าสามวัน, พระอาจารย์มหาโส วัดป่าคีรีวรรณอรัญเขต เป็นต้น จนอาจกล่าวได้ว่าวัตถุมงคลใดที่ประทับด้วยพระคาถา “พญานกยูงทอง” ล้วนแต่สร้างโดย พระกรรมฐานสายพระอาจารย์ใหญ่ทั้งนั้น และด้วยความศักดิ์สิทธิ์อันสำคัญยิ่งของพระคาถานี้ ทางคณะผู้จัดสร้างจึงได้อัญเชิญพระคาถา”พญานกยุงทอง” มาเป็นส่วนผสมและประทับลงบนองค์ วัตถุมงคล รุ่น “บูรพาจารย์”ทุกพิมพ์ทุกเนื้อ!! ตำนานแต่ครั้งอดีตกาลขององค์ครูบูรพาจารย์ กับการสรรสร้างอันสุดล้ำลึก ประยุกต์ด้วยกรรมวิธีอันน่าอัศจรรย์ กับการอัญเชิญมวลสารศักดิ์สิทธิ์บูรพาจารย์ มาประดิษฐานไว้บนองค์พระในมหาวัตถุมงคล “บุรพาจารย์” ทุกเนื้อ!! ทุกพิมพ์!!
    สภาพสวยเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก โรยผงตะไบเพียบ ไม่แตกไม่หักไม่ซ่อม มวลสารดีพิธีใหญ่ พระคณาจารย์ที่ร่วมอธิษฐานจิตล้วนแล้วเป็นที่เคารพและนับถือเป็นอย่างยิ่ง แบ่งให้บูชา 777 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)






    (คุณสิริพงษ์ จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2022
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,207
    ค่าพลัง:
    +14,329
    2310.The last สุดยอดคำเดียว พระรอด พุทโธ พิธีเสด็จกลับปี11
    .ชุม,อ.นำ,ลพ.คง,ลพ.ปาล ประจุพลัง2วาระ 33วัน+7วัน7คืน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    8ef6cP.jpg

    6bil-jpg.jpg
    พระผงพิธีเสด็จกลับ พิมพ์พระรอด เนื้อว่านสบู่เลือด ผสมผงมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้าง เมื่อปี พ.ศ.2511 เพื่อถวายแด่ พระอาจารย์แดง วัดอุทัยธรรม(วัดเขาถล่ม) จังหวัดชุมพร เพื่อนำไปออกช่วยที่วัดเขาถล่ม และส่วนใหญ่อาจารย์แดง ได้แจกลูกศิษย์ท่านที่ไปทหารภาคใต้ ซึ่งจัดสร้างพร้อมกันกับพระรูปเหมือนอาจารย์ทองเฒ่า และ ปิดตานอโม

    มีพุทธคุณที่เชื่อกันว่า
    : โดดเด่นมาก ทางด้านมหาอำนาจ, เลื่อนยศ-เลื่อนตำแหน่ง , ประมูลงาน, ด้านการเงินการทอง , การค้าการขายต่างๆมีโชคลาภอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็น มหาเสน่ห์, มหานิยมแก่ผู้ที่ได้เคยใช้ได้บูชามาแล้วมากมาย

    มวลสารที่นำมาสร้างประกอบด้วยผงวิเศษ ดังนี้
    - กรุสุพรรณบุรี-ผงพระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง ผงพระขุนแผนไข่ผ่าซีก ผงพระเนื้อชินกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

    - กรุสุโขทัย-พระเนื้อชิน พระเนื้อดิน กรุวัดมหาธาตุ พระผงหลวงพ่อโต วัดป่ามะม่วง ผงพระกรุวัดช้างล้อม ผงระกรุวัดป่ากล้วย ผงพระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ผงพระกรุวัดพระเชตุพน ฯลฯ

    - กรุพิษณุโลก-ผงพระเนื้อดินเผา วัดสะตือ ผงพระเนื้อดินเผา วัดท่ามะปราง ผงพระเนื้อดินเผา วัดจุฬามณี ผงพระกรุวัดชีปะขาว ผงพระอาจารย์แปลก วัดราชบูรณะ ผงพระกรุวัดนางพญา ผงพระกรุวัดอรัญญิก ผงพระพุทธรูปที่ชำรุด วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

    - กรุนครศรีธรรมราช-ผงพระคัมภีร์พระไตรปิฎก วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ผงตะไคร่พระเจดีย์ทุกองค์ในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ผงพระหักกรุวัดท่าเรือ ผงอิฐพระเจดีย์วัดท่าเรือ ผงพระเนื้อดินเผากรุวัดนางตรา ผงวัดท้าวโคตร ผงว่าน 108 ของพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช

    - กรุเพชรบูรณ์-ผงดินพระหัก เจ้าพ่อหลักเมือง ผงดินพระป่นวัดเสือ ผงดินหักป่นวัดช้างเผือก ผงดินพระหักป่นวัดพระแก้ว ผงดินพระหักป่นวัดมหาธาตุ

    - กรุพัทลุง-ผง ดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำคูหาสวรรค์ ผงอิทธิเจพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) วัดดอนศาลา ผงพระหักป่นวัดเขาเจียก ผงดินท้องถ้ำเขาไชยสน ผงดินดิบสมัยศรีวิชัยถ้ำอกทะลุ

    - กรุลำพูน-ผงพระรอดมหาวัน ผงพระเปิม ผงพระสาม หรือพระตรีกาย และยังมีผงพระกรุอื่นๆ อีกจำนวนมาก ตลอดจนว่านหลายชนิด เช่น

    - ว่านจำพวกเมตตามหานิยม และมหาลาภ ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว ว่านเสน่ห์จันทน์แดง ว่านนางคุ้ม ว่านนางกวัก ว่านเศรษฐี ว่านนางล้อม ว่านโบตั๋น ว่านขอทอง ว่านขอเงิน ว่านขอลาภ ว่านน้ำเต้าทอง ว่านโป๊ยเซียน ฯลฯ

    - ว่านจำพวก คงกระพันชาตรี ว่านสามพันตึง ว่านพระยาดาบหัก ว่านหอกหัก ว่านคางคก ว่านมหาเมฆ ว่านมหานิล ว่านไพลดำ ว่านสบู่เลือด ว่านเพชรตาหลีก ว่านมหากาฬ ว่านมหาปราบ ว่านขมิ้นดำ ว่านสากเหล็ก ว่านเขาควาย ว่านพระเจ้าห้าพะองค์ ว่านหนุมาน ว่านประกายเหล็ก ว่านกระชายดำ ว่านกำแพงเพชรเจ็ดชั้น

    - ว่านจำพวกกำลังมาก ว่านพญาราชสีห์ ว่านเสือ ว่านม้า ว่านนิลล้อม ว่านพญาช้างสาร ว่านพญาช้างชัก ว่านถอนโมกขศักดิ์

    - ว่านจำพวกการสิทธิ์เทวดารักษา ว่านพระจันทร์ ว่านพระอาทิตย์ ว่านพระมเหศวร ว่านพระนารายณ์ ว่านพระนางมาควดี ว่านตาลปัตรฤาษี ว่านแสงไฟ ว่านกายสิทธิ์ ว่านพญานาค ว่านพญาหมอก ว่านไมยราบ ว่านพระฤาษีประสมยา ว่านปู่เจ้าสมิงพราย ว่านปู่เจ้าเขาเขียว

    ว่านที่นำมาเมื่อไปเอาต้องดูฤกษ์ยาม และต้องทำพิธีสังเวยบวงสรวงก่อนจึงนำมาใช้ได้ น้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ที่นำมาประสมว่าน และมวลสาร
    1.น้ำพระพุทธมนต์ในพระราชวังหลวง170ปี
    2.น้ำพระพุทธมนต์ทำสังคายนา 25 พุทธศตวรรษโดยพระเถระทั่วโลก 2500 องค์ประเทศพม่า
    3.น้ำพระพุทธมนต์ 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร
    4.น้ำพระพุทธมนต์ 25 พุทธศตวรรษท้องสนามหลวง
    5.น้ำพระพุทธมนต์ วัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช
    6.น้ำพระพุทธมนต์ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    7.น้ำในสระศักดิ์สิทธ์ต่างๆทั่วประเทศ มีสระแก้ว สระคง สระยมนา สระเกตุ สระจันทร์ สระพังเงิน สระพังทอง สระศักดิ์สิทธิ์จังหวัดเพชรบุรี
    8.น้ำมนต์หลวงพ่อเลื่อม วัดสามแก้ว ชุมพร พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน นครศระรรมราช
    9.น้ำมนต์หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี
    10.น้ำในมหานที9สาย
    11.น้ำในแม่น้ำ108บางทั่วประเทศ

    พิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่ : 1
    - เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2510 ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดบ้านสวน อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยพระคณาจารย์ รวม 108 อาจารย์ เชิญวิญญาณอาจารย์สมภารนอโมและวิญญาณอาจารย์เฒ่า เข้าประทับทรงปลุกเศก เกิดเป็นตัวต่อจำนวน 1,000 ตัว มาปิดรอบปริมณฑลพิธี มีความอัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน รายนามพระคณาจารย์ อาทิ
    1.หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
    2.หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง
    3.หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ
    4.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    5.พระครูกาชาด(บุญทอง) วัดดอนศาลา
    6.หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน
    7.พระไชย วัดบ้านสวน
    8.พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
    9.พระครูกาชาด วัดอินทราวาส
    10.พระอาจารย์เล็ก วัดประดู่เรียง
    นอกจากนั้นยังมีศิษย์ฆราวาสสายวัดเขาอ้อ เช่น อาจารย์ชุม ไชยคีรี นายแจ้ง นายแคล้ว ฯลฯ ได้ปลุกเสกไปจนถึงรวมระยะเวลา 33 วัน

    พิธีพุทธาภิเษก7วัน7คืน วาระที่ : 2
    - เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2511 ประกอบพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ณ วัดถ้ำเขาเงิน จังหวัดชุมพร รายนามพระคณาจารย์ อาทิ
    1.หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
    2.หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง
    3.หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ
    4.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    5.พระครูกาชาด(บุญทอง) วัดดอนศาลา
    6.หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน
    7.พระไชย วัดบ้านสวน
    8.พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา
    9.พระครูกาชาด วัดอินทราวาส
    10.พระอาจารย์แดง วัดอุทัยธรรม(วัดเขาถล่ม)
    11.พระครูปลัดพวง วัดประสาทนิกร
    12.ขุนพันธรักษ์ราชเดช
    13.อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน เป็นต้น

    หลังเสร็จพิธี อาจารย์ชุม ได้นำพระไปปล่อยในทะเลปากน้ำหลังสวน ไกลจากพิธีประมาณ 50 กม. แล้วตั้งศาลาปะรำพิธี ขึงผ้าขาวขึ้น สวดอาราธนา บริกรรมคาถาขอให้นาคและเทวดาช่วยนำพระกลับมา แล้วพระเครื่องวัตถุมงคลที่ปล่อยลงในแม่น้ำหรือทะเลในระยะไกลหลายๆกิโลนั้นเสด็จกลับมาปรากฎอีกครั้งหนึ่ง ที่ปะรำพิธี ทีละองค์ๆจนครบถ้วนเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ศาลเทพารักษ์กลางน้ำ มีผ้าขาวขึงไว้กลางอากาศเหนือศีรษะ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เวลาที่พระเสด็จกลับ จะมีสายรุ้งพาดลงมาบนศาลเทพารักษ์ ในขณะที่พระเครื่องวัตถุมงคลกำลังเสด็จกลับมา ก็จะมารวมกันอยู่บนผ้า ผ้านั้นจะค่อยๆตึงหนักขึ้นเรื่อยๆ และมีน้ำไหลออกมา
    ในวันนั้นหลวงพ่อหมุนท่านทราบก่อนเป็นองค์แรกว่าพระกำลังเสด็จมาแล้ว ก็ได้บอกให้ อ.ณรงค์ฤทธิ์ บุตรของท่านอาจารย์ชุม ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเด็ก วิ่งไปบอกให้คนย่ำฆ้องเป็นสัญญาณว่าพระได้เสด็จกลับมาแล้ว

    **** มูลเหตุที่สร้างพระขุนแผนพิมพ์นี้ว่ากันว่าหลวงปู่คงตอนประทับทรงได้สั่งให้สร้างพระพิมพ์นี้ลักษณะนี้ขึ้นครับ และพิืมพ์นี้ยังเป็นต้นแบบของพระผงบารมี คงไชยชุม ที่สร้างขึ้นในปี12-13 ด้วย พระส่วนที่เหลือยังนำไปเสกเพิ่มเติมร่วมกับพิธีที่วัดบ้านสวน ดังนั้นบางท่านได้รับจากวัดบ้านสวนก็มีเช่นกันไม่ใช่เรื่องแปลก

    สภาพสวยผิวเดิมๆ คราบฝ้าไขว่านเดิม พระรุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์มากๆครับท่านใดมีไว้บูชา จะพบกับความเจริญรุ่งเรือง พุทธคุณครอบครบทุกด้าน แบ่งให้บูชา 350 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณshaj จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2022
  18. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,585
    ค่าพลัง:
    +30,871
    5485.gif
     
  19. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +6,837
    ขอจองครับ
     
  20. สิริพงษ์

    สิริพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2017
    โพสต์:
    328
    ค่าพลัง:
    +356
    จองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...