พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ปิดแล้ว



พระผงรูปเหมือนกรมหลวงชุมพร เนื้อผง รุ่นหมอน้อม

ขออนุญาตเจ้าของข้อมูล คนวันศุกร์ เเละขอขอบคุณ Pornchai Changchai ทีส่งข้อมูลให้ครับ

รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ สุดยอดพุทธคุณ ราคาไม่เเรง สุดยอดครับ

#ตีแผ่เรื่องจริง!!!


สำหรับพระเนื้อว่านกรมหลวงรุ่นนี้ มีชื่อเรียกว่ารุ่น "หมอน้อม" มีประสพการณ์เกิดขึ้นมากมายกับรุ่นนี้ วันนี้จะนำเรื่องราวบางส่วนมาเปิดเผยให้ทราบกัน
สำหรับการสร้างรุ่นนี้ ดำเนินการสร้างโดยหมอน้อมและกรรมการเพื่อหาทุนทรัพย์ ก่อสร้างและปรับปรุง "สำนักสงฆ์หาดทรายรี" ที่หมอน้อมเป็นผู้ริเริ่มและก่อสร้าง (วัดเขตรอุดมศักดิ์)ในเวลาต่อมาโดยได้ดำเนินการสร้างโดยได้ติดต่อขอเนื้อหามวลสารหลักคือ เนื้อว่านที่จัดสร้างหลวงพ่อทวดจากวัดบางนอน ดินขุยปู ตะไบจากพระกรุเก่าโบราณ และว่านยาต่างๆที่เก็บสะสมและมีผู้นำมามอบให้ ทำการกดพิมพ์พระภายในศาลเดิม(ศาลล่าง)และที่สำนักสงฆ์หาดทรายรี โดยในวันงานมีการตั้งบวงสรวง มีการตั้งศาลแบบสี่เสา พร้อมเครื่องสังเวย ในวันพิธีมีการนิมนต์พระมาสวด ชัยมงคลคาถา ไม่มีการปลุกเสกใดๆโดยในขณะที่กำลังอ่านโองการและอัญเชิญเทวดา "ตาเสือ"ร่างทรงของท่าน จู่ๆก็ได้วิ่งขึ้นมาจากทะเลโดยไม่มีใครทราบว่ามาอย่างไร วิ่งมาถึงก็วิ่งไปนั่งบนถ้วยจานที่วางสักการะโดยที่ไม่มีถ้วยไหนหกหรือแตกเลย และกระโดดขึ้นไปนั่งบนศาลสี่เสา(คล้ายศาลเพียงตา) โดยที่ศาลนั้นมีขนาดเล็กและไม่แข็งแรงนัก แต่ตาเสือสามารถขึ้นไปนั่งได้ โดยในขณะทรง ได้ใช้มือกวนในบาตร(กรมหลวงใส่ในบาตรพระตั้งไว้) แล้วเรียกให้ตำรวจหรือผู้มีปืนนำปืนออกมายิง โดยมือซ้ายจะกำพระไว้แล้วใช้มือขวายิงไล่ตั้งแต่บริเวณหัวไหล่ซ้าย ลงไปจนสุดมือที่กำพระไว้ ปรากฏเสียงดังเพียง เปรี้ย. เปรี้ย เท่านั้น เมื่อยิงสุดมือจะหันกระบอกขึ้นฟ้า จะดังทุกนัด สร้างความประหลาดใจกับทุกคนโดยเฉพาะตำรวจที่ไปอยู่ในพิธีหลายท่าน เพราะใครที่พกปืนไปจะถูกสั่งให้ยิงหมดทุกคน น่าแปลกที่ว่า แล้วร่างทรงตาเสือรู้ได้อย่างรัยว่าใครพกปืนไป เพราะตาเสือสามารถชี้นายตำรวจท่านนึงได้อย่างถูกต้องว่าทำไมยังไม่ยิง(จ่า นิพนธ์ ฐินะกุล)ขออนุญาติเอ่ยนาม. มาทราบภายหลังว่า ที่ท่านไม่ยิงด้วยพกกระสุนไปเพียง 2 นัด แต่แปลกที่ตาเสือชี้มาและบอกให้ว่ามีเท่าไรยิงเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากๆและปรากฏว่าก็ยิงไม่ออกเหมือนกัน สำหรับจำนวนการสร้างประมาณ 10,000 องค์ เพราะให้ทำบุญเพียงองค์ละ 10บ.แต่สามารถรวบรวมเงินได้นับแสนบาทในสมัยนั้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยมีใครได้ทราบมากนัก เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง และขอขอบพระคุณ คุณแม่ บุญนาค เขียนเล่ง ซึ่งเล่าเหตุการณ์ในงานพิธีมาโดยละเอียด เพราะท่านเป็นบุตรสาวของหมอน้อม และในวันพิธีรับหน้าที่ทำขนมโคเพื่อใช้ในพิธีสักการะ จึงเห็นเหตุการณ์มาโดยตลอด และกรุณาหยิบกรมหลวงรุ่นนี้ที่ได้มาในวันงานให้ถ่ายรูป จึงนำมาให้เรียนรู้กัน by คน วันศุกร์

 

ปิดครับ

พระกริ่งปั้มภัยนิรันดร์หลวงพ่อเส้ง วัดแหลมทราย จ.สงขลา ปี2504

เป็นพระกริ่งที่ไม่ค่อยจะพบกันบ่อยนัก นานๆจะพบเจอสักองค์ คงเป็นเพราะจำนวนการสร้างไม่มากเหมือนการสร้างพระเหรียญ กริ่งดังกังวาน พระภัยนิรันดร์รุ่นนี้ได้สร้างเมื่อ ปี พ.ศ. 2504 พร้อมพระภควัมบดีโสฬสมงคล (พระปิดตา รุ่น 2) มีลักษณะ เป็นพระกริ่งขนาดเล็ก เนื้อโลหะทองผสมรมดำ ซึ่งองค์พระได้จำลองมาจากพระประธานในพระอุโบสถวัดแหลมทราย เท่าที่พบเห็นจะมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่ 1. เป็นพระกริ่งลอยองค์ ด้านหน้าองค์พระ มีคำว่า “ภัยนิรันต์” อยู่ที่ฐานล่าง ส่วนด้านหลังตรงฐานพระด้านล่าง จะมีคำว่า “วล ทราย” ส่วนใต้ฐานองค์พระ จะเรียบ ไม่มีโค๊ต 2. รูปลักษณะด้านหน้าคล้ายแบบแรก แต่ด้านหลังตรงฐานล่างไม่มีตัวอักษรคำว่า “วล.ทราย” แต่ใต้ฐานองค์พระ จะมีตอกโค๊ตว่า “วล ทราย” นับได้ว่าเป็นของดีที่ราคายังไม่แพงมากนัก แต่อนาคตไม่แน่ องค์นี้รมดำเดิมๆในกรอบรับประกันแท้สากล

บูชา 1,500 บาท

 

ปิดแล้วครับ



รูปหล่อเหมือนอุดกริ่ง หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง จ.นครปฐม ปี 2539 รุ่นกองทัพบกสร้าง เนื้อทองแดงรมดำ ก้นด้านล่างปิดด้วยแผ่นยันต์ทองแดงพญาเต่าเรือน สภาพสวยเลี่ยมเดิมๆ

บูชา 3,500 บาท

รูปหล่อเหมือนอุดกริ่ง หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง จ.นครปฐม ปี 2539 รุ่นกองทัพบกสร้าง เนื้อทองแดงรมดำ ก้นด้านล่างปิดด้วยแผ่นยันต์ทองแดงพญาเต่าเรือน สภาพสวย รูปหล่อเหมือนอุดกริ่ง หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง จ.นครปฐม ปี 2539 รุ่นกองทัพบกสร้าง เนื้อทองแดงรมดำ ก้นอุดเม็ดกริ่งใต้ฐาน ปิดด้วยแผ่นยันต์ทองแดงพญาเต่าเรือน เป็นเอกลักษณ์ สภาพสวยมาก หายากมาก พุทธคุณดี ด้านค้าขาย เมตตามหานิยม อุดมด้วยโชคลาภ รุ่นนี้ถือเป็น *** ของดีราคาถูก *** ที่น่าสะสมเป็นอย่างยิ่ง ขลังมาก น่าเก็บมาก
ข้อมูลการสร้าง
- จัดสร้างโดยกองทัพบก พ.ศ. 2539 รูปหล่อเหมือนอุดกริ่ง ลอยองค์หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง "รุ่นพระพุทธเจ้าปางเปิดโลก" เนื้อทองแดงรมดำ
- วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2539 สมเด็จพระมหาธีรจารย์ วัดชนะสงคราม รับบัญชา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ เป็นประธานเททอง ณ บริเวณหน้าองค์พระพุทธมณฑล
- วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2539 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเททอง ณ บริเวณหน้าองค์พระพุทธมณฑล เวลา 15.00 น.

 

ปิดครับ



พระร่วงหลังรางปืน เนื้อเมฆพัตร ปี17 หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม

บูชา 3,000 บาท

พระชุดที่ออกในโบชัวเมื่อคราวเปิดให้บูชาวัตถุมงคล หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม โดยมีสมเด็จเนื้อแร่ 3เนื้อออกให้บูชาเป็นชุดๆล่ะ700บาท มีงิ้วดำ สักเหลือง จันทร์แดง และแบบเหรียญ รวมถึงเหรียญรุ่นพิเศษ เหรียญพระนางพญา กริ่งหนุมาน พระสังกัจจายน์ พระร่วง พระปิดตายันต์ยุ่ง รูปหล่อโบราณ ล็อกเก็ตรูปเหมือน พระสมเด็จสรงน้ำ พระปิดตาสรงน้ำและชุดพระบูชา
( เมื่อหลวงปู่เม้ามรณะภาพแล้ว ทางคณะกรรมการได้นำไหที่บรรจุวัตถุมงคลของหลวงปู่เม้า เปิดให้ประชาชนบูชาเพื่อนำปัจจัยมาสร้งพระอุโบสถวัดสี่เหลี่ยมให้แล้วเสร็จ โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเป็นองค์ประธานเปิดไห มีวัตถุมงคลที่อยู่ในไหหลายอย่าง อาทิรูปหล่อโบราณ พระปิดตา หนุมาน สมเด็จ เหรียญ กริ่งเชียงแสน ล็อกเก็ต เป็นต้น...ถ้าไม่นับวัตถุมงคลที่เป็นเนื้อทองคำแล้ว เนื้อเมฆพัตร และเนื้อสำริดเป็นเนื้อที่ออกให้เช่าบูชาแพงที่สุด )

...หลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนยาวถึง 102ปี บารมีแก่กล้า วาจาศักด์สิทธิ์(ในปากท่านเป็นลิ้นดำ)เป็นพระอริยสงฆ์ที่มีเมตตาธรรมขั้นสูงสุด ที่รู้อดีตปัจจุบันและอนาคต ท่านเป็นพระวัดบ้านป่าที่คนระดับหม่อมราชวงค์และนายกรัฐมนตรี ให้ความเคารพนับถือ พระดังๆทั่วประเทศมีมากมายแต่นายกรัฐมนตรีสัญญาธรรมศักดิ์ เลือกที่จะนิมนต์พระป่าอย่างหลวงปู่เม้าลงไปช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยที่ทำเนียบให้แก่บ้านเมือง...มีพระอุปัชฌาย์คือ หลวงพ่อเพียร วัดถนนหัก และเคยออกธุดงค์กับหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย...เป็นพระที่มีศีลบริสุทธิ์และเรืองวิทยามีทยานจิตสูง ท่านครองผ้าเหลืองตั้งแต่เป็นเณรด้วยจริยาวัตรที่หมดจดงดงาม ไม่บกพร่องด่างพร้อยแต่ประการใด อีกทั้งเป็นพระเถระที่มีความเชี่ยวชาญในวิทยาคม และเคร่งครัดในการวิปัสสนากรรมฐานที่สูงอีกรูปหนึ่ง ด้วยชื่อเสียงกิติศักดิ์เป็นที่เลื่องลือในหมู่ชนทุกๆถิ่นฐานท่าน จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ท่านได้เดินทางมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เม้า และเลื่อมใสเคารพศรัธานับถือหลวงปู่เม้ามาก...เมื่อตอนท่านมีอายุครบ 100 ปี ท่านก็ยังเดินได้คล่องไม่แพ้คนหนุ่ม ซึ่งนับว่าท่านเป็นพระเถระที่มีอายุยืนและมีวาสนามาก...ในปีพ.ศ. 2517 พ.อ.พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร(ประธานจัดสร้างลป.ทวดเนื้อโลหะปี05)ท่านยัง ทรงเป็นประธานจัดสร้างพระถวายหลวงปู่เป็นพิเศษ...นั่นก็คือหนุมาน-รูปหล่อ-เหรียญรุ่นพิเศษ และผ้ายันต์ ***เนื่องด้วยหม่อมท่านโปรดปรานหนุมาน และต้องการจะทำหนุมาน โดยทราบถึงความเข้มขลังในเวทวิยาคม ในเรื่องวิชาการสร้างและเสกหนุมานของหลวงปู่เม้า*** นอกจากความรู้ต่างๆที่มี หลวงปู่เม้าท่านยังชำนาญเรื่องภาษาเขมรท่านได้นำเอาพระคาถามหาเศรษฐีเป็น ลายแทงจากแผ่นศิลาจารึกอักษรขอมจากปราสาทเขาพนมรู้งมาศึกษาแล้ว นำมาใช้กับวัตถุมงคลที่ท่านทำแจกลูกศิษย์ท่าน อีกทั่งท่านยังเป็นพระสหมิกธรรมกลับคูรบาอาจารย์ในจังหวัดบุรีรัมย์ รวมทั้งหลวงปู่สุขวัด โพธิ์ทรายทอง อีกทั้งหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ด้วย...พระวัดบ้านป่าอีกรูปที่ผมเคารพนับถือ( ให้ทั่วประเทศรู้ว่าพระบ้านเรามีดี )

( เมฆพัตร-เมฆพัด )

โลหะที่ได้จากการเล่นแร่แปรธาตุตามตำราของไทยโบราณ เชื่อว่าเป็นธาตุกายสิทธิ์มีฤทธานุภาพในตัวเอง โลหะที่มีสีดำอมเหลือบม่วง เงางาม เกิดจากการผสมโลหะหลายๆชนิดเข้าด้วยกัน...เมฆพัตรเป็นส่วนผสมของตะกั่วและทองแดง มีกรรมวิธีการสร้างที่ซับซ้อน ในระหว่างหลอมต้องผสมตัวยาหลายชนิดมีกำมะถัน ปรอท และว่านยาได้แก่ ไพลดำ ต้นหิงหาย ไม้โมกผา ขิงดำ กระชายดำ สบู่แดง สบู่เลือด เป็นต้น ซัดเข้าไปในเบ้าหลอม พอสำเร็จจะได้โลหะสีดำเป็นมันเงาเลื่อมพราย แต่เปราะและแตกง่าย พระคณาจารย์แต่โบราณนิยมหลอมเมฆพัตรมาทำเป็นพระเครื่อง อาทิ พระครูปัจฉิมทิศบริหาร (นาค โชติโก) วัดห้วยจระเข้ นครปฐม และพระอาจารย์ทับ วัดอนงคาราม

"เมฆพัตร" นั้น ตำราทางไสยศาสตร์เรียกว่า "โลหะธาตุกายสิทธิ์" เป็นโลหะที่สำเร็จขึ้นด้วยกรรมวิธีการนำเอา "แร่ธาตุ" บางชนิดมาหลอมรวมกันในเบ้าโดยมี "น้ำว่าน" บางชนิดเป็นส่วนผสม อีกทั้งมีการบริกรรมคาถาปลุกเสกไปตลอดของการหลอมผสมแร่ธาตุ และซัดด้วยน้ำว่านนี้ เมื่อสำเร็จออกมาจึงเป็นเนื้อโลหะที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว เมื่อนำมาสร้างวัตถุมงคลก็จะยิ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นไปอีกเป็นพิเศษ...นั่นคือคุณวิเศษของเนื้อเมฆพัตรที่สร้างถูกต้องตามกรรมวิธีการสร้างตามตำราโบราณ

 

ปิดครับ



สมเด็จหลวงปู่เทียน หลังวัดโบสถ์ จ.ปทุมธานี ก้นฝังตะกรุดตะกั่ว 2 ดอก

บูชา 1,500 ยาท

ท่านเป็นพระเกจิอีกรูปหนนึ่งที่เรืองเวทย์ยิ่ง วัตถุมงคลของท่านทุกชนิดล้วนมีพลานุภาพครบเครื่อง แต่ราคายังเบา

 

ขอจองครับ

 

ปิดแล้วครับ



แหวนหลวงพ่อทวดรูปโล่ห์ วัดช้างให้ รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้านี้ ด้านหลังเป็นยันต์ภาษาบาลีปั๊มลงไปในเนื้อโลหะ อ่านได้ว่า “นะ มะ พะ ทะ” ซึ่งเป็นที่นิยมเรียกกันโดยทั่วไปว่า “รุ่นยันต์จม”

แหวนรุ่นนี้บ้างมียันต์ “อุ” นูนขึ้นมาด้านบนเหนือยันต์ นะ มะ พะ ทะ บ้างก็มีอักษรไทยอ่านได้ว่า “พระราชเขมากร”อยู่เบื้องล่างยันต์ นะ มะ พะ ทะ โดยส่วนมากแหวนรุ่นนี้ มียันต์อุ หรืออักษร พระราชเขมากร อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างปรากฎด้านหลัง (ดูภาพประกอบ) เนื่องจากขบวนการปั๊มขึ้นรูปพระต้องปั๊มหลายครั้ง จึงจะทำให้แหวนออกมาสมบูรณ์ มีผลให้ทั้งยันต์ อุ และอักษร พระราชเขมากร ด้านหลังแหวนบี้แบนมากขึ้นตามจำนวนครั้งที่ปั๊ม ทำให้เห็นชัดบ้างไม่ชัดบ้าง แหวนบางวงเห็นรางๆ หรือไม่เห็นเลย จากทั้งอักษรไทยและภาษาบาลีดังกล่าว เมื่อไปสืบสาวหาความจริง ปรากฎว่า นาม “พระราชเขมากร” เป็นชื่อสมณศักดิ์ของเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร รูปหนึ่ง (ชื่อเดิม “พระมหาก่อ บุญขันธ์”ครองวัดในช่วงปี ๒๔๘๘ - ๒๕๐๖ โดยได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็น “พระราชเขมากร” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๐๒ หลังจากนั้นท่านได้จัดสร้างเหรียญรูปใบโพธิ์ เป็นเนื้ออัลปาก้า ด้วยกรรมวิธีการปั๊ม ในปี ๒๕๐๓ การสร้างเหรียญแบบนี้จะมีปีกล้นออกด้านข้าง ช่างจะต้องคัดเลือกเหรียญที่สวยสมบูรณ์นำไปตัดปีกออก จึงได้เหรียญรูปใบโพธิ์ดังกล่าว


แล้วทำไมชื่อสมณศักดิ์ พระราชเขมากร ถึงได้มาปรากฎด้านหลังแหวนหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปี ๒๕๐๖ ซึ่งเป็นวัตถุมงคลต่างวัดกัน สันนิษฐานว่า การสร้างเหรียญรูปใบโพธิ์ เนื้ออัลปาก้า ซึ่งเป็นโลหะที่แข็งมาก ทำได้ยุ่งยาก จึงทำให้ได้ทั้งเหรียญสวยและเหรียญไม่สมบูรณ์ ดังนั้นคงจะมีการคัดเหรียญไม่สวยออกไปมาก ปรากฏว่าหลังจากนั้น พระราชเขมากร อดีตเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ไม่ได้จัดสร้างเหรียญพระเครื่องด้วยเนื้ออัลปาก้าอีกเลย จนกระทั่งท่านได้มรณภาพ

ขณะเดียวกัน ในช่วงปี ๒๕๐๖ ทางวัดช้างให้ ต้องการจัดสร้างแหวนหลวงพ่อทวด เนื้ออัลปาก้า (เนื้ออื่นๆ ก็มี) จึงได้จ้างให้โรงงานผลิต ปรากฏว่าเป็นโรงงานเดียวกันกับที่สร้างเหรียญรูปใบโพธิ์ของวัดโสธรฯ เนื้ออัลปาก้า ดังกล่าวข้างต้น ทางโรงงานจึงได้นำแผ่นโลหะอัลปาก้าซึ่งเป็นเหรียญรูปใบโพธิ์ของวัดโสธรฯ ที่ไม่สมบูรณ์และยังไม่ได้ตัดปีกออก นำมาปั๊มแหวนหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปี ๒๕๐๖ เป็นการปั๊มขึ้นรูปซ้อนเป็นครั้งที่ ๒ แล้วจึงนำไปตัดปีกด้านข้างออก หลังจากนั้นดัดโค้งงอเข้าหากันเพื่อเชื่อมให้ติดกันกลายเป็นแหวน

แหวนหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ รูปโล่ รุ่นแรก ปี ๒๕๐๖ มี ๑ เสมือนได้ ๒(TWO IN ONE) ด้วยเหตุผลว่า ๑.ได้ปั๊มขึ้นรูปหลวงพ่อโสธรมาก่อนแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้รับการปลุกเสกที่วัดโสธรฯก็ตาม ๒.หลังจากนั้นได้นำมาปั๊มขึ้นรูปหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ซึ่งปลุกเสกโดยพระอาจารย์ทิม ธมฺมธโร ถือได้ว่า แหวนรุ่นนี้ มีพระเครื่องที่สุดยอดของประเทศไทยถึง ๒ องค์ รวมอยู่ในแหวนวงเดียวกัน อนาคตแหวนหลวงพ่อทวด รุ่นนี้ เชื่อแน่ว่ายังไปได้อีกไกล

บูชา 6,000 บาท

 

ปิดแล้วครับ




บูชา 2,000 บาท

 

ปิดครับ




ลูกอมหลวงปู่ดู่ วัดสะแก

รับประกันแท้ทุกสนาม

บูชา 3,200 บาท

 

รับทราบครับ ขอบคุณครับผม

 

ปิด

สมเด็จเกศา วัดคีรีวงศ์
พระเถราจารย์ แห่งเมืองนครสวรรค์

พระราชพรหมาจารย์ วิ. (บุญรอด ปญฺญาวโร) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์, อดีตเจ้าอาวาสวัดคีรีวงศ์

ลูกศิษย์ ลูกหา ท่านมากมาย...

มีเพจโชว์ วัตถุมงคล และ เผยแพร่ เกียรติประวัติท่านให้ศึกษา


พระผง รุ่นนิยม สร้างพระจุฬามณี สภาพ สวยเดิม ๆ

ท่านมรณภาพ เมื่อ ปี 2560


เครดิตภาพและข้อมูลจากเพจ ศิษย์เจ้าคุณพระราชพรหมาจารย์ วิ หลวงพ่อมหาบุญรอด

บูชา 500 บาท

 

ปิดครับ

พระผงรูปเหมือนพระเจ้ากาวิละ ปี 2512

ค่ายกาวิละ เชียงใหม่ เขาว่าหายาก แทบไม่พบเจอในสนามพระ ที่เห็นในเวบแค่1-2องค์ รับประกันแท้

บูชา 900 บาท

 

ปิดครับ



ลูกสะกด หลวงพ่อแก้ว วัดปากในทะเล

บูชา 8,000 บาท

 

ปิดครับ

เหรียญรุ่นแรก พระครูมหาพุทธิมา อดีตเจ้าคณะอำเภอแม่ทะ ปี 14 เนื้ออัลปาก้า เหรียญประสบการณ์ของ คนแม่ทะ เหรียญหายาก มีรายการประกวดงานสมาคมทุกปี

บูชา 500 บาท

 

ปิดครับ

พระขุนแผนอุ้มไก่

พระแท้ไม่ทราบเกจิ บ้างท่านก็ว่าเป็นขอหลวงพ่อกวย กรุต้นพิกุลบ้าง

บูชา 500 บาท

 

จองเสือตัวนี้ครับ ที่มียันต์กอหญ้า

 

รับทราบครับผม

 

ปิดครับ

เหรียญหลวงพ่อคง วัดชำป่างาม ปี2536

หลวงพ่อสาย ปลุกเสก

บูชา 450 บาท

 

ปิดครับ



บูชา 450 บาท

 

ขอจองครับ