ถามนิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่ได้ตอนบวชฮะ

คือ ตอนนี้สึกพระออกมาแล้วฮะ
แล้วทีนี้ ก็ตอนบวชน่ะ จะได้เงินจากญาติโยมตอนบิณฑบาตรบ้าง ตอนอะไรบ้าง
(แบบตอนบวชช่วงแรกๆนี่เห็นเงินเป็นขี้เลย ไม่แตะ ไม่แม้แต่จะให้โดนตัวแม้เพียงนิด เคร่งศีลเป๊ะ หลังๆเหนื่อย บิณฑบาตรแล้วไม่แตะจับเงิน มันเคลียร์บาตรไม่ได้ ครั้นจะคว่ำบาตรเทเงินออกไม่เอามือหยิบ ก็น่าเกลียด ==)


คำถามคือ
ตอนบวชเราได้ทรัพย์มา ไม่ว่าจะเป็นเงิน อาหารหรืออะไร

อาหารเราก้ฉันท์เท่าที่พออิ่ม แล้วก็ที่เหลือ(ฉันไปสัก 3% ได้มั้งจากทั้งหมด) ก็บริจาคเป้นทาน


ส่วนเงินที่ได้มา ก็หยอดตู้บ้าง ถวายพระประธานบ้าง ให้แม่ใหญ่ที่ดูแลกุฏิบ้าง ถวายพระครูบ้าง

แต่ก็มีบางส่วนที่เหลือ ตอนสึกก็เลยใส่ซองเก็บออกมาด้วย(ตอนนี้ไปอยู่รวมกับเงินเดิมก่อนบวชในบัญชีธนาคารแล้ว)




แล้วทีนี้มีคนบอกว่า เอาออกมาเก็บไว้แบบนี้มันบาป จริงเปล่าฮะ
แล้วจะทำไงเนี่ย แบบไม่รู้==

ที่เอาออกมาก็ไม่ได้คิดอะไรด้วย กะเอาไว้ใช้+ทำบุญ(ชอบทำบุญบ่อยๆอะ แล้วก็ชอบสร้างพระ)







สรุป เอาออกมางี้มันบาปไหมเนี่ย แล้วถ้าบาปจะทำไงเนี่ย เพราะไม่รู้==






















แล้วปัญหาที่สำคัญ
คือ เราไม่ได้นับเงินด้วยฮะ ว่ายอดสุดท้ายมันมีเท่าไร
เพราะก็เวลาระหว่างบวชก็นึกครึ่ม หยอดทำทานไปเรื่อยตามตู้วัด


ขนาดตอนวันสึก ตอนออกจากวัด หรือแม้แต่วันหลังจากสึกมาแล้ว
ก็ยังเอาเงินในซองนั้น ไล่ทำบุญตามวัดไปเรื่อย(ช่วงแรกๆผมจะเอาเงินที่ได้จากการบวชแยกออกใส่ซอง เพราะถือเป็นเงินบริสุทธิ์มาก ใช้ทำแต่บุญน่าจะดี)

พอทำไปเรื่อย ตอนที่เอาเข้าธนาคาร ก็ดันเอารวมกับเงินที่มีส่วนตัว
เลยตกลงไม่รู้ว่า มันมีเท่าไร==" ไอ้เงินที่ได้มาจากบวชน่ะ








ออกจากวัดมาด้วยอิ่มบวชเบิกบานยิ่ง ไม่น่าเล้ย พลาดซะแล้ว(มั้งเนี่ย)
(พอดีหลวงพี่ในวัดเขาบอกว่า เราจะเก็บไว้ใช้ก็ได้น่ะ ก้เลยไม่ได้คิดว่ามันบาป)

 

เงินที่ได้ตอนบวช ถือเป็นเงินสงฆ์จ้า
เพราะท่านที่ทำบุญให้มา ตั้งใจว่าให้สงฆ์ ถ้าไม่บวชเป็นพระสงฆ์เค้าก็ไม่ให้ดังนี้จึงเป็นสมบัติของสงฆ์ บางท่านที่ทราบพอวันที่จะสึกเขย่าย่ามรื้อค้นเงินทุกบาททุกสตางค์ถวายก่อนสึกออกจากวัดจ้า ก็รอดไป

เรื่องนี้มีท่านที่ไม่ทราบติดหนี้สงฆ์กันมามากมาย แม้แต่เงิน 1 บาท 1 สลึงก็ถือว่าเป็นสมบัติของสงฆ์ แนะนำว่ากรุณาอย่าเก็บไว้ให้นำไปชำระหนี้สงฆ์

ตามไปอ่านที่นี่นะจ๊ะ "หลวงปู่ปาน ชำระหนี้สงฆ์" http://palungjit.org/showthread.php?t=125153

 

หากเป็นเงินที่ถวายให้ใช้เป็นส่วนตัวเฉพาะคุณในขณะที่บวชเมื่อสึกแล้วนำเอามาใช้ได้

แต่ถ้าหากถวายให้ใช้ในกิจการของสงฆ์แม้ในขณะบวชนำมาใช้ส่วนตัวก็ถือว่าผิดเพราะใช้เงินผิดประเภทยิ่งเวลาสึกก็ไม่ควรนำมาใช้เพราะจะกลายเป็นขโมยของสงฆ์

แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเวลาเขาจบเงินอธิษฐานก่อนใส่บาตรหรือถวายให้คุณในขณะบวชนั้นเขาถวายให้เป็น ของสงฆ์หรือของส่วนตัว ให้รีบชำระหนี้สงฆ์นะครับจะได้ไม่เป็นบาปกรรมภายหลัง อย่าเสียดายเลยรีบนำเงินออกมาจากธนาคารจำนวนหนึ่ง (ตามที่คุณคิดว่าน่าจะเท่ากันหรือมากกว่า) นำไปถวายเป็นค่าน้ำค่าไฟหรือสร้างวัตถุก่อสร้างกับวัดใดวัดหนึ่งแล้วอธิษฐานว่า ขอชำระหนี้สงฆ์ ก็จะหมดภาระแค่นี้คุณก็คงจะสบายใจขึ้น

 

ใช้หนี้พระศาสนา

​

(*) ก็ให้นึกว่า...เงินในแบ็งค์ทั้งหมดที่มีเงินสงฆ์ปนมา ขอถวายไว้เพื่อพระศาสนา จะนำไปใช้ให้ถูกต้อง...ไม่นำไปใช้ในทางไม่ดี มีดอก-ผลก็จะนำแบ่งไปทำบุญ ทำทานเพราะระหว่างที่คุณบวช ข้าว น้ำเลื่อด เนื้อก็ได้จากอานุภาพผ้ากาสาวะภัตแม้สึกแล้ว...ผมที่งอกออกก็ติดมา......ไม่ได้โกนทิ้งฝากให้คิด ถึงแม้สึกออกมาก็ยังต้องธำนุบำรุงศาสนาต้องกตัญญูพระศาสนาตลอดไปจึงเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม


เจริญพร
พระ12

 

อนุโมทนาในจิตอันเป็นกุศล กลัวบาปกลัวกรรมครับ
สาธุ สาธุ สาธุ นิพพานัง ปัจโยโหตุ
ขอให้ดังก้องถึงพระนิพพาน

 

ปัญหาคือเงินจากซองงวดนั้นอะ
ก่อนจะเข้าฝาก ผมเอามันเทรวมเงินส่วนตัวด้วยไงฮะ

เลยไม่รู้ว่า ในซองมันเท่าไร=="

 

ตอนผมบวช พอสึกออกมารู้สึกไม่มีเงินติดตัวออกมาเลยครับ (หรือมีไม่ถึง 10 บาทนี่แหละ) ถวายวัดหมด เพราะคิดว่าเป็นของสงฆ์

ถ้ารู้สึกลังเลสงสัย ถ้าต้องใช้ไปอย่างไม่สบายใจก็ถวายส่วนนึงเป็นชำระหนี้สงฆ์น่าจะดีกว่า

 

มันเป็นของสงฆ์ บาปครับ เอาไปทำบุญก็ได้ แค่คนมาใส่บาตรด้วยเงินอุทิศไปหาครัยเป็นไฟไปทันที พระพุทธเจ้าสอนอยู่ในพระไตรปิฏกแล้วไง เงินที่เกิดระหว่างการบวชคือเงินทำบุญ ต้องทำบุญเท่านั้น เอางี้ก็ได้ เอาเงินนั้นไปซื้อของถวายพระแล้วอุทิศไปยังผู้ที่เจ้าของอุทิศให้ก็ได้