เข้าใจตัวเองบรรลุธรรมแล้วจะแก้อย่างไร

มันขึ้นอยู่กับคนประคอง
ยังเมาหรือส่างเมา

 

อยากโง่เอง ช่วยไม่ได้..

 

ฮี้ๆๆๆๆ

มะ รุ นะ

แต่ที่แน่ๆ ใคร สึก เพราะ ถือ กุญแจ

นี่ต้องไป ถามโอ๋ หน่วย 9

 

คนเมากับคนเมา.
ประคับประคองกันไม่ได้นะ.
สังเกตุดูให้ดี..

 

อิอิ

 

มันก็จริง แต่ก็เห็นเยอะในเวปนี้

 

กิเลส.ดื่มมาก.ก็เมามาก.
ดื่มน้อยก็เมาน้อย.
ไม่ดื่มกิเลส.ก็ไม่เมา.

 

การเขียนที่หวังให้คนอื่นทำความดี.
อย่างหวัง.วันสองวัน.ปีสองปี.
ให้หวังตลอดชีวิต.ที่เหลืออยู่.

 

มันไม่ใช่สู้ไม่ได้...อะไรจะเกินกว่าศาสดาเพียงแต่คำสอนหลวงปู่หลวงตาฟังแล้วเข้าใจได้ง่าย

ปัญญาของคนยุคนี้เข้าไม่ถึงความลึกซึ้งของคำสอนศาสดาสักเท่าไหร่หรอก...ด้วยวาสนายังอ่อน

 

ไอ้นี่ก็บ้าพระยาธรรมไม่เลิก...เขาเลิกเล่นตั้งแต่ปีมะโว้ละยังบ้าอยู่อีก

 

ดูใจตนเองดูอารมณ์ใจตนเองก็เห็นเองนั่นแหละกิเลส

แก้ที่ใจตนเองนั่นแหละสอบอารมณ์ใจตนเองสิมันถึงจะถูก

จะนั่งภาวนาเอาความสงบอย่างเดียวไม่มีทางรู้ทันกิเลสได้หรอก

 

สาโทรัวๆ ค่ะท่าน

 

อยากเล่นด้วยล่ะสิท่านปวีร์...

ท่านไปตอบคำถามท่านปราบให้เคลียร์ให้เข้าใจก่อนดีกว่า

เท่าที่เราอ่านลำดับการปฏิบัติของท่านมันยังดูยุ่งๆอยู่นะ

 

เช่น

 

คนอ่านยังไงก็ทำความเข้าใจได้ยาก

จะแยกรูปนามหรือจะอธิบายเรื่องผัสสะและธรรมารมณ์

การปฏิบัติมันเหมือนจับมัดรวมผสมกันมั่วไปหมด

 

จะแยกรูปนามก็ยังไม่ต้องพูดถึงเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

มันคนละส่วนกันกับการแยกรูปนาม

 

ออ มันเป็นเช่นนี้เอง ที่ถูกต้องควรเป็นยังไงนะ

 

ก็แยกรูปนามตรงๆไปเลย..แล้วไปดูหน้าที่ของรูปและนาม

 

ตา(รูป)...เห็น(นาม)...จิต(รับรู้)

หู(รูป)...ได้ยิน(นาม)...จิต(รับรู้)

หน้าที่ของตาแค่ดูเท่านั้น...ส่วนเห็นเป็นอีกสิ่งหนึ่ง...จิตก็มีหน้าที่รู้เท่านั้นถ้าจิตไปยึดเอาสิ่งที่เห็นมาเป็นสมบัติตนนั่นคือผิดศีลข้อลักทรัพย์

หน้าที่ของหูแค่ฟังเท่านั้น...ส่วนได้ยินเป็นอีกสิ่งหนึ่ง...จิตก็มีหน้าที่รู้เท่านั้นถ้าจิตไปยึดเอาสิ่งที่ได้ยินมาเป็นสมบัติตนนั่นคือผิดศีลข้อลักทรัพย์

เรียกว่าเสพธรรมอย่างลามก..

 

เขียด เรียก พี่