มงคลวัตถุ สิริแห่งชีวิต ที่สุดแห่งศรัทธา : รูปถ่ายนิโรธสมาบัติ มหาจักร มหาสังข์ โคนนทสูร

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย studio214, 19 กรกฎาคม 2015.

  1. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,908
    ค่าพลัง:
    +6,808
    ขอปิดรายการนี้ครับ
     
  2. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 237 แม่นางกวัก พ่อท่านเขียว อินทมุนี วัดหรงบน เนื้อผงว่านผสมมวลสาร
    บูชา บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท

    แม่นางกวัก หลวงพ่อท่านเขียว วัดหรงบน เนื้อผงว่าน รุ่นแรก ประมาณปี 2511-13 เป็นพระที่ทำขึ้นในสมัยที่พ่อท่านเขียวยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเหมือนปัจจุบัน สร้างโดยผงที่หลวงพ่อเขียวรวบรวม ลบไว้ มวลสารมีคุณในตัว และว่านต่างๆที่มีสรรพคุณในทางเมตตามหานิยมจำนวนมากผสมกับผงและมวลสารมงคลที่หลวงพ่อลบและเก็บรักษาไว้ บางองค์พบมีฝังมวลสารต่างๆบ้าง น่าบูชามาก การสร้างพระในสมัยก่อนนั้น ผงและมวลสารจะพิถีพิถันและคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ในสายใต้นั้น พ่อท่านเขียว เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านในสมัยนั้นมาก นอกจากเรื่องเหนียวแล้ว วิชาทางด้านเมตตานั้นไม่ธรรมดาแน่นอน พระโบราณนั้นถ้าไม่เป็นเสกไม่ขึ้นท่านไม่สร้างแน่นอน

    แม่นางกวักในสายใต้นั้น ครูอาจารย์ในสมัยก่อนจะเสกจนมีตัวตน หมายถึงอธิษฐานบอกกล่าวขอได้ ถวายเครื่องเซ่นได้ หรืออุทิศบุญเสริมพลังได้

    พ่อท่านเขียว ถือกำเนิดขึ้นในตะกูลชาวนา เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้นแรมไม่ปรากฏ เดือนยี่ ปีมะเมีย พ.ศ.2424 เมื่อยังเยาว์วัย พ่อท่านเขียวอาศัยพระในบ้านช่วยสอนหนังสือให้อ่านเขียนได้ตามอักขระสมัย ท่านชอบศึกษาเล่าเรียนเป็นชีวิตจิตใจ

    "พ่อท่านเขียว"ท่านตัดสินใจสละเพศฆราวาส เข้าสู่วัดเมื่ออายุได้ 22ปี อุปสมบท ณ วัดคงคาวดี (วัดกลาง) ปีเถาะ พ.ศ.2446 พระครูสมัยนั้น เป็นพระอุปัชฌายะ พระครูบริหารสังฆกิจ (เต็ง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระเกื้อเป็นพระกรรมวาจา ได้รับฉายาว่า "อินทมุนี"ได้ปรนนิบัติรับใช้ รับฟังโอวาทจากพระอุปัชฌายะชั่วระยะเวลาหนึ่ง หลังจากนั้น พ่อท่านเขียว ก็กราบลาพระอุปัชฌายะ ไปศึกษาเล่าเรียนต่อกับพระอาจารย์เอียด วัดบน พระอาจารย์เอียดเก่งทั้งทางโลก และทางธรรม อบรมนิสัยให้เหมาะแก่สมณเพศ จนท่านตั้งใจว่า ขอถือบวชอยู่ในพุทธศาสนาตลอดไป หาทางพ้นทุกข์ตัดอาสวะกิเลสให้สิ้น พ่อท่านเขียวท่านตัดสินใจเดินธุดงค์เป็นวัตร คือ ถือผ้านุ่งห่มบังสกุล 3ชิ้น มีผ้าสบง อังสะ จีวร บิณฑบาตร และฉันอาหารมื้อเดียว(เอกา)เป็นวัตร จึงกราบลาอาจารย์เดินธุดงค์สู่ป่าเขาลำเนาไพร หลวงปู่เขียวเดินธุดงค์ติดต่อกันหลายปี ผ่านจังหวัดกระบี่ ตรังสุราษฎร์ธานี ชุมพร สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ภูเก็ต พังงา และจังหวัดอื่นๆอีกหลายแห่ง

    ในปี พ.ศ.2467 พ่อท่านเขียวอายุได้ 53 ปีพอดี ท่านพระครูพิบูลย์ศีลาจารย์(เกลื่อม)เจ้าคณะ ต.บางตะพง อ.ปากพนัง ปกครองวัดกลาง(คงคาวดี)ศรัทธาต่อพ่อท่านเขียว ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่านเอง ต้องการได้ของดีของอาจารย์เป็นที่ระลึก จึงหาผ้าขาวมา หาขมิ้นผงมาผสมน้ำทาใต้เท้า ใต้มือท่านแล้ว นิมนต์ท่านอฐิษญานจิตกดเป็นผ้ายันต์แต่ไม่ค่อยชัดนัก ต่อมามีผู้ต้องการมากขึ้น จึงคิดหาหมึกจีนเป็นแท่งมาฝนกับฝาละมีทาเท้าบ้าง ทามือบ้าง ให้พ่อท่านอธิษฐานจิตกดลงบนผ้าขาวเป็นผ้ายันต์ ปรากฏว่าชัดเจนสวยงามดี นับว่าผ้ายันต์รอยมือรอยเท้าพ่อท่านเขียวปรากฏแพร่หลายขึ้นเป็นครั้งแรกในภาคใต้ เมื่อมีผู้ศรัทธามาขึ้นจึงแพร่หลายบอกต่อกันไป มีประชาชนมาขอลูกอมท่านบ้าง พ่อท่านเขียวท่านเคี้ยวชานหมากเสร็จคลึงเป็นลูกอมแล้วมอบให้ บางคนท่านก็เอากระดาษฟางมาลงอักขระเป็นตัวหนังสือขอม หัวใจพระเจ้า 5พระองค์ นะโมพุทธายะ เสร็จแล้วเอาเทียนสีผึ้งห่อหุ้มปั้นเป็นลูกอม พ่อท่านเขียวเป็นพระใจดี พูดน้อยใครขออะไรท่านก็จะทำให้

    วัตถุมงคลที่พ่อท่านเขียว ท่านสร้างมีหลายอย่าง เช่น ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า เชือกคาด ลูกอมเทียน ชานหมาก พระปิดตา เหรียญ และรูปหล่อลอยองค์ พระเครื่องหลวงปู่เขียว เป็นที่ต้องการกันมาก

    ความศักดิ์สิทธิ์ของ พ่อท่านเขียว วัดหรงบล อีกอย่างหนึ่งที่เกือบทุกคนรู้กันดีทั่วบ้านทั่วเมือง ก็คือหลังจากพ่อท่านเขียวท่านมรณภาพแล้ว ทางวัดได้เก็บรักษาสรีระของพ่อท่านไว้ระยะหนึ่ง ซึ่งปรากฏว่า สรีระร่างกายของพ่อท่านเขียวท่านไม่เน่าเปื่อย และไม่มีกลิ่นเหม็นแต่อย่างใด และเมื่อถึงวันครบกำหนดประชุมเพลิง สรีระของท่านเผาไฟไม่ไหม้ แม้แต่ จีวร ที่ห่อหุ้ม สร้างความมหัศจรรย์เป็นยิ่งนัก ปัจจุบัน สรีระร่างอันอมตะของ พ่อท่านเขียว ก็ยังประดิษฐานอยู่ในโลงแก้วที่วัดหรงบน ทุกวันนี้จะมีผู้คนไปกราบไหว้สักการบูชาอยู่เป็นประจำ


    ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1673.JPG
      IMG_1673.JPG
      ขนาดไฟล์:
      127.6 KB
      เปิดดู:
      291
    • IMG_1674.JPG
      IMG_1674.JPG
      ขนาดไฟล์:
      129.1 KB
      เปิดดู:
      185
    • IMG_1675.JPG
      IMG_1675.JPG
      ขนาดไฟล์:
      57.7 KB
      เปิดดู:
      257
    • 1203485123resize.jpg
      1203485123resize.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.1 KB
      เปิดดู:
      201
    • 1229059930.jpg
      1229059930.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.8 KB
      เปิดดู:
      278
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2019
  3. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 238 พระนาคปรกนิรันตราย ครูบากฤษดา สุเมโธ
    บูชา บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท

    ปรกองค์จ้อยนี้ครูบาท่านสร้างไว้เด่นไปทางคุ้มครองอันตรายสมชื่อ ประสบการณ์มีเยอะมากในด้านป้องกันภัย แคล้วคลาด โดยเฉพาะในเรื่องอุบัติเหตุ

    ท่านเคยบอกว่าเด็กๆแขวนเข้าท่าดีนะ องค์เล็ก และคุ้มครองได้ โดยเฉพาะยิ่งเด็กเล็กๆที่ชอบร้องไห้หรือนอนผวากลางคืนโดยไม่มีสาเหตุ ให้แขวนปรกนี้แล้วจะดีนอนสบาย

    ครูบากฤษดา สุเมโธ พระโพธิสัตว์ผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี ครูบาท่านอายุไม่มากแต่ได้รับการรับรองถึงบารมีท่านจากพระมหาเถระมากมาย หนึ่งในนั้นคือองค์หลวงปู่พิศดู ที่รับรองว่าครูบาท่านคือองค์พระพระโพธิสัตว์ ที่สำคัญยังเป็นสายที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธุ์กับองค์พระอุปคุตอีกด้วย หลวงปู่พิศดูยังรับรองถึงบารมีและพลังจิตของครูบาท่าน ว่ามีอยู่มาก ลูกศิษย์ท่านทั้งตนไทยและฮ่องกง ทั้งข้าราชการผู้ใหญ่ ชาวบ้านธรรมดา คนรวย คนจน ท่านเมตตาเสมอกันหมด ประสบการณ์จากองค์ท่านเองและวัตถุมงคลของท่านมากมายนับไม่ถ้วน หลายคนเคยปรามาสท่านเพราะเห็นเป็นพระที่ยังอายุน้อย แต่เมื่อได้มีโอกาสกราบท่านจริงๆกลับพูดไม่ออกกันทุกคน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2019
  4. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 239 ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นบูรณะวัด พระอาจารย์นะดี วัดเนินสาธารณ์
    บูชา บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท

    IMG_1766.JPG IMG_1769.JPG IMG_1770.JPG IMG_1771.JPG IMG_1765.JPG showimage.jpg

    ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นบูรณะวัด พระอาจารย์นะดี วัดเนินสาธารณ์ ลักษณะเหรียญทรงหกเหลี่ยม ไม่มีหูห่วง องค์น้อย สูงประมาณ 2 เซนติเมตร ด้านหน้ารูปองค์ท่านท้าวเวสสุวรรณ ด้านหลังลงยันต์หัวใจท้าวเวสสุวรรณ โค้ตชื่อพระอาจารย์หลังเหรียญ ออกให้กับผู้บริจาคร่วมบุญบูรณะวัดและศาลาการเปรียญ ๒๕๕๙

    จากประสบการณ์ได้ฟังครูบาอาจารย์มา ทักมักเตือนว่า ท้าวเวสสุวรรณเป็นวัตถุมงคลที่ควรหาติดตัวไว้บ้าง โดยเฉพาะเวลาดวงตก คราวเคราะห์ นอกขากสร้างบุญให้ทานปฏิบัติภาวนาแล้ว ก็ควรหาของป้องกันไว้ เพราะช่วงที่เปราะบางนี้ สิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งที่จ้องรออยู่และบังเอิญจะกระทำซ้ำเติมได้โดยง่าย จึงให้ขอพึ่งบารมีท่านท้าวเวสสุวรรณ หนึ่งในมหาราชทั้งสี่คุ้มครองรักษา มิให้สิ่งที่มองไม่เห็นทุกประเภทมากระทำตัวเราได้

    ครูบาอาจารยน์ที่มั่นใจว่าท่านสามารถอัญเชิญบารมีของท่านท้าวเวสสุวรรณได้นั้นมีอยู่หลายรูป ควรเลือกหาบูชาตามปัจจัยที่อำนวย

    พระอาจารย์นะดี (สมคิด) วัดเนินสาธารณ์ อุทัยธานี ท่านเชี่ยวชาญพุทธาคมแบบครอบคลุมในทุกๆด้าน ท่านมีสมาธิจิตสูงมาก องค์ท่านเองและวัตถุมงคลของท่านต่างมีปาฏิหารและประสบการณ์มากมาย ท่านสืบสานวิทยาคมสาย ลพ.เดิม วัดหนองโพ ลพ.เงิน วัดบางคลาน ลป.ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านบวชอยู่กับ ลป.คำ วัดสุวรรณรัตนาราม ซึ่งเป็นช่วงที่ท่านมีอายุมากแล้ว ท่านได้ให้พระอาจารย์จารตะกรุดของท่าน นอกจากนี้ท่านยังได้ไปเรียนกรรมฐานจากลป.แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง และ ได้เรียนสรรพวิชาตำรับสายเขาอ้อ ท่านเป็นพระในสมัยปัจจุบันองค์หนึ่งที่ค่อนข้างเก็บตัว ประวัติและเรื่องราวจะไม่ค่อยมากนัก แต่ประสบการณ์และปาฏิหาริย์นั้นมีอยู่เยอะมากมาย


    ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2019
  5. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 240 ตะกรุดลอยนํ้าหลวงปู่เปรี่ยม อติภัทโท วัดโพธิ์เรียง (วัดบ้านคลองทรายเหนือ จ.สระแก้ว)
    บูชา บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท

    ตะกรุดลอยน้ำบันดาลโชคลาภ หลวงปู่เปรี่ยม สำหรับขอเลขรางวัล แล้วแต่ตอนตั้งจิตอธิฐานขอว่าจะขอสองตัวหรือสามตัว

    โดยทำหลังเที่ยงคืน ไม่เกินตี 3 ต้องทำในวันพฤหัสเท่านั้น ตั้งแต่ขึ้น 9 ค่ำ ถึงแรม 7 ค่ำ โดยจะไม่สามารถทำได้ทุกงวด เพราะต้องทำในวันที่กำหนดเท่านั้น ยิ่งถ้าเป็นวันพฤหัสที่ใกล้หวยออกมากๆจะยิ่งแม่น (ตะกรุดจะลอยน้ำได้เป็นตัวเลข)

    สิ่งที่ต้องเตรียม
    1. ธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม (สำหรับบูชาพระ)
    2. บายศรีปากชาม 1 คู่
    3. ผ้าขาวสำหรับปูโต๊ะทำพิธี 1 ผืน
    4. ภาชนะใส่น้ำขนาดความกว้าง 9 - 12 นิ้ว
    5. ธูป 15 ดอก (สำหรับใช้ในพิธี)

    บทสวดชุมนุมเทวดา
    สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน
    ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
    ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา
    ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา

    ขั้นตอนการปฏิบัติ
    1. จุดธูป 3 ดอก เพื่อบูชาพระรัตนตรัยที่หิ้งพระ
    2. ตั้งโต๊ะพิธี นำผ้าขาวมาคลุมโต๊ะ วางบายศรีปากชามทั้ง 2 ข้าง วางภาชนะที่ใส่น้ำไว้ตรงกลาง จากนั้นให้จุดธูป 15 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ แล้วสวดคาถาชุมนุมเทวดา จากนั้น อธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนา แล้วนำธูปไปปักที่กลางแจ้ง
    3. หยิบตะกรุดออกจากกล่อง แล้วจับตะกรุดด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ปิดหัวท้าย ครั้งละ 1 ดอก ก่อนวางว่าคาถา นะโมพุทธายะ นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ 1 จบ แล้วจึงค่อย ๆ วางตะกรุดลงบนผิวน้ำอย่างระวัง ตั้งใจทำไปเรื่อยๆ จนครบหมดทุกดอก ถ้าตะกรุดดอกใดจมน้ำอย่าหยิบขึ้นมา ตะกรุดที่ลอยน้ำอยู่จะค่อย ๆ เลื่อนเข้าหากัน จากนั้นให้เพ่งดูตะกรุดที่ลอยน้ำ (ระหว่างนี้ให้ภาวนาคาถาไปเรื่อย ๆ คือ 1) นะโมพุทธายะ 2)นะมะภะทะ 3) จะภะกะสะ 4) นะมะอะอุ )

    วันทำพิธี
    เลือกวันพฤหัสบดีเท่านั้น ตั้งแต่ข้างขึ้น 9 ค่ำเป็นต้นไป แต่ไม่เกินข้างแรม 7 ค่ำ ตั้งแต่เวลา เที่ยงคืน จนถึง ตีสาม เท่านั้น

    หลวงปู่เปรี่ยม ท่านจะพิถีพิถันตามขั้นตอนการสร้างตะกรุดแต่ละตอกแต่ละประเภทจึงจะนำไปใช้ให้สำเร็จประโยชน์ ตะกรุดลอยน้ำเน้นตั้งแต่แผ่นโลหะก่อนลงอักขระเลขยันต์ต้อง สวดถอน สิ่งอัปมงคล ออกจากแผ่นโลหะเหมือนทำให้โลหะบริสุทธิ์จริงๆซะก่อนแล้วค่อยนำมาลงอักขระเลขยันต์ เน้น หัวใจธาตุทั้งห้า ประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ และวิญญาณธาตุ นำไปสวดญัตติกรรม
    การสวดญัตติ จะต้องทำให้ครบ สี่ครั้ง เรียกว่า เหมือนกับพิธีอุปสมบทพระภิกษุในพระพุทธศาสนาเลยทีเดียว หลวงปู่เปรี่ยมท่านก็อธิบายการนำตะกรุดเข้าโบสถ์สวดญัตติกรรมทำนองเดียวกันกับการบวชพระภิกษุหรือจะพูดง่ายๆเข้าใจแบบชาวบ้าน การสวดญัตติตะกรุดของหลวงปู่เปรี่ยมก็เหมือนกับ บวชตะกรุด ให้มีพลังความเข้มขลังเพื่อให้พิธีสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั่นเอง


    หลวงปู่เปรี่ยม พระอริยะผู้เมตตา เทพเจ้าแห่งโชคลาภ หลวงปู่ได้สืบทอดวิชาของสายวัดระฆัง มาจากหลวงปู่หินโดยได้พบกับหลวงปู่หินในป่าแถบปักธงชัยขณะธุดงค์ ได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่หินเป็นเวลา 6 ปี ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมมากมายหลายอย่าง เช่น การสร้าง ตระกรุด การทำผงพุทธคุณ 108คาถาอาคม และการปลุกเสกตลอดจนการเจริญภาวนา และภายหลังหลวงปู่ได้มาปรนนิบัติดูแล ลป.หิน ที่วัดระฆัง

    วัตถุมงคลทุกอย่าง หลวงปู่มีความตั้งใจอย่างมาก เพื่อให้คุ้มครองรักษาผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง แม้กระทั้งการเตรียมมวลสาร ผงต่างๆ ท่านจะพิถีพิถันตามตำราของท่าน เสกจนมวลสารศักสิทธิ์ จากนั้นกดพระแล้วเสกจนสำเร็จจนท่านมั่นใจ พระหลวงปู่เปรี่ยมเหมาะมากสำหรับท่านที่ศรัทธาในเจ้าประคุณสมเด็จโต และ ชอบสวดพระคาถาชินบัญชร เพราะหลวงปู่ท่านเสกตามตำหรับสายวิชาวัดระฆัง ตามที่ท่านรำ่เรียนมาจากหลวงปู่หิน


    ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1811.JPG
      IMG_1811.JPG
      ขนาดไฟล์:
      55.7 KB
      เปิดดู:
      246
    • IMG_1809.JPG
      IMG_1809.JPG
      ขนาดไฟล์:
      137.2 KB
      เปิดดู:
      197
    • IMG_1810.JPG
      IMG_1810.JPG
      ขนาดไฟล์:
      68.3 KB
      เปิดดู:
      256
    • IMG_1812.JPG
      IMG_1812.JPG
      ขนาดไฟล์:
      114.3 KB
      เปิดดู:
      273
    • DSC_0512.jpg
      DSC_0512.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.3 KB
      เปิดดู:
      273
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2019
  6. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 241 พระกริ่งอุปคุต (พระบัวเข็ม) หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม ออกวัดคุ้งตำหนัก เลี่ยมพลาสติก

    รุ่นนี้หลวงพ่ออุตตมะเมตตาเป็นประธานในพิธี มีหลวงปู่โต๊ะและพระเกจิอาจารย์ในสมัยนั้นร่วมเสก ออกปี 2522

    หลวงพ่ออุตตมะเป็นพระมหาเถระอีกองค์หนึ่งของชาวไทยและชาวมอญ ผู้ซึ่งเปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี พระอุปคุตนั้นเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวมอญซึ่งนิยมสร้างเพื่อบูชาในลักษณะของพระบัวเข็ม หลวงพ่ออุตตมะนั้น ครูบาอาจารย์มากมายต่างกล่าวสรรเสริญในบารมีขององค์ท่าน ทั้งหลวงพ่อฤษีลิงดำ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน (ในอดีตช่วงเวลาหนึ่งนั้นหลวงพ่ออุตตมะ เคยจำพรรษาที่วัดท่าขนุน)

    การบูชาพระอุปคุตนี้มีความหมายเป็น 2 นัย คือ 1 พระอุปคุตท่านเป็นพระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์ปราบมาร จึงช่วยปกป้องคุ้มครองให้ผู้ที่บูชาห่างไกลจากภัยอันตรายต่าง ๆ ส่วนนัยที่ 2 คือท่านจำศีลอยู่ในน้ำ จึงช่วยให้ผู้บูชาอยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ

    พระอุปคุตปางพระบัวเข็ม ที่มาของการเรียกว่าพระบัวเข็มนั้นเนื่องจาก เป็นปางที่พระอุปคุตท่านเข้านิโรจสมาบัติใต้น้ำ องค์พระจะมีรูปดอกบัวที่ศรีษะท่านและรูปท่านนั่งอยู่บนดอกบัว จะสังเกตุได้ว่าเข็มติดอยู่ 9 จุด คือที่หน้าผาก 1 ไหล่ 2 สะโพก 2 มือ 2 เข่า 2 เดิมนั้นไม่มีการติดเข็มที่พระอุปคุต แต่ใช้พระบรมสารีริกธาตุติดที่องค์พระ 9 จุดดังกล่าว จึงเป็นที่มาของชื่อ พระบัวเข็ม สำหรับพระบัวเข็มองค์นี้เป็นพระปิดทองแบบศิลปะมอญพม่า ขนาดหน้าตัก 2 นิ้วกว่า

    พระราชอุดมมงคล หรือ “พระมหาอุตตมะรัมโภภิกขุ” (เอหม่อง อุตฺตมรมฺโภ) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนามของ “หลวงพ่ออุตตมะ” พระมหาเถระของชาวมอญและชาวจังหวัดกาญจนบุรี ผู้มีบทบาทเป็นผู้นำทางความคิดและจิตวิณญาณของชาวมอญพลัดถิ่นที่สังขละบุรี

    หลวงพ่ออุตตมะ เดิมชื่อ เอหม่อง เกิดเมื่อ พ.ศ. 2453 ที่หมู่บ้านโมกกะเนียง ตำบลเกลาสะ อำเภอเย จังหวัดเมาะลำเลิง ประเทศพม่า หลังเรียนหนังสือจบจากพม่าเมื่ออายุ 18 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดเกลาสะ ได้ศึกษาภาษาบาลี และพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นโท อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเกลาสะ ได้รับฉายาว่า อุตตมรัมโภ แปลว่า ผู้มีความพากเพียรอันสูงสุด โดยได้ตั้งเจตจำนงที่จะบวชไม่สึกจนตลอดชีวิต

    หลวงพ่อได้เดินทางไปศึกษาวิปัสสนากรรมฐานที่วัดตองจอย และวัดป่าเลไลยก์ จนมีความรู้ความสามารถในเรื่องวิปัสสนากรรมฐาน ตลอดจนวิชาไสยศาสตร์และพุทธาคมเป็นอย่างดี และชอบออกเดินธุดงค์ไปตามที่ต่าง ๆ ในประเทศพม่า

    อุตตมรัมโภภิกขุเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกทางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2486 โดยเดินธุดงค์มาจำพรรษาอยู่ที่วัดสวนดอก ก่อนจะออกธุดงค์ไป แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงราย น่าน กาญจนบุรี และกลับไปยังพม่า และเนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมืองในประเทศพม่าขณะนั้น อุตตมรัมโภภิกขุจึงเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้งทางหมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

    ในปี พ.ศ. 2499 หลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวบ้านชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้พร้อมใจกันสร้างศาลาวัดขึ้น มีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า วัดหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่าสามประสบ เพราะมีแม่น้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ในปี พ.ศ. 2505 ได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาให้ใช้ชื่อว่า "วัดวังก์วิเวการาม" ซึ่งตั้งตามชื่ออำเภอวังกะ ในวัดมีการก่อสร้างเจดีย์จำลองแบบจากวัดมหาโพธิ เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย เริ่มก่อสร้าง พ.ศ. 2518 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2529

    ต่อมาทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำในปี พ.ศ. 2527 น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะท่วมตัวอำเภอเก่ารวมทั้งหมู่บ้านชาวมอญ ทางวัดจึงได้ย้ายมาอยู่บนเนินเขาในที่ปัจจุบัน โดยทางราชการได้ช่วยเหลือในการอพยพผู้คนซึ่งมีอยู่ราว 1,000 หลังคาเรือน บนพื้นที่ 1,000 ไร่เศษ ส่วนบริเวณวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิม ปัจจุบันจมอยู่ใต้น้ำ และมีชื่อเสียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand เป็นที่รู้จักในชื่อว่า วัดใต้น้ำ สังขละบุรี

    หลวงพ่ออุตตมะ มรณภาพจากการติดเชื้อในกระแสโลหิตจากภาวะปอดอักเสบ เมื่อเวลา 7.22 น. ของวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2549 อายุรวม 97 ปี


    ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2019
  7. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    0c3dee65c046fb0467f2be44018a7cf0.jpg ยกเลิกรายการเก่าทั้งหมด เริ่มรายการใหม่ตั้งแต่กระทู้นี้เป็นต้นไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2019
  8. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 001 ตะกรุดลอยนํ้าหลวงปู่เปรี่ยม อติภัทโท วัดโพธิ์เรียง (วัดบ้านคลองทรายเหนือ จ.สระแก้ว)
    บูชาแล้ว พร้อมจัดส่ง (จองแล้ว)
    Screen Shot 2562-04-18 at 11.00.16 PM.png 20190304_203307.jpg 20190304_203426.jpg 20190304_203327.jpg 1_1267506778.jpg Screen Shot 2562-04-18 at 11.00.16 PM.png
    ตะกรุดลอยน้ำบันดาลโชคลาภ หลวงปู่เปรี่ยม สำหรับขอเลขรางวัล แล้วแต่ตอนตั้งจิตอธิฐานขอว่าจะขอสองตัวหรือสามตัว

    โดยทำหลังเที่ยงคืน ไม่เกินตี 3 ต้องทำในวันพฤหัสเท่านั้น ตั้งแต่ขึ้น 9 ค่ำ ถึงแรม 7 ค่ำ โดยจะไม่สามารถทำได้ทุกงวด เพราะต้องทำในวันที่กำหนดเท่านั้น ยิ่งถ้าเป็นวันพฤหัสที่ใกล้หวยออกมากๆจะยิ่งแม่น (ตะกรุดจะลอยน้ำได้เป็นตัวเลข)

    สิ่งที่ต้องเตรียม
    1. ธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม (สำหรับบูชาพระ)
    2. บายศรีปากชาม 1 คู่
    3. ผ้าขาวสำหรับปูโต๊ะทำพิธี 1 ผืน
    4. ภาชนะใส่น้ำขนาดความกว้าง 9 - 12 นิ้ว
    5. ธูป 15 ดอก (สำหรับใช้ในพิธี)

    บทสวดชุมนุมเทวดา
    สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน
    ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
    ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา
    ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา

    ขั้นตอนการปฏิบัติ
    1. จุดธูป 3 ดอก เพื่อบูชาพระรัตนตรัยที่หิ้งพระ
    2. ตั้งโต๊ะพิธี นำผ้าขาวมาคลุมโต๊ะ วางบายศรีปากชามทั้ง 2 ข้าง วางภาชนะที่ใส่น้ำไว้ตรงกลาง จากนั้นให้จุดธูป 15 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ แล้วสวดคาถาชุมนุมเทวดา จากนั้น อธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนา แล้วนำธูปไปปักที่กลางแจ้ง
    3. หยิบตะกรุดออกจากกล่อง แล้วจับตะกรุดด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ปิดหัวท้าย ครั้งละ 1 ดอก ก่อนวางว่าคาถา นะโมพุทธายะ นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ 1 จบ แล้วจึงค่อย ๆ วางตะกรุดลงบนผิวน้ำอย่างระวัง ตั้งใจทำไปเรื่อยๆ จนครบหมดทุกดอก ถ้าตะกรุดดอกใดจมน้ำอย่าหยิบขึ้นมา ตะกรุดที่ลอยน้ำอยู่จะค่อย ๆ เลื่อนเข้าหากัน จากนั้นให้เพ่งดูตะกรุดที่ลอยน้ำ (ระหว่างนี้ให้ภาวนาคาถาไปเรื่อย ๆ คือ 1) นะโมพุทธายะ 2)นะมะภะทะ 3) จะภะกะสะ 4) นะมะอะอุ )

    วันทำพิธี
    เลือกวันพฤหัสบดีเท่านั้น ตั้งแต่ข้างขึ้น 9 ค่ำเป็นต้นไป แต่ไม่เกินข้างแรม 7 ค่ำ ตั้งแต่เวลา เที่ยงคืน จนถึง ตีสาม เท่านั้น

    หลวงปู่เปรี่ยม ท่านจะพิถีพิถันตามขั้นตอนการสร้างตะกรุดแต่ละตอกแต่ละประเภทจึงจะนำไปใช้ให้สำเร็จประโยชน์ ตะกรุดลอยน้ำเน้นตั้งแต่แผ่นโลหะก่อนลงอักขระเลขยันต์ต้อง สวดถอน สิ่งอัปมงคล ออกจากแผ่นโลหะเหมือนทำให้โลหะบริสุทธิ์จริงๆซะก่อนแล้วค่อยนำมาลงอักขระเลขยันต์ เน้น หัวใจธาตุทั้งห้า ประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ และวิญญาณธาตุ นำไปสวดญัตติกรรม
    การสวดญัตติ จะต้องทำให้ครบ สี่ครั้ง เรียกว่า เหมือนกับพิธีอุปสมบทพระภิกษุในพระพุทธศาสนาเลยทีเดียว หลวงปู่เปรี่ยมท่านก็อธิบายการนำตะกรุดเข้าโบสถ์สวดญัตติกรรมทำนองเดียวกันกับการบวชพระภิกษุหรือจะพูดง่ายๆเข้าใจแบบชาวบ้าน การสวดญัตติตะกรุดของหลวงปู่เปรี่ยมก็เหมือนกับ บวชตะกรุด ให้มีพลังความเข้มขลังเพื่อให้พิธีสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั่นเอง


    หลวงปู่เปรี่ยม พระอริยะผู้เมตตา เทพเจ้าแห่งโชคลาภ หลวงปู่ได้สืบทอดวิชาของสายวัดระฆัง มาจากหลวงปู่หินโดยได้พบกับหลวงปู่หินในป่าแถบปักธงชัยขณะธุดงค์ ได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่หินเป็นเวลา 6 ปี ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมมากมายหลายอย่าง เช่น การสร้าง ตระกรุด การทำผงพุทธคุณ 108คาถาอาคม และการปลุกเสกตลอดจนการเจริญภาวนา และภายหลังหลวงปู่ได้มาปรนนิบัติดูแล ลป.หิน ที่วัดระฆัง

    วัตถุมงคลทุกอย่าง หลวงปู่มีความตั้งใจอย่างมาก เพื่อให้คุ้มครองรักษาผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง แม้กระทั้งการเตรียมมวลสาร ผงต่างๆ ท่านจะพิถีพิถันตามตำราของท่าน เสกจนมวลสารศักสิทธิ์ จากนั้นกดพระแล้วเสกจนสำเร็จจนท่านมั่นใจ พระหลวงปู่เปรี่ยมเหมาะมากสำหรับท่านที่ศรัทธาในเจ้าประคุณสมเด็จโต และ ชอบสวดพระคาถาชินบัญชร เพราะหลวงปู่ท่านเสกตามตำหรับสายวิชาวัดระฆัง ตามที่ท่านรำ่เรียนมาจากหลวงปู่หิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2019
  9. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 002 รูปหล่อมหาเทพกวนอู เนื้อโลหะผสม ผลงานปั้นโดย อ.อำพล เจน
    บูชา 650 บาท พร้อมจัดส่ง
    Screen Shot 2562-04-18 at 11.35.03 PM.png
    20190408_211912_resized.jpg 20190408_211939_resized.jpg 20190408_211930_resized.jpg 20190408_212002_resized.jpg 20190408_212010_resized.jpg
    อธิษฐานจิตโดย หลวงปู่หา สุภโร วัดสักกะวัน ใต้ฐานอุดผงพุทธคุณ

    มหาเทพกวนผู้ยิ่งใหญ่ แห่งความจงรักภักดี คุณธรรม และความกล้าหาญ” เป็นแบบอย่างในเรื่องความซื่อสัตย์ กตัญญู รู้คุณ เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคลของการต่อสู้ แข่งขัน ชิงชัย มหาเทพกวนอูจึงมีผู้เคารพนับถือบูชามาก ในลัทธิเต๋านั้นยกย่องให้กวนอูเป็นเซียนแห่งความจงรักภัคดี และพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานก็ยกย่องให้กวนอูเป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ซึ่งเรียกว่า "พระสังฆรามโพธิ์สัตว์" หรือ "เจียหลานผูซ่า" กวนอูนั้นเป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงในราชวงศ์ฮั่น หรือในสมัยสามก๊กที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักกันดี ท่านเป็นผู้มีคุณสมบัติของการเป็นผู้นำที่มีจริยธรรมในด้านความซื่อสัตย์และความกล้าหาญ จนได้รับการขนานนามว่า "บุคคลแห่งความซื่อสัตย์ถือคุณธรรม กตัญญูรู้คุณและความกล้าหาญ"คนโบราณบูชาเทพเจ้ากวนอู เนื่องจากทำการค้าต้องมีความซื่อสัตย์ มีคุณธรรม และมีพวกพ้องที่ช่วยเหลือกันได้

    กวนอูปางนั่งอ่านตำรายามราตรีลูบเครา (กวนกงเยี่ยตู๋) ปางที่สงบเยือกเย็น เหมาะสำหรับบ้านเรือนและบุคคลทั่วไป จะนำความสงบสุขร่มเย็นมาสู่ผู้ศรัทธาที่บูชากราบไหว้ อีกทั้งคุ้มครองป้องปักรักษาบ้านเรือน ทำมาค้าขายรุ่งเรือง ก้าวหน้า ในทางฮวงจุ้ยกวนอูปางนี้ใช้เป็นเคล็ดเสริมพลังด้านชัยชนะในการศึกษา การสอบแข่งขัน การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง
     
  10. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 003 พระบารมีสิบทัศน์ หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม
    บูชาแล้ว พร้อมจัดส่ง (จองแล้ว)
    Screen Shot 2562-04-18 at 11.57.20 PM.png
    20190408_212345_resized.jpg 20190408_212207_resized.jpg 20190408_212239_resized.jpg 20190408_212330_resized.jpg Screen Shot 2562-04-18 at 11.57.20 PM.png 47689505_482460958943652_4443940349785669632_n.jpg 17757352_136368650228971_256228825075253084_n.jpg Screen Shot 2562-04-19 at 12.00.45 AM.png


    พระสิบทัศน์ หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม เนื้อดินเคลือบดำ พิมพ์กลาง ด้านหลังหลวงพ่อจารเปียกก่อนเผาทุกองค์

    สร้างกดเองทุกขั้นตอนโดยหลวงพ่อและพระลูกศิษย์ภายในวัด ปลูกเสกตามรูปแบบเฉพาะสายวัดดอนยายหอมเหมือนเมื่อครั้งหลวงพ่อเงินสร้างทุกประการ เป็นพระที่น่าบูชาและเก็บสะสมมาก กรรมวิธีตามแบบโบราณทั้งการสร้างและเสก ปัจจุบันหลวงพ่อท่านอายุ 77 ปี ซึ่งท่านบวชตั้งแต่สมัยหลวงพ่อเงิน และหลวงพ่อแช่ม ได้ร่วมในพิธีกรรมการปลุกเสกพระตามแบบวัดดอนยายหอมมาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อเงิน


    หลวงพ่ออวยพร ท่านเกิดในวันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2485 ตรงกับปีมะเมีย เป็นบุตรของปู่พวง และย่าอินทร์ ในสกุลอินทนชิตจุ้ย ซึ่งปู่พวงนี้เองก็เป็นน้องชายร่วมบิดากับหลวงพ่อแช่มซึ่งวันและปี นักษัตรของท่านตรงกับหลวงพ่อแช่มทั้งคู่ จึงเป็นหลานที่หลวงพ่อแช่มรัก มาก เมื่ออายุครบ 21 ปี ในปี พ.ศ. 2506 หลวงพ่ออวยพรก็ได้อุปสมบท ณ อุโบสถวัดดอนยายหอม โดยมีหลวงพ่อเงิน เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอมเป็นพระกรรมวาจาจารย์พระอาจารย์แก้ว วัดดอนยายหอมเป็นพระอนุสาวนาจารย์โดยหลวงพ่อเงินตั้งนามทางสงฆ์ให้ว่า “ฐิติญาโณ” แปลว่าผู้มีญาณตั้งมั่นจากนั้นหลวงพ่ออวยพรก็ตั้งหน้าศึกษาพระปริยัติธรรม และภาษาบาลีพร้อมทั้งท่องนวโกวาทควบคู่ไปกับการท่องหนังสือสวดมนต์พร้อมปฏิบัติกิจของสงฆ์ ด้วยเหตุแห่งความเพียรนี้ จึงสามารถสอบได้ “นักธรรมเอก”เพียงรูปเดียวของวัดดอนยายหอม เมื่อปีพ.ศ.2511 หลวงพ่อเงินชื่นชมมากได้เรียกไปพบแล้วกำชับให้หลวงพ่ออวยพร เรียน “ปฏิบัติธรรม” เพราะหากเรียนปฏิบัติธรรมแล้ว “ปฏิเวทธรรม” ก็จะตามมาเองนอกจากนั้นหลวงพ่อเงินยังได้แนะนำวิธี ปฏิบัติ “กัมมัฏฐาน” ให้อีกด้วย ซึ่งหลวงพ่ออวยพรก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทุกเรื่องที่หลวงพ่อเงินสอนมาหลวงพ่ออวยพรล้วนรับและปฏิบัติได้หมด จึงได้รับความไว้วางใจให้เป็นกรรมการคุมสอบ“ธรรมสนามหลวงสนามจังหวัด” ตั้งแต่ปี พ.ศ.2512 จนถึงปัจจุบันในปีพ.ศ. 2514 พรรษาที่ 8 หลวงพ่ออวยพรได้รับแต่งตั้งเป็น “พระครูใบฎีกา” ซึ่งเป็นฐานานุกรมของพระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) จนกระทั่งปี พ.ศ. 2545 หลวงพ่ออวยพร ได้รับแต่งตั้งเป็น “พระครูสังฆรักษ์อวยพร” และในปี พ.ศ.๒๕๕๒ ท่านก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลดอนยายหอม โดยในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้เลื่อนขึ้นเป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร ที่ “พระครูปฐมวราจารย์” อันมีความหมายว่าพระครูผู้เป็นที่สุดแห่งนครปฐม อันเกิดจากว่าท่านเองได้ดูแลทำนุบำรุงศาสนาทั้งในวัดดอนยายหอมวัดในดูแลและวัดต่างๆที่ขอพึ่งบารมีทั้งในประเทศไทยและประเทศอเมริกานั่นเองซึ่งหลวงพ่ออวยพรนี้ถือเป็นศิษย์เอกรูปหนึ่งของหลวงพ่อเงินที่ได้สอนวิชาด้านวิปัศนาและวิทยาอาคมให้ โดยในพรรษาที่10ซึ่งท่านมีญาณในระดับ ที่น่าพอใจหลวงพ่อเงินได้เรียก ให้นำดอกไม้ธูปเทียนไปรับการครอบครู เพื่อเรียนวิชาอย่างเป็นทางการอีกด้วยและในส่วนหลวงพ่อแช่มเองก็ไว้วางใจสอนทุกองค์ความรู้ทั้งยังมอบหมายให้ท่านไปนั่งพุทธาภิเษกหลายครั้ง

    โคกยายหอม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปากว่า "เนินพระ" ถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิด "พระสิบทัศน์" ของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อ หลวงพ่อเงินท่านริเริ่มจะสร้างพระอุโบสถ วัดดอนยายหอม ท่านจึงไปขุดอิฐทำรากที่บริเวณ โคกยายหอม ก็บังเอิญ พบโบราณวัตถุทางพระพุทธศาสนาอันล้ำค่ามากมาย อายุนับพันปี เช่น เสาหินแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่,รูปปั้นกวางเหลียวหลัง,เสมาธรรมจักร (ทั้งหมดนี้ ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่วัดดอนยายหอม) นอกจากนี้ ยังได้พบแม่พิมพ์พระเครื่อง มีพระพุทธรูป 10 องค์ อยู่ในแม่พิมพ์เดียวกัน ต่อมาทางวัด ได้นำแม่พิมพ์นี้ไปพิมพ์พระเครื่องสำหรับแจก แล้วขนานนามพระเครื่องนั้นว่า

    "พระสิบทัศน์" มาจนบัดนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2019
  11. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,908
    ค่าพลัง:
    +6,808
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  12. คุณต้า

    คุณต้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2014
    โพสต์:
    783
    ค่าพลัง:
    +406
    จองครับ
     
  13. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    -ขอบคุณมากๆครับ
     
  14. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 004 พระปิดตาปลดหนี้ ทาทอง พ.ศ.๒๕๕๔ ครูบาอ่อน รัตนวัณโณ วัดสันต้นหวีด
    (จองแล้ว)
    20190408_211703_resized.jpg
    20190408_211738_resized.jpg 20190408_211719_resized.jpg __2_177.jpg 1000796_518482694881210_709919435_n.jpg 6D12A59613 copy.jpg 8d25eda9-9e28-4d77-b60d-d6da15347171.jpg 4gf44.jpg
    ประวัติการสร้างพระรุ่นปลดหนี้ หลวงปู่ครูบาอ่อน วัดสันต้นหวีด จ.พะเยา ลูกศิษย์หลวงปู่เล่าว่า ศิษย์พระอาจารย์เอกวัดเขาแร่ สุโขทัย คนหนึ่งเป็นผู้ชายทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ภาวะทางการเงินขัดสนมีปัญหา พระอาจารย์เอกจึงแนะนำให้สร้างบล็อกพระปิดรุ่นปลดหนี้ ถวายหลวงปู่ครูบาอ่อน รตนวัณโณ จากนั้นได้ข่าวว่าหนี้ก้อนหนึ่งได้ปลดไป..(ข้อมูลจากการบอกเล่าโดยศิษย์หลวงปู่)

    ในช่วงนั้นเวลาใครไปกราบท่าน หรือท่านไปกิจนิมนต์ ท่านก็มอบพระให้ไปใช้พร้อมกล่าวว่า
    "ถ้าสูอยากหมดหนี้ เอาพระของข้าไปใจ้"

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ) วัดท่าขนุน เล่าว่า "หลวงปู่ครูบาอ่อน หลวงปู่ครูบาผัดเผาเสร็จอัฐิกลายเป็นพระธาตุทันทีเลย ปกติต้องทิ้งไว้ระยะหนึ่งค่อยเป็น ก็ยังโชคดีที่ท่านเมตตาไปที่วัดท่าขนุนโดยเฉพาะงานสืบชะตาปี ๒๕๕๓”
    ส่วนหนึ่งจากเก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๘

    พระครูสันติธรรมาภิรม (ครูบาอ่อน รตฺตนวณฺโณ) วัดสันต้นหวีด ต.แม่ปืม อ.แม่ใจ จ.พะเยา
    หลวงปู่อ่อน รตนวัณโณ หรือ “พระครูสันติธรรมมาภิรม”...เป็นชาวบ้านสันต้นหวีดโดยกำเนิด เมื่อปี 2465 อายุ 12 ปีบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดใหม่หลวง ซึ่งอยู่ไม่ไกจากบ้านเท่าใดนักเพื่อเรียนนักธรรม เมื่ออายุครบบวชจึงอุปสมบท ณ วัดศรีบุญเรือง อยู่ได้ไม่กี่พรรษา โยมมารดาป่วยจึงลาสิกขามาดูแล ตอนนั้นอายุ 25 ปี เป็นการตอบแทนพระคุณ แสดงถึงความกตัญญูบุพการี ช่วงที่กลับมาเป็นฆราวาสได้บรรลุถึงสัจธรรม.....สังขารนั้นไม่เที่ยง สังขารเป็นทุกข์เป็นอนัตตาไม่ใช่ความสำเร็จ จึงตัดสินใจลาครอบครัว กลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง ในปี 2505 ณ วัดศรีอุโมงค์คำ ครั้งนี้ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง โดยเฉพาะ ได้เป็นศิษย์ของครูบาแก้ว คันธวังโส (อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ) อันเป็นศิษย์สายตรงของ ครูบาศรีวิชัย สิริวิชโย ครูบาอ่อนได้ธุดงค์และปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเข้ารุกขมูลมาเป็นระยะๆ และเผยแผ่ศาสนา อบรมจริยธรรมแก่พุทธศาสนิกชนด้วยหลักธรรมพื้นๆ เดินแบบสายกลาง คือไม่เคร่งดึงเกินจนทำอะไรไม่ได้ และไม่หย่อนกระทั่งขาดวินัย...เพื่อให้ศิษยานุศิษย์สามารถเข้าถึงได้ในการถือปฏิบัติ

    หลวงปู่อ่อน เป็นอริยสงฆ์ที่สมถะรูปหนึ่ง นอกจากจะได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสและยังได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลด้วย ต่อมาปี 2543 จึงลาออก เปิดโอกาสให้สงฆ์รูปอื่นที่เหมาะสมได้เข้าบริหาร และการสงเคราะห์สังคมมิใช่เพียงการปฏิบัติธรรมเท่านั้น ด้วยเมตตาพลังภายใต้จิตสำนึก ยังบริการสังคมด้วยกิจอื่นๆ ไม่เหน็ดเหนื่อยกับการรับกิจนิมนต์ไกลใกล้ มิได้ขัดศรัทธา อีกทั้งได้นำความรู้สมุนไพรมาบำบัดการเจ็บป่วยไข้ ให้หายหรือบรรเทา...จึงเปี่ยมด้วยศรัทธาบารมี

    ด้านวัตถุมงคลวิชาคาถาอาคม หลวงปู่ท่านก็มีความรู้อยู่มาก ศึกษาสรรพวิชาตามแบบอย่างครูบาอาจารย์ที่ได้ถ่ายทอดต่อกันมา พลังจิตองค์ท่านเข้มขลังจนได้รับความเลื่อมใสไม่แพ้เกจิอาจารย์อื่นใดในล้านนา หลวงปู่อ่อนได้เมตตาสร้างเครื่องรางและวัตถุมงคลจ่ายแจกศิษยานุศิษย์อยู่หลากหลาย ล้วนแล้วแต่มีพุทธคุณเป็นที่ประจักษ์ ทั้งคุ้มครองรักษา และเมตตามหานิยม

    ครูบาอ่อน รตฺตนวณฺโณ ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ โรงพยาบาลพะเยา เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๕เวลา ๐๙.๕๙ น.ด้วยโรคชรา สิริรวมอายุได้ ๙๐ ปี พรรษา ๔๐ ก่อนหลวงปู่ละสังขาร ท่านได้ถามลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดว่า “เธอรู้จักคำว่านิพพานไหม” แล้วบรรดาลูกศิษย์ก็กล่าวรับว่า “สาธุ” แล้วท่านก็บอกว่า “นิพพานเป็นที่สุด” หลังจากนั้นท่านก็แน่นิ่งบริกรรมกรรมฐานไม่ได้พูดกับใครอีกเลย (หนังสือรตฺตนวณฺโณ มหาเถรานุสรณ์)

    วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2556 ได้จัดพระราชทานเพลิงศพ หลังเก็บอัฐิเป็นปาฏิหาริย์ เมื่อกระดูกและขี้เถ้าแปรสภาพเป็นพระธาตุอันสดใส...จึงมีการ จัดสมโภชเพื่อความเป็นมงคล พระธาตุหลวงปู่นั้นมีจำนวนมากมายหลากหลายวรรณะ หลายทรง หลายสี ราวกับอัญมณี เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ชัดเจนถึงภูมิจิตภูมิธรรมของท่าน ว่าหลวงปู่ท่านนั้นเสร็จกิจ เข้าสู่แดนอนุปาทิเสสนิพพาน เป็นที่แน่นอนแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2019
  15. Roj_56

    Roj_56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    607
    ค่าพลัง:
    +1,489
    ขอบูชาครับ
    รายการที่ 004 พระปิดตาปลดหนี้ ทาทอง พ.ศ.๒๕๕๔ ครูบาอ่อน
     
  16. คุณต้า

    คุณต้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2014
    โพสต์:
    783
    ค่าพลัง:
    +406
    โอนแล้วครับ เวลา 15:36 ที่จัดส่งทางกล่องข้อความครับ
     
  17. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 005 ยาหมากหานปอง(ยาหัวผีลู) (ผีลู = ยักษ์)
    เจ้าสย่าต่ออูวิชัยยะ วัดจองกองมูคำ เขมรัฐ นครเชียงตุง (รองสังฆนายก ฝ่ายไตย นครเชียงตุง)

    บูชาแล้ว รวมจัดส่ง จองแล้ว
    Screen Shot 2562-04-20 at 10.54.49 AM.png
    20190311_221726.jpg 20190311_221737.jpg 20190311_221753.jpg Screen Shot 2562-04-20 at 11.10.04 AM.png Screen Shot 2562-04-20 at 11.09.06 AM.png

    เจ้าสย่าต่ออูวิชัยยะ วัดจองกองมูคำ เขมรัฐ นครเชียงตุง อายุ 82 ปี 62พรรษา
    รองสังฆนายก ฝ่ายไตย นครเชียงตุง

    หัวผีลูหรือยักข์ราหู เนื้อว่านและมวลสารแก้อาถรรพ์ร้าย เป็นเครื่องรางของทางไทใหญ่ พม่า เป็นการถนอมว่านยามาใช้ประเภทหนึ่ง ใช้ได้สารพ้ด สำหรับคุ้มครองป้องกันคุณไสยถูกกระทำที่มา โดยมองเห็นและไม่เห็น ตลอดจนภูตผีที่คิดร้ายต่างๆ หรือถูกทำเสน่ห์,คลอดลูกยาก,สถานที่อาถรรพ์และอื่นๆให้นำผงยักษ์ ผสมน้ำดื่มหรือพกติดตัวจะ แก้หรือป้องกันได้คล้ายเบี้ยแก้ ต้นตำหรับมาจากพม่าของชาวมอญ พระธนบดี (ยาหัวผีลูก) เจ้าแห่งทรัพย์ ผู้มีอำนาจเหนือภูตผีปีศาจทั้งปวง สร้างตามตำรา โดยมีผงพุทธคุณ ผงวิเศษ ผง และยาอาถรรพ์ต่างๆ ที่มีสรรพคุณทางด้าน ป้องกัน ภูตผีปีศาจ มีอำนาจฤทธิ์ คุ้มครองป้องกัน อันตราย ตลอดจนมีเมตตา มหาเสน่ห์ โชคลาภ บารมี ตามอิทธิคุณของผงต่างๆ

    วิธีใช้ นำไปเลี่ยมรอบบูชาติดตัว บ้านเรือน ยานพาหนะ ป้องกันคุณผีคุณคน คุณไสย์ ทั้งหลาย ผีปีศาลโหงภูติพรายอสรุกายสิ่งไม่ดี ไม่สามารถที่จขะมาทำร้ายเราได้ เสริมโชคลาภด้วย เพราะตามตำนานท่านเป็นเจ้าแห่งทรัพย์ ถ้าเจอสิ่งไม่ดี หรือเวลาใดที่มีเคราะห์อุบาทว์ ให้ ไม่สบายใจ ไม่สบายตัว ดวงชะตาตก ฝันร้าย ขวัญหาย ให้อารธนายานี้ แช่น้ำส้มป่อย อาบกลางแจ้ง อธิฐานเอา ท่านว่าดีนัก จะ อยู่ดีกินดี ถ้าจะขายของท่านให้เอาแช่น้ำ พรมขายของดี ถ้าปลูกพีชปลูกสวนให้เอาแช่น้ำ พรม จะบริบูรณ์ดีนัก ครับ

    มวลสาร
    ยาอิกส่าสะยะ เจ็ดลูกวัน ยาพารางาสู่ ยาปฐัมงพระเจ้านั่งแท่น ยาปฐมมังอางคำ ยามหาเตวะออสะถะ ยารัตตะนะปานกุมแห้ว ยาสายปานกุมคำ ยาขุนเดือนขุนวัน อางปุ่งนะกะผีลู อางแป๊อะหน่าเก้าสิบหกเจื๊อ อางภะยะสิทธิ และยาตามตำราไทยใหญ่ กว่า ร้อยแปดชนิด หนามเจ็ดเจีอ แส่นผีตีน หมื่นผีก๊าบ ล้านผีป่าย ตำแหวลพันดวง ผงว่านร้อยแปด ผงดอกร้อยแปดฯลฯ


    ส่วนผสม
    ยันต์อางส้มป่อยปองแสนยา ทำมาจากส้มป่อยอย่างดี ประกอบด้วยตัวยา 1.แสนผีตื่น 2.หมื่นผีค้าน 3.ล้านผีพ่าย 4.หนาม7เชื้อ 5.ขุนหลวง10ขุน 6.หว่านปอง(ผงว่าน) 7.ดอกไม้ปอง(ผงดอกไม้) 8.ยาอิกส่าสะยะ 7ลูกวัน 9.ยาปะฐะมังอางคำ 10.ยาเทวะโอสกะ 11.ยาชัมพูมังคุยาม 12.ยาหลวง ยาคุยามชนะเภ้อชนะผีทั้งหลาย 13.อวงจัมปานวะ 14.อางอัฏฐะมุกข์ 15.อางปัฎฐาน24 16.อางคุยามชนะโรคา 69 จำพวก 17.อสงภยะสิทธิชนะโรคทุกอย่างและยาอื่นๆอีกมากมาย

    ผสมกันกดเป็นยันต์ ตากให้แห้งแล้วจึงเข้าพิธีตั้งขันธ์อบรมสมโภชน์เจริญพุทธมนต์ เสกด้วยพุทธคาถาและมนตราอันศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ จนสำเร็จเป็นยันต์อางผีหัวลู

    อุปเทห์วิธีการใช้
    1.ใช้ทำน้ำมนต์อาบให้อยู่ดีมีสุข
    เมื่อมีเคราะห์ สามวันดี สี่วันไข้ ฝันร้าย นอนละเมอเพ้อคลั่ง ผีอำ ถูกคุณผีคุณคน ถูกกระทำมิดีมิร้ายด้วยมนต์ โดนคุณไสย พบเห็นหรือได้ยินนิมิตร้าย ถูกอุบาทว์จังไรต่างๆ ให้เอายานี้ทำน้ำมนต์อาย โดยให้ตักน้ำมาพอที่เราจะอาบเอายานี้แช่ไว้สักครู่หรือขูดเอาผงยาที่เป็นอางยันต์นั้นใส่เล็กน้อยแล้วอาบ แต่อย่าให้น้ำที่อาบนั้นไหลรวมกับน้ำสกปรก ไม่ควรอาบในร่ม ให้อาบในที่ไม่มีชายคามุงบัง หากอาบให้เด็กๆจะไม่งอแงไม่เจ็บป่วยง่าย เลี้ยงง่าย แข็งแรงโตเร็ว
    2.ใช้ด้วยการรักษาโรคต่าง ๆ
    เป็นผีเจ็บฝีเรื้อรัง มือเท้าเคล็ดขัดยอก ๔กผีสิง เจ็บท้องจุกเสียด ถูกสัตว์มีพิษกัดต่อย ให้อธิฐานขอเอาน้ำบูชาพระพุทธ เป็นกระสายยาให้กินเล็กน้อยแล้วที่เหลือใช้ทาลูบในบริเวณที่มีอาการ จะทุเลาและหายในที่สุด หาเจ็บเอว ปวดแข้งขาให้เอาน้ำมันพันธุ์ฝักกาดผสมกับยานี้แล้วทา จักบรรเทาอาการปวดทีละน้อย
    3.ใช้กับสัตว์เลี้ยง
    หากเป็ด ไก่ หมู หมา วัว ควายและปลา ให้เอายานี้ทำน้ำมนต์หรือผสมหญ้าหรืออาหารให้สัตว์เลี้ยงกิน และประพรมตามคอกตามเล้า ที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยง ไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียนและควรทำทุก7วัน
    4.ใช้ในทางมหานิยมค้าขาย
    อยากให้ซื้อง่ายขายคล่อง เป็นมหานิยมให้ท่านรักเมตตา ให้เอายานี้ผสมกับน้ำหอมประพรมบนเรือนแผงร้านค้าหรือสินค้าจะซื้อง่ายขายคล่องค้าขายได้ดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2019
  18. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 006 พญาครุฑ มหาอำนาจ เนื้อรวมแร่ หลวงพ่อหนุน สุวิชโย
    บูชาแล้ว รวมจัดส่ง

    Screen Shot 2562-04-20 at 12.42.10 PM.png
    20190416_195306.jpg 20190416_195321.jpg 20190416_195224.jpg 56965576_1399344026879777_7467167206669811712_n.jpg
    พญาครุฑ มหาอำนาจ เนื้อรวมแร่ หลวงพ่อหนุน สุวิชโย
    หลวงพ่อผสมแร่เอง และสร้างหล่อเองภายในวัด
    หล่อด้วยแร่ศักดิ์สิทธิ์ ๗ ประเทศ และวัตถุอาถรรพ์ เช่น แร่บังบด
    ตะกั่วลูกปืนผ่าจากศพ ไหลคำดำ


    เข้าพิธีพุทธาภิเษกตั้งแต่ช่วงปี ๖๑ ถึงพิธีใหญ่ งานปริวาสกรรม ปี ๖๒


    ครุฑนั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง มหาอำนาจ ล้างอาถรรพ์ บริวารและผู้คนยำเกรง เจริญยศเลื่อนตำแหน่ง โดยเฉพาะข้าราชการ

    สิทธิอำนาจพญาครุฑ สัตว์กายสิทธิ์ที่ไม่มีผู้ใดสามารถฆ่าให้ตายได้มีอายุยืนเสมือนว่าเป็นอมตะนั้น นับเป็นเรื่องลี้ลับที่ผู้รู้พยายามค้นคว้า และเสาะหาที่มาแห่งพลังอำนาจดังกล่าว จนเกิดการสร้างเครื่องรางต่าง ๆ ขึ้น อำนาจพญาครุฑสามารถจำแนกได้ถึง ๘ ประการ โดยนับเอาอำนาจหลัก ๆ ได้ดังนี้คือ

    ๑.เป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอำนาจอันเฉียบขาด
    ๒.สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสย์ทั้งปวง ภูติผีปิศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้
    ๓.เป็นสื่อนำความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน
    ๔.ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน
    ๕.เป็นเมตตามหานิยม
    ๖.นำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้
    ๗.ทำมาค้าขายดีเป็นสื่อนำโชคลาภนานาประการ
    ๘.สัตว์ร้าย เขี้ยวงาสารพัด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อสรพิษไม่กล้ากล้ำกรายเข้าใกล้ เพราะเกรงตบะบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2019
  19. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,908
    ค่าพลัง:
    +6,808
    ขอจองครับ
     
  20. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 007 เหรียญเม็ดแตง เนื้อทองแดงรมดำ หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม
    บูชา 200 บาท รวมจัดส่ง

    Screen Shot 2562-04-20 at 9.09.50 PM.png
    20190416_195653.jpg 20190416_195610.jpg 15355704_1824945994412866_4375903734750989934_n.jpg

    จิ๋วแต่แจ๋ว เหรียญนี้หลวงปู่แจกทาน และ สมนาคุณผู้บริจาคผ้าป่ามหาชน เจตนาบริสุทธิ์ มีประสบการณ์คุ้มครองป้องกันมากมาย ทั้งเด็กถือไฟแช็คระเบิดแล้วไม่เป็นอะไร และ ลูกศิษย์ที่รอดจากอุบัติเหตุ

    "เราทำให้ดีแล้ว...กลั่นความบริสุทธิ์...จากใจ"

    "เก็บๆไว้มั่งนะ อีกหน่อย จะได้เห็นความพิเศษเอง และ จะมีคุณค่า อย่างมหาศาล"
    ................................................
    การอธิษฐานจิตวัตถุมงคล ก็เหมือนเราได้ภาวนาไปด้วย พอจิตรวมสู่ความสงบ ก็ถ่ายทอดกลั่นกรอง พลังความบริสุทธิ์ จากจิต ไปสู่วัตถุมงคลต่างๆ ให้เกิดความเป็นมงคลได้ตามใจ

    เราทำให้ดีแล้ว กลั่นความบริสุทธิ์จากใจ ที่ไม่มีอะไร ไปสู่ความไม่มีอาลัย ทำได้แบบนี้ ของนั้นดีทุกอย่าง คนไม่มีอาลัย ทำอะไรๆมันก็ดี เพราะเราไม่ได้ใช้คาถา ถ้าใช้คาถาอาคมกำกับลงไป มันดีแค่เฉพาะทาง

    ใช้ความบริสุทธิ์ จากจิตใจนี้เเหละ ครอบคลุมลงไป ไม่มีเสื่อมสลาย ทรงอานุภาพอยู่ได้นาน ตามอายุพระพุทธศาสนาเลยทีเดียว ไม่มีเสื่อม

    วัตถุมงคลนั้น จะดีหรือไม่ดี อยู่ที่คนใช้ คนใช้ ก็ต้องปฏิบัติตนให้เป็นมงคลด้วย วัตถุมงคลที่เราอธิษฐานใจลงไปนั้น จึงจะเป็นมงคล สิริมงคลก็จะเกิดในชีวิต


    หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

    หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร พ่อแม่ครูอาจารย์ศิษย์องค์หลวงปู่แหวน สุจิณโณ พระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเนื้อนาบุญใหญ่ของภาคตะวันออก ท่านมีนิสัยเด็ดเดี่ยว เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เมตตาโปรดศิษย์ทุกคนโดยไม่เลือกยากดีมีจน ประวัติท่านไม่ธรรมดา สมัยวัยรุ่นท่านใช้ชีวิตฆราวาสมาอย่างโชกโชน ท่านรอบรู้และศึกษามาทุกด้าน สุดท้ายท่านได้พิจารณาและรู้ว่า สิ่งนั้นไม่ใช่ของที่ดีที่สุด ท่านจึงละและปฏิบัติภาวนาอย่างเอาจริงเอาจัง จนเสร็จกิจ ด้วยเหตุที่นิสัยเดิมท่านเด็ดเดี่ยว ศึกษามาเยอะ จึงไม่แปลกว่าวัตถุมงคลของท่านจะมีประสบการณ์สูงในทุกด้าน ส่วนใหญ่จะมีผู้กล่าวถึงในด้านคุ้มครองป้องกันอันตราย และ หนุนนำให้ชีวิตประสบความสำเร็จตามแต่จะอธิษฐาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...