ทำยังไงจะเจอจิตผู้รู้ เพื่อแยกกายและจิตได้คับ

เวลาโม้ทับสร้างภาพมันไม่คิด
พอท้ากลัวเสียฟอร์มเลยแถ
๕๕๕ เพราะมันทำไม่ได้อย่างที่มันโม้ไว้
๕๕๕๕ ส่วนตรรกะมะรึงเริ่มเพี้ยนแล้วนะ อิอิ

พูดทำไม หาพวกเหรอ
เอาตัวมะรึง เก่งจริงรับคำท้ามา
เอาระดับอุปจาสมาธิที่ตัวมะรึงโม้เลย
เวลาโม้ ต้องกล้าพิสูจน์ นะ อิอิ

อ้างแระตามสูตร พูดอ้างแค่นั้นหละ
ตัวมะรึงไม่รู้อะไรหรอก ๕๕
ถนัดมโนอ้างโม้ยกเอาเพื่อชนะ
เพราะเถียงไม่ได้นั่นหละ เลยเริ่มอ้างแถ อิอิ
ไอ้กระจอก เก่งแต่ปาก อิอิ

 

ขนาดบอกว่า ไม่เคยว่าตัวเองเป็นคนดี
มันก็ยังมาด่า ทำไมมันโง่จังวะ
พูดรอบที่ ๓ แระ นี่ประเด็นแรก
ธรรมดามันสร้างไว้เยอะ
มันเลยด่าคนแนวนี้ไว้ก่อน

ต้องด่าตรูว่าไอ้คนดี ตรูถึงจะโกรธ
ไอ้โง่ ๕๕๕ เพราตรูไม่เคยบอกว่าตรูดี ๕๕


ไอ้โง่แผ่บุญ ถ้าจะเอาชนะด้วยคีย์บอร์ดจะท้ามะรึงทำไม ปึกแท้ เรียนภาษาไทยมาหรือเปล่า
เพราะสติ สัญญา ทิฐิ มะรึงเริ่มเพี้ยน
เลยตีความแบบนี้ โง่จิหาย

ก็อุตส่าห์เอาที่มะรึงโม้ไว้ มาท้ามะรึงเอง
ทำไมไม่กล้ารับ
แถถถถถถถถ สร้างภาพจัง อิอิ
คนเพี้ยนรายต่อไป อิอิ

 

ใช่ กระจอกจริงๆ
เก่งจริงต้องรับคำท้ามา
แก้ข้อหา เก่งคีย์บอร์ดไง
ไอ้ตรรกะเพี้ยน อิอิ

เอาตัวเองให้รอดก่อน เหอะ ๕๕ ขี้โม้หลวง
โพธิฯ ๕๕๕๕๕ ขำฟันร่วง

ความสามารถหางอึ่งอ่าง
ปัญญาทางแบบนี้ ตรรกะแบบนี้
ออกงานก็ไม่ได้ ข่วยใคร
ก็ยังไม่เคยอย่างมะรึงนี่นะ 55555

โม้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไอ้โม้กระจอก ไม่อายคนเลยเนาะ
ตรูด่ามะรึงคนเดียวตอนนี้
เพราะ ดูตัวมะรึงถูกต้อง
อย่าแถหาพวก
ไอ้ สติ ทิฐิ สัญญา วิปลาส อิอิ

 

ความเห็นมาจากการปฎิบัติ หรืออ้างแหล่ง
ที่เขื่อถือได้ ไม่ใช่คิดเอานะ
ก็ปฎิบัติแบบคิดเอาถึงโง่แบบนี้ไง
คิดว่าสมาธิสำเร็จเพราะคิดเหรอ
ไอ้โม้ อุปจารสมาธิที่คุย
แน่จริงมาพิสูจน์ไหม
ตรูว่า มึงทำไม่ได้ ฟันธง อิอิ

 

55 ตรรกะเพี้ยนแระ แถอีกต่างหาก
กลัวเสียฟอร์ม ถามจริงๆ โง่แบบมะรึง
คุยโม้ สันดานแบบนี้
ใครจะสอนมะรึง ๕๕๕ เจียมตัวบ้าง
ไอ้อุปจารสมาธิขี้โม้
ไม่กล้าพิสูจน์ กระจอก อิอิ

 

กลายเป็นกระทู้ทะเลาะกันไปแล้ว แทนที่ผมจะได้ความรู้เต็มๆ TT

 

ตรงๆนะที่ส่วนตัวแนะนำ
ถ้าทำได้ก็หรูแล้วหละ
ค่อยๆเป็นค่อยไปนะครับ
คนเราต้องเริ่มคลานก่อน
ถึงจะวิ่งได้ในอนาคตทั้งนั้นครับ
เลือกเฉพาะที่มีประโยชน์
กับตนเองพอครับ

ปล เสือไม่เอาแต่เห่านะ และไม่ขี้ปอดด้วย
เสือไม่เก่งแต่ปากด้วย ต้องไม่พูดมาก ไม่แถ
กล้ารับคำท้าเลย เสือต้องกล้าแสดงความสามารถและกล้าพิสูจน์ความสามารถตนเอง

นิสัยและความสามารถแบบ ไอ้แผ่บุญ
เค้าเรียก หมาชิวาว่า.แต่เอาหน้ากากเสือมาใส่ เอาไว้หลอกหมาน้อยด้วยกัน ๕๕๕

คนเราจะโม้อะไรยกตนเอง
ช่างไม่รู้จักเจียม ความสามารถตนเอง
พูดมาได้ไม่อายปาก ๕๕๕

 

แถไปเรื่อย เก่งจริง

รับคำท้ามา อย่าโม้ ถุยยยย

พอดีไม่เคยมีนิสัยหมารอบกัด

เลยไม่รู้จะต้องรับคำท้าทำไม

คือสมองมะรึง มีตรรกะความไหม

ถามจริงๆ ทำไมโง่จังเลย

และแถอยู่นั่นแระ


ถ้ามีนิสัยรอบกัดจะท้า

ชิวาว่า แสดงความสามารถทำไม

เพราะชิวาว่าที่โม้หนักโม้หนา

บอกว่าข้าพเจ้ากระจอกไง

และเห็นคุยว่าทำได้ไม่ใช่หรือ

อุปจารสมาธิ แต่ข้าพเจ้า

บอกว่า ชิวาว่ามันโม้

เรียกว่า แฟร์ๆ


ว่าแต่ ชิวาว่าใส่หน้ากากเสือ

นึกว่ากระจอกอย่าวเดียว

เจือกเก่งแถอีก อิอิ

ขี้โม้ระดับโลก ตัวเองทำไม่ได้

ไม่กล้ารับคำท้า

มีหน้าว่าคนอื่นกระจอก

ปัญญาอ่อนแระ ๕๕๕

ตรรกะกระบือมาก อิอิ

ใช่ เพราะมะรึงโง่ไง

กระบือยังเรียกพี่

ถึงได้โชว์โง่เรื่อยไปได้ อิอิ

เหรอ ก็เลยท้ามะรีงไง

พอดีไม่เคยโม้เหมือนมะรึง

ตรูท้าแต่มะรึง

สัญญามะรึง วิปลาสแระ อิอิ

แถถถถถถถถถถถถ จริงๆ

เอาโล่ห์ไปเลย๕๕๕

จอมสร้างภาพ

ไอ้ตรรกะเพี้ยน อิอิ

บอกแล้วไม่เคยเป็นหมารอบกัด ไม่ต้องมาท้าอย่าโง่อีกนะ

สติมะรึง วิปลาสแล้ว อิอิ

๕๕๕ คำพูดพวกขี้โม้ แต่ไม่กล้ารับคำ

แถได้แค่นี้ อิอิ

ได้รับคำมาเลย

เอากรรมฐานที่มะรึงโม้เลย

ใครแพ้โชว์หน้าในเวบนี้ เอาไหม

และห้ามมาสอนสมาธิในนี้อีกเอาไหม อิอิ

ถ้ามะรึงรับ ตรูจะรับคำท้ามะรึง

ว่าไม่ด่าใครอีก แค่มะรึงต้องชนะตรูด้วยนะเอาไหม.

ส่วนหมารอบกัดไม่เคยทำ

เลยไม่ต้องรับคำท้า

ตรงนี้เพราะทิฐิมะรึงวิปลาส

เลยคิดแบบนี้ อิอิ

ไม่ปล่อยแต่มะรึงจนกว่าจะ สติ ทิฏฐิสัญญา
และตรรกะมะรึงจะเพี้ยน อิอิ
อีกซักพักเด่วก็สติแตก อิอิ

ขี้โม้ก็โม้วันยังคำ่
ทำสะเออะมาแนะคืน
ความสามารถอย่างมะรึงนะหรือ ๕๕๕
ชิวาว่า ปัญญาและความสามารถหางอึ่ง
เจียมตัวเองบ้าง อิอิ

เหรอ ขี้โม้ไม่เจียมตัว อิอิ
ท้าแต่มะรึงนะ ตอนนี้
ขี้ป๊อดก็บอก กลัวเสียเหรอ
ไอ้โม้ระดับชาติ
ความสามารถ ระดับหลังเขา ๕๕

ถุยยยยยยยยยยยยยย
หน้าอย่างมะรึง
ความสามารถอย่างมะรึง
ปัญญาอย่างมะรึงนะหรือ
กำลังจิตไม่มีอย่างมะรึงนะหรือ ๕๕๕
ไอ้ขี้โม้ จะคุยอะไร
เจียมตัวด้วย อิอิ

ฝันหรือเปล่า บักหำ ไม่ต้องมา
อโหสิตรูหรอก กำลังจิต
ความสามารถ บารมีแบบมะรึง
คำพูดมะรึงไม่มีผลกับตรูหรอก
บักหำน้อยเอ้ย ทำเป็นพูดยกตัวเอง
๕๕๕


หรือแค่คุยโม้ตามสันดานโม้น้ำเหลว อิอิ
ใครบอกมะรึง ๕๕๕ จิตโพธิ
เพี้ยนแล้ว
บักหำน้อยเอ้ยยยย อ่านหนังสือมากไปเปล่า
๕๕๕



กล้าเอาคำนี้ จิตโพธิมาโม้
๕๕ ตรูว่าแล้วสุดท้ายมันต้องโม้อีกแบบโชว์โง่ แค่ววดนี้โง่สุด
ตรีน๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
555555555555555555555
55555555555555555555
โอ้ยบักหำน้อย มามุขเด็ด
มุขนี้ขำถึง ดาวอังคาร
55555555555555555
ประโยคชุดนี้บอกว่ามะรึงเพี้ยนจริงๆ

ทั้งประโยคบอกเลย
มะรึงโม้ระดับโลกแล้วหละ
ขำยันเลยไปดาวพฤหัสแระ

หน้าอย่างมะรึงไม่มีทางรู้หรอกว่าจิตระดับ
โพธิ์เป็นอย่างไร เพราะมะรึงไร้ความสามารถด้านนี้ มีแต่อ่านเอา คิดเอา เดาเอา 55


ถ้าจิตมีสัมผัสแบบกิ๊กก๊อกแบบมะรึง
ความคิดทางปฎิบัติวกวนแต่ในสมอง
แถมถูกตัดทิ้งจากข้างบน ทั้งสายครูบาร์อาจารย์ทางธรรมและทางด้านพลังงาน
ตัวมะรึงเลยมีปัญญาแบบวกวน
ไม่พ้นความคิดและไม่มีความสามารถ
ทางด้านพลังงานเลยซักแอะ
เมตตาภายในพอมี แต่ภายนอกยังไม่มีเลยอิอิ เพราะมะรึงทำอะไรชอบหวังผล
แบบคิดให้ได้ดั่งใจ ทำเอาหน้านั่นหละ
อิอิ. ถ้าภูมิแบบมะรึงตอนนี้
เป็นภูมจิตโพธิตามที่มะรึงโม้เพ้อเจ้อ

ทุกคนในเวบนี้ตอนนี้
คือพระพุทธเจ้าทุกคนแน่นอน
555555555555


๕๕๕๕ เรื่องนี้ขำเลยไปถึงดาวเสาร์
เล่าได้ยันลูกหลาน
พึ่งรู้ว่า มะรึงเป็นคนสติแตก
ที่ตลกดี
๕๕๕

 

มวยถูกคู่จัดไปครับ

 

มะรึงอ่านไม่เข้าใจหรอก
เพราะถ้าอ่านแล้วพูดแย้งมา
ก็จะแสดง ทิฏฐิ สติ สัญญา ตรรกะ
วิปลาส ร่วมทั้งสันดานขี้โม้กระจอก
ของมะรึงเรื่อยๆให้ชาวโลกได้เห็นนั่นหละ

เรื่องชนะแบบสกปรก ไม่ต้องห่วง
ไม่คิดระยำทำแบบที่มะรึงกล่าวหาหรอก
คำก็รอบกัด คำก็สกปรก จิตมะรึงต่างหาก
ที่สกปรก
สมน้ำหน้า สันดานแบบนี้
ถึงถูกข้างบนตัด

รับคำท้ามาก็จบ ฟายยยยย

ตัวมะรึงเวลาพูดทางด้านปัญญา
ก็จะวกวนอยู่แต่ในสัญญาความจำได้
ส่วนเรื่องปฎิบัติ มะรึงเข้าไม่ถึงอยู่แล้วคือกระจอก จึงต้องเสริมด้วยการโม้ว่าตน
เห็นโน้นนี่นั้น ท้ายสุด เสริมด้วยวลีเด็ด
โพธิ. อิอิ ไอ้ “ชิวาว่า โง่สุทธิ”
พูดตามสภาพจิต มะรึงนะ

เมื่อไรจะรับคำท้า บักหำ เห่าอยู่ได้
เอาแต่แถสร้างภาพ สร้างไปสร้างมา
จนสติ ทิฐิ สัญญา ตรรกะ
เริ่มวิปลาสไปแระ ๕๕๕


Bye

 

Superman vs batman กลางวันปะทะกลางคืน พระเจ้าปะทะมนุษย์ ซัดกันนัวเลยทีนี้

 

+++ คุณ [-VaLentine-] เกิดทันเพลงนี้มั้ย

+++ โผนกิ่งเพชร เมล็ดชิงชัย
+++ โผนมือไว จับไข่เปเล็ด

(เพลงในยุค โผน กิ่งเพชร ชิงแชมป์มวยโลกยุคนั้น แต่เผลอ ต่อยเข้าใต้เข็มขัด เปเล็ด หนะ)

 

พี่ธรรมชาติครับ ผมเพิ่งอายุ 31 ครับพี่
เพลงนี้น่าจะรุ่นๆของพ่อผมวัยรุ่นอยู่เลยไหมครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

 

ต้องรุ่นท่านลุงแมวร้องบ่อบฮับ555

 

+++ อิอิ เจอแย้ว "เพลงตัวจิง" อยู่ที่นี่

https://www.thairath.co.th/content/339396

+++ ตอนนั้นผมยังเด็กมาก ๆ เลยจำเนื้อเพลงผิดไป
+++ แต่เด็ก ๆ รุ่นนั้น "โดนไม้เรียว" กันเป็นแถว ๆ จิง ๆ คับ

 

วีธีในหมวดสติปัฏฐาน ทำได้หมดทุกหมวดครับ

ข้อดีมีเยอะแยะ
มันแยกรูปแยกนามได้อยุ่แล้วครับ

วิธีในสติปัญฐานเป้นการพัฒนาจนได้ฌานสมาบัติได้ปัญญาได้อภิญญาอยู่แล้วครับ
เพียงแต่ว่าเราเพียรน้อยเกินไป ผลเลยยังไม่ออก
ต้องเพียรให้ยิ่งยวดครับ

กา่จะได้พบผู้รู้ไม่ใช่เรื่องง่ายครับและไม่ใช่เรื่องยาก
อยู่ที่ความสมควรแก่ธรรมและอืนทรีย์แต่ละคน

ฉะนั้นใน แนวทางสติปัฏฐานฝึกไปเรื่อยๆ
วันนึงจะพบผู้รู้และฟาดผู้รู้ไปจนไม่มีที่หมาย
ด้วยตัวของมันเองครับ
ฉะนั้นไม่ต้องกังวล
เรื่องของฌานรื่องของอภิญญา
ก้เช่นกัน

 

ดีเหมือนกัน ที่ชอบการก๊อบปี๊
จะได้ไม่ต้องพิมพ์หลายรอบ..

เลยวันพระมาแล้ว เด่วจัดให้นะครับ
และจะบอกเอาไว้อย่างหนึ่งนะครับว่า
พระธรรม เป็นตำรา สามารถ เขียนบันทึก
ต่อเติม ดัดแปลงและเสริมแต่งได้
ตามแต่ระดับการปฏิบัติของ
ผู้ที่นำมาถ่ายทอด........
ส่วนธรรมะนั้น เป็นสภาวะธรรม เป็นนามธรรม
ไม่มีสิ่งใดสามารถมาเปลี่ยนแปลงได้
พระพุทธเจ้า ท่านบรรลุธรรม
เพราะพระธรรมหรือธรรมะ
ให้ไปพิจารณาเอาเอง

และตามมารยาททางสังคม สิ่งที่ไม่ควรที่จะต้องให้ใครมาสอน
สิ่งที่เราควรทำให้เป็นนิสัยคือ การให้เครดิสต้นฉบับข้อความ
เพราะถ้าไม่ทำแล้ว ถือว่าเป็นการเสียมารยาทอย่างมาก
บางที่ ก็มีการฟ้องร้อง ถ้าเป็นนักวิชาการถือว่าเป็นอะไรที่แย่มาก
ในบางมหาวิทยาลัยถึงกับไล่ออกก็มี....ถ้าเราเป็นคนธรรมดา
คนจะมองว่า เราขาดการอบรมเรื่องมารยาทตรงนี้มา.....
บางคนที่เจตนาดี ตั้งใจในการนำเสนอ
ก็อย่าลืมเรื่อง การให้เครดิส เจ้าของบทความตรงนี้นะครับ


บอกก่อนนะครับ ข้อความข้างบนที่ นาย แผ่บุญ คนนี้ นำมา
เพียงเพื่อที่จะเอาชนะ เพื่อยกตนเองให้ดูดีนั้น
เนื่องจาก มีการวิวาทะกัน และ นาย แผ่บุญ คนนี้
คุยยกตน กล่าวหาข้าพเจ้า เชิงปรามาส ดิสเครดิส ดูถูก
(พอๆกับ ที่ข้าพเจ้าได้ดูถูกนาย คนนี้คืนเช่นกัน
แต่เพื่อให้ความจริงปรากฏ ว่าคำพูดใคร
เป็นความจริง คำพูดใครคือการปรามาส ดิสเครดิส
ระหว่าง ๒ คน จึงมีการ
ท้าให้มาแสดงความสามารถ)
แต่นาย แผ่บุญ กลับ ไม่กล้าที่จะทดสอบ ความสามารถ
และก็คุย ดิสเครดิส ยกตนเองอยู่เรื่อยไปนั้น
สุดท้าย เลยเอา คำสอนมาเพื่อต้องการที่จะเอาชนะ
ซึ่งผิดกับ ปฏิปทา ของครูบาร์อาจารย์ท่านเหล่านั้น
ส่วนหนึ่งมีในแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้

http://www.geocities.ws/tmchote/Thumma/General/gn047.htm

เป็นข้อความที่ปรารถระหว่าง พระพุทธเจ้า กับ พระเถระท่านหนึ่ง
ดั้งข้อความเบื้องต้นว่า

''พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระเถระรูปหนึ่งชื่อ อุชฌานสัญญี ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ปรวชฺชานุปสฺสิสฺส"''
และก็มีข้อความอื่นๆอีกมากมาย......

และจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ ก็พบว่า
๑.มีการแปลความหมายที่แตกต่างกัน รวมทั้งบริษท ที่ยกมาก็แตกต่างกัน
เช่น แหล่งข้อมูลนี้

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=28&p=11

๒.บางแห่งก็มีการวิเคราหะ์ใส่ความเห็นตนเองเข้าไป
เช่น แหล่งข้อมูลนี้

http://www.geocities.ws/tmchote/Thumma/General/gn047.htm

๓.ข้อมูลบางแหล่ง ก็มีการแปลความ ตามแหล่งข้อมูลที่ได้อ้างอิงมา เช่น
ข้อมูลที่มาจากแหล่งข้อความนี้...

http://www.watpitch.com/buddhist-proverb-617.html

ดังนั้นเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า พระธรรมที่เป็นตำรานั้น
สามารถดัดแปลง ต่อเติม เปลี่ยนแปลงได้
ทางปฏิบัติเราจึงใช้เป็นแนวทางได้
แต่ยึดไม่ได้เลย....


แต่นี่ขนาดเคยเขียนบอกไว้แล้วในกระทู้ก่อนที่
คุณจะยังเอามาอ้างอิง แต่ก็ยังทำอีก
ไม่เป็นไร ถือว่า กรรมใครกรรมมันนะครับ


เคยบอกไปแล้วว่า
พวกที่เอาคำสอนครูบาร์อาจารย์ท่านต่างๆ
เอามาเพื่อเอาชนะคนอื่นๆนั้น วิบากกรรมมันแรงนะครับ
คำสอนมีไว้แผ่แพร่ เป็นสาธารณะ มิใช่มีเอาไว้
เพื่อประโยชน์แห่งตน ยิ่งเป็นประโยชน์ในทาง
ที่เต็มไปด้วยกิเลสในใจตน เป็นการทะเลาะกัน
มันเป็นเรื่องส่วนตัว ผลจะยิ่งแรง
จะส่งผลให้ชาตินี้ ใครก็ตามที่ทำ ชาตินี้
จะฝึกกรรมฐานด้านนั้นๆ
ที่ครูบาร์อาจารย์ท่านนั้นชำนาญ
ไม่มีทางสำเร็จได้เลย
เอาศรีษะเป็นประกันได้เลยครับ....

และถ้าหากว่าท่านที่คุณเอามาอ้าง
เป็นทางด้านปัญญา ก็จะส่งผลให้ปัญญาทางธรรม
ตัวเองวกวนทั้งชาติ จะไม่พ้นติดอยู่ในระดับสัญญาความจำได้
พูดง่ายๆว่า เป็นบุคคลที่มีความคิดวกวนทางด้านปัญญานั่นเอง

ปล. ย้ำว่า ข้อความที่ นาย แผ่บุญ ยกมานั้น
เป็นข้อความที่ปรารถ ระหว่าง พระพุทธเจ้า
กับพระเถระนามว่า อุชฌานสัญญี
ไม่ใช่ฆารวาสกับฆารวาสนะครับ
ดังนั้น อย่าหลงประเด็นตรงนี้
แบบนี้ ทางโลกเรียกว่า สัญญา ทิฐิ สติ วิปลาสครับ

อีกส่วน จากแหล่ง ข้อมูลที่นาย แผ่บุญ ที่ปัจจุบัน
มักจะไปขุดกระทู้เก่าๆ ขึ้นมาแนะนำ
ทางด้านกรรมฐาน ที่ต้นเองฝึกไม่สำเร็จเลยซักอย่าง
และมักบอกว่าเป็นความคิดตนเองนั้น
และได้นำมาลงเพื่อเจตนาเอาชนะนี้
ซึ่ง ไม่ให้เครดิส ที่มาของแหล่งข้อมูล อีกเช่นเคยนั้น
พบว่า


๑.ข้อมูลบางแหล่ง ก็ตัดมาเพียงบางส่วน แล้วก็เพิ่ม
ข้อมูลอื่นๆเข้าไปเสริมแต่ไม่มีการอ้างแหล่งที่มาข้อมูลเสริม
เช่น แหล่งข้อมูลนี้




๒.ข้อมูลบางแห่ง ก็นำหลายๆแหล่งข้อมูลที่เป็นของท่าน
มารวมกัน เช่นแหล่งข้อมูลนี้
http://www.trueplookpanya.com/true/ethic_detail.php?cms_id=17578


๓.ข้อมูลบางแห่งก็มีการเพิ่มเติมเข้าไปโดยไม่มีแหล่งที่มาขอข้อมูล
เช่น แหล่งข้อมูลนี้
https://www.facebook.com/1627889384181461/posts/เรื่อง-นิสัยคนพาล-ย่อมเพ่งโทษผู้อื่นเป็นวัตรเตือนอะไรก็ไม่ประเสริฐเท่า-เตือนตน-น/1642711692699230/

๔.บางแหล่งข้อมูลก็นำมาเพียงแค่บางส่วน เช่น
http://notedhamma.blogspot.com/2017/05/blog-post_30.html?m=1

๕ บางแหล่งข้อมูลบริษทภายในแตกต่างกันออกไป
เช่นแหล่งข้อมูลนี้
http://www.polyboon.com/worship/dhumma02_0820.html


จำไว้นะครับ เป็นนักปฏิบัติอย่าริกระทำ กิริยาอะไรแบบนี้อีก
เราควรตระหนักว่า
๑. ทำไม ณ ปัจจุบันนี้ เราถึงฝึกกรรมฐานอะไรไม่สำเร็จถึงระดับ
ใช้งานได้เลย
๒. ทำไมเราถึงเข้าถึงผลของกรรมฐานได้ เพียงแค่การใช้ความคิด
ไม่ได้มาจากประสบการณ์และการปฏิบัติ
๓. ทำไมเวลาพูดเรื่องทางด้านปัญญา เราจึงวกวนอยู่กับแต่
สัญญาความจำได้
๔. ทำไมเราถึงติดอยู่กับเรื่องนามธรรมต่างๆสิ่งที่ตนเองสัมผัส
ถึงขั้นเอามาคุยโม้โอ้อวดตน
๕. ทำไมเราถึงคิดว่าตนเองเก่ง ถึงขั้นกล่าวหาว่า คนอื่นๆ
กระจอกได้ ถ้าเก่งกว่าเค้า ทำไมถึงไม่กล้ารับคำท้าแสดงความสามารถ
๖. ทำไม ปัจจุบัน ถึงไม่มีความสามารถในการเพื่อทำความเข้าใจ
ทำไมถึงขาดเหตุผล ให้คนอื่นขุดคุ้ยข้อความที่ตนเองเขียนเอง
เอามาด่าได้เรื่อยๆ
๗. ทำไม ถึงกล้า คุยว่า ประกาศตนเองว่าเป็น
จิตโพธิ ทั้งๆที่นิสัยแบบนี้
ความสามารถแบบนี้ พฤติกรรมเช่นนี้....
เพียงเพื่อแค่จะยกตนเอาชนะคนอื่นๆนะหรือครับ...
๘. สังเกตุเห็นไหม ว่า สติ ตรรกะ สัญญาความจำได้จากการอ่าน
ทิฐิความเห็นของตัวเอง มันไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง
เช่น ดูถูกคนอื่นๆว่า กระจอก พอเค้าท้าคืนไม่รับคำท้า
ยังยกตัวเองข่ม คุยข่ม ดูถูก คืน แล้วอยู่ดีๆก็มากล่าวหา
คนอื่นๆในเรื่อง ที่มีแต่ตนเองที่จะคิดได้ เช่น ลับหลัง
หมาลอบกัด และมาท้าคนอื่นๆคืน ทั้งๆที่ไม่ได้เคยดูถูก
ในเรื่องนั้นๆไว้.....พอเห็นตัวอย่างนะครับ.....

ปล. วิบากเรื่อง การเอาคำสอน ครูบาร์อาจารย์
มาเพียงเพื่อเอาชนะคนอื่นๆ เพื่อยกตนให้ดูดีนั้น
มันแรงนะครับ......

ส่วนตัวยืนยันได้เลยว่า
การแนะนำคุณเรื่องกรรมฐาน
และเรื่องปัญญา ยังไงชาตินี้
ก็ไม่พ้นความคิด ไม่ได้มาจากประสบการณ์
เพื่อที่จะเป็นแนวทางให้ผู้แนะนำได้ผ่าน
หรือข้ามสภาวะนั้นๆได้หรอกครับ...
และคุณจะไม่มีทางเข้าถึงเรื่องกรรมฐาน
ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานด้วย
เพราะนิสัย ที่ชอบเอาชนะคนอื่นๆ
ด้วยการอ้างข้อความ ครูบาร์อาจารย์
เพียงเพื่อที่จะเอาชนะนี่หละครับ....

ปล. โชคดีนะครับ ....
ด่าข้าพเจ้าว่า กระจอก ดูถูก ดิสเครดิส ข้าพเจ้าไว้
ข้าพเจ้าจะรอและพร้อม
พิสูจน์ความสามารถนะครับ
ไม่ต้องอ้างความดี อ้างเรื่องไม่มีกิเลสนะครับ
ว่าแต่อย่าเพี้ยนก่อนแล้วกัน ^_^

 

ทำเช่นนี้สิครับโน้มตัวเข้ามาหา กาย และก็นั่งสมาธิเฉยๆรอดูว่าจิตของเรา ลุกขึ้นหรือเปล่าลองดู ตัวเอง ลองสัมผัสตัวเองไปเรื่อยๆ ๆเดี๋ยวคุณก็จะรู้เองว่า ถอดจิตออกจากกายเป็นเช่นไร ส่วนใหญ่ถ้าคิดออกมากำลังกำลังสมาธิที่นั่งอยู่ตรงจุดนั้นผลิตออกมาแม้แต่ ต้นมะยมยังเดินไปเก็บใบมะยมไม่ถึงเลย นี่แหละครับที่เขาเรียกว่าสภาวะ จิตหลุด จิตหลุดแต่ตัวไม่หลุดก็พอใจแล้วครับ ขอแค่อย่างเดียวเจ้าตัวไม่หลุดชีวิตจะทำอะไรก็สบายไปหมด เหมือนทุกวันละถูกปลดปล่อย ทำให้ชีวิตของเรามีความอบอุ่นมากขึ้นมีการรัก พระพุทธศาสนามากขึ้นมีการบำเพ็ญมากขึ้น ยิ่งเราบำเพ็ญนานๆเราก็จะยิ่งจะได้บุญบารมีไปสะสมไป ถึงชาติหน้า ได้โดยไม่ต้องปรินิพพานให้เสียเวลา แม่พระพุทธเจ้า ก็โอแล้วครับ

 

แยกรูปนามไม่ใช่จิตหลุด
เหมือนวิญญาณหรือกายทิพย์
ออกจากร่างนะครับ

อันนี้นเป้นผลสมถะ


แยกรูปนามเป้นผลของวิปัสนา
เป้นปัญญาอ่อนๆที่จิตพึงมี
ของการเจริญสติปัฏฐาน

ถือว่าคุยกันตามโอกาสแระกัน

 

ผมว่าการนั่งสมาธิ มองรอบตัวเองได้ D แต่ว่ แต่ว่า ผมคิดคิดดูแล้วนั่งสมาธิทำให้จิตใจสงบจิตจะอยู่ในกายเรา นั่ง แบบเจอพระ มาสอนยังจะดีกว่าเยอะเลยครับ เมื่อสักครู่ก็เพิ่งจะได้นั่งไปอยู่หยกๆ ก็ได้เจอ หลวงพ่อพรหมรังษี อีกด้วยครับ ขอบคุณครับ