ชีวิตของ ข้าพเจ้า

เปลือกส้ม ไหนเลยจะหวานเท่าเนื้อส้ม

 

ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อนว่า สันโดษอยากเปลี่ยนตัวเองรึเปล่า

แล้วถ้าเขาอยากเปลี่ยน นั่นล่ะถึงชี้ได้ ถ้าไม่อยากเปลี่ยนแปลง

ก็ไม่มีใครฉุดดึงใครได้ ตัวเองเท่านั้นที่ช่วยได้

ทีนี้พอมีคนไปชี้เข้า ก็เลยหลุด เพราะว่าคุณสันโดษยังไม่ศรัทธาในตัว

อาจารย์คนชี้นั่นเอง ต่อให้ธรรมละเอียดแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์

เรียกว่ายังไม่ถึงเวลานั่นเอง

 

จริงที่เรา และใครๆ คุณขันธ์ และ ฐานัฏฐ์ ที่เขากระทำ ก็คือ การโอบอุ้ม
คุณเข้าสู่เขตบุญของเรา

วันนี้คุณปฏิเสธ

วันหน้าก็อีกเรื่อง

แต่คงไม่ถือจนไม่คุยกันเลยนะครับ

 

ก็ต้องขออภัยนะ ที่สร้างกำแพงมากั้นเสียแล้ว

ถ้าผมไม่ทำ เด็กๆหลายคนจะพลั้งมโนกรรม วจีกรรม
กายกรรมเข้าเขตทิฏฐินอก ผมจำเป็นต้องล้อมรั้วชั่วคราว

ถ้าคุณต้องการมาคุยอีก ก็ลองใส่คำปริยัติลงไปหน่อย

เอา คำสอน ของคุณ เทียบ ปริยัติเรา ก็ถือว่า ชี้ประโยชน์สองทาง

 

ไม่หรอกคะ เพราะจอย รู้เเละเห็นของโลกทั้งสองโลก

โลกของธรรมะ และโลกของอธรรม

แต่จอย ขออยู่ตรงกลาง เพราะบุญจอยก็ไม่อยากได้ บาปจอยก็ไม่อยากเอา



จอยขออยู่กับปัจจุบัน จอยไม่อยากมีตัวตน.....
การมีชีวิตมันเป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก...ความสุขก็เหนื่อย..ความทุกข์ก็สาหัส

 

ภาชนะใส่น้ำ นั่นดีแล้ว
เธอพึ่งเทน้ำนั้นออกเสียครึ่งหนึ่ง
น้ำใสจักเข้าแทนที่เหลือนั้น
ละลายตะกอนด้วยน้ำใสเถิด

 

เข้าใจครับ สิ่งที่คุณเห็น

พวกเราหลายคนก็เห็น แต่เราเห็นอีกมุมที่ดูดีกว่าในสายตาเรา

คุณอาจจะยังไม่อยากลองมองในมุมของเรา ก็ไม่เป็นไร

ก็ค่อยๆแลกเปลี่ยนกัน นะ

พวกเรา ยังยินดีที่จะคุยกัน จริงไหม

 

ขอขัดจังหวะนิดนึง

เรียนถามยอดฝีมือในกระทู้นี้หน่อย ว่าผมเข้าใจเรื่องการดูเวทนาดูจิตถูกต้องหมด หรือถูกบ้างผิดบ้าง หรือผิดหมดเลย

จิตในความเข้าใจของผมมันเกิดดับตลอดเวลา ขณะหนึ่งๆ มันจะมีอาการเพียงหนึ่งอย่าง เหมือนคอมพิวเตอร์ที่ทำงานแบบ multitask สติเป็นเพียงอาการหนึ่งของจิตที่เกิดขึ้นเพียงแว่บเดียว (แต่ให้มันเกิดติดต่อกันได้เป็นสมาธิ) เวทนาก็เป็นอีกอาการนึงของจิตที่เกิดจากผัสสะ เมื่อมีผัสสะ เราหยุดเวทนาไม่ได้ เหมือนโดนเตะตูด ยังไงก็ต้องเจ็บ สติจึงเอาไว้ดูอาการหลังเจ็บแล้วไม่ทำให้เจ็บซ้ำยาวนานต่อเนื่องโดยการคิดต่อว่าใครมาเตะ "ตู" วะ การเอาสติดูจิตก็คือการเอาจิตดูจิตนั่นเอง แค่เป็นจิตที่เป็นคนละ task กัน

แต่ก่อนผมพยายามตัดวงจรตั้งแต่ยังไม่เกิดเวทนา เอากำลังไปข่มให้ว่าง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย มันเหมือนหุ่นยนต์ ขับรถจะชนเอา เพราะเรายังต้องการความรู้สึกในส่วนที่มีประโยชน์สำหรับดำรงชีวิตอยู่ ตอนนี้ก็ยังติดนิสัยนี้เป็นบางช่วง แต่เดี๋ยวนี้ผมเลื่อนมาตัดวงจรช่วงหลังเกิดเวทนาโดยใช้สตินั่นแหล่ะ สำรวมผัสสะไว้ พอมีเวทนาตัดฉับเพื่อดักเอาข้อมูลมาดีบักต่อ (โดยใช้อีก task นึงที่เรียกว่าปัญญา) ดูจนจบ แล้วก็ปล่อยวางไป (อุเบกขา?) บางครั้งดักจับเวทนาไม่ทัน มันเลยไปตามวงจร ก็ตามดูจิตว่ามันไปเกิดต่อเป็นอะไร แล้วก็อุเบกขา แต่ละวันก็จับได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่มันไม่เลื่อนลอย ว่างกลวงๆ เหมือนก่อน

ที่ว่ามานี่ผมหลงทางไปอีกหรือเปล่าครับ

 

ต่อให้...จอยอยากเป็นเทวดา ไม่ได้อยากไปนิพพานเหมือนใคร..55

 

ที่รู้ก็หนักหัว ถูกทั้งคน ทั้ง วิญญาณสอน

ใจจริงๆจอยนะ รำคาญอยากออกไปนอนสมาธิ

แต่จะไปยังไงได้ จิตมันอยากจะสอน

มันอยากให้ออกมา

จอยรำคาญ...ดูก็ไม่อยากดู

 

ตรงเอามาดีบักต่อนี้ ถ้ามีการจงใจ ก็ถือว่า หลงทาง

ต้องให้มัน error แล้ว ignore โดยรู้ โดยไม่ต้องมีการจัดการแบบ
overflow

ตรง ignore นั้น ต้องเกิดโดย สติ เขาทำงานเอง

แต่มันแจ่มแล้วนะ ก็ให้ค่อยๆ ลดการจงใจลง
ทำใจให้สบายๆ มากขึ้น

อย่าหวังผล

อย่ากลัวไม่ดี ไม่จบ

 

เราเรียก อรูปฌาณ ใช่ไหมคุณขุนพล แบบนี้เรารู้จัก และเรียกแบบนี้ใช่ไหม

ไม่สันทัดเรื่อง ฌาณ กับ อรูปฌาณ

 

คือว่า พวกเราเป็นจิตของจอยอ่ะนะคะ ท่านทั้งหลาย

พวกเราอยู่เล่นกับจอย มาตั้งแต่เด็กๆ

แต่เขาไม่ยอมออกมา จากร่าง

เขาปล่อยให้ว่างจริงๆ เราก็เลยต้องสอนเขา

จริงๆแล้วก็ความผิดเราเอง

แต่ตอนนี้เราอยากให้เขาออกมา

อยากให้เขา เป็นมนุษย์ เราขอโทษ

แต่เราไม่รู้จะทำยังไง

ช่วยจอยทีเถิดคะ ท่านผู้รู้

เขานะเรียบร้อย น่าสงสาร ดีเกินไป

ยอมคนตลอด ถ้าเขาออกมาก็โดนแต่มนุษย์รังแก

 

พยายามเข้าครับ ถ้าดูจนชำนาญ จนที่ มัน จะดักทางได้ เราจะสามารถ ทัน
การเกิดดับ ก่อนที่จะเข้าจุดสุดท้าย สู่ เวทนา( สุข / ทุกข์ ) ครับ
จิตเกิดได้ที่ละดวง ควรตามให้ทัน ว่ามัน ไป เกิดที่ไหนบ้าง

 

Thank you C3PO
จะลองไปพิจารณาต่อครับ

 

มีแต่จิตไม่มีสดิ "บ้า" ว่างๆๆๆ ว่างโดยไม่มีสติ "โรคเอ๋อ"

 

สวัสดีทุกท่าน คุยไปคุยมาจิตแตกอีกแล้วหรือ

 

ถ้าคุณต้องการถามทางเรา จากใครสักคน

ผมขอแนะนำให้นอบน้อมฟัง หรือ สนทนาด้วยดี กับ อ.ขันธ์ ครับ

ที่ให้นอบน้อมไว้ เพราะ ท่าน ชอบใช้ภาษาที่มีฐานะสูงกว่าเรา
สงสัยจะอายุมาก ก็ถือว่าน้อมๆไปตามธรรมเนียม

 

ถูกต้องครับพี่น้อง......จิตแตกอีกแล้ว

แต่เดี๋ยวจอยอยู่คนเดียวก็นิ่งเหมือนเดิม

ไม่ต้องห่วงครับ แล้วแต่ว่าอยู่ที่ไหน

 

สิ่งที่ปรุงแต่งจิตของคุณไม่ได้เข้ามาทีละตัวหรอก สังเกตุจากเวลาเราเข้าฌาน ๑ สิ่งปรุงแต่งจิตที่น้อยแล้วยังมีถึง ๕ ตัวคือ วิตก วิจารณ์ ปิติสุขและเอกคตา แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในฌานมันมากยุ่งเหยิงจนตามไม่ทันเลยครับ


ก่อนที่กิเลศ-เวทนาจะก่อกรรม จนมีวิบากซึ่งเป็น่ทางซึ่งไม่ปลอดภัย ให้เราเห็นให้ทันช่วงนี้ ถ้าเลยจากนี้จนก่อกรรมแล้วก็เอวังครับ