วัตถุมงคลสายอธุยา สุพรรณบุรี..หลวงพ่อปาน หลวงพ่อสละ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อื่นๆ

เหรียญรุ่นแรก

หลวงปู่ยวง วัดบางซ้

ครูบาอาจารย์ยุคกลาง 2500 มากประสบการณ์ของคนท้องถิ่นที่ให้ความเคารพท่านอย่างมาก เหรียญนี้บล๊อคนิยมหายากครับนานๆได้พบทีนึง

ราคา 2500 บาท พร้อมส่ง

ปิดให้พี่ j999 ครับ

 

ขอจองครับ

 

ได้โอนเงิน๒๕๐๐บาทเมื่อ ๑๕มค.เวลา๑๑.๐๑ น.เป็นค่าบูชาพระ ๑.รายการ ที่อยู่ดูในกล่องข้อความครับ

 

ขอบคุณค๊าบบ

 

ครูว่านยา แห่งอยุธยามหานคร ยุคกึ่งพุทธกาล

พิมพ์พระขุนแผนทรงพลใหญ่ หายากมากๆอีกพิมพ์หนึ่ง

สมควรได้รับการเผยแพร่ ของดีศรีอโยธยา ของดีอยู่ที่ความตั้งใจ และความพิถีพิถัน

หลวงพ่อทองห่อ วัดโคกโพธิ์

"ประวัติการเข้าป่าเก็บว่านและการสร้างพระ"
จากคำบอกเล่าของคุณ ลุงประดิษฐ์ แสงมณี
ปัจจุบันคุณลุงอายุ 70 ปี ซึ่งคุณลุงเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทองห่อ และเป็นหนึ่งในคณะเดินทางเข้าป่าเก็บว่านที่ยังมีชีวิตอยุ่ ได้บอกกล่าวเล่าเรื่องราวในครั้งนั้นให้ฟังดังนี้
.....คณะเดินทางไปเก็บว่านมีด้วยกันทั้งหมด 5 ท่าน
1)หลวงพ่อทองห่อ
2)นายหรั่ง
(บวชเป็นพระลูกวัด ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว)
3)นายสะอาด
(บวชเป็นพระลูกวัดปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว)
4)นายเฉลียว
(โยมฆราวาส ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว)
5)ลุงประดิษฐ์ แสงมณี
(ผู้บอกเล่าเรื่องราว)
การเดินทางในครั้งนั้น นั่งรถไฟ ไปลงที่เมืองกาญจนบุรี ไปนอนค้างคืนที่วัดอัมรินทร์ (ไม่ทราบอำเภอ)
ทางวัดจัดหาที่พักให้ ก่อนเดินทางเข้าป่า หลวงพ่อห่อ จะทำพิธีบอกกล่าวครูบาอาจารย์ประพรมน้ำมนต์ให้ลูกศิษย์ตามตำรับของท่านก่อนจะเข้าป่ากัน ตอนเดินทางเข้าป่าก็จะไปตามถ้ำตามเขากัน เดินทางกันครั้งนั้นใช้เวลา 15 วันเจอวัดใหนนอนวัดนั้น ตอนเช้าทุกวันหลวงพ่อห่อจะทำพิธีพลีว่านกับเทวดาก่อนออกไปเก็บว่าน หลวงพ่อท่านจะบอกว่า วันนี้เทวดาให้เก็บว่านอะไรได้บ้าง
ไม่ใช่ว่าเราเข้าไปแล้วเจอจะเก็บได้เลย ต้องดูฤกษ์ยามตามตำราของท่านด้วย
ว่านบางอย่างมีพิษ ว่านบางชนิดต้องนำเขียดไปโยนล่อตรงต้นว่าน ถ้าเขียดกระโดดออกเก็บได้ ถ้าเขียดไม่ยอมกระโดดออกเก็บไม่ได้
ก็เก็บว่านกันอยู่ 15 วัน ได้มา 4 กระสอบป่าน
ถึงได้ออกจากป่า เรียกได้ว่าว่านที่เอามานี่108ชนิดจริงๆ
#ขั้นตอนการสร้างพระ
เมื่อกลับมาถึงวัดโคกโพธิ์ หลวงพ่อห่อก็ทำพิธีพลีว่านตามตำราของท่าน
เมื่อพลีแล้วก็ให้ลูกศิษย์ลูกหา สมัยนั้นก็มีทั้ง พระ ฆราวาส เด็กวัด ช่วยกันฝานช่วยกันหั่นว่านทั้งหมดแล้วนำไปตากแดดลานหน้ากุฏริมน้ำของท่าน เมื่อว่านแห้งแล้วก็นำมาบดตำป่นให้เป็นผง บดจนละเอียด เรียกว่าละเอียดจนเหมือนผงยานัตถ์กันเลยทีเดียว เมื่อได้ผงว่านละเอียดแล้ว หลวงพ่อห่อก็นำผงว่านนี้ไปกดพระพิมพ์ต่างๆของท่าน ด้วยมือท่านเอง ทีละองค์ ที่ละองค์ ปั้มพระใส่ถาดวางผึ่งลมใว้ เมื่อพระเริ่มหมาดๆท่านก็จะมานั่งจารกำกับด้านหลังพระของท่าน แล้วนำไปตากจนแห้ง แต่ถ้าวันใหนหลวงพ่อกดพระอยู่ แล้วมีคนมาให้ท่านสัก (ท่านเป็นพระสักด้วย) ถ้าสักเสร็จพระยังไม่ทันแห้งท่านก็จะมาจาร แต่ถ้าไม่ทันพระแห้งก่อน พระถาดนั้นก็จะไม่ได้จาร (นี่คือสาเหตุว่าทำใมพระผงว่านหลวงพ่อห่อ บางองค์มีจาร บางองค์ไม่มีจาร )ท่านกดพระของท่านไปเรื่อยๆเมื่อพระแห้งท่านจึงนำพระทั้งหมดมาเคลือบทาแชลแล็ครักษาองค์พระใว้อีกที ท่านทำของท่านอยุ่หลายเดือน เรียกว่าพอใจในจำนวนแล้วจึงหยุดทำ บางพิมพ์ก็มีเยอะ บางพิมพ์ก็มีน้อย ระบุจำนวนไม่ได้ เมื่อได้พระเป็นที่พอใจแล้ว หลวงพ่อห่อก็นำพระทั้งหมด เข้าพิธีปลุกเสกต่อหน้าพระประธานในโบสถ์ วัดโคกโพธิ์ พระทั้งหมดทุกพิมพ์ปลุกเสกพิธีเดียวกันทั้งหมด เมื่อทำพิธีอธิฐานจิตปลุกเสกเสร็จแล้ว พระเครื่องส่วนหนึงก็แจกญาติโยม ส่วนหนึ่งก็เก็บใว้ให้คนร่วมทำบุญเมื่อปี 2512 #เรื่องราวเหล่านี้ เป็นเรื่องเล่าบอกกล่าวจากปากของคุณลุงประดิษย์ แสงมณี ซึ่งเป็นลูกศิษย์และคณะติดตามเก็บว่าน ซึ่งในปี 2512 นั่นลุงประดิษฐ์ บวชเป็นพระได้พรรษา 2 อายุ 23 ปี
ซึ่งผมนำมาเรียบเรียงพอสังเขป เพื่อเผยแพร่เป็นวิทยาทาน มิใช่เรื่องแต่งเติม เพื่อการหลอกลวงแต่อย่างใด
โปรดใช้วิจารณญานในการรับข้อมูล....... ขอบคุณข้อมูลจากพี่แจ๊ค ลูกหลานวัดโคกโพธิ์


อีกหนึ่งพิมพ์ยอดหายาก สวยงามศิลปะอลังการ 5500 บาท มีองค์เดียวครับ

ราคาพิเศษ 4,500 บาท พร้อมส่ง

 

พระพิมพ์หน้าฤาษี หรือพิมพ์กาโม่ สามเหลี่ยม

หลวลปู่เรือง วัดเขาสามยอด

พระเครื่องยุคแรกๆที่หาชมยากมากๆครับ พระผงฟักทอง ปี 2500 หน้ากาโม่ สร้างสองพิมพ์ คือ สามเหลี่ยม กับสี่เหลี่ยม หายากทั้งคู่ครับ แต่สี่เหลี่ยม พบเห็นน้อยสุด ในบรรดาพิมพ์พระ หลวงปู่เรือง ปี 2500 คือช่วงที่หลวงปู่เรือง ยังจำพรรษา ในถ้ำ บนเขาสามยอด แต่เพียงผู้เดียว ถือเป็นพระยุคแรกของหลวงปู่เรือง ที่ท่านสร้างและแกะพิมพ์ผสมเนื้อเองโดยมวลสารจากการเก็บในป่าจำพวกว่านยาต่างๆและเนื้อฟักทองบด

เป็นพระคเรื่องยุคแรกๆในตำนานที่หายากครับ

องค์นี้สวยมากเกิมๆตามรูป เคลือบน้ำเคลือบเดิม

ราคา 6,500 บาท พร้อมส่ง

ช่วงสองปีก่อนราคาเอาเรื่องครับช่วงนี้คนที่ศรัทธาท่าน น่าเก็บครับพระสวยด้วย

ราคาพิเศษ 4500 บาท

 

ครั้ง พระพุทธเจ้าหลวง นอกจากได้พระราชทานชื่อวัดเสียใหม่แล้ว พระองค์ยังทรงพระราชทาน สัญญาบัตรพัดยศถวายแด่ พระครูวินัยธรรม (อ่ำ) เจ้าอาวาสรูปที่๑ ของวัดตึกคชหิรัญ เป็น "พระครูสุทธาจารวัตร" และพระองค์ทรงถวายเงินบริจาคทำบุญทอดกฐินในคราวนั้นด้วย ครั้งหลังมาพระองค์ทรงพระราชทานศาลาการเปรียญหลังใหญ่ซึ่งเป็นหลังเก่าของวัดเบญจมบพิตร นำมาบูรณะเสียใหม่ ถวายให้วัดตึกคชหิรัญ และศาลาหลังนี้ยังคงใช้งานได้มาถึงจวบจนปัจจุบัน (วัดนี้มีอายุ ๑๒๒ ปี พ.ศ.๒๔๓๗-๒๕๕๙) พระครูสุทธาจารวัตร (อ่ำ ปฏิรูปานนท์) ก่อนหน้านั้นท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ต่อมา สมเด็จพระสังฆราชกรมพระวชิรญาณวโรรส ท่านทรงไว้วางใจในความเป็นนักปกครองของหลวงพ่ออ่ำ จึงมีบัญชาให้ท่านมาดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาส ปกครองดูแลวัดตึกคชหิรัญ ครั้นเมื่อพระครูอุเทศธรรมวินัย (หอม) วัดฤาไชยท่านมรณะภาพลง หลวงพ่ออ่ำท่านจึงได้ขึ้นรั้งตำแหน่งเจ้าคณะแขวงแทน หลวงพ่ออ่ำท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่ได้รับความนับถือจากล้นเกล้ารัชกาลที่๕ เป็นอย่างมาก ท่านเป็นเอกแห่ง พระนักปกครอง และยังเก่งในด้านการพัฒนาถาวรวัตถุ สิ่งปลูกสร้าง ทางพุทธศาสนา ซึ่งเห็นได้จากการที่ท่านทำนุบำรุง วัดตึกคชหิรัญ ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีคือ คราวที่ท่านออกบอกบุญญาติโยมจนสามารถสร้างอาคารเรียนขึ้นได้หลังหนึ่ง แล้วเสร็จในปีพ.ศ.๒๔๖๕ คือโรงเรียนผักไห่ (สุทธาประมุข) โดยลักษณะของโรงเรียน ด้านหน้าเป็นทรงปั้นหยา ปลูกด้วยไม้สัก สลักลวดลายด้วยไม้ อย่างงดงาม ซึ่งสมัยก่อนนั้น ท่านสามารถทำได้ถึงเพียงนี้ ท่านย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน ในปีพ.ศ.๒๔๗๐ หลวงพ่ออ่ำท่านได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะแขวงด้วยเหตุที่ท่านนั้นชราภาพมากแล้ว ซึ่งโดยธรรมเนียมปฎิบัติของคณะสงฆ์ เมื่ออายุได้๘๐ปี ก็จะได้วาระที่ต้องพ้นจากตำแหน่งทางการปกครอง ดังนั้นประมาณกาลว่า ท่านน่าจะเกิดในราวปีพ.ศ.๒๓๙๐ ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ

ในเรื่องของวัตถุมงคลนั้น เท่าที่พบเห็น ก็จะมีเพียง เหรียญรูปเหมือนของท่าน ซึ่งถูกสร้างขึ้นภายหลังที่ท่านมรณะภาพไปแล้ว โดยจัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๗๙ เพื่อแจกเป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ คาดว่าจัดสร้างในจำนวนไม่มากนัก นับได้ว่าเป็นเหรียญเก่าสุดหายากเหรียญหนึ่ง ของนักสะสมพระเครื่องเมืองอยุธยา ลักษณะและเทคนิคในการสร้าง ที่พบเจอคือ เหรียญปั๊มทรงรูปไข่ เนื้อทองแดง ทองแดงกะไหล่ทอง ทองแดงกะไหล่เงิน และ เนื้ออัลปาก้า ขอบข้างกระบอก ห่วงเชื่อม ส่วนด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อนั่งสมาธิเต็มองค์ ด้านข้างระบุ ที่ระลึกในการพระราชทานเพลิงศพ พระครูสุทธาจารวัต พ.ศ.๒๔๗๙ ส่วนด้านหลังเหรียญ บรรจุยันต์ มงกุฏพระพุทธเจ้า และที่พิเศษ ยังพบเจอในลักษณะที่เป็น เข็มกลัดแหนบรูปทรงพัดยศ อีกด้วย โดยด้านหน้าเป็นลายกนกเปลว ตัวลายอ่อนไหวเหมือนเปลวไฟ ตรงกลางเขียนระบุ ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูสุทธาจารวัต พ.ศ.๒๔๗๙ ด้านหลังปั๊มหลังแบบ มีเข็มกลัดเชื่อมติดไว้ คาดว่าน่าจะมีจำนวนจำกัด ซึ่งใช้แจกแก่บุคคลพิเศษ ที่มาร่วมงาน ทั้งหมดนี้ถึงแม้จะเป็นวัตถุมงคลที่ไม่ทันท่านก็ตาม แต่ก็ได้รับการปลุกเสกเป็นอย่างดี จากสุดยอดพระเกจิอาจารย์ของเมืองกรุงเก่าหลายท่านอย่าง อาทิ หลวงพ่ออิ่ม วัดลาดชะโด เป็นต้น

นานๆเจอสักเหรียญครับสวยๆ

กระทู้เก่า 12,000 บาท พร้อมส่ง ราคาพิเศษ 9000 บาท

 

หลวงพ่อมงคลบพิตร อยุธยา

2495 พิธีใหญ่ และหาชมยากครับ หลวงพ่อจง หลวงพ่อจาด ร่วมเสก

ไม่เคยลงกระทู้เลย

2500 บาท พร้อมส่ง

 

พรหมรุ่นแรก ปี 2517

หลวงปู่ดู่ วัดสะแก

มีพระธรรมธาตุเสด็จ ประปราย สวยตามรูป

ราคา 7500 บาท พร้อมส่ง

 

เหนียวร้อยปี พระพิมพ์พระคง มีจาร หายากมากๆ

หลวงพ่อกรอง วัดเทพจันทร์ลอย นครหลวง อยุธยา

พิมพ์นี้จัดเป็นพิมพ์ที่หาดูชมยากเป็นอย่างยิ่งครับ พระอายุเป็นร้อยปี เนื้อจัดมากๆ ของขลังแห่งทุ่งนครหลวง อยุธยา ครูบอาจารย์ในยุคหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ

ราคา 3500 บาท

 

เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อปุ่น

วัดกลาง รามัญ อยุธยา

อีกหนึงเหรียญมากประสบการณ์ ที่คนท้องถิ่นเคารพศรัทธาอย่างมาก ประสบการณ์ด้านมหาอุตม์ชัดเจนมาก จากคำบอกเล่าของลุงจวน คนละแวกวัด

สวยเดิมๆครับกะไหล่ทองเต็มๆ

สวยจริง 2,500 บาท พอครับ

 

เหรียญทองคำ หลัง ภปร หายากมาก

หรือเรียกกันว่า รุ่นพานแตก หลงปู่ลำภู วัดบางขุนพรหม

ออกที่วัดไก่จ้น ปี 2521

องค์พระเกจิที่มาร่วมปลุกเสกนั้นล้วนสุดยอดเกจิทั้งนั้น 1. ประธานนั่งปรกคือ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี(ประธานจุดเทียนชัย) 2. หลวงปู่ลำภู วัดบางขุนพรหม 3. หลวงปู่ย้อย วัดอัมพวัน (หลวงปู่ย้อยเนี่ยแหละที่ทำให้เหรียญรุ่นนี้มีชื่อว่ารุ่นพานแตก ส่วนรายละเอียดต้องติดตามคับ ) 4. หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ 5. หลวงปู่พริ้ง วัดโบสถ์ 6. หลวงปู่สิมมา วัดบ้านหมอ 7. หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง 8. หลวงปู่ถิร วัดป่าเลไลย์9. หลวงปู่บาง วัดหนองพลับ 10.หลวงปู่นอ วัดกลางท่าเรือ 11.หลวงปู่พล วัดหนองคนที 12.หลวงปุ่แพ วัดพิกุลทอง และเจ้าพิธีคือ หลวงตาประยูรเจ้าอาวาสวัดไก่จ้นองค์ปัจจุบัน แค่เห็นรายชื่อพระที่มาร่วมปลุกคงรู้กันแล้วสิครับว่าดีขนาดไหน ปลุกเสกกันตอนกลางคืนวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2521 และวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2521
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนินวัดไก่จ้น ทรงประกอบพิธียกช่อฟ้าอุโบสถทรงตัดหวายลูกนิมิต ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เกตุพระประธาน หลวงพ่อแสนสุขในอุโบสถ จึงทำให้เหรียญรุ่นนี้ทุกพิมพ์ จะมีอักษรพระปรมาภิไธย่อ ภปร

เหตุรุ่นพานแตก ในพิธี ยุงกัดหลวงพ่อย้อยท่านนิ่งเฉย มีสมาธิแน่วแน่ในการตั้งใจปลุกเสกไม่สนใจยุงตัวนั้น ไม่ตบจนยุงตัวนั้นกินเลือดอิ่มแล้วก็บินไป คิดอยู่ในใจว่าท่านเป็นพระที่ประเสริฐเหลือเกิน มีเมตตาจริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นยุงตัวนั้นคงตายไปนานแล้วต่อมาได้ยินเสียงเหมือนระเบิดตึ้งดังสนั่นโบสถ์เหมือนเสียงปืน ทุกสายตามองที่พานแก้วที่วางหน้าหลวงพ่อย้อย สำหรับวางหญ้าคาเพื่อพรมน้ำมนต์ ระเบิดออกแล้วไปรวมกองที่เดียวกันแบบน่าอัศจรรย์ที่ระเบิดแล้วไม่กระจายออกไปที่ไหนเลยรวมตัวกันเป็นกองกระจุกที่เดียว ภาพและเสียงนั้นทำให้ทุกคนในโบสถ์อยู่ในอาการที่นิ่งด้วยความประหลาดใจ แต่ในใจทุกคนทราบว่าต้องมีปาฏิหาริย์เกิดจากการปลุกเสกของหลวงพ่อย้อยแน่นอน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าคุณทองสุข อ่อนละมัยและคุณสิงห์ชัย แก้วจินดา ก็นึกแปลกประหลาดใจ ปรึกษาคุยกันถึงเรื่องหลวงพ่อย้อยท่านเก่งจริงและมีอะไรดีที่น่าศรัทธามากแน่ๆ เลย ด้วยความสนใจจึงได้ถาม “คุณลุงเลี้ยม” ลูกศิษย์ติดตามพระรูปนี้ว่าท่านชื่ออะไรอยู่วัดไหนทำไมเก่งจัง จนได้ความว่าพระรูปที่ตนศรัทธาชื่อ หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน เสาไห้ สระบุรี เมื่อพิธีเสร็จเทียนชัยดับลง หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ประธานในพิธีเดินทางกลับ ระหว่างทางเดินผ่าน คุณสิงห์ชัย ได้ยินหลวงปู่โต๊ะ ได้กล่าวชมกับหลวงพ่อย้อยอีกว่า “ท่านเก่งน้อ” แล้วหลวงปู่โต๊ะเดินทางกลับ ด้วยเหตุการณ์นั้นยังอยู่ในความทรงจำที่ประทับใจและความศรัทธาเป็นอันมาก ....

ขนาดเท่าเหรียญบาท น้ำหนัก 6.3 กรัม ราคา 13,500 บาท

พิเศษ 11,000 บาท

 

พระเครื่องของวัดชนะสงครามที่จะกล่าวถึงนี้ได้จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2491 โดยท่านพระครูอุดมชัย (ทองม้วน ป.ธ.5) ได้ขอผงต่างๆ จากคณาจารย์ที่ทรงวิทยาคุณชื่อดังทั่วประเทศ ผงอันเป็นส่วนหักป่นของกรุต่างๆ และดอกไม้นานาชนิด ที่หน้าโต๊ะหมู่บูชาพระประธานในพระอุโบสถ รวมทั้งผงและส่วนหักป่นกรุวัดชนะสงคราม (วังหน้า) ที่ได้สะสมไว้ พระสงฆ์และสามเณรได้ช่วยกันสร้าง ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นคนผสมผง โขลกหรือพิมพ์ก็ตาม ห้ามพูดตลกคะนอง ใช้วาจาไม่สุภาพ ให้ตั้งจิตเป็นสมาธิ อธิษฐานขอบารมีตั้งใจสร้างเป็นพุทธบูชา น้ำซึ่งเป็นส่วนผสมการพิมพ์พระก็ใช้เฉพาะน้ำพระพุทธมนต์ ซึ่งเราถือกันว่าเป็นน้ำมนต์ร้อยปี อยู่ในพระอุโบสถตรงหน้าองค์พระประธาน รวมทั้งน้ำพระพุทธมนต์ในพระบรมมหาราชวัง และน้ำพระพุทธมนต์จากวัต่างๆ นำมาคลุกเคล้ากับผงแล้วสร้างพระพิมพ์ชุดนี้ ครั้นสร้างเสร็จได้จัดพิธีพุทธภิเศกตลอดไตรมาส โดยได้อาราธนาพระอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคุณเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในยุคนั้น จากภาคต่างๆ ทั่วประเทศรวม 108 รูป เช่น ลพ.จง ลป.โอภาสี ลพ.รุ้ง ลป.โต๊ะ ลพ.สด ลป.เผือก ลพ.พรหม วัดช่องแคฯลฯ พระประจำวันของวัดชนะสงครามนี้เป็นพระที่น่าบูชามากด้วยมวรสาร และพิธีที่บริสุทธิ์ จึงสมแล้วที่จะมีคุณค่าคู่ควรแก่การบูชา ในด้านพุทธคุณนั้นเรียกว่าครอบจักรวาล เคยมีตำรวจของ สน.ชนะสงคราม ถูกคนร้ายแทงในขณะปฏิบัติงาน แต่ไม่เข้า โดยตำรวจนายนั้นมีเพียงพระกรุวัดชนะสงคราม ติดตัวเพียงองค์เดียว พระผงประจำวัน ปลุกเสกซ้ำโดยหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค จึงถือได้ว่าครบทุกด้านจริงๆ

พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณจึงแรงมากๆๆๆ และมีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

พุทธคุณแรงเกินราคา คุ้มค่ามากๆๆๆ กับความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การมีชื่อเสียง ตำแหน่งที่สูงขึ้น การมีโชคลาภขั้นสูง มหาเสน่ห์ มหานิยมที่รุนแรงการชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย ฯลฯ เป็นต้น

3 องค์ 1550 บาท สำหรับท่านที่ชอบของดี

ปิดให้พี่ j999 ครับ

 

ขอจองครับ

 

หลวงพ่อเจริญ วัดป่าคา เกจิผู้มีอภินิหารหัวใจ ไม่ไหม้ไฟ แห่งบางไทร "

หลวงพ่อเจริญ เป็นศิษย์เอกของ หลวงพ่อท้วม วัดบางขวาง จ.นนทบุรี

หลวงพ่อเจริญ วัดป่าคา และ หลวงปู่สด วัดโพธิ์แตงใต้ เป็นสหธรรมิกกัน เพราะวัดอยู่คนละฝั่งแค่นั้นเอง เวลามีงานต่างๆมักจะนิมนต์ซึ่งกันและกันมาตลอด หลวงปู่สดแก่พรรษากว่าหลวงพ่อเจริญ หลวงปู่สดมีความสนิทสนมกับสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรฯ

ทำให้หลวงพ่อเจริญ ได้มีโอกาสรู้จักกับสมเด็จพระสังฆราช เพราะสมเด็จพระสังฆราช กับหลวงพ่อสด ท่านสนิทกัน

นับได้ว่าทั้งหลวงปู่สดและหลวงพ่อเจริญเป็นสหธรรมิกที่ใกล้ชิดกันมากที่สุดในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ ครั้งหนึ่งเคยมีประสบการณ์ที่ดังเกรียวกราวมากในยุคนั้น ก็คือ

มีคนสองคนยิงกัน ในเรือที่อยู่กลางแม่น้ำ ระหว่างวัดป่าคาและวัดโพธิ์แตงใต้ ต่างคนก็ต่างยิง ยิงกันเท่าไหร่ก็ยิงไม่ออก จนทั้งสองคนถูกพาไปโรงพัก ต่างคนก็ต่างไม่ยอมกัน จึงได้ขอดูพระของอีกฝ่ายว่ามีอะไรดีถึงยิงไม่ออก คนนึงห้อยเหรียญหลวงพ่อเจริญ วัดป่าคา ส่วนอีกคน ห้อยเหรียญหลวงปู่สด วัดโพธิ์แตงใต้ พระของทั้ง 2 วัดจึงดังกระหึ่มตั้งแต่ยุคนั้นเป็นต้นมา หลวงพ่อเจริญ กับ หลวงปู่สด ท่านจะไปมาหาสู่ เยี่ยมเยียนกันตลอดเวลา

พระเครื่องของหลวงปู่สดมีมากมายหลายรุ่นให้เลือกเล่นหา ทุกรุ่นล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์แบบที่เรียกว่า เชื่อขนมกินได้เลยทีเดียว ส่วนพระเครื่องของหลวงพ่อเจริญ ที่ทันหลวงพ่อจริงๆนั้นมีเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น

หลวงพ่อเจริญมรณะภาพปี 2529 หลังจากนั้นได้มีการ ได้มีการเผาศพท่านตามปกติ แต่เกิดสิ่งอัศจรรย์ขึ้นคือเผาร่างของท่านไม่ไหม้เผาเท่าไรก็ไม่ไหม้ จึงได้นำร่างท่านออกมาแล้วทำพิธีขอขมา หลังจากนั้นก็เผาใหม่ รอบนี้ไหม้หลังจากเผาเสร็จก็เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นอีก คือ...หัวใจของท่านไม่ไหม้ไฟ จึงได้เก็บหัวใจของท่านไว้ในครอบแก้วบริเวณกุฏิเก่าของท่าน

ซึ่งนอกจากหลวงพ่อเจริญ แล้ว น้องชายของท่าน คือ หลวงพ่อเนย วัดผาสุกมณีจักร นนทบุรี ก็เกิดอภินิหารแบบเดียวกัน คือ เผาแล้วหัวใจไม่ไหม้ไฟ

....... คาดกันว่าเกิดจาก หลวงพ่อเจริญ วัดป่าคา(พี่ชาย) หลวงพ่อเนย วัดผาสุกมณีจักร (น้องชาย) ทั้ง 2 ท่านได้สำเร็จวิชากสิณน้ำ ตามแบบฉบับสายวิชาของ หลวงพ่อท้วม วัดบางขวาง ผู้เป็นอาจารย์

ทำให้พระเครื่องของท่านเวลาใครนำไปแขวนหาปูหาปลามักจะไม่ได้ เล่นการพนันนี่มีแต่เสียกับเสีย ยิ่งเป็นแหวนของท่านด้วยแล้ว ใส่หาปูหาปลาแหวนจะหายไปแบบไม่รู้ตัวเลย ประสบการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว แต่เกิดขึ้นกับทุกครัวเรือนเลย

ปัจจบันพระเครื่องของท่าน ไม่ค่อยมีการพูดถึง ราคาไม่แพง อาจจะด้วยเพราะสร้างน้อย แต่ถึงแม้จะหาก็หายากมาก ราคาไม่แพงแต่แทบไม่มีให้เห็น (หายาก)

ทำให้พระท่านจึงไม่ได้รับการพูดถึง แต่พระเครื่องท่าน มีประสบการณ์ทุกรุ่น นอกจากนี้ท่านยังยอมรับ นับถือ ในตัว หลวงปู่สด วัดโพธิ์แตงใต้ มาก

​

พระดีที่ประสบการณ์สูงๆในท้องถิ่นยังมีอีกมาก สำหรับท่านที่ชอบของดี ขลังๆแห่งภูธร พระนครศรีอยุธยาครับ

สภาพพอสวยรมดำยังมี พระไม่ได้ใช้เลยแค่เก็บไม่ดีครับ

ราคา 4500 บาท พร้อมส่ง


เช่าแล้ว

 

หลวงพ่อสุด วัดกาหลง

ไม่ต่องบรรยายสรรพคุณ สุดๆอยู่แล้ว ทันหลวงพ่อ ยันต์ตระกร้อยอดเหนียว รุ่นแรกยันต์ตระกร้อมหลักแสน รุ่นนี้ยันต์ตระกร้อหลักพัน

สวยเดิมๆ 1050 บาทพอ

 

หลวงพ่อเจริญ ติสฺสวณฺโณ (แสงพิภพ) เกิดเมื่อวันพุธขึ้น ๑๑ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะแม ตรงกับวันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๖ ที่ตำบลวัดพระยาไกร ยานนาวา กรุงเทพฯ บวชใหม่ ในวันเสาร์ที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๖ เวลา ๑๔.๓๐ น. ณ วัดกุฎีประสิทธิ์ ตำบลลำไซ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๐๐ หลวงพ่อได้ธุดงค์ผ่านมาถึงที่วัดเขาวงกฏ ตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี จึงได้แวะพักที่วัดนี้ โดยเข้ามาขออาศัยพักพอให้หายเหนื่อยสักสามวัน เมื่อครบกำหนดจะก็ออกเดินธุดงค์ต่อไป แต่เจ้าอาวาสขณะนั้น พระครูประยุตธรรมคุณได้เห็นปฏิปทาและคุณธรรมของหลวงพ่อ จึงได้ขอนิมนต์ให้หลวงพ่อเจริญพักอาศัยที่วัดเขาวงกฏนี้ โดยรับภาระอุปัฏฐากหลวงพ่อมิให้เดือดร้อน หลวงพ่อก็ได้จำพรรษาที่วัดเขาวงกฏนี้เรื่อยมา แต่ท่านรักความสงบ เจริญสมถวิปัสสนาอยู่ในกุฏิของท่านเงียบๆ มิค่อยได้ออกปรากฏตัวบ่อยนัก

เมื่อหลวงพ่ออายุได้ประมาณ ๘๐ ปี ในคืนวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๖ เวลาประมาณตีสอง พระภิกษุสมานได้นำหลวงพ่อไปที่วัดบางเสาธง บริเวณสามแยกไฟฉาย จังหวัดธนบุรี หลวงพ่อพักจำอยู่วัดบางเสาธงได้เพียง ๑ เดือนกับ ๖ วันก็มรณภาพในวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๖ สิริอายุรวมได้ ๘๐ ปี ๒ เดือน ๑๙ วัน
เมื่อวันวิสาขบูชาที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๕ คุณแม่ทองหล่อและอาจารย์พัชราภรณ์ ได้สอบถามติดตามหาศพหลวงพ่อเจริญ โดยความอนุเคราะห์ของ พ.ต.อ.ณรงค์วิช ไทยทอง ( ผู้กำกับการ ๒ กองปราบปรามสามยอดในขณะนั้น ) ได้อัญเชิญศพหลวงพ่อมาฝากไว้ที่ หลวงปู่ พระครูประยุตธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดเขาวงกฏ เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๕ โดยจัดให้ประดิษฐานอยู่ในที่สมควร ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๒๘ หลวงปู่ พระครูประยุตธรรมคุณพร้อมด้วยสาธุชนทั้งหลายได้จัดสร้างปราสาทตรีมุขเพื่อไว้เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเจริญ เพื่อความสะดวกในการเคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วๆไป

 

พระสมเด็จ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ยังอยู่ไหมครับผม

 

ยังอยุ่ครับ

 

ผมขอบูชาครับผม