หมดแล้ว ((พระเครื่องทั่วไทย ลป.ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง มงคลดีๆที่ส่งผ่านมาถึงลูกหลานทั่วไทย ))

ปิด 331)พระรอดหลวงปู่เอี่ยม วัดโคนอน 2515 (ลป.โต๊ะ เป็นประธานเสก ) รวมเกจิดังในยุคร่วมเสก รับประกันแท้ตลอดชีพ "ลดแหลก"ราคา 350.-

หลวงปู่โต๊ะท่านเป็นชาวสมุทรสงคราม เกิดที่บ้านในคลองบางน้อย ต.บางพรหม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ.2430 โยมบิดาชื่อลอย โยมมารดาชื่อทับ นามสกุล รัตนคอน การศึกษาในเบื้องต้นท่านศึกษาที่วัดเกาะแก้ว ปากคลองบางกอกน้อย ต่อมาบิดามารดาเสียชีวิตทั้งคู่ หลวงตาแก้ว ซึ่งเป็นญาติกับท่านได้นำท่านมาฝากไว้กับพระอธิการสุข เจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลี ในเวลานั้นท่านมีอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น ท่านก็ได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดประดู่ฉิมพลี และต่อมาเมื่ออายุได้ 17 ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร และได้อุปสมบทเมื่ออายุครบ 20 ปี ในวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2450 ณ พัทธสีมาวัดประดู่ฉิมพลี โดยมีพระครูสมณธรรมสมาทาน แสง วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูอักขรานุสิต ผ่อง วัดนวลนรดิษ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูธรรมวิรัต เชย วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "อินทสุวัณโณ" หลวงปู่โต๊ะท่านได้เล่าเรียนทางด้านคันถธุระและวิปัสสนาธุระด้วยความวิริยะ อุตสาหะจนสอบนักธรรมตรีได้ในปี พ.ศ.2455 นอกจากนั้น ท่านได้เล่าเรียนฝึกกัมมัฏฐานกับพระอาจารย์พรหม ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนากัมมัฏฐานอยู่ที่วัดประดู่ฉิมพลี และท่านยังได้ออกธุดงค์จาริกไปในที่ต่างๆได้พบกับพระอาจารย์ต่างๆ มากมาย เช่น ได้ศึกษากับหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน หลวงพ่อเนียม วัดน้อยหลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่ เป็นต้น

ต่อมาวัดประดู่ฉิมพลีได้ว่างเจ้าอาวาสลง หลวงปู่โต๊ะท่านจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลี ในปี พ.ศ.2455 และเป็นพระใบฎีกาของท่านเจ้าคุณอุดรคณารักษ์ วัดพระเชตุพนฯ และเป็นพระกรรมวาจารย์ ปี พ.ศ.2457 เป็นพระครูสังฆวิชิต ฐานานุกรมของสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) ปี พ.ศ.2463 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูวิริยกิตติ พ.ศ.2497 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2499 เป็นเจ้าคณะตำบลวัดท่าพระ พ.ศ.2500 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2506 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2510 เป็นประธานตรวจสอบบัญชีของวัดประจำตำบลวัดท่าพระ พ.ศ.2511 เลื่อนเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ พ.ศ.2516 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ "พระวิมลเถร" พ.ศ.2521 เลื่อนเป็นพระราชาคณะที่ชั้นราชที่ "พระราชสังวราภิมณฑ์"

 

จองลูกประคำที่มีจาร 1 คู่ค่ะ

 

ปิด 332)พระนางพญาหลวงปู่เอี่ยม วัดโคนอน 2515 (ลป.โต๊ะ เป็นประธานเสก ) รวมเกจิดังในยุคร่วมเสก เป็นพิมพ์ที่หายากที่สุด รับประกันแท้ตลอดชีพ "ลดแหลก"ราคา 450.-

เรามาคุยถึงพระเกจิอาจารย์ ที่ยังไม่เก่ามากนัก ถ้าเรื่องเหรียญ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เป็นเหรียญยอดนิยมเหรียญหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันมีราคาสูงมากสวยๆ สมบูรณ์ๆ ก็ต้องมีเป็นล้านล่ะ

หลวงปู่เอี่ยมท่านมีลูกศิษย์ที่เก่งๆ และสร้างพระไว้บ้างหรือเปล่า ก็ต้องบอกว่ามีครับ และ พระของท่าน ก็ขลังไม่ใช่ย่อยเลยครับ ท่านก็คือท่านเจ้าคุณผล อดีตเจ้าอาวาสวัดหนังราชวรวิหารครับ

ประวัติท่านเจ้าคุณผล วัดหนัง ท่านเกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2437 ที่บ้านโคกขาม ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โยมบิดาชื่อ แก้ว โยมมารดาชื่อ ยืน นาม สกุล แก้วเพชร ในเยาว์วัยท่านเรียนหนัง สือที่วัดในตัวเมืองจังหวัดสมุทรสาครนั่นเองครับ ท่านได้ศึกษาจนอ่านออกเขียนได้ ทั้งหนังสือไทยและหนังสือขอม ต่อมาครอบครัวของท่านก็ได้ย้ายมาทำสวนอยู่ที่บางขุนเทียนใกล้กับวัดหนัง ในสมัยก่อนบางขุนเทียนเต็มไปด้วยสวนผลไม้
ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็มีอาชีพทำสวน ซึ่งมีทั้งสวนผลไม้ หมากพลู สวนมะพร้าวและสวนส้ม เจ้าคุณผล วัดหนัง ท่านก็ได้ช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพจนกระทั่งอายุครบบวช ท่านจึงได้อุปสมบทที่วัดหนัง โดยมี พระครูภาวนาโกศลเถระ (หลวงปู่เอี่ยม) เป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดหนังตลอดมา
ท่านเจ้าคุณผล วัดหนัง ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม และวิปัสสนากรรมฐาน พร้อมทั้งวิทยาคมต่างๆ จากหลวงปู่เอี่ยมมาตลอด นอกจากนี้ท่านยังได้ขออนุญาตหลวงปู่เอี่ยมออกธุดงค์ไปที่ต่างๆ อยู่เสมอ และหลังจากหลวงปู่เอี่ยมมรณภาพแล้ว ท่านเจ้าคุณวิเชียรกวี ก็เป็นเจ้าอาวาสสืบแทน จนถึงปีพ.ศ.2503 ท่านเจ้าคุณวิเชียรก็มรณภาพอีก หลวงพ่อผล ท่านจึงได้เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา หลวงพ่อผลท่านมีลูกศิษย์ลูกหามาก มีผู้ถูกคุณไสยต่างๆ หรือเจ็บไข้ได้ป่วยต่างก็พากันมาให้หลวงพ่อผลรักษาให้มากมาย
ทั้งในด้านการสร้างวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง ต่างๆ เจ้าคุณผล ท่านก็ได้สร้างไว้หลาย อย่าง ซึ่งมีทั้งพระปิดตาพิมพ์ต่างๆ ทั้ง เนื้อตะกั่วและเนื้อผง หัวบานเย็นก็มี พระชัยวัฒน์ เนื้อโลหะผสมก็มี เหรียญรูปท่านซึ่งทำแบบรูปทรงแบบเหรียญหลวงปู่เอี่ยมก็นิยมกันมาก นอกจากนี้ท่านยังได้สร้าง หมากทุย ไว้ด้วย ปัจจุบันบางคนเล่นเป็นของหลวงปู่เอี่ยมไปแล้วก็มี พระเครื่องและของขลังที่ท่านสร้างไว้มีพุทธคุณยอดเยี่ยม มีผู้คนเคยมีประสบการณ์ต่างๆ มาแล้วมากมายครับ ยิ่งด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรีนั้นยอดเยี่ยม ขนาดบางคนถูกรุมตีจนสลบแต่ไม่เคยมีใครมีแผลแตกเลยซักคนเดียว
ปัจจุบันพระเครื่องของท่านนั้นเริ่มหายากแล้ว ยิ่งหมากทุยแล้วแทบหาไม่ได้เลย เนื่องจากทำยากจึงทำให้มีจำนวนน้อยครับ แถมบางคนก็อย่างที่บอก ตีเป็นของหลวงปู่เอี่ยมเอาเสียเลยก็มีเจ้าคุณผล ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2512 สิริอายุได้ 75 ปี พรรษาที่ 54

ว่ากันด้วยเรื่องคาถาบูชา !
ตั้งนะโม ๓ จบ
* ภะคะวัมปะติเถรังเอหิ สัพพะลาภัง ภะวันตุเม *
อธิฐานตามความปราถนาได้เลยครับ ..

 

จอง 1 คู่ ครับ อาทิตย์หน้าโอนให้พร้อมพระกริ่งศรีสุทโธ ครับ
ขอบคุณครับ

 

ปิด 333)รูปหล่อหลวงปู่ทิม"ฝังพัทธสีมา" มีกริ่งก้นอุดนะชาลีติ เนื้อตะกั่ว เปียกทอง เลี่ยมพร้อมใช้ ลป.ทิม อิสริโก ปลุกเสก พระเครื่องคาดว่าจัดสร้างในช่วงเวลา พ.ศ.2516"ลดแหลก"ราคาแบ่งปัน 2,550.-(่j999)

หายากนะครับ...ราคาหนมๆเล้ย

 

รับทราบการจอง....ขอบพระคณมากครับ

 

334)พระผงหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง ปี 2534 สภาพสวยกล่องเดิม มาพร้อมกัน 3 องค์ พระดีปีลึกจ้า"ลดแหลก"ราคาแบ่งปัน 200.-

อายุพระ 26 ปีแล้วว...เก็บๆๆๆราคาหนมๆ

 

335)พระผงใบโพธิ์"เสาร์ 5"หลวงพ่อเชิญ วัดคงทอง จ.อยุธยา ปี 2533 พระเก่าเก็บสภาพสวยมาก กล่องเดิมๆ มาพร้อมพระปิดตามหาลาภ พระดีปีลึกจ้า"ลดแหลก"ราคาแบ่งปัน 200.-

พิมพ์รูปเหมือน และพิมพ์พระปิดตา

 

ปิด 336)พระผงไพรีพินาศ วัดบวรนิเวศวรวิหาร สภาพสวยปิ๊ง "ลดแหลก"ราคาแบ่งปัน 150.-(anamvong01)

กล่องเดิมๆ

แถมๆๆๆหลวงปู่คง วัดแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เลี่ยมพร้อมใช้ครับ

 

ปิด 337)พระผง"รุ่นแรก-รุ่นเดียว"หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส วัดป่าพระสถิตย์ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ใช้แบบพิมพ์เหรียญรุ่นแรก ปั้นกดมือเองที่กุฏิท่าน พุทธาภิเษกพร้อมกับเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่ และพิธีเดียวกันกับเหรียญรุ่น 2 ของหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ปี 2522 หายากครับ สร้างหลักร้อย สุดยอดมวลสารของหลวงปู่ที่เก็บไว้ น่าเก็บมากครับ เพราะหลวงปู่ไม่ชอบที่จะสร้างมงคลที่ระลึกเท่าไรนัก จึงจัดเป็นพระและวัตถุมงคลรุ่นแรกและรุ่นเดียวจริงๆทั้งเหรียญ และพระผง สภาพสวยสมบูรณ์ รับประกันแท้ตลอดชีพ "ลดแหลก"ราคาแบ่งปัน 250.-(anamvong01)

แถมๆๆ....ปิดตาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ

ประวัติหลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส วัดป่าพระสถิตย์
"คนเราควรใช้สติปัญญา ใช้ปัญญาเป็นกล้องส่องใจ จะได้รู้ว่าสภาพที่แท้จริงของจิตเป็นอย่างไร" คำกล่าวบรรยายธรรมของ "หลวงปู่บัวพา" หรือท่านพระครูปัญญาวิสุทธิ์ แห่งวัดป่าพระสถิตย์ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พระวิปัสสนาจารย์สายอีสาน ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนเป็นอย่างมาก
อัตโนประวัติ พระครูปัญญาวิสุทธิ์ มีนามเดิมว่า บัวพา แสงศรี เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2454 ณ บ้านบึงแก อ.มหาชนะชัย จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็นจังหวัดยโสธร) โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายหยาด และนางทองสา แสงศรี ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา
ต่อมา โยมบิดามารดาของท่านได้อพยพไปตั้งหลักแหล่งใหม่ที่บ้านกุดกุง ต.สงเปลือย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร อุปนิสัยเป็นคนพูดน้อย มีความเคารพนอบน้อมเชื่อฟังผู้ใหญ่ เป็นคนว่าง่ายสอนง่าย ไม่ชอบทำบาป มีจิตใจใฝ่บุญกุศลตั้งแต่เป็นเด็กตลอดมา
ครั้นพออายุครบบวช บิดามารดามีความปรารถนาอยากจะให้ท่านบวชก่อนจะมีครอบครัว บังเอิญในปีนั้น นายเทพ ลูกชายของน้องสาวโยมพ่อ (โยมแตงอ่อน) ได้ถึงแก่กรรม ลุงได้ขอร้องให้ท่าน ช่วยบวชอุทิศส่วนกุศลให้แก่นายเทพ ซึ่งเป็นลูกชายของโยมแตงอ่อน
พ่อคำมี แสงศรี จึงเป็นเจ้าภาพจัดกองบวชให้ และท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี พ.ศ.2475 ณ สีมาน้ำ วัดบ้านกุดกุง อ.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี มีพระอาจารย์มอน เป็นพระอุปัชฌาย์ สังกัดมหานิกาย
ในพรรษาแรกอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านกุดกุง วัดบ้านกุดกุงนั้นเป็นวัดอยู่นอกบ้าน ห่างบ้านพอประมาณ ท่านฉันมื้อเดียว และฝึกหัดภาวนาอยู่ตามลำพังแต่องค์เดียวมิได้ขาดเพราะเป็นวัดบ้าน การทำสมาธิภาวนาไม่ค่อยมีใครเขาทำกัน ท่านก็คิดทำของท่านเอง
มีอยู่วันหนึ่ง ท่านระลึกถึงเมื่อสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้อยู่ที่ใต้ต้นศรีมหา โพธิ์ พอดีภายในวัดบ้านกุดกุง มีต้นโพธิ์อยู่ต้นหนึ่ง ท่านจึงไปนั่งสมาธิที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในคืนวันนั้น ท่านรอให้เสียงผู้คนเงียบสงัดเสียก่อน จึงค่อยไปนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นโพธิ์โดยไม่มีใครรู้ พอไปถึงท่านกราบลง 3 ครั้ง แล้วนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก บริกรรม "พุทโธ" อยู่องค์เดียว ใช้เวลาภาวนาอยู่ไม่นานนัก จิตก็รวมสงบลงอย่างแน่วแน่ ท่านได้พบความสุขอยู่อย่างสุดซึ้งที่ใต้ต้นโพธิ์นั้นเอง นั่งสมาธิอยู่เกือบสว่าง พอได้ยินเสียงผู้คนออกไปตักน้ำที่กุดกุงตอนใกล้รุ่ง ท่านจึงเข้ามาทำวัตรต่อที่กุฏิของท่าน
ครั้งหนึ่ง ท่านไปเมืองสกลนคร ได้เข้ากราบหลวงปู่เสาร์ ที่วัดป่าสุทธาวาส มอบกายถวายชีวิตต่อหลวงปู่เสาร์ ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่าน ท่านก็เมตตารับไว้ แต่ตอนนั้นหลวงปู่บัวพา ยังเป็นพระมหานิกายอยู่ จึงไปญัตติใหม่ เป็นพระสายธรรมยุต เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2478 ณ พัทธสีมา วัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม โดยมีพระครูสารภาณมุนี (หลวงปู่จันทร์ เขมิโย) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระมหาพรหมา โชติโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์
หลังจากได้ญัตติกรรมเป็นพระธรรมยุตแล้ว ได้เดินทางกลับมาวัดป่าสุทธาวาส อยู่กับหลวงปู่เสาร์ ได้รับใช้ครูบาอาจารย์ และได้ช่วยหมู่คณะอย่างเต็มที่ หลวงปู่บัวพา เป็นพระเถระผู้มีอุปนิสัยพูดน้อย มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ได้บำเพ็ญสมณธรรม ปฏิบัติศาสนกิจ อบรมสั่งสอนสานุศิษย์ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ให้ยึดมั่น ในพระรัตนตรัย และสำเหนียกในไตรสิกขา อันเป็นแนวทางแห่งอริยมรรค จนในที่สุด ย่างเข้าสู่วัยชรา สุขภาพร่างกายของท่านไม่แข็งแรงดังเดิม เป็นไปตามกฎแห่งไตรลักษณ์ หลวงปู่บัวพา ได้มรณภาพลงด้วยโรคชรา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2535 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ท่านได้ละสังขารอันเป็นภาระหนักและทรมานที่อาพาธมานานไปโดยอาการอันสงบ เมื่อเวลา 20.45 น. สิริอายุได้ 81 ปี 11 เดือน 11 วัน พรรษา 61
คณะสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์ ได้จัดงานฌาปนกิจศพ โดยขอพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่บัวพา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2536 ณ เมรุวัดป่าพระสถิตย์ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


นำเสนอภาพเก่าๆ

 

จองเพิ่ม พระรายการที่ 336 และ337 ครับ

 

ขอจองครับ

 

ปิด 338)พระผงโต๊ะหมู่"มงคล 80 ปี" ลป.ประไพร สุภโร วัดป่าไพรรัตนวรณาราม ต.บ้านตาด จ.อุดรธานี จัดเป็นพระรุ่นสุดท้าย ก่อนที่ท่านจะละสังขาร เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา น่าเก็บไว้เป็นเครื่องเตือนสติข้อคิดและข้อธรรมของหลวงปู่ครับ สภาพสวยสมบูรณ์ รับประกันแท้ตลอดชีพ "ลดแหลก"ราคาแบ่งปัน 200.-(anamvong01)


ประวัติหลวงปู่(โดยย่อ)
วัดป่าไพรรัตนวณาราม บ.หลุบหวาย ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
หลวงปู่ประไพร สุภโร กำเนิดเมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๘๑
ตรงกับวันพุธ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีขาล ในครอบครัวชาวนา ที่บ้านโนนทัน
อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นบุตรของนายโถ่ย และนางนอ ศรีสว่าง มีพี่น้องร่วมกัน ๙ คน หลวงปู่ ฯ เป็นบุตร คนที่ ๓ ปัจจุบันยังมีชีวิต ๓ คน (รวมหลวงปู่ ฯ)
และต่อมาได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ โยมบิดา มารดา จึงอพยพครอบครัว หาสถานที่ปลอดภัย ครั้งแรกย้ายไปที่บ้านเก่าน้อย อ.เมือง จ.อุดรธานี
และสุดท้ายย้ายไปที่บ้านไก่เถื่อน ต.หนองสำโรง อ.เมือง จ.อุดรธานี
ซึ่งหลวงปู่ ฯ ใช้ชีวิตในวัยเด็ก ณ ที่นั่น
- เมื่ออายุ ๙ ปี เรียนชั้น ป.๒ ได้บวชหน้าไฟให้โยมย่า ครั้นเสร็จงาน
โยมบิดามารดามารับกลับบ้านแต่ไม่ยอมกลับ แล้วได้บอกโยมบิดามารดา
ไปว่า “เดินแค่นี้ไม่กี่ก้าวโยมย่าจะถึงสวรรค์ได้อย่างไร ให้โยมย่าถึงสวรรค์
ก่อนจึงจะกลับ” จึงได้เป็นสามเณรอยู่กับพระอาจารย์หอม วัดบ้านบง
แต่ต่อมา ๑ ปี พระอาจารย์หอมท่านได้มรณภาพ หลวงพ่อ ภุมมี จิตธโม
วัดโนนนิเวศ อ.เมือง จ.อุดรธานี ทราบ
จึงได้มารับให้ไปอยู่กับท่านในช่วงนั้นเป็นสามเณรแต่ยังไม่มีใบสุทธิ
เพราะบวชหน้าไฟ ครั้นอายุ ๑๕ ปี ได้บรรพชาที่วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง
จ.อุดรธานีโดยมี พระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชญาย์
เป็นศิษย์รุ่นสุดท้าย ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นใฝ่ในด้านกรรมฐาน จึงไปอยู่ที่
วัดโนนนิเวศ อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่เป็นวัดศูนย์กลางทางด้านกรรมฐาน
ในเวลานั้น ได้เริ่มออกธุดงค์ครั้งแรกตอนเป็นสามเณร โดยได้เดินธุดงค์
รูปเดียวจากอำเภอเมืองอุดรธานี ผ่านดงเสอเพลอกุมภวาปี ไปยัง
อำเภอน้ำพอง แล้วเดินต่อไปยังอำเภอโนนสัง ในสมัยนั้นระหว่างทาง
พบสัตว์ป่าเยอะมาก จากนั้นจึงได้ขึ้นไปอยู่ที่วัดบนภูเก้า ครั้นปี ๒๕๐๑
ได้อุปสมบทที่วัด อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ในระหว่างเดินธุดงค์แต่ความคิด
ขณะนั้นยังไม่อยากอุปสมบท เพราะคิดว่าเวลาเดินธุดงค์เป็นสามเณรจะดีกว่า อยากเก็บเห็ด หน่อไม้ หน่อหวายมาแกงทำได้ง่ายกว่า แต่พ่อแม่ครูอาจารย์บอกไม่ได้หรอกต้องอุปสมบทเพราะตัวโต เดี๋ยวพระจะเข้าใจผิดนึกว่าเป็นพระเผลอมากราบ จึงได้อุปสมบทในระหว่างเดินธุดงค์ภูเก้า
- หลังจากท่านพ่อลี วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ได้กลับจากอินเดีย ท่านได้เริ่มสร้างวัดอโศการามขึ้นหลวงปู่ ฯ ท่านได้ไปปฏิบัติธรรมและช่วยงานพ่อแม่ครูอาจารย์ ในการสร้างวัดอโศการามในครั้งนั้น เมื่อครั้งเริ่มต้นสร้างวัด
มีพระลูกศิษย์อยู่ด้วยกันจำนวน ๕ รูป หลังเสร็จงานก็กลับมาที่วัดโนนนิเวศน์
ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
-ท่านได้เรียนตัวธรรมและตัวขอม จาก หลวงปู่ด่อน อินทสาโร วัดถ้ำเกีย
จ.หนองคาย เรียนอยู่หลายปีจนแตกฉาน เดินทางไป – มาประจำ ได้รับเมตตาจากท่านหลวงปู่ด่อน เป็นอย่างมาก และหลวงปู่ด่อนได้มอบใบลาน
ให้เก็บรักษาและสืบทอดต่อไป
-พ.ศ.๒๕๑๒ หลวงปู่ ฯ ได้จำพรรษากับท่านหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต
อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และในครั้งนั้นหลวงปู่ ฯ ได้โมโหให้ตนเอง ว่า
ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ นั่งสมาธิจิตก็ไม่รวม ท่านได้ขอเข้าไปอยู่ในถ้ำและ
ขอให้พระเณรปิดประตูใส่กุญแจและขอปฏิบัติธรรมในนั้นเป็นเวลา ๗ วัน
หากไม่สำเร็จก็ให้ตายในนั้นไปเลย มีเพียงตะเกียงและกาน้ำที่นำเข้าไป
อยู่ในถ้ำมีแต่เดิน เดินเสร็จก็มานั่ง ขณะที่อยู่ในนั้น มีเหตุและสิ่งขัดขวาง
อย่างหนักเกือบหลงทาง ต้องอดทนและพยายามอย่างมาก
จึงผ่านเหตุในครั้งนั้นได้ เมื่อครบ ๗ วันก็ออกมาได้เพราะมีสิงศักดิ์สิทธิ์
เปิดประตูถ้ำให้และในปีนั้นเอง หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต ท่านได้สร้าง
เหรียญรุ่นแรก ซึ่งหลวงปู่ ฯ ได้มีโอกาสช่วยเหลืองานของพ่อแม่ครูอาจารย์
ในครั้งนั้น

 

ได้รับแล้วครับ แพ็คดีสุดๆครับ สภาพดีมากครับ ขอบคุณมากนะครับ

 

339)พระผงโต๊ะหมู่"มงคล 80 ปี" ลป.ประไพร สุภโร วัดป่าไพรรัตนวรณาราม ต.บ้านตาด จ.อุดรธานี เนื้อแดง ผงพทธคุณ-ปูนกินหมาก จัดเป็นพระรุ่นสุดท้าย ก่อนที่ท่านจะละสังขาร เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา น่าเก็บไว้เป็นเครื่องเตือนสติข้อคิดและข้อธรรมของหลวงปู่ครับ สภาพสวยสมบูรณ์ รับประกันแท้ตลอดชีพ "ลดแหลก"ราคาแบ่งปัน 200.-

 

340)ชุดสมณาคุณ สายวิปัสนากรรมฐาน สภาพสวยสมบูรณ์ บรรยายตามภาพ "ลดแหลก"ราคาแบ่งปัน 450.-
++หลวงตามหาบัว++

+หลวงปู่จัทร์ศรี จนฺททีโป++

++หลวงปู่แฟ๊ป สุภัทโท++

++หลวงปู่พุธ ฐานิโย++

++หลวงปู่ขันตี ญาณวโร++

 

341)ชุดสมณาคุณ สายวิปัสนากรรมฐาน สภาพสวยสมบูรณ์ บรรยายตามภาพ "ลดแหลก"ราคาแบ่งปัน 550.-
++ลป.บุญหนา ธมฺมทินโน++

++ลป.จันทร์ศรี จนฺททีโป++

++ลป.แหวน ทยาลุโก++

++ลป.ศรีจันทร์ วัณณาโก++

++หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป++

 

ปิด 342)ชุดสมณาคุณ สายวิปัสนากรรมฐาน สภาพสวยสมบูรณ์ บรรยายตามภาพ "ลดแหลก"ราคาแบ่งปัน 550.-(anamvong01)
++พระกริ่งหลวงปู่ขันตี ญาณวโร++

++เหรียญหลวงพ่อสวย วัดศรีหมากหญ้า จ.อุดรธานี++

++เหรียญ"ตรงจริง"ลป.จันทร์ศรี จนฺททีโป++

++หลวงปู่จันทร์ เขมิโย++

 

ขอจองเพิ่ม พระรายการ 338 และ 342 ครับ

 

จองเพิ่มพระรายการที่ 338 ครับ