ชีวิตของ ข้าพเจ้า

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ongsoffer, 31 มกราคม 2008.

  1. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เคยสองคา เนื้อเอ๋ง เพื่อนมันหลอก
    กลางวงเหล้า แต่ก่อน ค่อนสองปี
    เคี้ยวเนื้อตาก หนึบหนับ นั่นเหนียวหนา
    เนื้อไรหวา กลิ่นแรง แกงไม่ลง
    อีกครั้งหนา ที่ปอนเปรต เขมรเมือง
    มาเป็นจาน ผัดเผ็ดร้อน กับข้าวสวย
    นั่งเคี๋ยวงวย หยุบหยับ กลืนไม่ลง
    อะไรหว๋า เนื้อนี้ นี่มันเหนียว
    เห็นเพื่อนเคี้ยว กับมัน พลันหัวเร่า
    เออนี่ไง สี่ขา เห่าโฮ่งๆ
    อ้วกตัวโก่ง เกลอฮา ขำทั้งวง
     
  2. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ไม่ต้องฆ่า ไม่ต้องข่ม เฝ้าตามดู
    ดูรู้แจ้ง กิเลสมาร เป็นไงหนา
    ฝึกดูจิต กำหนดใน กายเวทนา
    ปัฏฐานหนา มหาสติ จำขึ้นใจ
    ดูดูไป เดี๋ยวก็ละ มันเป็นเอง
    อย่าไปเกรง กิเลส ฝึกตามดู
     
  3. ongsoffer

    ongsoffer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +484
    คุณเขียนกลอนเร็วกันจัง ผมแป๊บหยุด
    อ่านอุตลุด มันมาก น่าเลื่อมใส
    ยิ่งอ่านยิ่ง สนุกสนาน ประทับใจ
    ส่งผลให้ ชีวิต ได้คิดเอย ชะเอิงเอย

    ท้องฟ้า ทะเล อากาศ ต้นไม้ มดตะนอย แป้งสาลี สาธุ
     
  4. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    คลื่นซัดโหม ถาโถม ทะเลจิต
    บ้างเงียบกริบ วังเวง เกินจำนรรค์
    บ้างเผากร่อน รุ่มร้อน แสนโลกันต์
    สิ่งสำคัญ จิตในกาย ใครขานที
     
  5. นิพพิทา2008

    นิพพิทา2008 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +55
    กรรมฐาน ควรทำ ในกองไหน
    ครุ่นคิดไป พาให้ ใจสับสน
    หากปฏิบัติ แล้วผิด จริตตน
    อันมรรคผล จะเกิดได้ หรือไม่เอย
     
  6. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    กรรมฐานกองใด เป็นอุบาย ละกิเลส
    กสินสี่ เมตตา พรหมวิหาร
    สมถะ ข่มจิต หวังเกิดฌาน
    กองสี่สิบ หยิบเอามา แค่ละข่ม
    ตามจริต เลือกเอาไป อุบายหนา
    จริตบ้า หลงกาย ใช้อสุภะ
    เกิดโทสะ เจริญเมตตา พรหมวิหาร
    จะเพ่งธาตุ เพ่งน้ำ และไฟลม
    ที่สุดคง เป็นได้ หลงภิญญา

    หวังมรรคผล ดลจิต ให้หลุดพ้น
    พึงดั้งดัน เจริญจิต วิปัสสนา
    เกิดปัญญา เต็มภูมิธรรม รู้แจ้งใจ
    ดีแน่ไซร้ ไปกระแส พระโสดา
    เลือกเอาหนา ทางสายเอก นั้นดีแน่
    ไม่ง่อนแง่ ลุ่มหลง เรืองฤทธิ์รอน
    ไม่ทุกข์ร้อน ฉ่ำเย็น เป็นปัจจุบัน

    เราชี้ทาง ให้ท่าน หวังโสดา
    เกิดตายมา เจ็ดชาติ มิดีหรือ
    จริตท่าน ใฝ่รู้ เฝ้าฝึกปรือ
    สิ่งนั้นคือ องค์ปัญญา ปัญญาญาณ
    เป็นสัมมา ทิฎฐิ ดีแล้วพ่อ
    ตามเรียนต่อ ก่อเติม วิปัสสนา
    ปัฎฐานหนา มหาสติ นี้ดีจริง

    หมั่นพบพูด เจรจา พหูสูตร
    องค์ความรู้ จักถ่ายไป ยังท่านหนา
    หมั่นอ่านเขียน เป็นทาง ทางปัญญา
    หมั่นเข้าหา อาจารย์ และตรึกตรอง

    สมาธิเจริญ หมั่นดูจิต ติดตามรู้
    สิ่งไหนเกิด สิ่งไหนดับ มิใช่ตู่
    ดูให้รู้ แล้วจับวาง เป็นอารมณ์
     
  7. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    น้าจอนหนา เที่ยงตรง ลุ้นตัวเกร็ง
    สามตัวเด้ง เลขท้าย พาใจสั่น
    ลงไปเยอะ มากน้อย ค่อยว่ากัน
    สามตัวนั้น สามแปดหนึ่ง เดี๋ยวรู้เอง
     
  8. นิพพิทา2008

    นิพพิทา2008 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +55
    ผู้ชายฝัน โบราณว่า ลดหนึ่งแต้ม
    ผมเลยแจม สองเจ็ดศูนย์ อีกใบหนา
    สามแปดหนึ่ง ก็ไม่ทิ้ง หาซื้อมา
    ถ้าหวยกิน คราวนี้หนา โทษคุณขจร.555
     
  9. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    คุณอดุลย์ เมธี เป็นไงบ้าง
    ไม่เจอนาน สบายดี หรือเปล่าหนา
    วันนี้รวย เลขหวย เพื่อนให้มา
    สามตัวหนา งวดนี้ เดี๋ยวมีเฮ
     
  10. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    946 จำได้ว่า บอกใครไป
    คงยิ้มน้อย นั่งยิ้มใหญ่ ใจหรรษา
    318 คุณจร เขาบอกมา
    ไม่ถูกหนา งวดหน้า แก้ตัวใหม่
     
  11. นิพพิทา2008

    นิพพิทา2008 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +55
    เรื่องหวยกิน ธรรมดา ไม่เห็นแปลก
    กินงวดแรก ซะที่ใหน ล่ะพี่จ๋า
    อย่าคิดมาก ให้เซ็ง ในอุรา
    ถูกฟ้าผ่า ยังง่ายกว่า ถูกหวยเอย
     
  12. ongsoffer

    ongsoffer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +484
    กวีธรรม นำแต่ง ให้ใจจบ
    ให้คิดครบ ครอบคลุม ถึงจิตหนา
    อันทรงไว้ ซึ่งศีล และเมตตา
    ได้พึ่งพา เพราะพริ้ง ปะลิ้งปิ้งปิ้ง (อิอิอิ)
     
  13. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ขอแนะ ขอเสริม เติมสติ
    ทำไร ให้ช้า ดูเป็นไป
    ให้หายใจ ดูอาการ ท้องพองยุบ
    อยากเอาจิต จับคำ บริกรรมหนา
    เดี๋ยวจะกลาย เป็นสมถะ ติดภิญญา
    แก้ยากหนา เพราะเข้าใจ ว่ารู้ธรรม
    ตามดู รู้ไป จนสุดสาย
    อย่าไปยึด อาการ พาลสงสัย
    จิตตามรู้ ดูเป็นไป
    เกิดอะไร ให้ว่ารู้ ดูอย่างเดียว
     
  14. นิพพิทา2008

    นิพพิทา2008 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +55
    กรรมฐาน 40 หยิบมาอ่าน
    แปลกเหมือนกัน เมื่ออ่าน เรื่องกสิณ
    รู้สึกชอบ อ่านได้นาน และก็อ่านเป็นอาจิณ
    อยากดำดิน อยากจะเหาะ ไปทำงาน ( ประหยัดดี )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2008
  15. นิพพิทา2008

    นิพพิทา2008 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +55
    สติปัฏฐาน นั้นดีแน่ สมควรฝึก
    แต่มานึก จะเริ่มฝึก อย่างไรหนา
    จะดูธรรม ดูจิต กาย หรือดู เวทนา
    เอ๊ะหรือว่า ดูทุกอย่าง สลับกัน
     
  16. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    โสฬสญาณ(ญาณ16)

    ฐีติญาโณ




    “โสฬสญาณ”….รหัสขาน…”ญาณสิบหก”….พระอาจารย์”โชดก”มหาเถร….
    “ญาณสิทธิ”วัดมหาธาตุ….ประกาศเกณฑ์…. ชื่อว่าเป็น”เจ้าตำรับ”ประดับไทย….
    สืบ”พุทธวงศ์”ตรงสุดพระพุทธเจ้า……. สาวกเล่าสอนนานช้ามาแต่ไหน….
    จากอินเดีย….ลงมาพม่า…ไทย…… ใช่อื่นไกล”อย่ายึดมั่น”คืออันเดียว…..
    นี่คือ”ลำดับญาณ”ฐานความรู้…… ของพระผู้”อริยะ”เลิศเฉลียว…..
    “สิบหกลำดับ”เสร็จสำเร็จเจียว…… ใช่ครั้งเดียวมีถึงสี่ที่สำคัญ……
    บรรลุ”ครั้งที่หนึ่ง”ถึง”โสดาฯ”….. สอง”สกทาคามี”ที่แข็งขัน….
    สาม”อนาคามี”ฉวีวรรณ…… สี่”อรหันต์”สูงสุดถึง”พุทโธ”…….
    “วิปัสสนากรรมฐาน”งาน”สติ”….. ถึง”พุทธิปัญญา”กล้าอักโข…..
    เห็นแจ้งใน”กฎแห่งกรรม”พระธัมโม…… “มนุสโส”แทงตลอดเป็นยอดคน…..

    ด้วย”อานาปานสติ”เพ่งพินิจ……. “ดูลม”ติดตามเห็นให้เป็นผล…..
    ลมหายใจ…เข้า-ออกในนอกจน……. ประสบผล”จิตเป็นหนึ่ง”จักถึงธรรม……
    หายใจเข้า…”พองหนอ”จิตจ่อท้อง…… “เข้าเป็นพอง”…”ออกเป็นยุบ”หลุบลงต่ำ….
    กำหนด”ยุบหนอ”เห็นชัดพระสัทธรรม…… สูงแล้วต่ำ…”เกิดแล้วดับ”หายวับไป….

    ด้วย”สติปัฏฐานสี่”….นี้เป็นเอก……. “ปัจจเวกขณญาณ”ตระการใส…….
    ดู”กาย-เวทนา-จิต-พาไป….. ธรรม”นอก-ในบุคคลของตนเอง…..
    ครบเครื่องด้วย”ศีล-สมาธิ-ปัญญา”…… “มรรคแปด”พาจิตปลงเจาะตรงเผง….
    ถึง”ละวาง”…”ดับตัวตน”ที่อลเวง…….. คือบทเพลง…อันสวยสด”โสฬสญาณ”….

    ญาณที่หนึ่ง…”แยกรูปนาม”ความแตกต่าง…ในระหว่าง”ยุบ-พอง”สองประสาน….
    ไหน”ยุบ?””พอง?”มองดูรู้อาการ……….. ไหนยาว-นาน?..เร็ว-สั้น?หรืออันเดียว….

    ญาณที่สอง….”รู้เหตุผล”มีต้น-ปลาย…… “พอง-ยุบ”หายเปลี่ยนจากเดิมเริ่มเฉลียว…..
    ลมละเอียด….”ไม่หายใจ”ไปทีเดียว…… หายไปเดี๋ยวเกิดมีอีกใช่หลีกเลย……
    ให้กำหนด”หายหนอ”หรือ”นิ่งหนอ”…… เอาจิตจ่อ…”กำหนดรู้…ตามดู”เฉย…
    พอง-ยุบหายไปไม่รู้ครู่ใดเลย……… สุดเฉลย…หายไปเมื่อไรกัน?….

    ญาณที่สาม….”เห็นไตรลักษณ์”ตระหนักจิต…. สำนึกคิดในบาปบุญคุณมหันต์….
    ปรุงแต่งจิตสู้”นิวรณ์”…อ่อนลงพลัน…… พอง-ยุบนั้นหายจาก…มากกว่าเดิม…..
    มี”นิมิต”บางอย่างบ้างฉุกคิด…….. ย้อนอดีต”กฎแห่งกรรม”เคยทำเหิม….
    เคยผิดศีลสร้างกรรมแต่จำเดิม…… ก็จะเริ่มมีภาพเห็นเด่นออกมา……
    ณ จุดหนึ่งจิตรู้เหมือนดูหนัง….. ย้อนแต่ครั้งคราเด็กเล็กเล็กหนา……
    หลายสิบปี….จำไม่ได้ไล่ภาพมา…….. รำลึกว่าก่อกรรมใด?จึงให้เป็น……
    ศีลห้าข้อ….ท้อจิตผิดเกือบหมด…… น้อยเท่ามด..ยังต้องใช้เกิดให้เห็น….
    “ดอกเบี้ย”บาน”หลายพันเท่า”เอาเป็นเกณฑ์…. ใช้เรื่องเล่นเห็นว่าผิดเพียงนิดนึง….
    “ชื่อว่าบาป…อย่าทำเลยจะดีกว่า”……. ผลตามมาไม่อาจจะคาดถึง….
    เมื่อถึงคราวใช้คืน….ตื่นตะลึง……. แล้วจะซึ้งเกรงกลัวบาปตราบสิ้นลม…..
    หากมีใครค้ำคอ….ติดต่อปวด……. ให้รีบสวด”แผ่เมตตา”คราปฐม……
    ขอ”อโหสิกรรม”เขาไปใจนิยม……. เทพหรือพรหม…ผีปีศาจอาจทดลอง…..
    หรือ”เจ้ากรรมนายเวร”ตามเล่นงาน….. อย่าเสียการ…สมานมิตรสนิทสนอง…..
    ว่าเราทำอะไรไว้ในทำนอง…… เราบกพร่องไว้แค่ไหน?…เราไม่รู้!!…..
    สารภาพอ้อนวอนอ่อนเข้าหา….. “แผ่เมตตา”ส่วนกุศลผลเลิศหรู…..
    ทุกอย่างจะหายไปให้เป็นครู…… ท่านเอ็นดูจะตามช่วยอำนวยพร…..

    ญาณที่หนึ่งถึงสาม..ล้วนงามงด…. หากกำหนด”เผลอหนอ”ขอไถ่ถอน…..
    “สติ”จะดีขึ้นมาก….ไม่อยากนอน….. พอง-ยุบผ่อนหายบ่อยไม่น้อยเลย….
    “พระธรรมปีติ”ห้าองค์…มาทรงโปรด……. บ้างกระโดดโลดเต้น…เย็นวาบเฉย….
    บ้างหนาวร้อน…คลื่นไส้เหมือนไม่เคย…… ตัวเบาเลยลอย”เหาะ”ได้แปลกใจจัง……
    บ้าง”ตักสั่น”…”คันเนื้อตัว”ทั่วไปหมด……. ต้องกำหนด”สั่น…คันหนอ”ก็พอหวัง…..
    ขนลุกซู่….ตัวโยก…”โลกหมุน”จัง….. เอนข้างหลัง….”อาเจียน”วิงเวียนมี…..
    บ้างตัวสั่น….เนื้อเขม่นเต้นหนุบหนับ….. “สำรอก”รับโรคร้ายจะหายหนี…..
    เสียวร่างกาย….เป็นหลายวันมันก็มี….. ไม่เหนื่อย…ดี”เป็นลม”หายสบายเบา…..

    พอง-ยุบหาย”สติ”….สิแก่กล้า……. เริ่มก้าวหน้างดงามดับความเขลา……
    “วิปัสสนา”วิ่งหนีกรรมพอทำเนา…… “หนักเป็นเบา”….”อโหสิกรรม”ทำให้จริง…..
    นางชะนี….สี่ห้าตัวมายั่วแหย่……. รีบส่งแผ่เมตตาหายอดหญิง……
    พลันหายไปทันที….นี่ความจริง…… เธอมีสิ่งเคยผูกพันกับฉันมา…….
    อีกวันหนึ่ง”ปวดขา”อย่างสาหัส……. ทุกขสัจจ์….ลอยเด่น…”เห็นหน้าหมา”……

    เขาเคืองแค้นทวงถามจึงตามมา…… เราเคยฆ่าขับรถทับตายดับลง…..
    จึงกำหนด”ปวดหนอ”ซ้ำต่อเนื่อง……. เขาขัดเคืองตามเตือนไม่เลือนหลง…..
    “สองปีกว่า”จึงหายไปเหมือนใจจง…… เขาคงปลง”ยกโทษ”….หายโกรธแล้ว…..

    ญาณที่สี่”เห็นเกิด-ดับของรูป-นาม”…. “สติ”ตามว่องไวดูใสแจ๋ว…..
    ใจหายวับ….ดับที่หู…จงรู้แนว……… ผงะแล้ว…สะดุ้งฟุบ…อ่อนยุบกาย….
    บ้างรู้สึกลึกลง….โยนลงเหว…….. เห็นความเลว”กฎแห่งกรรม”น้อมนำหมาย….
    พอง-ยุบเปลี่ยนไปเรื่อยเรื่อยเฉื่อยสบาย…… เปลี่ยนไปหลายสิบอย่างต่างต่างมี…..
    “เห็นอนิจจังไม่เที่ยง”เลี่ยงไม่ได้…… อยากชวนใคร…ความคิดเลิศเฉิดฉวี…..
    เข้าปฏิบัติธรรมด้วยช่วยชีวี…… ความคิดดี….คงมั่นกตัญญู……
    อยากชักชวนพ่อแม่แลพี่น้อง….. ญาติเพื่อนพ้องหมายเข้าช่วยให้สวยหรู….
    มาปฏิบัติธรรมที่นี่ได้มีครู…… ตอบแทนผู้มีคุณเคยอุ่นอิง……

    ญาณที่ห้า….”ร่างกายหายเป็นท่อน”….. ไม่รู้ร้อนรู้หนาวหนุ่มสาวหญิง…..
    สะดุ้งถี่กว่าเดิม….เริ่มดีจริง……. กำหนด”นิ่งหนอ-เฉยหนอ”…ดูต่อไป…..
    จมูก-นิ้ว-ฟัน-หูหายตามกายร่าง……. เริ่มจับทาง”ลมละเอียด”ละเมียดใส……
    สมาธิดีขึ้นมาก…..รู้จากใจ…….. จิตแจ่มใส….ความเพียรกล้าศรัทธาแรง…..
    เดิมยุบ-พองยุบหายไปก็ไม่รู้……. ติดตามดูจิตขยันช่างขันแข็ง……
    พองหรือยุบ?หรืออันเดียว?มีเรี่ยวแรง…… ความเปลี่ยนแปลงเริ่มจับได้ตามไล่ทัน…..
    ยุบหรือพอง…หายไปตอนไหนเล่า?…… “สติ”เจ้าหากดีจริงเป็นมิ่งขวัญ……
    จะจับได้มั่นคงตรงปัจจุบัน…… ทุกคืนวันก้าวหน้าสถาพร……

    ญาณที่หก”หวาดกลัวภัย”เหมือนใครผลัก.. เริ่มตระหนักการเวียนว่ายคิดถ่ายถอน….
    จิต”หวาดกลัวตัวเอง”…..เกรงอาทร…….. กลัวภัยร้อนในวัฏฏะคิด”ละวาง”…..
    คล่องตัวขึ้น…..โน้มนำทำสติ…….. เกิดผลผลิ…”รู้แจ้ง”แทงทุกอย่าง…..
    “การเวียนว่ายตายเกิด”เปิดหนทาง……. สู่แสงสว่าง…ว่าไยเกิดกำเนิดมา?…..
    เริ่ม”รู้แจ้งในอริยสัจจ์สี่”……. รอบคอบดีแต่ประหลาดหวาดผวา…..
    คนเราเกิดมาใช้กรรม….เป็นธรรมดา….. เราเกิดมา…เพื่ออะไร?ทำไมกัน?…..

    ญาณที่เจ็ด….”เห็นทุกข์โทษของรูป-นาม”….. บังเกิดความเจ็บปวดร้าวรวดหนา…..
    “กฎแห่งกรรม”ปรากฏรจนา……. น้อมเข้าหา”พระไตรลักษณ์”ที่พักพิง…..
    เจ็บปวดหนักร้อนเผ็ดจนเข็ดหลาบ…… เกรงทำบาป”ไม่อยากเกิด”ประเสริฐยิ่ง…..
    “อนัตตา….ไร้ตัวตน”เห็นผลจริง…….. ทุกสรรพสิ่งสรรพชีวิต”อนิจจัง”…..
    ทนไม่ได้….บังคับก็ไม่ได้…… รูปร่างไร้สิ้นสุขเป็น”ทุกขัง”……
    พิจารณาธรรมย้อนญาณสี่…มีพลัง…… กลับหน้าหลังสู่ญาณเจ็ด…เริ่มเด็ดดี…..
    พอง-ยุบหายผายผ่าน….นานกว่าเก่า…. หมุนวนเข้าตามกำหนดบทศรี…..
    ตามสติจับให้มั่นในทันที….. บางทีมี….ยุบกระแทก…อย่าแปลกใจ….
    ยุบกระแทก…แปลกจังจง”สั่งหยุด”….. เจ็บที่สุด….หลอกให้เจ็บเหน็บไฉน…..
    บางทีพอง-ยุบบนหัวอย่ากลัวใจ……. งูวิ่งไป…วิ่งมาก็อย่าเกรง…….
    หลอกให้เราเคลื่อนคล้อยเดินถอยหลัง……. “สติตั้งมั่นคง”ให้ตรงเผง……
    “วิปัสสนา”พากเพียรต้องเรียนเอง……. “สติ”เก่งเดินก้าวหน้าศรัทธานำ……
    บางทีตาฝ้าฟาง…อย่างจะบอด……. หลอกตลอดเราอย่าถอยคล้อยลงต่ำ…..
    บ้างหูหนวก…ไม่ได้ยินสิ้นถ้อยคำ……. มองเห็นธรรมโทษการเกิดน่าเชิดชู…..
    ความเพียรมั่นปัญญาแกร่งกล้ามาก…… จะตัดรากตัณหา….ที่ตา-หู…..
    ให้อุตส่าห์มานะเห็นให้เป็นครู…….. ก้าวขึ้นสู่….วิชชาปัญญาญาณ…..

    ญาณที่แปด-เก้าเบื่อหน่ายไม่น่าเชื่อ…. “ญาณม้วนเสื่อ”ม้วนพับอยากกลับบ้าน!!….
    เบื่อหน่ายมาก”สังสารวัฏ”เห็นชัดนาน…… แมลงผ่านตอมอยู่ทั่วตามตัวตน…..
    แมงวัน-ผึ้ง-ปลิงตัวใหญ่ไต่ตามหน้า……. ให้ภาวนาบริกรรมทำกุศล…….
    ภาวนาอย่าทิ้งหรือวิ่งวน……… อย่ากลัวตน….จักต้องตายวายชีวิต……
    ญาณสอง-สามแมลงไต่ไม่ใหญ่(น้อย)….. พอง-ยุบค่อยลึกนั่งจนหลังติด……
    “อึดอัดหนอ”…ใจจะขาดแล้วญาติมิตร….. หน่ายชีวิต…”ตายเป็นตาย””เบื่อกาย”จัง…..
    นิสัยเปลี่ยน….ดีกว่าเดิม…เริ่มคนใหม่….. เดินหน้าไปทีละน้อยไม่ถอยหลัง…..
    กิเลสมันจะตายวายชีวัง…… มารยาจัง…หลอกลวงพันบ่วงมาร…..
    หากบารมีเราแกร่งกล้ามายาหด…… จวนจะหมดกิเลสแรงกำแหงหาญ…..
    กดหัวควาย…ควายดิ้นรนเวียนวนนาน….. หนีสงสารยังไม่ได้…ตั้งใจจริง…..

    ญาณที่สิบ”ทนไม่ท้อต่อหน้าที่”….. ถวายชีวียอมตายทั้งชายหญิง…..
    กตัญญูรู้คุณ…..ถึงบุญจริง…….. การุณย์ยิ่ง ….สามัคคีมีคุณธรรม……
    จากนี้การปฏิบัติเคร่งครัดมาก…….. นับมาจากญาณที่สอง….ย้อนมองต่ำ…..
    ใจวางเฉยต่อรูป-นามติดตามธรรม…… จิตน้อมนำเป็นบุญ…”จุลโสดาฯ”
    “ถึงกระแสพระนิพพาน”….ตระการแผ้ว…. ถึงธรรมแล้วดังหมายมาดมีวาสนา…..

    ญาณสิบเอ็ด-ญาณสิบสองเที่ยวท่องมา…. หายโรคา…หน้าแจ่มใสไร้กังวล…..
    เป็นโรคใดก็จะหายง่ายไปหมด……. จิตกำหนดได้เองรัดเร่งผล……
    ในเจ็ดวัน…”มะเร็ง”ตายหายกังวล…… เกิดกุศลมหาศาลบันดาลเป็น…..
    แม้กายป่วยแต่ใจเราไม่ป่วย…… กุศลช่วยป่วยเรื้อรังทางยังเห็น…..
    กระดูกผุ….ยังอยู่ได้ไม่ลำเค็ญ….. อยู่ได้เป็น…สิบกว่าปีมากมีบุญ…..
    แม้จะตายก็ยังดีมีสติ…….. ไร้ตำหนิเพราะธรรมช่วยนำหนุน…..
    ไม่หลงตาย….มีคุณภาพตราบสิ้นบุญ….. จิตอบอุ่น…ตัดอบายเพราะตายดี…..

    ญาณสิบสอง-สิบสี่และสิบห้า….. เพียรรักษาปวงกุศลวิมลศรี…..
    รวมกำลังธรรมรักษ์สามัคคี…… ด้วย”สัมมัปปธานสี่”ผลดีเกิน…..
    เพียรทำลายอกุศลให้พ้นจิต…… เห็น”อนิจจัง”พลันน่าสรรเสริญ…..
    จิตแว่บมาก…..เป็นช่วงช่วงดวงจำเริญ….. หอบยุบเพลิน…เร็วรัดอึดอัดตัว…..
    หายใจเร็วแน่นขนาดจะขาดใจ…….. หายวิบไป….จิตดับแว้บวับทั่ว….
    เห็น”ไตรลักษณ์”แจ่มชัดถนัดตัว…… ดับความชั่ว…จวนสัมฤทธิ์พิชิตมาร….
    ตายิบยิบเร็วแปลบแว่บแว่บวับ…… ดาวระยับพราวตามหาศาล…..
    เต้นระยิบพริบจะลืมตาปลื้มมาน…… เป็นอาการคล้ายหลับหลุบตัวยุบงอ……
    ตัวยุบงอลงเรื่อยพลาง…ยุบอย่างเดียว…. จากใหญ่เรียวเล็กลงนึกปลงหนอ….
    จนสุดท้ายหายวับดับไม่รอ…… ในท้องก็ข้องขัดอึดอัดเทียว……
    เหมือนพายุ…บิดไส้ใกล้จะขาด…… นึกอนาถหวาดไปฤทัยเสียว…..
    ไส้ถูกบิดบิดเห็น….บิดเป็นเกลียว….. รวดเร็วเชียว…พอง-ยุบตัวงุบลง…..
    ตักสั่นเทา…เราสั่งหยุดไม่หยุดได้……. สามครั้งไม่หาย”ลืมตา”อ้าประสงค์….
    ถึงสามครั้งยังไม่หายเตรียมตายปลง….. หลับตาลงไม่ท้อนั่งต่อไป……
    ดูพอง-ยุบยาวขึ้นยิ่งจับ”นิ่งหนอ”….. แล้วยุบต่อจนดับลงหายสงสัย….
    ตักที่สั่นสุดท้ายก็หายไป…… “ไม่มีอะไร”…เฝ้าดูมันเท่านั้นนะ…..

    ญาณสิบหก…”สิ้นตัณหาอุปาทาน”…”พระนิพพาน”อยู่เบื้องหน้าอุตสาหะ….
    เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ได้พบพระ……. เป็น”พระอริยบุคคล”ชั้นต้นแลฯ….
    ประกาศก้อง”อัตตาหิ อัตโน นาโถ”…… “พระพุทโธ”ลอยเด่นดั่งเพ็ญแข….
    “ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน”แล……. มั่นคงแท้สัทธรรมเห็น”ตายเป็นตาย”!!…..
    ตัวเองรู้กับผู้สอบอารมณ์…….. จิตชื่นชม”พระนิพพาน”ประมาณหมาย…..
    ดับกิเลส”หนึ่งในสี่”ที่วอดวาย….. บุญเก่ากรายมาช่วยอำนวยพร……
    บรรลุ”พระโสดาบัน”อันเรืองรุ่ง…… ตั้งหน้ามุ่งดับต้นเหตุกิเลสถอน……
    เกิดอีกไม่เกิน”เจ็ดชาติ”ก็ขาดตอน……. ดับทุกข์ร้อน”มรรค”ประหาร”นิพพาน”ตรง…..

    ผ่านญาณสิบหกครั้งที่สองมีค่า…. “พระสกทาคามี”ที่ประสงค์…….
    ดับกิเลสไปถึงครึ่งหนึ่งคง……… มุ่งตัดตรงสู่”อรหัต”อย่างชัดเจน……
    ระดับนี้เกิดอีกไม่เกิน”สามชาติ”…… แรมนิราศตัดเรื่องที่เคืองเข็ญ……
    ออกจากเรือน….ไร้คู่สู้ลำเค็ญ…… เกิดชั้นใดนิพพานเห็น…ในชั้นนั้น……
    ผ่านญาณสิบหกครั้งที่สามดีแน่……. พบเพชรแท้….เกิดอีกหนเป็น”อรหันต์”….

    สำเร็จ”พระอนาคามี”มาลีวรรณ….. พระผ่องพรรณงดงามอร่ามเรือง…..
    กิเลสลดหมดไป”สามในสี่”……. จบชั้นนี้เลิศหรูงามฟูเฟื่อง…..
    จักเข้าสู่….ธงชัยวิไลเรือง……. จิตประเทืองชิด”นิพพาน”สราญดล……
    ผ่านญาณสิบหกครั้งที่สี่ดีสุด…… เข้าถึง”พุทธโพธิญาณ”บันดาลผล…..
    กิเลสยับดับดิ้นสิ้นกังวล….. สิ้นทุกข์ทนสู่แดนทิพย์”นิพพาน”เอย…… ​
     
  17. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ฆารวาสนะจ๊ะ
     
  18. นิพพิทา2008

    นิพพิทา2008 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +55
    พุทธองค์ จะเรียกใคร ว่าเป็นพระ
    ผู้นั้นจะ ต้องละแล้ว สังโยชน์สาม
    แม้ฆราวาส กินข้าวเย็น อยู่ก็ตาม
    ละสังโยชน์ได้สาม ท่านเรียกว่า พระโสดาบัน
     
  19. นิพพิทา2008

    นิพพิทา2008 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +55
    อันความงาม ...มีอยู่ตาม ...หมู่ซากผี
    อันความดี ....อยู่ที่ละ ...สละยิ่ง
    ความเป็นพระ ...อยู่ที่เพียร ...บวชเรียนจริง
    นิพพานดิ่ง ...อยู่ที่ตาย ...ก่อนตายเอย ฯ

    **** ผู้แต่งกวีเป็นสุภาพสตรี
     
  20. นิพพิทา2008

    นิพพิทา2008 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +55
    กายเดียว จิตเดียว <!--colorc--><!--/colorc-->

    รู้กายเดียว ...จิตเดียว ...ไม่เกี่ยวข้อง
    สติจ้อง ...รู้จิต ...ปลิดสังขาร
    ทั้งดีชั่ว ...ปล่อยไป ...ไม่รำคาญ
    ชนะมาร ...ภายใน ...ใช้ปัญญา

    กำหนดรู้ ...กายจิต ...ไม่คิดแส่
    ตัดกระแส ...สมุทัย ...ไกลตัณหา
    แจ้งประจักษ์ ..ในไตร- ...ลักษณา
    จับอัตตา ...ฆ่ามัน ...ให้บรรลัย

    อัตตาตาย ...กลายเป็นพระ ...ละกิเลส
    พ้นวิเศษ ...ปรากฏ ....ความสดใส
    พระพุทโธ ...โผล่รู้ ...ดูภายใน
    ให้จิตใจ ...ชื่นบาน ...พ้นมารยา

    เราเขียนกลอน ...สอนใจ ...ใช้ความคิด
    ให้ญาติมิตร ...ตริตรึก ...ได้ศึกษา
    ดำเนินตาม ...ทางตรง ...ปลงปัญญา
    มีดวงตา ...เห็นธรรม ..ประจำเอย.
     

แชร์หน้านี้

Loading...