กรวดน้ำที่พื้นปูนซิเมนต์ได้หรือไม่

สถานที่ตั้งบ้าน ไม่มีต้นไม้ใหญ่ ไม่มีพื้นดินพื้นหญ้า มีแต่ปูนล้วน ๆ ทุกวันนี้สวดมนต์เสร็จไม่ได้กรวดน้ำเลย เพราะหาพื้นหญ้าไม่มี จะกรวดลงพื้นปูนหน้าบ้านได้หรือไม่ ผู้ใดรู้ช่วยแนะนำที่ถูกต้องหน่อย แต่ก่อนไม่ทราบ กรวดน้ำใส่กระถางต้นไม้ตลอด จนได้ไปปรึกษาพระ ท่านบอกว่าไม่ได้ อีกคำถามหนึ่ง ถ้าสวดตอนดึก จะออกมาหาสถานที่กรวดน้ำ คงอันตรายแน่ จะทำไงดี สวดแล้วกรวดใส่ถังน้ำไปก่อนได้มั้ย และตอนเช้าค่อยไปเท

 

ผมไปกรวดที่วัดหลังสังฆทาน แล้วนำน้ำเก็บมากรวดที่ต้นไม้หน้าบ้าน

ผมคิดว่า การกรวดน้ำเป็นอาการทางจิตที่ใช้แผ่เมตตา แผ่ส่วนกุศลให้ตัวเอง และผู้อื่น โดยใช้น้ำเป็นตัวกำหนดถ้าเราไม่ติดรูปแบบ น่าจะกรวดที่ไหนก็ได้น่ะครับ จิตเป็นเรื่องสำคัญว่ากว่ารูปแบบ

เราคนไทยเป็นคนพุทธ เกรงว่าจะได้รับอิทธิพลทางพราหมณ์ มาแต่บรรพบุรุษ ไม่สามารถแยกออกได้ จัดว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ของเราแบบหนึ่ง ในขณะที่พุทธ เป็นศาสนาของจิต ดูที่จิตตัวเองว่า เป็นอย่างไรปฏิบัติจิตตัวเองไปสู่แนวปรมัตถ์ ไม่ได้เน็นที่รูปแบบที่เป็นสมมุติ

 

ลองหาหนังสือของหลวงพ่อตอบปํญหาของหลวงพ่อฤาษีลิงดำอ่านดูสิครับ ท่านบอกว่าไม่ต้องใช้น้ำก็ได้ อยู่ที่กำหนดจิตเป็นสำคัญ

 

การกรวดน้ำนั้นเป็นพิธีทางพราหมณ์ พราหมณ์เมื่อทำบุญหรือให้สิ่งของแก่ผู้ใดเขาจะใช้น้ำเทหรือรดใส่มือหรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งแก่ผู้ได้รับ แสดงออกถึงว่าสิ่งนั้นผู้ให้ได้ให้แล้ว ชาวพุทธเราทำกันแบบพราหมณ์กันมาตั้งแต่ท่านพระเจ้าพิมพิสารเป็นต้นคนแรกที่ทำ คือว่าพระเจ้าพิมพิสารท่านเป็นพราหมณ์มาก่อน เมื่อได้พบพระศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ท่านก็มีจิตเลื่อมใส นับถือและปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน เมื่อท่านทำบุญเสร็จแล้วท่านจะอุทิศส่วนกุศล ท่านก็ติดนิสัยที่เป็นพราหมณ์อยู่ ท่านก็เลยเอาน้ำมาจะกรวดน้ำ แสดงอาการว่าให้บุญ อุทิศบุญแก่ผู้ตาย แต่ไม่มีผู้ตายมารับไม่รู้ว่าจะเทน้ำให้ใคร ก็เลยเทน้ำรดมือตัวเอง และการกระทำแบบนั้นท่านก็ทำของท่านเรื่อยมาและยังมีทำกันสืบมาจนถึงปัจจุบัน

ศาสนาพุทธจริงๆ แล้วไม่ต้องกรวดน้ำแต่อย่างใด ใช้จิตอุทิศให้แก่ผู้ล่วงลับไปอย่างเดียว แค่นึกถึงท่านนั้นที่เราต้องการอุทิศให้เขาก็รับรู้และได้รับแล้ว บางครั้งไม่จำเป็นต้องรู้จักชื่อแค่เคยเห็นลักษณะ เคยฝันถึง ตอนอุทิศก็นึกแบบนั้นก็ได้รับเลย

ไม่ต้องกังวลเรื่องกรวดน้ำครับ อุทิศด้วยจิตได้เลยมีผลร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ไม่เสียเวลาหาน้ำ หาที่เทน้ำด้วย ง่ายมากๆ

***ความรู้อันน้อยนิดนี้ที่ผมมีได้รับมาจากครูบาอาจารย์ท่านเทศน์ให้ฟังครับ ไม่ใช่ความรู้ของผมเอง

 

ขออนุโมทนาสาธุในบุญกุศลบารมีธรรมกับทุกท่านด้วยนะครับ

สถานที่ตั้งบ้าน ไม่มีต้นไม้ใหญ่ ไม่มีพื้นดินพื้นหญ้า มีแต่ปูนล้วน ๆ ทุกวันนี้สวดมนต์เสร็จไม่ได้กรวดน้ำเลย เพราะหาพื้นหญ้าไม่มี จะกรวดลงพื้นปูนหน้าบ้านได้หรือไม่

ได้แน่นอนเด็ดขาดครับ การกรวดน้ำนั้นจะดี คือ จะอุทิศบุญไปให้จิตวิญญาณที่อินทรีย์อ่อนได้ครับ จิตวิญญาณที่อินทรีย์อ่อนนี้จะรับบุญผ่านน้ำได้เท่านั้นครับ สาระอยู่ที่การกรวดน้ำโดยน้อมองค์คุณพระพุทธะและแผ่เมตตาแบบไม่มีประมาณครับ

ลองศึกษาดูที่ http://www.rombodhidharma.com/Pg-06-Contribution.html

 

ไม่ต้องมีน้ำก็ได้ครับ กรวดแห้ง ตั้งจิตอธิษฐาน ขออุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร เทวดา พญายมราช และผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ด้วยเจตนาที่เราจะอุทิศให้ เขาจะได้รับครับ

 

บุญเกิดที่ใจ

​

บุญไปด้วยใจ..ไม่ได้ไปด้วยน้ำ....ตั้งใจอุทิศก็สำเร็จเลย​

 

ใช่ครับ เราใช้จิตกำหนดโดยให้น้ำเป็นตัวสื่อ
เหมือนกับการไหว้พระไหว้เจ้า ก็ใช้ควันธูปเป็นสื่อเหมือนกัน


ไม่ว่าคุณจะกรวดน้ำที่ไหน หากว่าคุณมีเมตตาจิต
ที่จะแผ่ไปให้เขา ๆ ก็ได้ร บทั้งหมดนั่นแหละครับ

 

ชอบภาพของคุณพระที่12 น่ารักดี ดูแล้วยิ้มได้

 

มุ่งเต็มใจ มุ่งเต็มใจ มุ่งเต็มใจ

 

เจตนาการกรวดน้ำ คือ ความเมตตาที่ผู้ทำความดีมอบให้แด่ผู้วายชนม์

ดังนั้น กรวดน้ำ หรือ กรวดแห้ง ก็คือสมมุติที่เรากำหนดเพื่อให้จิตมีสมาธิแน่วแน่ เพราะเป็นการแผ่เมตตาให้ผู้วายชนม์

จิตที่วุ่นวายกำลังของจิตย่อมไม่เกิด หรือถ้าเกิดกำลังก็อาจจะน้อย ดังนั้น จะน้ำเป็นตัวกลางก็ดี หรือ กรวดด้วยจิต ก็ดี ขอให้ทำด้วยความตั้งใจ อย่ากังวล เพราะผลก็เกิดตั้งแต่ผู้ทำความดีนั้นตั้งใจจะทำแล้วค่ะ

มีเรื่องเล่า ของเพื่อนที่ทำงาน เป็นโรคภูมิต้านทานบกพร่องเสียชีวิตไปนานแล้ว วันหนึ่งหัวหน้างาน เขาฝันว่าเพื่อนที่ตายมาหาไม่มีเสื้อผ้าใส่ แล้วก็มายืนข้างโต๊ะ ในขณะที่หัวหน้างานกับลูกน้องอีกหลายคนนั่งกินเหล้ากันอยู่

แล้วเขาก็อ้าปากออกมา ไฟก็พุ่งออกจากปากเยอะมาก คนทีนั่งกินเหล้ากลับหัวเราะ เป็นที่สนุกสนาน อยู่อย่างนั้น หัวหน้างานตื่นขึ้นมาก็นึกว่าก่อนตาย คน ๆ นี้ไม่ได้ทำบุญ กินเหล้าเที่ยวผู้หญิงทุกวัน

หัวหน้างานจึงตั้งใจทำบุญสังฆทานไปให้ 1 ชุด และเป็นช่วงพอดีกับที่ทำงานได้จัดผ้าป่าการกุศล ก็เลยฝากถังสังฆทานไปทำบุญด้วยเพราะไปด้วยไม่ได้ พอตกกลางคืนก็ฝันว่า เพื่อนที่ตายยิ้มหน้าใส ใส่ชุดขาว ยืนอยู่กับนกยูง ๕ ตัว

ตื่นมาก็ดีใจ เลยไปเล่าความฝันให้ลูกน้องคนหนึ่งฟัง ลูกน้องเขาก็ตกใจ เฮ้ย!! ถังสังฆทานยังอยู่ที่นี่เลย แล้วทำไมถึงได้บุญไปแล้ว เพราะที่เขามั่นใจว่าใช่เพราะ วัดนั้นมี นกยูง อยู่ ๕ ตัว หัวหน้างานคนนี้ไม่รู้ว่าวัดอะไร มีอะไร อยู่ที่ไหนค่ะ

ก็เป็นปรากฏการทางวิญญาณที่รู้กันทั้งแผนกฯ เลยทีเดียว

ดังนั้นเจตนา สำคัญมาก ความเมตตาที่ต้องการแผ่/อุทิศให้ ต้องตั้งใจค่ะ

กรวดน้ำ กรวดแห้ง ถ้าสะดวกอย่างไร ก็ทำตามนั้นค่ะอย่ากังวลเลย เพราะจิตที่เป็นกังวลจะถ่วง "จิต" ให้เศร้าหมอง น่ากลัวกว่าการกรวดน้ำผิดเสียอีกค่ะ


อนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณอาจารย์เสริมศิล์ ขอนวงค์

 

หากติดในรูปแบบไม่ทำตามรูปแบบแล้วจะเกิดความวิตกกังวลก็ให้กรวดใส่ภาชนะก่อนแล้วค่อยนำไปเทใส่ตรงที่เป็นดินที่สะอาดหรือโคนต้นไม้หรือกระถางดอกไม้ก็ได้ เมื่อมีน้ำควรเทให้ถูกพื้นดินเพราะต้องการให้พระแม่ธรณีเป็นพยานนั่นเอง

แต่หากไม่สะดวกกรวดน้ำแบบแห้งก็ได้คือตั้งจิตมุ่งอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้นั้นโดยตรงเลย ไม่ต้องใช้น้ำก็ได้ครับ

 

บางครั้งผมก็กรวดน้ำบางครั้งก็ไม่ ผมคิดว่าน่าจะได้นะครับ

 

กรวดน้ำบนพื้นปูนไม่ได้น๊ะครั๊บ..แต่ถ้าในกรณีมีกระถางต้นไม้ โดยมีพระธรณีเป็นองค์ประกอบ ก็สามารถกรวดน้ำได้ครั๊บ เพราะองค์พระธรณีท่านเป็นองค์กลาง นำพาให้ถึงได้ครั๊บ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ใช้แผ่เมตตาเอา ผมแนะนำให้ใช้บทกรวดน้ำอิมินา บทใหญ่ หรือที่เรียกว่าบทกรวดน้ำเย็นน๊ะครั๊บ...อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ..

 

สวนะ ประสบกับตนเองว่า พลังแห่งจิตที่เราตั้งจิตตั้งใจส่งไปให้ผู้นั้นสำคัญมากๆ
มิใช่แค่เพียงว่าผู้รับได้ล่วงลับไปแล้ว แม้แต่ยังมีชีวิตอยู่ยังสามารถรับรู้การแผ่เมตตาจิต
หรือกรวดน้ำแห้ง(แล้วแต่จะเรียก) ก็สามารถส่งถึงให้เขารับรู้ได้ค่ะ..
โดยไม่จำเป็นจะต้องเบ่งวาจาออกมาด้วยค่ะ..
ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยค่ะ

 

อุ้ย...............ย เล่นเอาตกใจเลย

ยายถือไหวด้วย สุดยอด(good)(||)

นี่สิกรวดแล้วได้ประโยชน์ (รดน้ำต้นไม้ไปในตัว+ออกกำลังกาย ก็เล่นยกน้ำซะขนาดนั้นนะ ไม่ออกกำลังก็ไม่รู้จะว่าอะไรแล้ว )

อิอิ sootai

 

ได้ความรู้จริงๆค่ะ