อีกหนึ่งเรื่องราวของหลวงพ่ออภิชิโต ชาญณรงค์ ศิริสมบัติ

พระสมเด็จหลังยันต์สาม และพระสมเด็จหลังยันต์ห้า ที่หลวงปู่ทิมท่านควบคุมการสร้าง จะมีเนื้อสองชั้น เนื้อในเป็นว่านวิเศษห่อหุ้มด้วยผงพุทธคุณ เมื่อเวลาผ่านไปเนื้อว่านภายในจะซึมผ่านมาสู่ภายนอกของด้านหน้าทำให้มีสีและมิติที่สวยงาม ด้านหลังเป็นผงพุทธคุณสีขาว
พระสมเด็จ 2529 ที่ด้านหน้าแสดงส่วนผสมของยางว่านวิเศษ ด้านในและด้านหลังเป็นเนื้อผงพุทธคุณสีขาว

 

ขอนำเสนอพระยอดขุนพลบ้านค่ายหรือพระขุนแผนบ้านค่าย
พระองค์นี้ที่ด้านหลังขององค์พระมีจุดน่าสังเกต เมื่อเปรียบเทียบกับด้านหลังของพระนางพญาปี 2529 จะพบว่าพระทั้งสององค์เป็นพระเครื่องที่พิมพ์ด้วยมือ
โดยที่ด้านหลังขององค์พระทั้งสองปรากฏลายนิ้วมือของท่านพระอาจารย์ผู้กดพิมพ์อยู่ บ่งบอกไว้ชัดเจน

พระยอดขุนพลบ้านค่ายองค์ที่นำมาแสดงนี้ เป็นพระเครื่องที่สร้างจากเนื้อมวลสารที่ถือได้ว่าเป็นที่สุดของพระเครื่องของหลวงปู่ทิมและเป็นพระเครื่องที่หลวงพ่อได้ร่วมในการสร้าง เป็นพระเครื่องที่ผู้คนกล่าวขานจนเป็นตำนานเล่าขานถึง ยากที่จะได้พบเจอ

นั่นคือพระขุนแผนที่เนื้อในที่เป็นสุดยอดของว่าน นำเอาส่วนที่ดีที่สุดของสุดยอดว่านคือดอกที่กำลังเบ่งบานเต็มที่ของว่านมหาเสน่ห์หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าว่านดอกทองมาเป็นเนื้อใน ส่วนเนื้อด้านนอกเป็นผงพุทธคุณของท่านพระอาจารย์ในดง

ถือได้ว่าเป็นพระเครื่องที่โดดเด่น เป็นหนึ่งเดียวในบรรดาพระเครื่องของไทย เพราะเป็นพระเครื่องที่สร้างจากดอกไม้มงคล
เป็นหนึ่งในพระเครื่องสำคัญของท่านพระอาจารย์ในดงที่ได้มีการสร้างกันมา

รูปแบบพิมพ์และเชิงช่างในการพิมพ์เป็นองค์พระ นับว่าโดดเด่นกว่าใคร แสดงถึงภายในที่ทรงพลังฤทธิ์ ภายนอกทรงบารมี สุดดีทั้งในและนอก

 

พระยอดขุนพลบ้านค่ายเนื้อดอกว่านของต้นว่านดอกทอง หรือที่ในตำนานเล่าต่อกันมาเรียกขานว่าเนื้อยานัตถุ์

พระยอดขุนพลบ้านค่ายนี้เป็นพระบล็อกแรก กดพิมพ์ด้วยมือจากแม่พิมพ์ที่เป็นบล็อกหิน

เนื้อดอกว่านของต้นว่านดอกทองที่ใช้เป็นเนื้อในขององค์พระเครื่อง ได้จากการนำส่วนที่เป็นดอกของต้นว่านดอกทองซึ่งจะมีสีเหลืองและมีกลิ่นหอม ต้องคัดเลือกเอาเฉพาะดอกว่านที่สมบูรณ์และกำลังเบ่งบานเต็มที่ ส่งกลิ่นหอมกำจายไปไกล เชื่อกันว่ากลิ่นนี้ทรงพลังและทรงเสน่ห์ยิ่งนัก นำเอาดอกว่านที่ได้มาบดเป็นผงเพื่อใช้เป็นเนื้อในขององค์พระเครื่อง

เมื่อดูจากขนาดขององค์พระเครื่องจะพบว่าต้องใช้ดอกว่านนับกว่าร้อยดอกมาบดจนละเอียดเพื่อให้ได้เนื้อผงว่านมากพอสำหรับพระยอดขุนพลหนึ่งองค์

พระยอดขุนพลเนื้อดอกว่านดอกทองนี้ ประมาณเท่าที่เห็นด้วยสายตาน่าจะมีจำนวนการสร้างประมาณ 500 องค์ นั่นคือหลวงปู่ทิมและหลวงพ่อได้เตรียมดอกของว่านดอกทองไว้มากมาย อย่างน้อยต้องมากกว่า 50000 ดอก จึงจะบดให้ได้ผงว่านที่มากพอสำหรับการกดพิมพ์เพื่อให้ได้จำนวนพระเครื่องที่ต้องการ

ก่อนเริ่มพิธีหลวงปู่และหลวงพ่อได้จัดเตรียมว่านไว้จำนวนมาก ใส่เข่งขนาดใหญ่เรียงรายอยู่หลายเข่ง

แน่นอนว่าดอกว่านมหาเสน่ห์เหล่านี้ต้องมาจากต้นว่านดอกทองจำนวนนับแสนต้นที่มาอยู่รวมกัน และคัดเก็บเอามาเฉพาะดอกที่สมบูรณ์และกำลังเบ่งบานส่งกลิ่นหอมอบอวลเต็มที่เท่านั้น

ณ ที่นั้นทั้งทุ่งย่อมละลานตาเต็มไปด้วยต้นว่านดอกทองและออกดอกเหลืองเต็มทั่วทุ่ง
มีคำถามว่า ที่นั้นอยู่ที่ไหน จึงมีสภาพพื้นที่ที่สมบูรณ์ มีต้นว่านดอกทองมาอยู่รวมกันจำนวนมากมาย และออกดอกเบ่งบานพร้อมกัน ส่งกลิ่นหอมหวนไปทั่ว

ที่แห่งนั้นจะมีความสวยงามและมีกลิ่นหอมที่ทรงพลังปานใด

 

พระยอดขุนพลบ้านค่ายเนื้อมวลสารอย่างหนึ่งที่มีกล่าวขานกันมาก คือเนื้อสีชมพู ซึ่งคือเนื้อว่านสบู่เลือด เนื้อนี้เด่นด้วยอำนาจบารมี มากด้วยผู้ให้การยกย่องให้เป็นผู้นำ ทรงเกียรติยิ่ง

พระยอดขุนพลเนื้อมวลสารในเป็นว่านสบู่เลือด ส่วนเนื้อมวลสารด้านนอกเป็นผงพุทธคุณของท่านพระอาจารย์ในดง พระองค์ที่นำมาแสดงนี้เป็นพระเครื่องที่กดพิมพ์ด้วยมือจากแม่พิมพ์หินบล็อกแรก จะพบว่าด้านหลังของพระเครื่ององค์นี้ปรากฏลายนิ้วมือของพระอาจารย์ผู้กดพิมพ์ เช่นเดียวกับพระนางพญา 2529

พระนางพญา 2529 ที่นำมาเทียบเคียง ผมได้ปรับสีและแสงของภาพเพื่อให้สามารถเห็นลายเส้นนิ้วมือได้ง่ายขึ้น

จะเห็นว่าพระยอดขุนพลบ้านค่ายนี้มีพุทธศิลป์ที่โดดเด่นแสดงถึงความรอบรู้ของท่านผู้ออกแบบพิมพ์อย่างยิ่ง

พุทธศิลป์ของแบบพิมพ์พระยอดขุนพลบ้านค่าย พิมพ์หลักเป็นพระปางเรือนแก้ว และเสริมด้วยพิมพ์พระสาม คือพระมหาโมคคัลลานะ และ พระสารีบุตร

เป็นการผสมผสานแม่พิมพ์หลักสองแม่พิมพ์เข้าด้วยกันอย่างสมส่วน ได้พุทธศิลป์ที่ลงตัวอย่างยิ่ง

 

พระเครื่องเป็นของพิเศษที่สร้างด้วยพลังจิตเพื่อส่งผ่านความในใจของท่านพระอาจารย์ผู้สร้าง ทำหน้าที่สื่อสารบอกเล่าว่าท่านพระอาจารย์ผู้สร้างมีเจตจำนงสร้างให้พระเครื่องนั้นมีคุณลักษณะเป็นเช่นไร มีคุณวิเศษในทางใด และจะอำนวยผลให้กับผู้ครอบครองได้รับอย่างไร

รูปพิมพ์และมวลสารเป็นรหัสภาษาสัญลักษณ์แสดงข้อความที่ท่านพระอาจารย์ส่งผ่านกาลเวลามาบอกเล่า

รูปแบบพิมพ์พระเครื่องที่สำคัญและความหมาย
พระพุทธปางเรือนแก้ว หมายถึง ขณะที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ มีเหล่าเทพเทวดามาห้อมล้อมคุ้มครอง ต่างร่วมแสดงความชื่นชมความงามของพระพุทธองค์ที่ทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสีงดงามยิ่ง ทรงเสน่ห์ ทรงอำนาจบารมีอันสูงส่ง และแสดงถึงพระพุทธองค์ได้บรรลุความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เอาชนะมารทั้งปวง อันเป็นที่มาของชื่อพระพิมพ์นี้ว่า พระยอดขุนพล

พิมพ์พระสาม หมายถึงองค์กลางเป็นพระพุทธเจ้า ที่ทรงอำนาจบารมีอันสูงส่ง ด้านซ้ายและขวาเป็น พระมหาโมคคัลลานะ ผู้ทรงฤทธิ์อันยิ่งใหญ่ และพระสารีบุตร ผู้อุดมปัญญาอย่างยิ่ง

พุทธศิลป์ในแบบพิมพ์พระยอดขุนพลบ้านค่าย
พิมพ์หลักเป็นพระพุทธในซุ้มเรือนแก้ว และแทรกเสริมด้วยพิมพ์พระสาม คือพระพุทธเจ้า พระมหาโมคคัลลานะ และ พระสารีบุตร
ความหมายแห่งพิมพ์ แสดงถึงเป็นพระเครื่องที่สูงส่งด้วยบุญบารมี ทรงเสน่ห์ที่งดงามยิ่ง อุดมด้วยปัญญา มากด้วยอิทธิฤทธิ์ ชนะมวลอุปสรรคและได้พบกับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ห้อมล้อมด้วยเทพเทวดาช่วยป้องภัยไม่ให้ภัยอันตรายสามารถเข้าถึงตัวได้

นั่นคือท่านพระอาจารย์ตั้งใจให้พระเครื่องยอดขุนพลบ้านค่ายนี้ส่งเสริมให้ผู้ครอบครองได้บรรลุความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ก้าวหน้าในอาชีพการงาน มีความงดงามด้วยรังสีแห่งบุญ แรงด้วยอำนาจบารมี และได้รับการคุ้มครองจากเหล่าทวยเทพเทวดาทำให้แคล้วคลาดจากภัยทั้งปวง

และเมื่อพิจารณารวมถึงเชิงช่างที่พิมพ์พระเป็นสองชั้นแสดงนัยถึงให้อุดมความดีวิเศษทั้งภายในและภายนอก เหมือนบอกว่าให้เป็นผู้มีร่างกายแข็งแรงและมีจิตใจที่เข้มแข็ง มีเมตตา แสดงถึงท่านพระอาจารย์นอกจากเป็นพระอริยะสงฆ์แล้ว ท่านเป็นปราชญ์ผู้รอบรู้ในมิติปรัชญา ศิลปะและเชิงช่าง

หลวงปู่ทิมและท่านหลวงพ่อ ดำเนินการจัดเตรียมสุดยอดมวลสาร ออกแบบแม่พิมพ์ที่บอกความหมายชัดเจน และจัดพิธีปลุกเสกอันยิ่งใหญ่ระบือลั่นไปในโลกทิพย์ของเหล่าผู้มีคุณวิเศษ เชิญแขกที่สุดสำคัญเข้าร่วมพิธีประสิทธิพลังเพื่อให้พระเครื่องที่สร้างขึ้นมีคุณวิเศษตามประสงค์ที่กำหนดไว้

ท่านสร้างพระเครื่องนี้ขึ้นเพื่อส่งมอบสิ่งแสนวิเศษให้ผู้ที่ศรัทธาในกาลหลังต่อมา สามารถรับรู้ได้จากองค์พระเครื่องตั้งแต่ทรงพิมพ์ตลอดจนพลังคุณวิเศษในทุกอนูของมวลสาร บ่งบอกข้อความไว้อย่างสมบูรณ์

 

กระทู้เงียบเหงา ตกไปไกลเลย ตั้งแต่เปลี่ยนรูปแบบเวป
ลูกศิษย์หลวงพ่อในกระทู้นี้ที่เคยบูชาพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่จากวัดอัมพวัน ท่านใดอยากออกต่อหลังไมค์บอกผมด้วยเด้อครับ อยากได้อีกซักองค์ยุ พอดีีที่วัดปิดโครงการไปแล้ว

 

สวัสดีครับผมเองก็ติดตามตลอดครับ ศรัทธาหลวงพ่อครับ มีสมเด็จรุ่นแรกติดตัวตลอด
รบกวนพี่ๆ ช่วยดูพระแนะนำด้วยครับ เป็นอย่างไรบ้างครับ ขอบพระคุณครับผม

 

แบบนี้ผมดูไม่เป็นจริงๆครับท่าน ต้องถามเซียนสายนี้โดยเฉพาะครับ แต่ถ้าสมเด็จหลวงพ่อชาญณรงค์ ผมพอถูๆไถๆตอบได้บ้าง

 

ขอบคุณครับ ผมลองเปรียบเทียบกับพระยอดขุนพลดูนะครับ
ขอบพระคุณครับ ด้วยความเคารพครับ

 

มีบูชาอยู่สององค์ครับ ไม่ได้ถ่ายรูปด้านหลังไว้ครับ
พิจารณาด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

ตามสายตาคนแก่อย่างผม (อาจพร่ามัวบ้าง) แท้ทั้งสององค์ครับ นางพญารุ่นสุดท้ายปี 29 กับสมเด็จวัดลาดบัวขาว ปี 85
ดีทั้งสองรุ่นครับ คุณภาพล้นแก้ว

 

ขอบพระคุณท่าน Bakhamnoi ด้วยความเคารพครับ

 

ผมขอตอบท่าน nott17 เป็นคำอธิบายลักษณะของพระยอดขุนพลบ้านค่ายบล็อกแรกครับ

บล็อกแรกของพระยอดขุนพลบ้านค่ายเป็นบล็อกหิน มีบล็อกเดียว หลังจากพิมพ์พระชุดแรกแล้วไม่มีการนำมาใช้อีก ดังนั้นตำหนิของพิมพ์เหมือนกันทั้งหมด ผงพุทธคุณขาวห่อหุ้มด้านนอกติดบนเนื้อว่านที่อยู่ด้านในด้วยยางว่านที่ออกมาจากเนื้อว่าน แล้วทาทองทับ พระชุดแรกนี้ไม่มีการบรรจุกรุจึงไม่มีคราบกรุ ตะกรุดถูกกดลงด้วยมืออยู่ด้านหลังขององค์พระเท่านั้น มีทั้งตะกรุดเดี่ยวและตะกรุดคู่

พระยอดขุนพลบ้านค่ายจะไม่มีการบรรจุเส้นเกศาในองค์พระ เส้นเกศาของหลวงปู่ทิมและหลวงพ่อจะมีบรรจุอยู่ในพระพิมพ์พระปิดตาข้างรัศมีที่เป็นพระแทนองค์หลวงปู่ใหญ่ซึ่งเป็นพิมพ์ที่สำคัญอีกพิมพ์หนึ่ง สร้างขึ้นในเวลาและในพิธีเดียวกัน

พระยอดขุนพลบ้านค่ายเป็นพระเครื่องที่สร้างจากสุดยอดครูอาจารย์ สุดยอดมวลสาร สุดยอดพิธีฤกษ์สวรรค์เปิด ที่สุดของท่านผู้มาจากทิพย์ภูมิเข้าร่วมปลุกเสก ผลคือสุดยอดแห่งพระเครื่อง

ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาผงกระดูกใดๆ มาเกี่ยวข้องด้วยครับ

คิดว่าจากข้อมูลท่าน nott17 น่าจะได้คำตอบ ลองเทียบดูครับ

 

ขอบพระคุณมากครับ ได้รับข้อมูลที่ยอดเยี่ยมครับ พระสวยงามทุกองค์ทรงคุณค่ายิ่ง
ด้วยความเคารพครับ

 

เล่าเรื่อง... หลวงปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพโลกอุดร)
โดย พระราชญาณวิสิฐ (หลวงป๋า หรือ พระเสริมชัย ชยมงฺคโล)

อาตมาภาพเคยได้ยินเรื่องราว และกิตติศัพท์เกี่ยวกับ “หลวงปู่ใหญ่” (หลวงปู่เทพโลกอุดร) มานานแล้ว
และเคยได้รับอาราธนาไปประกอบพิธีเททองรูปหล่อ (รูปเหมือน) ของหลวงปู่ท่าน ที่วัดเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๙ โดยพระเดชพระคุณเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ องค์ปัจจุบัน เป็นประธาน และได้ไปร่วมประดิษฐานรูปเหมือนหลวงปู่ ที่วัดเขาตะเกียบอีกครั้งหนึ่ง เมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๔๐

เมื่อเวลาเจริญสมถวิปัสสนากัมมัฏฐานก็ดี เวลาเจริญภาวนาอธิษฐานจิตบรรจุพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ และอิทธิมงคล...ลงในพระพุทธรูป หรือวัตถุมงคลทั้งหลายก็ดี นอกจากอธิษฐานขอบารมีธรรม (บุญศักดิ์สิทธิ์ บารมี รัศมี กำลังฤทธิ์ อำนาจ สิทธิ เฉียบขาด)
จาก พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ถึง...พระพุทธเจ้าต้นธาตุต้นธรรม
หลวงพ่อวัดปากน้ำ (สด จนฺทสโร) และ พระอุปัชฌาย์อาจารย์ แล้ว

ก็ได้อธิษฐานถึง...
หลวงปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพโลกอุดร)
หลวงปู่ทวด
หลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)
หลวงปู่ศุข
หลวงปู่มั่น
หลวงปู่ปาน
ฯลฯ
เป็นประจำเสมอมา

ครั้นต่อมาในเทศกาลเข้าพรรษา พ.ศ.๒๕๔๐ อาตมาภาพได้สร้าง “สมเด็จพระธรรมกาย” รุ่นต่างๆ ได้แก่
- รุ่น เทพนิมิต (๑๙๙๙๙)
- รุ่น ๒๐๗
- รุ่น ๙๙
- รุ่น ๙๙๙
และ รุ่น ๔๐
(หมายเลขของรุ่น แสดงจำนวนพระที่สร้างแต่ละรุ่นนั้นๆ เท่าที่มวลสารพิเศษจะมีให้สร้างได้)

โดยได้นำพระภิกษุสามเณร วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม เจริญภาวนาวิชชาธรรมกายชั้นสูง บรรจุพลังพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ อธิษฐานจิตเพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่ผู้มีพระนี้ไว้ในครอบครอง...ตลอดพรรษา และยังกระทำต่อมาอีก ๑ เดือนเศษ

ขณะเจิญภาวนาแต่ละครั้ง ก็ได้อธิษฐานรวมบารมีธรรมของบูรพาจารย์ (ดังที่กล่าวข้างต้น) มาช่วยเจริญภาวนาให้เกิดพลังเป็นมหิทธิผล...เป็นประจำ
ก็ปรากฏนิมิตของบูรพาจารย์ทุกท่านดังที่กล่าวข้างต้น
ได้หมุนเวียนกันมาปรากฏองค์ให้เห็นชัดๆแก่ผู้นำเจริญภาวนา ในขณะเจริญภาวนาอยู่ทุกรอบ

......นี้เป็นการแสดงถึง
การอธิษฐานรวมญาณ และบารมีธรรมของบูรพาจารย์...ขณะเจริญภาวนาวิชชาธรรมกายชั้นสูงนั้น
มีความสอดคล้องกัน เป็นสายธาตุธรรมเดียวกัน ตามธรรมปฏิบัติตามแนววิชชาธรรมกาย ถึงพระนิพพาน(นิพพานถอดกาย) และถึงพระพุทธเจ้าต้นธาตุต้นธรรม...ในอายตนะนิพพานเป็น

ครั้นปลายเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๔๑ ใกล้วันเทศกาลตรุษจีน ขณะเมื่ออาตมาภาพเดินตรวจงานเตรียมจัดนิทรรศการพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อให้สาธุชนได้มานมัสการบูชาระหว่างเทศกาลตรุษจีน ครั้นเดินผ่านไปถึงด้านหน้าศาลาอเนกประสงค์ โดยตั้งใจว่าจะเลยไปกราบนมัสการ หลวงพ่อวัดปากน้ำ...ที่วิหารหลวงพ่อสด ฯ

ก็พลันเห็นนิมิต “หลวงปู่ใหญ่” (หลวงปู่เทพโลกอุดร)
...นั่งอยู่บนอาสนะสงฆ์ที่หน้าพระประธานในอุโบสถ
ตรงที่อาตมาภาพกราบพระ และเคยนั่งสอนภาวนาอยู่เป็นประจำ เห็นท่านนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกตามพระประธาน ห้อยเท้าลง ชันเข่าเอียงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเล็กน้อย เหมือนกับท่านนั่งรออาตมาภาพอยู่

รูปร่างสูงใหญ่ขนาดฝรั่งตัวโต หน้าตาคล้ายๆ กับที่เคยเห็นในรูป แต่แสดงสีหน้ายิ้มนิดๆ ทักทายอาตมาภาพด้วยความเมตตา เหมือนกับรับทราบว่าอาตมาภาพเห็นท่านแล้ว
ท่านครองจีวรพาดสังฆาฏิบนไหล่ซ้าย สีย้อมฝาด ดูเก่าแต่เรียบร้อยมาก กิริยาที่นั่งก็เรียบร้อย ดูสง่าและทรงอำนาจ

อาตมาภาพขณะเดินไปที่วิหารหลวงพ่อสดฯ ก็ได้อธิษฐานเรียนท่านว่า...
“กระผมขอโอกาสไปกราบหลวงพ่อสดฯก่อนนะครับ แล้วจะรีบมากราบหลวงปู่”

เห็นท่านยิ้มนิดๆ แสดงอาการรับทราบและเข้าใจความรู้สึกของอาตมาภาพ ที่มีความเคารพเทิดทูนต่อ หลวงพ่อสดฯ ผู้สอนวิชชาธรรมกายอย่างสูง และความรู้สึกของอาตมาภาพที่มีต่อ หลวงปู่ใหญ่ ด้วยเป็นอย่างดี

ครั้นได้นมัสการบูชาหลวงพ่อที่วิหารหลวงพ่อสดฯ เรียบร้อยแล้ว ก็เดินกลับไปที่กุฏิพัก สั่งให้พระมหามณฑล อตฺตทนฺโต จัดดอกไม้ธุปเทียน และเปิดอุโบสถไว้รออาตมาภาพมานมัสการบูชาพระ เมื่อเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ไปถวายเครื่องสักการะนมัสการบูชา “หลวงปู่ใหญ่” ...ในอุโบสถ

แล้วขออาราธนาหลวงปู่ใหญ่...ขอให้ท่านอยู่เจริญวิชชาช่วยให้การศึกษาอบรมและเผยแพร่ที่วัดหลวงพ่อสดฯ นี้ด้วยอีกแรงหนึ่งพร้อมด้วย หลวงปู่ทวด และ หลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)

เพราะที่นั่นเป็น “ปราสาททำวิชชา...ของพระพุทธเจ้าต้นธาตุต้นธรรม”โดยมี หลวงพ่อวัดปากน้ำ (สด จนฺทสโร) นั่งอยู่ตรงกลางเป็นประธานอยู่แล้ว

เพราะเหตุนั้น ผู้ปฏิบัติภาวนาถึงธรรมกายแล้วจึงเห็นท่านได้มีเมตตาอยู่เจริญภาวนาที่ในปราสาททำวิชชานี้ด้วยเสมอ......นับแต่นั้นเป็นต้นมา

*** คัดลอกบางตอนจาก หนังสือ เหตุมหัศจรรย์ที่วัดหลวงพ่อสดฯและนิตยสารธรรมกาย ฉบับที่ ๔๗ มกราคม – มีนาคม ๒๕๔๑

 

วิหาร หลวงปู่ใหญ่ ที่วัดในไร่ เพ ระยอง

รูปหล่อองค์หลวงปู่ใหญ่งดงามมากครับ

 

ผมได้เหรียญหลวงปู่ใหญ่ฯรุ่นแรก วัดในไร่ มา 10กว่าปีแล้ว ติดหน้ารถไว้/แขวนคอบ้างตามแต่โอกาส ตอนนั้นอ่านประวัติท่านจากหนังสือโลกทิพย์ ขอเหรียญท่าน แล้วได้เหรียญนี้มา สวดบูชาท่านด้วยบท
"โล กุต ตะ โร จะ มะ หา เถ โร อะ หัง วัน ทา มิ ตัง สะ ทา"

ท่านมีอยู่จริงๆ.....

 

ผมอยากได้พระสมเด็จหลวงพ่อชาญณรงค์ครับพี่

 

สาธุด้วยครับ

 

ผมอยากบูชาสมเด็จหลวงพ่อชาญณรงค์ไม่ทราบว่ายังมีให้บูชาอยู่หรือเปล่าครับ