นิพพานธาตุ มีคุณสมบัติอย่างไร สามารถเป็นตัวผู้รู้ได้หรือไม่

ธาตุ เปนคำบาลี ใช้เพื่อแยกเปนหน่วยคำ

เหมือนคำไทยที่มี อัน. ข้อ. หน่วย

เปนเรื่อง. ความวิจิตร สละสลวย ทาง อาลักษณ์(ภาษาเขียน)

เช่น ครูสอนอภิธรรม หน้าชั้นพูดว่า. วิญาณธาตุ มโนธาตุ

ลูกศิษย์ก้ต้องวาด. ลูกชิ้น สองลูกแยกกัน

แต่ถ้าพูดว่า. มโนวิญญาณธาตุ ก้วาด. ลุกชิ้น ลูกเดียวพอ

 

ในทางปฏิบัติ หากไปนั่งแยก. ทำท่าทำทางให้เปน ธาตุ
อย่างงั้นอย่างงี้ ก้พอดี ปราสาทแหลก

ยกตัวอย่าง. สัญญาขันธ์

ก้ไปนั่งปฏิยัติ ขยับช้า ช้าาาาาาาาาาาแล้วทในใจ
ว่า อย่างงงงงงนี้สัญญาาาาาาขันนนนนนนธ์

พยายามทำให้ สัญญามันชัด หน่วนเดียว

ก้พอดี ปราสาทแหลกกันทั้งชั้น

สัญญาขันธ์ จริงๆในนั้น ก้ยังมีอาการของ
ขันธ์อื่นปรากฏยิบย่อยลงไปอีกนับชั้นไม่ถ้วน

....

นึกถึเรื่อง ตักม้อ. ที่คนโบราณเขาทำออกมา

มฉากนึง. เปนห้องเรียน. แต่เข้าไปแล้ว ก้ห้ามพูด

ตักม้อเข้าไปคนแรก ก้ นั่งเฉยๆ

เณรเข้ามา. เหนตักม้อ นั่งเฉยๆ. ก้สงสัยอยู่พักนึง

สุดท้าย ก้ทำตามๆกันไป

เรียกว่า. สอนโดยไม่ต้องพูด

คือ พาดูความ สงสัย กับ การลูบคลำทำตามๆกันไป

ใครไม่เหน ก้คือ. ไม่รู้ธรรม

 

รโชหรณัง..ชื่อล็อคอินที่คุณเลือกมานี่ ผมชอบคิดว่าผู้เลือกนี่ ต้องมีความคิดได้-สำนึกดี ต้องมีสัมมาทิฏฐิระดับหนึ่ง
แต่พอสนทนาด้วยนานไปโดยเฉพาะ ความเห็นเรื่อง พุทธวจน นี้ คุณเริ่มมี ทิฏฐิ วิปลาสไปเรื่อย-สูวรณิ เขายังไม่ได้เลย ..ผมก็ได้แต่ปลงสังเวชครับ ยังไงก็ปรับปรุง แนวคิด -ปุญญาภิสังขาร เขาจะบันทึกไว้ ทำสัมมาทิฏฐิให้ตรงหน่อยยังไม่สายครับ

 

คิดว่า วิปลาสอย่างไรก็กล่าวมาได้เลยครับ แต่ถ้าคิดจะปลงสังเวชไปก็ดีครับ จะได้ปล่อยวางไป

 

แหม ก็ตอบไม่ถูกต้องตามที่เค้าตั้งธงไว้นี่ครับ
พอแทงใจดำปุ๊บ ก็เบี่ยงประเด็นปั๊บ
กล่าวหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้
๕๕๕๕
แวะมาดูน่ะ ไม่มีอะไรหรอกครับ

 

คุณรโชหรณัง คุณทั้งสองคนนี่คุยกันไปเองก็แล้วกันนะ..คุณผ่านฯล คุณทำตัวให้สมภูมิหน่อยครับ ต้องมีหิริโอตัปปะ อย่าทำมาเป็นบ่างช่างยุ ชี้ธรรมมาตรงไหนผิดที่ผมแสดง ไม่ใช่มาทำตัวแบ่งแยกคนอื่น -ประจบประแจงเอาใจ เพื่อหาเพื่อน หาพวก ในคำตอบของคุณ ทำตัวไร้ค่าทำไมครับ -คุณกำลังทำตัวแบ่งแยกให้เขาทะเลาะกัน ไม่อายมั่งรึครับ
คุณผ่านมาเฉยๆ ธรรมที่คุณมี ผมไม่เห็นคุณตั้งกะทู้ แสดงออกมาเลย พอผมเอาธรรมมาแสดงเพื่อจะได้เสวนากัน คุณกลับมาตั้งตนเป็นศัตรุ ไม่พอใจที่ผมชี้ความผิดพลาดจากคำตอบของคุณ -พอผมชี้กลับ ทำเป็นไม่พอใจแต่ตามจับผิดทุกกะทู้ ทำตัวให้เป็นประโยชน์กับสมาชิกหน่อยซืครับ ไม่ใช่มานั่งจับผิดผม-คนอื่น คุณได้พวกแล้วครับ เดี๋ยวผมหาให้อีกหลายคน อิอิ

 

หากพวกคุณ อยู่ในสถาณะแบบผม คนตั้งกะทู้ธรรม ที่ไม่มีใครยอมรับนักมาแสดงใหม่ๆ-คุณก็จะต้องโต้-ตอบ คนที่เข้ามาแสดงความเห็น ด้วยเหตุผล ปัญญา ชนิดที่ผู้ตอบโต้ต้องไม่เคลือบแคลงสงสัยให้ได้ ให้หมดจดใช่ไหมครับ -ปัญหาคือ พอชี้ไปกลายเป็นไป .."สร้างปมด้อย" ..ให้กับพวกคุณ เพราะคุณโต้ตอบกลับมาไม่ได้ เลยหมั่นไส้ จะหาพวกรวมตัวมาเล่นงานผม แล้วต่อไปใครจะเอาธรรมที่ถูกปิดมาแสดงอีกเล่าครับ ท่านผ่านมาเฉยๆ-รโชหรณัง..
แทนที่คุณ จะค้นคว้าหาคำตอบมาแสดง พิสูจน์ธรรมกัน เพื่อให้ผมรับผิดชอบที่ตอบไปผิด หรือจนด้วยเหตุผลของคุณ นั่นต่างหากคือการต่อสู้ด้วยสัมมาทิฏฐิ แต่พวกคุณกลับไม่ทำ สิ่งที่คุณทำคือ ..กระแนะ-กระแหน-หาพวกที่โดนชี้ธรรมว่าผิด-แล้วหันมาตามเล่นงานผม ต่อไป ใครจะกล้าเอาธรรม ที่พวกคุณไม่เคยเห็นมาแสดง เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน ทรรศนะกันอีกเล่าครับ-ใครจะกล้า-คุฯผ่านมาเฉยๆ ทิ้งพยาบาทหน่อยครับอย่าเก็บไว้นาน ฝึกละนันทิบ่อยๆ ไม่งั้นเดี๋ยวนอนหลับฝันร้ายนะครับ

 

คุณรโชหรณัง .. การเรียนรู้ธรรม พุทธวจน ที่ พจ.ท่านสอนรับรองมาโดยตรงนี่ มันสุดโต่งตรงไหน..นั่นคือบรรทัดฐานที่คุณต้องเรียนรู้ไว้ก่อนในจิตใจ แค่นี้ยังไม่เข้าใจ ป่วยการมายกตัว คุยธรรมถึงนิพพานโน่น ครับ เป็นผมละอายตายเลย ครับ (ก็บอกให้ไปอ่านของท่าน วรณิ ที่ตอบใต้กะทู้ความเห็นคุณ คคห.แรกเลยไปอ่านซิครับ-เขายังเข้าใจกว่าคุณอีก)

 

โพสไปหน่อยเดียว
มาเต็มเลยนะครับแหมตั้ง๓โพส
แต่ก็เอาเถอะครับ ปล่อยมันออกมา ระบายมันออกมา อะไรที่ไม่ชอบ อะไรที่ขวางหูขวางตา
ผมไม่ได้หาพวกหรอกครับ
คิดไปเองแน่นอน
แค่บอกว่าตอบไม่ถูกตามที่กิเลสต้องการแค่นั้นเอง
ก็แค่ชี้แนะเล็กน้อยเท่านั้น
อ้อ ไม่ได้ชี้แนะหรืออวดรู้กับท่านผู้รู้ท่านใดนะครับ
แค่บอกคนที่รู้ตัวว่ายังไม่รู้อยู่มากน่ะครับ
เท่านั้นเอง
นะจ๊ะๆ
นี่ธรรมะนะเนี่ย
สติๆ

 

คุณนี่เล่ห์เหลี่ยม มายาสาไถย์ ใครอ่านก็เห็นเอง ไม่มีหิริโอตัปปะอีก น่าละอายครับ

 

โพสต์ไปหน่อยเดียว แต่กล่าวหา เสี้ยมซะเต็มทุกประโยคดูได้นี่ครับหลักฐาน มีความละอายหน่อยครับคุณ-ยังไม่สำนึกอีกนะนี่หลักฐานทนโธ่

 

อย่าคิดว่าตนรู้มากอยู่คนเดียวเลยครับ
แล้วก็อย่าเอามุมมองหรือตรรกะแคบๆมากล่าวหากันเลย
มันไม่ดีหรอกครับ
ที่ผมเลือกที่จะเงียบ ไม่ใช่ว่าผมโต้ตอบไม่ได้
แต่ผมไม่เห็นประโยชน์
ผู้รู้ในบอร์ดนี้มีเยอะครับ
แต่ที่เค้าไม่ยุ่งด้วยเพราะเค้าไม่เห็นประโยชน์เท่านั้นเอง
ธรรมนั้นเป็นของสูง สูงกว่าที่จะมานั่งดีเบท หรือ คาดเดา
เดี๋ยวก็ลงท้ายด้วยคำเดิมๆ
แผนที่จำเป็น ปริยัติจำเป็น ละเลยไม่ได้ ยังงั้นยังงี้
อย่าคิดว่าผมไม่รู้ในปริยัตินะครับ
ผมรู้มากกว่าที่คุณรู้ด้วย
ผมเคยท้าแล้วนะ ว่าให้เอาความเห็นที่ผมแสดงไป เอาไปให้พระที่ท่านปฏิบัติเก่งๆตรวจทาน
แต่พวกคุณกลับตอบมาว่า
เอาแค่คุยกันในนี้ ไม่ต้องไปลากครูบาอาจารย์มายุ่งเกี่ยว
ทั้งๆที่ผมยังไม่เคยอ้างชื่อท่านใดเลย บอกเพียงแค่ นับถือท่านใดก็เอาไปให้ท่านนั้นวินิจฉัย
อย่ามาทำตัวเป็นศาลเตี้ยตัดสินว่าคนนั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เลย
น่าสมเภทนะครับ อีกอย่างมันดูตลกด้วย ที่แสดงออกถึงสติปัญญาอันน้อยนิดของตน

 

น่าสมเพช ..เขียนแบบนี้ ..แต่ผมว่าตัวคุณนะน่าสมเพชไม่ใช่ผม ยกตัวขนาดนี่ทำตัวเงียบนะ..ตามยุแยงไปทุกกะทู้หลักฐานข้างบน ถูกจับได้ โดนด่ากลับทุกกะทู้เพราะแสดงไม่ได้ท่าเองเลยเก็บกดระบายความในใจมาแบบเก็บกด-ไร้เหตุผล ไม่ชอบพุทธวจน ก็กล่าวหาว่าจะมาครอบงำ โง่แล้วยังไม่ศึกษา ใจคับแคบอีก เลยโดนด่ากลับ อิอิ
อ้อเรียนรู้ปริยัติมากกว่าผมก็ดีซินะครับ อนุโมทนาเก่งมากเลยนะนี่ ผมไม่เคยบอกเลยผมรู้ปริยัติมากกว่าคุณเพราะไม่ได้เรียนมาอวดใครครับ
และไม่เคยทำตัวเป็นศาลเตี้ยกับใคร แค่ถกธรรมกันและชี้ตรงๆ คุณมันนิสสัยผู้ฉิงแล้ว เอายังงี้ครับ กะทู้คุณผมจะไม่ไปตอบ กะทู้ผมคุณก็อย่ามาตอบจะดีกว่า เพราะอัตตามาก ทนไมไ่ด้ใครชี้ว่าผิดโกรธ ทะลุดุดเดือดเลย อิอิ เอาตามนี้ละกันคัรบ

 

ตามสบายเถอะครับ
เอาที่สบายใจเลย

 

การวางเฉยต่อคำเสียดสีที่ไม่เป็นความจริงได้ ถือว่าเป็นชัยชนะที่ทำได้ยาก

 

พูดอะไร....โชว์ ความฉลาดหรือครับ...

ไอ้แค่ คำพูดด่า ถากถาง ส่อเสียด ที่มันไม่ไช่ความจริงของตนเอง...ยังจะต้องมีหน้าไปทำการวางเฉยให้เสียเวลาทำไมไม่ทราบครับ แล้วยังมาอวดอ้างว่าเป็นชัยชนะที่ทำได้ยาก งั้นหรือครับ...ก็มันไม่ไช่ความจริง แล้วมันจะไปยาก ไปชนะ บ้าบอ อะไร ตรงไหนครับ....ยกยอซะเกินความเป็นจริง ซะได้

ถ้าจะนับเป็นชัยชนะ ทำไม ไม่พูดว่า การยอมรับในความจริงของตนเอง ความชั่วของตนเอง ที่คนอื่นเอามาด่า ถากถางเยาะเย้ยถ้าทำใจยอมรับและแก้ไขให้ถูกต้องได้ โน่น....ถึงจะเป็น...ชัยชนะที่น่าภูมิใจ...แบบนี้ จะไม่ถูกต้องกว่าหรือครับ...ไปแก้ไขความคิดเห็น ของตนเองเสียใหม่นะครับ...ยกระดับปัญญาของตนเองบ้างนะครับ

 

นามธาตุ ...ถ้าคุณจับต้องไม่ได้...แล้วคุณจะยกเอามาพูดมาคุย..หาพระแสงอะไรล่ะครับ....ถามตัวเอง ตอบตัวเองดูสิครับ...ไปนั่งอมน้ำลายตัวเองเถอะครับ..

 

อวิชชา สังขาร วิญญาณ จิต เจตสิก ความคิด ใจ สติ สัมปชัญญะ นรก สวรรค์ นิพพาน....ล้วนเป็นนามธาตุ...ถ้าจับต้องไม่ได้...พระพุทธเจ้าคงไม่เอามาสอนคนหรอกมังครับ

นี่ประสิดห้าร้อย....ถ้าตนเองไม่มีปัญญาจับต้องไม่ได้...ก็ไม่ต้องมาสรุปโชว์ ความด้อยปัญญาของตัวเองนะครับ...

 

โห ตั้งกระทู้มา ซะ นิพพานธาตุ ตัวผู้รู้ ...ดันมาสรุปว่า ..แค่จิต ตนเองยังไม่มีปัญญาจับต้องได้...แล้ว ยกมาให้เสียเวลาทำไม นิพพานธาตุ ตัวผู้รู้....ไปๆๆๆๆกลับไปนอนพัก...ไป...อย่าละเมอ กว่านี้เลย

 

ธรรมชาติของบุคคลที่ไม่ใช่พระอนาคามี ก็ย่อมจะไม่สามารถทำลาย มานะ ปฏิฆะ โทสะได้ เมื่อเห็น สิ่งที่ไม่ตรงกับความจริง ย่อมไม่ถูกใจ เป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นผู้ที่มีสติแล้ววางเฉยเรื่องราวที่ไม่ถูกใจลงไปได้ ก็ต้องถือว่า เป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยม ไม่ได้ยกยอเกินความจริงเลย การที่บอกว่า ถ้าไม่ใช่ความจริงก็ไม่ต้องวางเฉยให้เสียเวลา จึงเป็นคำพูดที่ไม่ตรงกับความจริงกับใจตนเสียมากกว่า