~~~~~*** สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ากั๊ก***~~~~~

เล่ามาเลย อยากฟังมากมาย

 

คือยังงี้ครับคุณดาวลองเอ้ย!ดิอาย...แถ่นแทนแถ๊นนน.
แป๊บนึงเด๋วมา(เป็นลีลาให้คนหมั่นใส้)

 

เท่าที่เคยอ่านเรื่องราวในยุคต้นๆที่พระป่าท่าน
ปลูกฝังพระรัตนตรัยลงในกมลสันดานของชาวบ้าน
ที่นับถือผี คร่าวๆคือท่านให้ทำลายสิ่งอันเป็นสัญลักษณ์นั้น แล้วให้ชาวบ้านรับเอาไตรสรณคมน์
สมาทานศีล,รับพรและเทศนาอบรม ในส่วนของผีนนั้น
เชื่อว่าท่านคงมีอุบายอะไรซักอย่างกับเขาบ้างแหละ
แต่งเรื่องที่ผมจะเล่าเกี่ยวกับผีเข้าสิงคนดังนี้ครับ...

 

ลีลาใหม่ โยกย้ายๆ ^_^ เอาพอหอมปากหอมคอนะคะ คนรออ่าน ปูเสื่อรอจนขนมหมดแระ ^_^

 

ครั้งหนึ่งเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วณ.หมู่บ้านหนึ่งของอำเภอสนามชัยเขตจังหวัดแปดริ้ว เกิดผีเข้าหญิงชาวบ้านตอนสายๆของวันเพื่อนบ้าน4-5คนช่วยกันจับพัลวัน อีกพวกเร่งเดินทางไปนิมนต์พระ(กราบขออโหสิกรรมพ่อแม่ครูจารย์ใว้ณ.ที่นี้ที่ต้องนำชื่อท่านมาเล่าโดยวิสาสะ)..หลวงพ่อสนิท (ขอสงวนฉายาท่านใว้). ท่านยเป็นศิษย์ต้นๆรูปหนึ่งของท่านพ่อลีวัดอโศการาม สายพ่อแม่บุรพาจารย์มั่นครับ และผมเชื่อว่าหลวงพ่อสนิทรูปนี้มีพระคุณต่อผมมากใน วัยคนอง17ปี....

 

ท่านเดินทางมาถึงบ้านของคนถูกผีเข้า ที่มีเพื่อนบ้านมานั่งเฝ้าดูสถานการณ์และ รอ กราบหลวงพ่อ นั่งลงแล้วท่านสั่งให้ญาติโยมหาอุปกรณ์มาทำน้ำมนต์ส่วนว่าผีนั้น(ขอเรียกผีเลยละกัน)จากดิ้นรนฟึดฟัดนัยตาขวางแข็งกร้าว พอหลวงพ่อมาถึงก็หยุดดิ้นได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อน้ำตาไหลและไหลอยู่ตลอดในเวลาต่อมา ชาวบ้านจากที่ต้องช่วยกันจับแขนขาตรึงใว้ ก็ละมือได้....เดี๋ยวค่อยต่อดีฝ่า

 

ความจริงแล้วไม่มีอะไรมากหรอกครับ เมื่อท่านให้ทุกคน รวมทั้งผี รับศีล,อาราธนาธรรม แล้วท่านก็แสดงธรรมไปเรื่อยๆ(เนื้อหาใจความไม่รู้เพราะผมอยู่นอกบ้าน..ท่านไม่ได้ใช้เครื่องเสียงไมโครโฟน)แสดงธรรมจบทุกอย่างปกติ คนที่ผีเข้าก็ไม่รู้ออกตั้งแต่เมือไร
ไม่มีการล้มฟุบหรืออาการอื่นใดๆเหมือนที่เคยเห็นทั่วไป...
ป.ล.(มั่ง) เมื่องานสรีระสังขารหลวงพ่อทอง ฉันทสิริ
เจ้าอาวาสและศิษย๋อีกรูปของพ่อท่านลี ผมโผล่ไปร่วม
บุญและหวังเผื่อว่าได้เจอท่าน แต่ชวดไม่รู้ท่านมาหรือเปล่า เพราะพระเณรเยอะ ญาติโยมแยะ....ที่ว่าท่านมีอุปการคุณแก่ผมมาก จะเล่าต่อไป~•~^~•~

 

เข้าทำนอง จิบ อุ้ย!!!ไม่ใช่ !!!
ต้อง " เล่าวันละนิด จิตแจ่มใส "

 

โยกย้ายๆส่ายสะโพกโยกย้าย โย่วๆๆ..อืมมมเผลอตัวไม่รู้ติดจากใคร

 

ดังคำที่ว่าเลือดข้นกว่าน้ำ..ความเป็นญาติผูกพันอย่างยิ่ง คราวหนึ่งครับพี่ชาย(ลูกลุง)ผิดใจกับคนมีพื้นที่หลังบ้านติดกัน ซึ่งไม่ได้ก่อกำแพง แค่ทำรั้วกั้นพอให้รู้เขตแค่นั้น. สาเหตุคือแจกเก็ตกันหนาวยูเอสที่ตากใว้หลังบ้านหาย พี่ชายเห็นคนที่หลังบ้านชนกันนี่ใส่วับๆแวมๆจึงลองถามดู แกก็ปฏิเสธ พี่ชายได้แต่เก็บความสงสัยใว้ในใจเรื่อยมา

 

กระทั่งเวลาล่วงเลยมาระยะหนึ่งเมื่อได้เห็นแจกเก็ตซักตากใว้หลังบ้าน พี่ชายจึงแอบลอดรั้วย่องไปดู และเป็นความสะดวกอย่างหนึ่งคือ บ้านนี้ไม่ชอบเลี้ยงสุนัข
ปรากฎว่าจุดตำหนิต่างๆตรงตามเสื้อพี่ชายเด๊ะๆ
แล้วเย็นวันนั้นพี่ชายนัดให้ผมไปหาที่บ้าน คุยเล่น
ตามประสาลูกพี่ลูกน้อง จนดึกดื่นพี่ชายเดินเข้าห้อง
กลับออกมาพร้อมลูกซองยาว ชวนผมเดินลงบ้านไป
อ้อมท้ายบ้านไปโผล่หน้าบ้านคู่กรณีแก(คนขโมยเสื้อ)
พี่ชายยื่นตลับไม้ขีดให้ผม. พร้อมสั่ง"มึงจุดไฟตรงส่วนที่เป็นเชื้อเพลิงหน้าบ้านมัน พอไฟลุก มันวิ่งมาดู
กูจะยิงมัน" ผมอุทานในใจอ้าวเฮ้ย!สัตว์สาราสิงยังไม่ฆ่าแกงเลย จะให้เผาบ้านคน(ในใจๆ)..แต่ก็ขัดไม่ได้ จึงยื่นมือรับไม้ขีดมา....หยุดพักนึกทบทวนก่อง เพราะนานมาแว้ว

 

ขอบพระคุณที่ติดตามคร้าบ

 

ถึงแม้ความสำนึกผืดชอบชั่วดี จะประดังเข้ามาในหัว
แต่ว่าก็ยังไม่กล้าปฏิเสธพี่อยู่ดี เล็งที่ๆเป็นเชื้อเพลิงแล้วตัดสินใจชักก้านไม้ขีดสับถูกับบาร์ทันที..วืด. ."อ๊ะ!ไม่ติด"..ฉึกๆๆๆ..เอรึมันชื้น..หยิกดูหัวไม้ขีดก็แห้ง แข็งเป๊กปกติดี ดูแถบบาร์ข้างกล่องก็แห้งปกติ อืมมเปลี่ยนก้านใหม่ดีกว่า ฉึกๆๆ..ไม่ติดอีก เปลี่ยนอีก ไม่ติดอีก

 

ขณะสวาละวนกับการพยายามจุดไฟอยู่นั้น หมาเอ๊ย!สุนัขบ้านอื่นก็เห่าขึ้น พี่ชายก็เรียกชื่อผมแล้วบอกสั้นๆคำเดียว"ไป"...
แล้วแกก็แบกปืนวิ่งนำหน้าอย่างไม่คิดชีวิต ผมแปลกใจว่าแกกลัวอะไรขนาดถหน้าซีดเสียงสั่นและวิ่งไม่คิดชีวิตขนาดนั้น. ถามก็ไม่บอก จนทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้เลย...

 

เช้าขึ้นมาหลวงพ่อสนิทบิ้ณฑบาตรมาทางซอยหน้าบ้านผม ซึ่งปกติแม่จะเป็นคนใส่ หรือถ้าไม่ใส่ก็จะหิ้วอาหารตามไปวัด. และหลวงพ่อท่านยก็จะเดินเรื่อยๆช้าๆ ประมาณว่าบ้านใหนจะใส่ก็ใส่ทัน แต่ว่าวันนี้ ท่านมาหยุดยืนอยู๋หน้าบ้านผม แม่ก็ไม่ว่างได้แต่ร้องบอกผมให้ใส่บาตรที ผมบ่ายเบี่ยงว่าแต่งตัวไม่สุภาพ. แล้วก็เฉยอยู่ จนผ่านไปสักพักคิดว่าท่านคงไปแล้ว จึงชะแง้ดู อ๊ะท่านยังยืนอยู่เลยจึงจำเป็นคว้าข้าวเปล่าลงบ้านไปเพราะไม่ได้เตรียมกับ ...ใส่บาตรเสร็จยืนประนยมมืออยู่ หลวงพ่อพูดว่า "การจุดไฟวางเพลิง เป็นบาปมหันต์ ผิดกฎหมายบ้านเมือง ". พูดจบท่านก็เดินจากไป ปล่อยให้ผมยืนเซ่อตั้งนาน กว่าจเรียกสติแล้วขึ้นบ้านไป

 

วันนี้วันปีใหม่จีน ติดคะแนน " รักเลย " ให้เฮงๆๆ กันไปทั่วหน้าเลยจ้า ...

 

ต้องบอกเหตุผล เพราะกลัวเขาแปลความหมายเป็นอื่นใช่ม๊าา อิอิ

 

ด้วยเหตุนี้ผมจึงมีมโนนึก
ความรู้สึกด้นเดาเอาเองนั่น
ว่าหลวงพ่อรอเกื้อกูลคุณอนันต์
คอยผลักดันให้พ้นภัยในเหตุกาณ์